2018 Rants & Raves! เมคอัพชิ้นไหนได้ไปต่อ ชิ้นไหนต้องเท ไหนมาเม้ากันหน่อยสิ้ #เครื่องสำอาง2018

19 3
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้กลับมาพบกับจูรีนกันอีกแล้วนะคะในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ คิดว่าทุกคนคงมีลิสต์ซื้อของให้รางวัลตัวเองกันอยู่บ้างแล้ว วันนี้เลยจะมาทำกระทู้ rave (ของที่อวย) และ rant (ของที่ไม่ปลื้ม) สายบ้าเมคอัพอย่างเราให้ได้ดูประกอบการซื้อ เพราะความสวยคือการลงทุนเด้อค่ะเด้อ ส่วนทางนี้ลงทุนให้ได้ดูไปแล้ว 555 ความจริงมีเยอะกว่านี้ที่ซื้อมาในปีนี้ แต่อันนี้คือคัดตัวเด็ดมารีวิวค่ะ

สภาพผิวของเราคือมันมากๆ เหงื่อออกง่าย รูขุมขนกว้าง ที่สำคัญปากแห้งมาก มีตัวดังๆที่เราจัดเข้าหมวดไม่ปลื้มด้วยนะ จะเป็นตัวไหน อ่านไปเรื่อยๆนะคะ อิอิ
มาเริ่มกันที่หมวด RAVEs หมวดได้ไปต่อ หรือหมวดอวยกันเลย ปีนี้เราเจอเมคอัพงานผิวที่ถูกใจค่อนข้างเยอะ
- giorgio armani luminous silk foundation : ไม่มีอะไรจะบรรยายมากเกี่ยวกับตัวนี้ นางคือรองพื้นที่ให้ผิวในอุดมคติค่ะทุกคน ขนาดเราผิวมันแล้วรองพื้นมันไม่ได้คุมมันก็ยังชอบ นางเกลี่ยง่ายเหมือน tinted moisturizer แต่สวยแบบรองพื้น มันไม่ได้โกลว์เปียกขนาดนั้น แล้วก็ไม่มีดรอป ไม่ oxidize คือดีทุกอย่าง แต่คนหน้ามันอาจต้องใช้ไพรเมอร์กับแป้งคุมมันให้หน้ามันช้าลงนิดนึง แต่ผิวสวยจริงยอม ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ใช้ออกงานคือดีงาม

- charlotte tilbury magic foundation : ตัวนี้ราคาไม่แพงมากถ้าซื้อที่อังกฤษเมื่อเทียบกับรองพื้นยี่ห้ออื่น ให้ฟินิชแมท แต่ดูไม่โบก ดูดีมากกกก จำได้ว่าคุณชาล็อตใช้แต่งให้เซเลบหลายๆคนแล้วผิวสวยมาก เห้ยแกมันเสกผิวสวยให้เราได้แบบนั้นเลยจริงๆ เค้าจะไม่โกลว์ และไม่แมท เป็น semi-matte แต่เราขอบรรยายว่ามันทำให้ผิวเราเหมือนขนมโมจิอ่ะ 5555 แบบฟุ้งๆเบลอๆน่ารักๆ ใครชอบผิวสวยๆแบบขนมโมจิ(?)ตัวนี้ตอบโจทย์มาก ใช้ในชีวิตประจำวันอาจจะหนาไปนิดนึง แต่ถ้าใครชอบการปกปิดก็จัดไป ความติดทนค่อนข้างดี

