REVIEW : AloEx แก้ผมร่วง ตัวใหม่ ดีจริงไหม ?? รีวิวแบบไม่จกตา

16 2

             อันยองงงงงงง สวัสดีเพื่อนๆ ชาวจีบันทุกคนเลยครับ หลังจากที่ห่างหายไปนานกับการเขียนบล็อค วันนี้เพรทเซ่ลได้มีโอกาสกลับมาพูดถึงโปรดักซ์ใหม่ของ AloEx ที่พึ่งได้ลองใช้แล้วมันเวิร์คยังไง ดียังไง ผลิตภัณฑ์เขาดังมากเกี่ยวกับเรื่องลดการขาดร่วงของเส้นผม โดยวันนี้จะมาแนะนำพร้อมรีวิวว่าใช้แล้วมันมีข้อดี ข้อเสียยังไงบ้างแบบไม่อวย ตามความจริงล้วนๆ ตามลงไปอ่านข้างล่างได้เลยยยยยย

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมาะกับใคร 

               ทางแบรนด์เขาเคลมไว้ว่า เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมร่วงจากการโดนเคมี ความร้อน สารเคมี ผมร่วงจากความเครียด รวมถึงผมร่วงจากกรรมพันธุ์ และคนที่หนังศีรษะกับเส้นผมแห้ง คนที่ผมเสียอย่างหนักจากการทำสี ดัด ไดร์ หรือโดนเคมีและความร้อนบ่อยๆ เขาช่วยฟื้นฟูทั้งหนังศีรษะและเส้นผมที่อ่อนแอให้กลับแข็งแรง ร่วงหลุดยาก และปรับให้เส้นผมนุ่มสลวย มีวอลลุ่ม ไม่ชี้ฟู โดยไม่พึ่ง Silicone ตอบโจทย์มากๆ กับคนที่มีปัญหาผมร่วง และหนังศีรษะอุดตันง่าย 

แนะนำผลิตภัณฑ์ 

             ผลิตภัณฑ์ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้มี 2 ตัว ตัวแรก คือ AloEx Black Shampoo และ AloEx Natural Hair Mask ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักผลิตภัณฑ์กันก่อนดีกว่าว่ามีสรรพคุณอะไร ใส่ส่วนผสมอะไรมาบ้าง ไปดูกันเลย

             ตัวแรก คือ AloEx Black Shampoo : แชมพู สำหรับเส้นผม-หนังศีรษะแห้ง / หรือผมเสียจากการดัด ยืด ทำสี โดนเคมีและความร้อน ( ราคา 680 บาท / ปริมาณ 200 ml )

             แชมพูตัวนี้มีส่วนผสมหลัก คือ Oryza Sativa Extract - สารสกัดจากข้าวเหนียวดำ ช่วยกระตุ้นให้รากผมสร้างเซลล์ผมได้เร็วขึ้น , Lemon Lavender Oil – Natural oil จากธรรมชาติ ช่วยปรับผมนุ่ม ชุ่มชื้น มีวอลลุ่มและจัดทรงง่าย , สารสกัดจากสมุนไพรกว่า 30 ชนิด อาทิ Avenolat, Thai Ginseng, Clinacanthus, Aloe Vera, Henna และ Garden Quinine

วิธีใช้ 

                 ก็เหมือนการสระผมหรือใช้แชมพูทั่วๆไป ส่วนตัวแนะนำให้ใช้สองรอบ รอบแรกให้สระเอาพวกฝุ่นสิ่งปรกกับความมันต่างๆ ออกก่อน แล้วรอบสองค่อยสระแล้วนวดคลึงไว้สักแปบเพื่อให้สารบำรุงในแชมพูได้ทำงานกันสักหน่อย แชมพูตัวนี้จะไม่ค่อยมีฟองนะ ฟองน้อยมาก เพราะเขาไม่ใส่สาร SLS   

