บลัชออนแบบไหนเข้ากับผิวเราที่สุด? I Beauty 101

43 4

สาวๆ มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า อาจจะคิดว่าการเลือกบลัชออนสักอันไม่ใช่เรื่องยาก เพราะก็แค่เลือกเฉดสีเลือกตามที่เราชอบ  โดยที่ไม่รู้ว่าจะเข้ากับสีผิว สภาพผิวของเรามั้ย และเลือกไม่เป็นนี่แหละปัญหาใหญ่!! วันนี้จีบันและ อาจารย์สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะมาช่วยสาวๆ เลือกบลัชออนให้เข้ากับสีผิวกันค่ะ...ว่าแต่บลัชออนคืออะไร มีกี่แบบ แล้วเลือกยังไงนะ?  

บลัชออนคืออะไร?



บลัชออน (Blush on) เป็นเครื่องสำอางที่ใช้ปัดบริเวณหน้าแก้ม ส่วนใหญ่จะเป็นเฉดสีโทนส้ม ชมพู และแดง เพื่อให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี มีเลือดฝาดหน่อยๆ  ดูมีสีสัน และดูชีวิตชีวามากขึ้น ในวงการเครื่องสำอางจะเรียกว่า บลัชเชอร์ (Blusher) ซึ่งคำว่า Blush แปลว่าเขินจนหน้าแดง แต่คนไทยนิยมเรียกกันจนติดปากว่า ' บลัชออน '  มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งบลัชออนจะมีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน คือ แบบฝุ่น , แบบครีม , แบบน้ำ , แบบผง และ แบบคุชชั่น


บลัชออนเกิดจากการนำผงสีหรือพิกเมนต์สีมาผสมกับผงแป้งและกรดไขมันสกัดจากธรรมชาติเพื่อทำให้เนื้อของบลัชออนมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ใช้ทาได้สะดวก และนอกจากนี้ในบลัชออนยังมีสารประกอบต่าง ๆ เช่น ไมกา , ซิงก์ออกไซด์ ซึ่งจะช่วยให้ตัวพิกเมนต์มีสีที่โดดเด่นและชัดมากยิ่งขึ้น  ซึ่งตัวผงสีผ่านการรับรองมาตรฐานว่าปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รับรองว่าปลอดภัยต่อใบหน้าของสาวแน่นอนค่าา

บลัชออน มีกี่ชนิดนะ ?


เมื่อสาวๆ รู้จักบลัชออนกันแล้ว มารู้จักชนิดของบลัชออนกันต่อเลยดีกว่าค่า สำหรับชนิดของบลัชออนจะมีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ซึ่งจะให้ลุคที่แตกต่างกันออกไป

1. บลัชออนแบบฝุ่น
บลัชออนที่เป็นลักษณะฝุ่นอัดแข็ง เนื้อแห้ง ต้องใช้คู่กับแป้งปัดแก้ม มีทั้งเนื้อแมตต์และเนื้อชิมเมอร์ สามารถเติมได้ระหว่างวัน เหมาะสำหรับสาวที่มีผิวหน้ามัน เพราะจะช่วยดักความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ แต่บลัชออนแบบฝุ่นจะไม่ติดทนนานทั้งวันเท่าบลัชออนแบบอื่นๆ

ข้อดีของการใช้บลัชออนแบบฝุ่น
การใช้บลัชออนแบบฝุ่นจะใช้ง่ายที่สุดและเหมาะกับสาวๆ มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า จะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ

2. บลัชออนแบบครีม
บลัชออนแบบครีมควรใช้นิ้วมือในการเกลี่ยเพราะจะทำให้บลัชออนติดทนนานและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะความอุ่นจากนิ้วมือจะทำให้เกลี่ยง่าย และให้ความติดทนนานมากกว่าแบบฝุ่น

ข้อดีของการใช้บลัชออนแบบครีม
บลัชออนแบบครีมจะติดทนนานมากกว่าบลัชออนแบบฝุ่น พวงแก้มจะสีสันสดใส เหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการลุคแน่นๆ ไม่ต้องเติมระหว่างวัน แต่ยังให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติอยู่ค่า

3. บลัชออนแบบน้ำ
บลัชออนแบบเหลวจะรวมไปถึง บลัชออนแบบเจล และแบบทินท์ ก็ควรใช้นิ้วมือในการเกลี่ย เพื่อให้เรียบเนียบเป็นธรรมชาติ และติดทนนานมากที่สุด ข้อเสียของการใช้บลัชออนแบบเหลวคือจะแห้งค่อนข้างไว สาวๆ ควรรีบเกลี่ยให้ไวที่สุดก่อนที่บลัชออนจะแห้งนะคะ