- maybelline fit me matte and poreless : เอาจริงๆฟินิชมันอาจจะสู้ไฮเอนด์ไม่ได้ แต่เธอเข้าใจมั๊ยว่ามันใช้สะดวกและปกปิดได้ดี คือเราไม่ใช่คนหน้าดีทุกวัน นอนดึกบ่อย มันก็มีโทรมบ้างเด้อ เราต้องการ coverage! และความคุมมัน นางคุมมันปานกลางนะคะ แต่ที่ชอบคือนางเกลี่ยง่าย ฟินิชสวย เบลอรูขุมขนได้และพกพาสะดวกนี่แหละ (เยอะเนาะ) ให้ซื้อขวดจริงก็ไม่ซื้อนะ จะซื้อแบบซองนี่แหละ ใช้ง่ายดี 555
- kyst cosmetic natural matte finish : แป้งแบรนด์ไทยที่ชาวผิวมันน่าจะได้ลองจริงๆ เพราะส่วนใหญ่คนผิวมันก็จะชอบใช้แป้งผสมรองพื้น แล้วถ้าแป้งมันหนาเราก็จะรำคาญ แต่ตัวนี้ไม่เลยค่ะ ทำออกมาดีมาก เนื้อแป้งเบาและแนบสนิทไปกับผิว ฟินิชเหมือนเราใช้ซีซีครีมแพงๆเลย ส่วนตัวใช้แล้วหน้ามันช้าลงมาก และชอบตรงที่เราเอาไปใช้เมืองหนาวนางก็ไม่ทำให้หน้าแห้ง ใช้เมืองไทยร้อนๆก็คุมมันดี เหมือนเป็นแป้งที่ฉลาดปรับตามสภาพอากาศได้ เกร๋ๆ ที่สำคัญ...เราว่ามันใช้เซ็ตรองพื้นก็ไม่ดูหนา หรือเซ็ตบีบีบางๆก็ปกปิดได้ มันเป็นแป้งที่บิลด์ได้เหมือนรองพื้นแพงๆ ไปเที่ยวไกลๆคือพกตัวนี้ตัวเดียวอยู่
- mac studio finish perfecting powder : บอกก่อนว่าตัวนี้ได้มาจากเว็บจีบันเป็นของรางวัลค่ะ กราบรอบทิศ แค่นั้นก็ว่ากรี๊ดแล้ว ส่วนตัวไม่เคยใช้แป้งเคาน์เตอร์แบรนด์มาก่อน พอได้ลองแล้วเห้ยมันต่างจริงๆ ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นที่ให้การปกปิดหน่อยๆ แต่หลักๆเลยคือนางเบลอผิว เบลอรูขุมขนได้สวยมากกก ใช้อันนี้แล้วดูผิวดี ผิวแพง (ราคาก็แพงจ้า) สารภาพว่าตอนแรกที่ใช้รู้สึกมันไม่ค่อยคุมมัน แต่สงสัยเราใช้น้อยไป พอใช้เยอะหน่อยนางก็คุมมันดีนะ สรุปคือรักนาง จะใช้ต่อไปเพราะคิดว่าอีกนานกว่าจะหมด 555
- nyx hd photogenic concealer wand : อย่างที่บอกปีนี้เราลองผลิตภัณฑ์งานผิวเยอะมาก เราอยากจะลองคอนซีลเลอร์ nars นะแต่ช็อต 5555 พอมาลองอันนี้รู้สึกว่ามันใช้แทนกันได้นะคะ เนื้อของเค้าคือแนบติดผิวดีเหมือนไฮเอนด์ มีสีให้เลือกเยอะ เม็ดสีแน่น ปกปิดรอยสิวและใต้ตาได้ดีมากๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะใต้ตาคือหายไปเลยจริงๆ รักมากๆค่ะคิดว่าหมดก็คงซื้อต่ออีก ราคาไม่แพงด้วย ใครใต้ตาคล้ำต้องโดนจีงๆ
- essence satin touch blush : เป็นบลัชที่ทุกคนมองข้ามจริงๆนะ ขอใช้คำนี้เลย คือสีมันสวย และเนื้อดีมาก เราใช้บ่อยมากกว่าหลายตัวที่ฮิตๆกัน เป็นสีชมพูน้ำตาลตุ่นๆแบบดูแพงมาก เนื้อเค้าเป็นซาตินจะมีความเหลือบนิดๆแต่ไม่มีชิมเมอร์ที่ทำให้รูขุมขนกว้าง ปัดง่าย เนื้อเกลี่ยง่าย ติดทนทั้งวัน แถมราคายังร้อยกว่าบาท อย่าเลิกผลิตนะคะ มันดีมากจริงๆ TT เราลองไปหา dupe ของสีนี้ดู (ในรูป satin love ค่ะ) ปรากฏว่า dupe ของนางเต็มไปด้วย chanel, dior, tom ford เนี่ย สีผู้ดีขนาดนั้น 555 ปล.ถึงแพคเกจมันจะก๊องแก๊ง เราพึ่งทำฝาหลุดออกจากตลับเมื่อวาน แต่ถ้าหมดจะซื้อตัวนี้อีกแน่นอน!