เกร็ดความรู้เล็กๆ SLS : เป็นสารสังเคราะห์ขึ้นมา  มีคุณสมบัติลดแรงตึงผิว ทำให้เกิดฟอง สารนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองจนเกิดผื่นคัน และผมร่วงได้

ความรู้สึกหลังใช้

               เนื้อสัมผัสของแชมพูที่ปั้มออกมาเป็นลักษณะเนื้อเจลเลย สีใสๆอมน้ำตาล กลิ่นจะมีความเป็นสมุนไพร ไม่ได้หอมแบบแชมพูทั่วไปเพราะเขาไม่ได้ใส่น้ำหอมเข้ามาเลย ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาเรื่องกลิ่นเราว่ามันก็เป็นกลิ่นที่ธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการปรุงแต่งให้ความรู้สึกที่เฟรชไปอีกแบบ ทำให้ผมไม่มีกลิ่นอับชื้นด้วย

                 ข้อดี เราว่าหนังศีรษะเราชุ่มชื้นดี ไม่ค่อยแห้งหรือคันบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน ส่วนปัญหาเรื่องรังแคเราไม่ได้มีปัญหาตรงนั้นอาจจะสรุปแน่นอนไม่ได้ แต่ถ้าความเป็นไปได้ละก็ เราว่าน่าจะช่วยได้ เพราะเขาทำให้หนังศีรษะสุขภาพดี ไม่แห้งตึง โดยส่วนใหญ่รังแคมาจากการที่หนังศีรษะแห้งแล้วเกิดปัญหาลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ตามมา  ถ้าหนังศีรษะไม่แห้ง รังแคก็น่าจะไม่มากวนใจครับ

                 ข้อเสีย เขาก็มีนะจ๊ะ การที่ไม่ใส่สาร SLS ทำให้ต้องสระผมหลายครั้งหน่อยกว่าจะเอาความมันบนเส้นผมและหนังศีรษะออกหมด บางวันที่ไปกินหมูกระทะมาสองรอบเอาไม่อยู่จริงๆ ต้องใช้ปริมาณแชมพูมากกว่าแบรนด์ทั่วไป 1-2 เท่า กว่าจะรู้สึกสระอาด ทำให้ค่อนข้างเปลือง และหมดเร็วอยู่เหมือนกัน กับราคา 680 บาท เรื่องคุณภาพไม่เราติดเลย แต่ถ้าถามถึงราคากับปริมาณ 200 ml. เราว่าราคาค่อนข้างแรงอยู่เหมือนกันกับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ หรือกับพนังงานออฟฟิศ คนทั่วไปที่หาเช้ากินค่ำ ถ้าสระผมบ่อยอย่างทุกวัน หรือวันเว้นวันและผมค่อนข้างยาวด้วยละก็เราว่าอยู่ได้เต็มที่ไม่เกิน 3 สัปดาห์ คือแชมพูหมดก่อนจริงๆ แต่ถ้าคนรักเส้นผมและมีกำลังซื้อผมว่ามันโอเคเลยนะกับคุณภาพที่ได้ คุ้มที่จะลงทุน แต่ส่วนก็อยากให้ถูกลงมาอีกหน่อยแบบสักไม่เกิน 400 – 500 บาท จะเริ่ดมากกก

                  แต่จะเห็นได้ว่าส่วนผสมที่เขาในมาค่อนข้างออแกนิคเลย ก็ต้องยอมใจในการเน้นส่วนผสมจากสมุนไพรและธรรมชาติเป็นหลัก ใครที่หนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย ก็น่าจะใช้ได้ เพราะเขาไม่มีส่วนผสมของ SLS, Silicone, Paraben, Alcohol และ Fragrance คือดีมาก คิดซะว่าเสียเงินซื้อส่วนผสมดีๆให้แก่หนังศีรษะและเส้นผมเราละกันครับ 