ข้อดีของการใช้บลัชออนแบบน้ำ
การใช้บลัชออนแบบน้ำจะทำให้ได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นลุคที่ดูโกลว์ๆ ฉ่ำๆ สไตล์สาวเกาหลี ที่ไม่เน้นลงแป้งฝุ่นอะไรมากมาย จะเป็นการเน้นงานโชว์ผิวมากกว่า และติดทนตลอดทั้งวัน

4. บลัชออนแบบผง
บลัชออนแบบผงเป็นบลัชออนเนื้อแมตต์จากแร่ธรรมชาติ 100% บลัชออนสูตรมิเนอรัล จะมีเนื้อละเอียด สีติดทนนาน เม็ดสีเข้มข้น สกัดจากแร่ธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีที่ทำร้ายผิวเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ผิวแพ้ง่าย

ข้อดีของการใช้บลัชออนแบบผง
บลัชออนแบบผงเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบาง ทั้งยังช่วยบำรุงผิวได้อีกด้วย การใช้บลัชออนแบบผงจะให้ลุคที่บางเบา คล้ายๆ กับการใช้แบบฝุ่นแต่ไม่ต้องใช้แปรงในการปัดเพราะบลัชออนแบบผงจะมาพร้อมพัฟในตัว ใช้สะดวกสบาย สามารถพกพาได้

5. บลัชออนแบบคุชชั่น
บลัชออนแบบคุชชั่นจะมาในรูปแบบเนื้อครีม ทำให้มีความติดทนทั้งวัน ให้ลุคฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี เน้นโชว์ผิวเป็นธรรมชาติ ไม่โบ๊ะเกินไป สามารถเติมระหว่างวันได้ พกพาสะดวก

ข้อดีของการใช้บลัชออนแบบคุชชั่น
บลัชออนแบบคุชชั่นใช้ง่าย ใช้สะดวกเพราะมีพัฟมาตลับทำให้ไม่เลอะมือเวลาใช้ พกพาไปเติมระหว่างวันได้ ให้ลุคที่บางเบาเป็นธรรมชาติ เน้นโชว์ผิว 

บลัชออนใช้ได้นานแค่ไหน?


บลัชออนแบบฝุ่น
มีอายุการใช้งาน 6 เดือนถึง 1 ปี หลังจากวันที่เปิดใช้ บลัชออนแบบฝุ่นจะสามารถอยู่ได้นานกว่าแบบครีม เป็นไอเท็มที่สามารถซื้อตุนได้เลย

บลัชออนแบบครีม
มีอายุการใช้งาน 6 เดือน หลังจากวันที่เปิดใช้ อายุการใช้การของบลัชออนแบบครีมจะน้อยกว่าบลัชออนแบบฝุ่นนะคะ


สาวๆ ควรตรวจเช็ควันหมดอายุที่ข้างบรรจุภัณฑ์ก่อนนะคะ แต่ถ้าหากผู้ผลิตไม่ระบุวันหมดอายุ ( บอกแค่วันผลิต ) สาวๆ ควรใช้บลัชออนได้แค่ 6 เดือน ถึง 1 ปีเท่านั้นค่า


วิธีเก็บรักษาบลัชออน
เครื่องสำอางที่มีลักษณะเป็นผง หรือเป็นแท่ง ควรจะเก็บในสภาพอุณหภูมิปกติ ที่แห้งและควรเก็บให้พ้นจากแสงแดด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้น  แต่ไม่ต้องถึงขนาดแช่ตู้เย็นนะคะ และเพื่อให้บลัชออนใช้งานได้นานๆ สาวๆ ควรปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าไป และเพื่อไม่ให้สีเพี้ยนและเสื่อมเร็วเกินไปค่ะ

บลัชออนเฉดนี้ เข้ากับผิวสีไหน?