- etude house look at my eyes cafe rd304 : ย้ำว่าต้องสี RD304 ด้วยนะคะ! ตั้งแต่ได้มาเราใช้เกือบทุกวัน ทุกลุค จะแต่งเข้มแต่งอ่อนต้องมีน้องคนนี้ไปคัดเบ้า จริงๆก็ทำได้หลายอย่างแต่สีนี้มันออกน้ำตาลแดงๆใช้คัดเบ้าสวยมาก เหมาะกับคนที่เบื่อสีน้ำตาล เราชอบใช้สีนี้เดี่ยวๆแล้วออกจากบ้านเลย เนื้อดีเกินเรื่องมาก นุ่มเนียนเบลนง่าย ขนาดเรามีพาเลตไฮเอนด์ก็ยังต้องเอาน้องคนนี้ไปแต่งด้วยอยู่ รักมากๆๆๆๆๆ ยิ่งที่ช็อปจัดโปร 1 แถม 1 ยิ่งคุ้มมม
- innisfree glitter eyeshadow 14 : ปกติไม่ค่อยชอบใช้กลิตเตอร์ค่ะมันทำให้เราตาบวม แต่สิ่งนี้คือขาดไม่ได้เลยจริงๆ ชอบมากกกก ทาเดี่ยวๆก็สวย ทาท็อปด้านบน หัวตา ตาก็จะวิบวับๆมาก ชอบเพราะวันง่วงๆ อยากดูสดใสก็ลงตัวนี้หลังแต่งตาเสร็จ จบออกจากบ้าน ติดทนไม่ร่วงเป็นฟอลเอ้าท์ ดีงามมาก ราคาก็ไม่แพง ใช้ได้นานด้วยค่ะ นี่ใช้เกือบทุกวันยังบุ๋มไปนิดเดียวเอง
- oh my tint : อันนี้ทุกคนอาจจะเบื่อกันแล้วจะอวยอะไรนักหนา 555 ก็ของมันดีอ่ะทุกคน! แถมถูกมากด้วยค่ะ แท่งละ 99 บาทแต่สีสวยเบอร์ล้าน เราว่าเขาทำสีเหมือนพวกแบรนด์เกาหลีกับแบรนด์ไฮเอนด์เลย เรามีสี 04 ชมพูธรรมชาติกับ 08 แดงก่ำๆ คือเนื้อดี นุ่มเนียน ทาง่าย ไม่ใช่อะไรที่แบบทาแล้วไม่แนบกับปากอ่ะ คือราคาเท่านี้ต้องดีขนาดนี้เลยเหรอคะถามใจ เอาไปทาแก้มก็สวยมากๆแต่อาจจะเกลี่ยยากนิดนึง แต่มงลงไปเรย ;_; เขียนกระทู้นี้เสร็จจะซื้ออีก 555
- lilybyred mood liar velvet tint : ปีนี้เป็นปีของลิปทินท์จริงๆค่ะทุกคนนน และทินท์ตัวนี้เราซื้อเพราะแพคเกจจิ้งและพรีเซนเตอร์เท่านั้น 55 ปรากฏว่าใช้ดีมากกกก นางติดทน เนื้อดี(อาจจะข้นนิดๆ) สีสวยไม่เอะอะ เรามีสี 04 นะคะ เป็นส้มน้ำตาล สีที่คนผิวเหลืองอย่างเราทาแล้วหน้าขาวหน้าใส ถ่ายรูปขึ้นทุกที ราคาไม่แพง ปลายปีใครมีแพลนไปเกาหลีแนะนำไปตำนะคะ ที่สำคัญสุด กลิ่นห้อมหอม แบบเยลลี่ผลไม้ นั่ลลั้ก ;_;
- mille satin matte liquid lip : ปกติเป็นคนไม่ชอบลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมทเลย ประสบการณ์ไม่ค่อยดีค่ะ แต่พอเห็นของมิลเล่รุ่นนี้ เค้าทำกับบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีชื่อ yoo's beauty เราก็เป็นติ่งนางไงเลยจัดการตำมา ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แค่เห็นว่าสีสวยดี แต่เนื้อเค้าดีมากกกกกก แบบ ก.ไก่ล้านตัว คนปากแห้งจะต้องฟินเพราะลิปตัวนี้ให้ลุคแมทแต่ปากไม่แห้งเลย แถมยังทำให้ปากอวบอิ่มอีกด้วย เนื้อเหมือนวิปครีมอ่ะ แถมความติดทนยังดีมาก ฮืออออ น้องดีมากๆ แนะนำสี cordia ค่ะ
จบหมวด rave อวยไส้แตกกันแล้ว มาถึงหมวด RANTs หรือของที่ไม่ได้ไปต่อนั่นเองก่อนอ่านหมวดนี้อยากให้รู้ว่าทางเราไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายใดๆ มันแค่เป็นของหมวดที่ไม่เหมาะกับเราเท่านั้นเอง เพราะผลการใช้เครื่องสำอางมันแตกต่างกันไปในแต่ละคนอยู่แล้วเนอะ อ่ะไปดูแล้วจะช็อค 5555
- 4u2 love me more blush : ไหว้รอบทิศ ขอโทษจริงๆค่ะที่ไม่ชอบน้องคนนี้ คือพี่ก็อยากจะชอบน้องนะคะแต่เนื้อผลิตภัณฑ์ของน้องไปกับพี่ไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะสี m1 สุดฮิต! เราพยายามใช้ทั้งแปรงเล็ก แปรงใหญ่ เกลี่ยยากมากๆๆ นางเป็นปื้นตลอดเวลา เราไม่ชอบให้สีแก้มขึ้นเป็นขอบบนผิวชัดค่ะ ใช้อยู่ทุกวันเพราะสีสวย แต่ถ้าเนื้อผลิตภัณฑ์มีความนุ่มเนียนมากกว่านี้มันจะดีมากเลย