            ตัวต่อมาที่จะพูดถึง คือ AloEx Natural Hair Mask ทรีตเม้นต์สำหรับลดผมร่วงและบำรุงหนังศีรษะกับเส้นผมในหลอดเดียว ( ราคา 680 บาท / ขนาด 200 g )

            ทรีตเม้นต์ตัวนี้มีส่วนผสมหลักเหมือนเจ้าแชมพู AloEx Black Shampoo ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างย้อนขึ้นไปดูข้างบนเลยจ้า บอกไว้ตั้งแต่ต้นบล็อกแล้วจ้า 55555555+ อรรถรสนะเพื่อนๆ ส่วนผสมหลักเหมือนกันแต่เพิ่มเติมนิดนึงตรงที่มี Natural Oils มากกว่าตัวแชมพูถึงเท่าตัว เพราะ Natural Oils เขาใส่มาเพื่อเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับตัว Hair Mask โดยเฉพาะไปอ่านวิธีใช้กันต่อเลย


วิธีใช้ + ความรู้สึกหลังใช้

               เชื่อว่าทุกคนใช้ครีมนวดเป็น คงไม่ต้องอธิบายเป็นขั้นตอนของการบีบใส่มือนู่นนี่นั่น ชโลมตรงนู่น นวดตรงนี้หรอกนะ (ทำไมตรูต้องกวนทีนด้วยว่ะ ฮ่าๆ เก๊าขอโต๊ด คือเนื้อหามันเยอะไม่อยากให้เบื่อกันอะ)

               มาเข้าเรื่อง คือเจ้า AloEx Natural Hair Mask เนี่ยทางแบรนด์เขาบอกว่าใช้ได้ทั้งแบบครีมนวดผมหลังสระเสร็จแล้วล้างออก หรือว่าจะใช้เป็นทรีตเม้นต์ เนื้อผลิตภัณฑ์ออกสีขาวขุ่นๆ เนื้อเขาค่อนข้างเข้มข้นเลย คือหมักทิ้งไว้ 5-15 นาที หรือที่บ้านใครมีหมวกอบไอน้ำ ก็สามารถใช้ได้เลย จะช่วยให้เส้นผมนุ่มขึ้น โดยส่วนตัวจะชอบหมักทิ้งไว้ 10-15 นาทีมากว่า เพราะมันเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่านวดแปบเดียวแล้วล้างออก ปล่อยให้น้องสมุนไพรต่างๆ ที่ใส่มาในทรีตเม้นต์ตัวนี้ให้เขาได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกันสักหน่อยคุณผู้ชมมม

                   ข้อดี หลังมาสก์เสร็จผมนุ่มขึ้นมากๆ นุ่มขึ้นแบบว่าเป็นทรีตเมนต์ตัวแรกเลยที่ไม่ใส่น้องซิลิโคนที่ช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น(แต่ใช้แล้วหนังศีรษะอุดตันนะจ๊ะพี่จ๋า) มันดีงามตรงที่ใช้ Natural Oil ให้ผมนุ่มชุ่มชื้นแทนซิลิโคนจ้าทุกคน ปกติผมเราค่อนข้างแห้งเสียจากการทำสีผม แต่พอมาส์กตัวนี้ไป เราว่าเขาปรับสมดุลความชุ่มชื้น ให้หนังศีรษะไม่แห้ง หนังศีรษะสุขภาพดี ลดปัญหารังแคและอาการคันได้อย่างดีเลย จากผมที่เคยชี้ฟูตอนนี้เส้นผมดูนุ่มสลวย มีวอลลุ่ม และจัดทรงง่ายขึ้น อันนี้จริงๆ จะว่าอวยก็ได้ ก็พูดจริงๆอะ เชื่อเถอะพรีสสสสส T^T

