จัดจ้านย่านลาดพร้าว! สาวเออีขอรีวิว 4 แป้งพัฟลูกรัก ปาดแล้วหน้าปั๊วะ! สวยเป๊ะ!

ซึ่งที่มาของกระทู้นี้เกิดจาก เราเนี่ยค่อนข้างหมกหมุ่นในการแต่งสวยแต่งงามค่อนข้างมาก พูดตรงๆว่า อยากเป็นเออีเพราะคิดว่าจะได้แต่งสวยทุกวันค่ะ 55555 (ถึงความเป็นจริงเออีจะไม่ได้อยู่สวยๆอย่างเดียวก็ตาม ….. เรื่องมันเศร้าค่ะ น้องขอข้ามนะคะ กระซิกๆ)
แต่ก็ด้วยใจรักค่ะ แล้วยิ่งมาทำงานสายนี้ด้านนี้คือ แม้หน้าจะป่วย เท้าจะเจ็บ เราก็ต้องหน้าเชิ่ดบากบั่นยืนสวยบนส้นสูงให้ได้! บวกกับที่ทำงานเนี่ย อวยเราทู้กวัน ว่าสวยงั้นสวยงี้แถมยังเป็นกูรูด้านความงามให้เพื่อนอีก เอาซี้! เราเลยเกิดความคิดอยากจะทำกระทู้รีวิวของตัวเองขึ้นมาบ้างค่ะ

และแรกเริ่มขอประเดิมด้วยแป้งพัฟที่เป็นลูกรักทั้ง 4 ตัวก่อนค่ะ เพราะแป้งเนี่ยสำคัญมาก หน้าชั้นจะอยู่หรือรอดไปพบลูกค้าก็ด้วยแป้งเป็นหลักล้วนๆเลยค่ะ

LIV White Diamond Flawless Powder Diamond Light Technology SPF 30 PA+++
 ราคา 690 บาท

ตัวแรกประเดิมด้วยตัวที่ใช้ค่อนข้างบ่อย เพราะนางมีความคุมมันและติดทนในการออกไปข้างนอกมากๆ แป้งตัวนี้เราซื้อมาจากในเพจของครีมวิกกี้ค่ะ เรียกว่าแป้งเพชร ก็ตามตลับนางอ่ะ ออกแบบมาเป็นเพชรเลย อู้วอ้ามาก เวลาเอาส่องกับแดดคือ แสบตา 55555 เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นที่เนื้อแป้งบางเบา แต่ระดับการปกปิดและความการคุมมันคือ เกรดเอบวกๆๆๆ ส่วนตัวชอบใช้ในวันที่ต้องออกไปพบลูกค้าหรือยิงยาวอยู่ข้างนอกออฟฟิศเป็นวันๆ เพราะนางจะคุมมันดี หน้าไม่ดรอป ไม่เป็นคราบ อยู่รอดตลอดทั้งวัน เจอลูกค้าหน้าก็ไม่เมือกยังไหวอยู่ๆ อาจจะมีช่วงเย็นๆที่ต้องยกแป้งขึ้นมาตบๆนิดหน่อยแต่ก็โอเค โดยรวมถือว่า ปกปิดดี กันเหงื่อดี คุมมันดี และไม่ทำให้หน้าดรอปเลย เลิศมากๆค่ะ

ตัวที่สองขึ้นชื่อเรื่อง ความคุมมันและปกปิดอีกตัวค่ะ นางมาในตลับเล็กพกพาง่าย สารภาพว่า จริงๆนางมีไซส์ใหญ่แต่ใจไม่กล้าเพราะ ตอนนั้นคือ นางแพงมาก 55555 เป็นสาวเออีก็ใช่ว่าจะฟาดทุกอย่างที่แพงนะคะ ยิ่งแต่งหน้าบ่อยอะไรที่เซฟได้ก็ควรเซฟ นี่ก็รอจนนางยอมถอยตลับเล็กออกมาให้ใช้ ก็สมใจค่ะ ได้ใช้เลย 55555 เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นที่ปกปิดดีมาก แต่ก็ยังคงความเนื้อแป้งบางเบาอยู่ คุมมันก็เลิศนะ เพราะเราหน้ามันอ่ะ ก็เลยจะชอบแป้งที่คุมมันได้ดีมากๆหน่อยค่ะ ไปงานกลางแจ้งตบนางไป ลูกค้าก็ยังบอกชั้นสวยอยู่อ่ะ เอาซี่ 555555  ส่วนตัวตลับนี้ทาแล้วใกล้เคียงกับแป้งเพชรมากค่ะ ใช้สลับกันได้เลย แต่นางหมดไวมากอ่ะ คงด้วยความตลับเล็กมั้ง (เอ๊ะ หรือเราหน้าใหญ่กันนะ 55555) แต่โดยรวมใช้ดีนะคะ สมกับที่รอคอยนางมาเนิ่นนานจริงๆ