- mamonde creamy tint color balm : ขอโทษมิตรรักแฟนลิปตัวนี้จริงๆ ตอนที่เราลองใช้เรารู้สึกว่ามัน overhyped มากกก หาคำไทยไม่ถูก อย่าว่าดัดฉะริตเลย T_T เราได้สีฮิตด้วยนะ เป็นสี red pepper แดงอมส้มนั่นแหละ คือมันไม่ได้ดีขนาดนั้นอ่ะสำหรับเรา หรือเราปากแห้งก็ไม่รู้ แต่ความเห็นของเราคือเนื้อลิปมันไม่แนบเนียนกับปาก ที่ใช้อยู่ทุกวันเพราะสีสวยนะ(และคงเพราะสาวเกาผิวขาว มันเลยดูก่ำกว่านี้ เราเอามาทาทำไมมันแดงจี๊ด แง น้องไม่ตรงปก) คงไม่ซื้อสีอื่นต่อแร้วจ้า

- nyx lingerie : โศกนาฏกรรมคนปากแห้งยังคงดำเนินต่อไปค่ะ ที่ซื้อตัวนี้มาเพราะลองของเพื่อนแล้วสีสวยมากๆๆๆ ได้สีฮิตอีกแล้วด้วยนะ สี exotic ความจริงชอบแพคเกจจิ้งเค้านะ หัวแปรง ด้ามแปรงอะไรไม่ก๊อกแก๊ก แต่เนื้อลิปสติกนั้น...แห้งมากกกกก แบบคนปากแห้งจะต้องหลั่งน้ำตา ดิชั้นพยายามทุกหนทางแล้วนางแห้งตั้งแต่ลงปากใหม่ๆ ผลที่ได้คือพอเกลี่ยสีก็ไม่สม่ำเสมอ พอเม้มก็หนึบปาก ไม่นะ T_T อย่าว่าเราเรย เราพยายามอย่างดีแล้ว คนปากแห้งยี่ห้ออื่นดีกว่า เตือนแล้วนะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเปิดกรุเครื่องสำอางที่เราให้ไปต่อและไม่ไปต่อในปี 2018 หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ชอบตัวไหนไม่ชอบตัวไหนก็เขียนมาแชร์กันได้ วันนี้ลาไปก่อน xoxo


midnightgirl.

midnightgirl.

Oily skin. Clear winter. NC25.

FULL PROFILE