            ข้อเสีย เวลานวดหรือหมักไว้อยากให้เน้นบริเวณปลายผมมากกว่าโคน ไม่งั้นหนังศีรษะจะมันไวเหมือนกัน ปกติคือผมเราแห้งมากเข้าสู่วันที่ 3 หรือ 4 นู่นแหละกว่าจะมัน แต่ตัวนี้วันที่ 2 ก็เริ่มรู้สึกมันแล้วจ้า แต่เราโอเคนะเพราะผมเราฟู พอผมมันนิดหน่อยมันทำให้ผมเราเข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น แต่คนที่ผมลีบแบนอยู่แล้วอยากให้เน้นใช้ที่ปลายผมเป็นหลักเลย ไม่อยากให้หมักทิ้งไว้ที่โคนผมไว้นานเน้นนวดๆเอาให้บำรุงหนังศีรษะสักแปบพอ ไม่งั้นตรงโคนผมจะรู้สึกหนักและผมลีบแบนกว่าเดิม เราว่าเหมาะกับผมแห้งเสีย ผมฟูๆ เป็นสิงโตมากกว่าครับ


                ส่วนเรื่องราคากับคุณภาพเราว่าโอเคนะ 680 บาท กับทรีตเม้นต์บำรุงผมดีๆสักอัน เราไม่ติด ราคาเหมือนจะแพงนะ แต่มันคือทรีตเมนต์แบบไม่มีซิลิโคนไง ปกติมีแต่ของ Counter Brand ราคาก็หลักพันอยู่สำหรับสูตรแบบนี้ แต่ AloEx ตัวนี้ทำได้ขนาดนี้ก็คือดีมาก เพราะปกติพวกทรีตเม้นต์กับครีมนวดทั่วไปก็มีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าแชมพูอยู่แล้ว แถมไม่ได้ใช้ทุกวันด้วย หลอดนึงก็อยู่ได้เป็นเดือนๆ อยู่เด้อ




สรุป

               ในเรื่องของการช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย จาการทำสี ทำเคมี ชี้ฟู จัดทรงยาก ผมไม่มีน้ำหนัก ลดอาการคันและแห้งของหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้นขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้น AloEx Black Shampoo และ AloEx Natural Hair Mask ช่วยเขาได้จริงๆ คอนเฟิร์มครับ ประหยัดเวลาที่ต้องมาไดร์ มาหนีบก่อนออกจากบ้านได้เยอะเลย 

              ส่วนเรื่องลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ส่วนตัวที่ใช้มาตลอดทั้งเดือน ยังไม่เห็นผลในเรื่องนี้ครับ อาจจะต้องใช้เวลา 3 เดือนขึ้นไปหรือจริงๆแล้วแชมพูและทรีตเม้นต์ตัวนี้อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม อาจจะเน้นปรับสมดุลและสภาพเส้นผมให้หนังศีรษะดีขึ้นแล้วผมจะร่วงน้อยลงหรือยังไง ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ชัวร์ๆ แต่ใช้แล้วผมไม่ได้ร่วงเพิ่ม ก็ยังร่วงเหมือนเดิม อาจจะเพราะหนังศีรษะเราอ่อนแอมาก่อนหรือเปล่า ก็คงต้องรอดูต่อไประยะยาว ถ้าคีบหน้ายังไงในอนาคตจะมาอัพเดทให้ฟังกันอีกครับ 

             ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ บล็อกนี้เราค่อนข้างอัดแน่นในเรื่องของสาระ ความรู้ ความรู้สึกหลังใช้ รวมถึงข้อดี ข้อเสีย เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้านั้นๆ ได้ตรงตามเป้าหมาย ตรงปัญหาที่เราต้องการมากกว่าซื้อตามคำโฆษณาอย่างเดียวครับ ยังไงวันนี้กระผมก็ลาไปก่อนนนน ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ ไว้เจอกันใหม่ในคอนเทนต์หน้า สวัสดีครับ บ้ายยยยยย ^^


PretzelReview

PretzelReview

นักเขียนมือใหม่ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ ^^

FULL PROFILE