ถ้าให้จัดอันดับความถี่ในการใช้แป้ง ของออเรนทอลตัวนี้คือ ใช้บ่อยรองลงมาจากแป้งเพชรเลยค่ะ เพราะเป็นแป้งที่ให้ลุคส์ธรรมชาติที่สุดแล้ว ด้วยเนื้อแป้งที่ค่อนข้างเข้มจึงทำให้แมทช์กับผิวและไม่มีวันลอยเด็ดขาด แต่!ข้อเสียของนางก็คือ เพราะนางไม่ขาวนั่นแหละค่ะ เวลาทาเลยไม่ทำให้สีผิวสว่างสักเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่อยากโชว์งานผิวสวยๆไปเลยค่ะ ซึ่งตัวนี้เราจะชอบใช้ในวันที่ไม่ต้องออกไปพบลูกค้าค่ะ คือ อยู่ออฟฟิศอ่ะ แต่ยังสวยอยู่ อย่าให้เสียชื่อสาวลาดพร้าว 555555 ก็จะใหลุคส์บางเบา ไม่จัดจ้าน ส่วนเรื่องปกปิดก็ดีกว่าที่คิดนะคะ คุมมันก็ยังได้อยู่ แต่แอบมีความมันระหว่างวันเล็กน้อยค่า

ตัวสุดท้ายเป็นแป้งที่ซื้อมาจากร้าน stardust ค่ะ คือ ร้านนี้ชอบเซลล์ของบ่อยๆไง ก็เข้าทางเราซิ 5555 แล้วพอเข้าบ่อยๆเห็นตัวนี้ลดราคาบวกกับความรางวัลนู่นนี่นั่นของนางก็ซื้อมาใช้ซะเลยค่ะ 555555 เป็นแป้งผสมรองพื้น เนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า เห็นว่ามีผสมวิตามินอีด้วย คือ ระหว่างทาน่าจะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นประมาณหนึ่งค่ะ ส่วนตัวว่า เนื้อแป้งค่อนข้างขาวค่ะ ปกปิดได้น้อย คุมมันก็ปานกลางค่ะ เพราะใช้ระหว่างวันนี่ ต้องมีหยิบแป้งขึ้นมาตบๆบ้าง หน้ามีแอบดรอปเล็กน้อย แต่ชอบความขาวของแป้งค่ะ เพราะทำให้หน้าเราผ่องและเนียนตลอดทุกครั้งที่ทาเลย  

จะเห็นว่าแป้งที่เน้นปกปิดส่วนมาก เนื้อแป้งจะมีความเบาบางไม่สู้แป้งที่ปกปิดน้อยเพราะพวกนั้นจะเบาบางมากกว่า แต่ยังไงก็ตาม ถึงเนื้อแป้งจะหนาแต่หลายๆแบรนด์เค้าก็ยังออกแบบมาให้เบาบางเพื่อความใช้ง่ายอยู่ดีนะคะ ซึ่งถ้ายังไม่สะใจพอ อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีแปรงของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าจะโบ๊ะแป้งยังไงให้ดูเนียนสุดแบบไม่โบ๊ะ แต่ก็ยังคงความเลิศเลอปกปิดได้เนียนอยู่

 ****แนะนำทริคส่วนตัวว่า การใช้แปรงสะบัดเป็นอีกทางที่จะช่วยให้เนื้อแป้งบางลงแต่ก็ยังปกปิดได้ดีอยู่เดิมไม่แพ้ใช้พัฟเลยค่ะ