สาวผิวขาว
ควรใช้บลัชออนโทนสีเบา ๆ อย่าง ชมพูอ่อน , ชมพูพีช , ส้มอ่อน, ส้มพีช และสีส้มอมชมพู จะทำให้ได้ลุคที่ไม่ดูแดงจนเกินไป และจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ

สาวผิวสองสี
สาวไทยส่วนใหญ่มีผิวสองสี ไม่เอนไปทางขาวมาก หรือเข้มมาก จึงควรใช้บลัชออนโทนชมพูพีช , ชมพูกะปิ , ชมพูอมม่วง สามารถเลือกใช้สีที่เข้มขึ้นกว่าสาวผิวขาว เพราะถ้าใช้สีที่อ่อนเกินไปจะทำให้ดูซีด แต่ถ้าสีเข้มมากกว่าจะดูไม่เป็นธรรมชาติ

สีผิวเข้ม
ควรใช้บลัชออนโทนสีสว่างสดใส อย่างสีส้มอิฐ  , สีน้ำตาลอมแดง , น้ำตาลอมส้ม , สีชมพูเข้ม เพื่อให้ดูสดใส และมีสีสันมากขึ้น  สาวผิวเข้มจะเหมาะสำหรับการปัดบลัชออนเนื้อชิมเมอร์เพื่อให้ผิวดูโกลว์สวยและเปล่งประกายมากขึ้น

มาเลือกบลัชออนให้เข้ากับสภาพผิวกัน!


สาวผิวมัน
สาวผิวมันเหมาะกับการใช้บลัชออนแบบฝุ่น แต่แนะนำให้สาวๆ ปัดหลังจากเสร็จการทารองพื้นและลงแป้งแล้ว  เพราะถ้าลงบลัชออนก่อนความมันส่วนเกินบนใบหน้าอาจทำให้บลัชออนเลือนหายในระหว่างวันได้

สาวผิวแห้ง
สาวผิวแห้งเหมาะกับการใช้บลัชออนแบบครีมและแบบเจล เพราะจะทำให้บลัชออนเกาะติดผิวได้ดี ติดทนนาน ไม่หลุดระหว่างวัน

สาวที่เป็นสิว
สำหรับสาวๆ ที่เป็นสิว หรือในวันนั้นๆ ดันมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นมา สาวๆ สามารถผสมคอนซีลเลอร์กับบลัชออนแบบครีมแล้วแต้มลงแบบสิว เพื่อกลบสิวแล้วยังทำให้แก้มดูมีสีสันมากขึ้นด้วย

เคล็ด ( ไม่ลับ ) ในการใช้บลัชออน



  • ปัดบลัชออนบริเวณหน้าแก้มเป็นวงกลม จะทำให้ได้ลุคที่ดูเด็ก ดูอ่อนกว่าวัย
  • ปัดบลัชออนบริเวณโหนกแก้ม จะทำให้โครงหน้าดูเด่นชัดขึ้น
  • ปัดบลัชออนใต้โหนกแก้ม เหมาะกับสาวๆ ที่โครงหน้าใหญ่ เพราะจะช่วยทำให้โครงหน้าดูเรียวเล็กลงได้
  • ปัดบลัชออนที่ขมับและใต้ตา ทำให้ดูมีชีวิตชีวา เพิ่มความสดใส แบบสาวญี่ปุ่น และทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น


ถ้าอยากให้บลัชติดทนนานทั้งวัน
  สามารถใช้บลัชออนแบบน้ำลงก่อนแล้วใช้บลัชออนแบบฝุ่นตามอีกรอบ  
แต่ระวังอย่าปัดเยอะเกินไปเพราะไม่อย่างนั้นแก้มจะแดงเกินไปค่ะ

เห็นมั้ยคะว่าการเลือกบลัชออนก็สำคัญไม่แพ้การเลือกแป้งหรือรองพื้นเลยแหละ เพราะถ้าใช้บลัชออนไม่เข้ากับสีผิว เพื่อนอาจจะล้อไม่ต่างกับเวลาโดนล้อว่าหน้าเทา แน่ๆ T-T ถ้าสาวๆ อยากปังไม่อยากพัง ก็เสียเวลาสักนิดเลือกบลัชออนให้เข้ากับสีผิวเรานะคะ

การเลือกบลัชออนถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการแต่งหน้า สาวๆ ไม่ควรละเลยการเลือกบลัชออนให้เข้ากับสภาพผิว และสีผิวของเรานะคะ เพราะบลัชออนจะเป็นส่วนช่วยทำให้ลุคของเราในวันนั้นดู complete มากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญเวลาลงบลัชออนต้องค่อยๆ ลงทีละน้อยๆ แล้วค่อยๆ เติมไปดีกว่าลงทีเดียวเยอะๆ เพราะถ้ามันแดงเกินไป หรือเป็นปื้นเกินไป มันจะแก้ยากแถมเสียเวลาด้วยน้า


สนับสนุนข้อมูลโดย


thebravebies

thebravebies

FULL PROFILE