Review: เซรั่มและอายครีมพิษผึ้ง "Wild Ferns Bee Venom Serum& Eye Cream"

11 2
สวัสดีค่า สิงอยู่ในบ้าน Jeban นานแล้วขอลงรีวิวกันสักหน่อย
วันนี้จะขอพูดถึงเคล็ดลับความงามจากธรรมชาติที่มี ชื่อว่า Bee Venom หรือ ที่เราเรียกๆกันว่า "พิษผึ้ง" กันบ้าง
ด้วยไลน์สกินแคร์ที่มีพิษผึ้งเป็นส่วนผสมหลักนั่นเองคะ ซึ่งก็คือ
 "Wild Ferns New Zealand Bee Venom Serum " และ
 "Wild Ferns New Zealand Bee Venom Eye cream" 

แบรนด์ Wild Ferns นี้เป็นแบรนด์จากประเทศนิวซีแลนด์ค่ะ 
เค้าจะเน้นทำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมเด่นๆจากธรรมชาติ ซึ่งลัลจำได้ว่าเมื่อก่อน 
เพื่อนเคยซื้อมาให้เป็นของฝาก แล้วใช้ดีจนติดใจต้องกลับมาฝากเพื่อนซื้อซ้ำกันเลยทีเดียว 555 
-------------
มาพูดถึงในส่วนของเซรั่มที่ได้เกริ่นกันไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีส่วนผสมหลักๆ คือ
พิษผึ้ง และน้ำผึ้งมานูก้า ตัวนี้จริงๆแล้วข้างกล่องเค้าเขียนว่าให้ใช้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์แค่นั้นเองค่ะ เน้นว่า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่ไม่ได้แนะนำว่าให้ใช้ทุกวัน อาจเพราะเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมจากธรรมชาติในเซรั่มนี้เข้มข้นมากๆ ถึง 96% เลยทีเดียว จึงให้ใช้แค่ปริมาณที่พอดี หลักการทำงานคือ เค้าจะทำหน้าที่หลอกผิวหน้าให้รู้สึกเหมือนกับว่า เราโดนผึ้งต่อยเบาๆ จากนั้นเลือดในร่างกายก็จะถูกกระตุ้น ให้ส่งมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่สัมผัสพิษ เกิดการผลิตอิลาสตินและคอลลาเจนใหม่นั่นเองค่ะ
ลัลได้ลองทดสอบการซึมและความมันของเซรั่มตัวนี้ โดยวิธีการคือ กดเซรั่ม 1 ปั๊มลงบนข้อมือ ลูบขึ้นลงไปมา 10 ครั้ง ก่อนที่จะนับ 1-5 เพื่อให้ซึมลงสู่ผิวหนัง แล้วทำการนำกระดาษซับมันสีชมพูแบบฟิล์ม แปะลงไปให้แนบสนิทกับผิวข้อมือ จับเวลาประมาณ 2 นาที สังเกตว่าไม่มีอะไรติดมากับผิวของกระดาษซับมันเลยค่ะ แสดงว่าซึมไวมากๆ และคุมมันอยู่แน่นอนค่ะสามารถใช้ทาตอนเช้าก่อนออกไปทำงานได้เลย
ผลจากการใช้ไป 3 ครั้ง ลัลรู้สึกว่าผิวตึงๆเด้งๆ หน้านุ่มขึ้น แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดทนมากขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องรอยดำจากสิวยังเห็นผลไม่ชัดเจนเท่าที่ควร แต่แอบสังเกตเห็นหัวสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ หลุดออกมาบ้างเหมือนกันค่ะ 
------------
ส่วนอีกตัวที่อยากจะแนะนำกันในวันนี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ไลน์เดียวกันกับเซรั่ม นั่นคือ
 Eye Cream นั่นเอง ส่วนผสมหลัก ก็คือ พิษผึ้ง, น้ำผึ้งมานูก้า, Rosehip Oil, มะม่วง,ลาเวนเดอร์ และว่านหางจระเข้ ค่ะ 
ตอนแรกที่เห็นก็เกิดความสงสัยนะ ว่าครีมตัวนี้จะต้องมีเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นของสารสำคัญ ถึง 97% จากธรรมชาติขนาดนี้เลยเหรอ ? 
พอได้ลองใช้แล้วถึงบางอ้อเลยค่ะ 555 
---------------
 ซึ่งจะขอบอกว่าความประทับใจในตอนแรกไม่ได้ชอบมากเท่าไหร่ เพราะว่า
เราคาดหวังว่ามันเป็นเซรั่มบำรุงผิวใต้ตานะ จะต้องซึมไวพอกันกับเซรั่มอย่างแน่นอน ผลปรากฎว่า แอบซึมช้ากว่าเซรั่ม ใช้แค่ปริมาณ 1 ปั๊มเหมือนกันค่ะ ก็พอเพียงสำหรับผิวบริเวณใต้ตาของเราทั้งสองข้าง คุณคนนี้เค้าทำให้ลัลประหลาดใจก็ตรงที่มันให้ผลที่ค่อนข้างไวเกินคาด สังเกตได้ในระยะเวลา 3 วันเท่านั้น ผิวใต้ตาเรารู้สึกเต่งตึงขึ้น ไม่หย่อนหรืออิดโรยเหมือนแต่ก่อน 

เดี่ยวนี้ถึงแม้จะนอนดึกก็จะพยายามทา Eye Cream ทุกวันค่ะ 
เผื่อผลบุญของครีมน้านนนน! 
จะช่วยต่อต้านรอยดำคล้ำที่สะสมพอกพูนขึ้นทุกวัน ได้บ้าง อิ้ๆ 
ลัลได้ลองทดสอบการซึมและความมันของ Eye Cream ตัวนี้ 
โดยวิธีการเดียวกันกับเซรั่ม คือ กดครีม  1 ปั๊มลงบนข้อมือ ลูบขึ้นลงไปมา 10 ครั้ง ก่อนที่จะนับ 1-5 เพื่อให้ซึมลงสู่ผิวหนัง 
แล้วทำการนำกระดาษซับมันสีชมพูแบบฟิล์ม แปะลงไปให้แนบสนิทกับผิวข้อมือ 
จับเวลาประมาณ 2 นาที สังเกตว่ามีน้ำมันบางๆ ติดมากับผิวของกระดาษซับมันจากในรูปที่ลัลได้วงกลมไว้เพื่อให้สังเกตได้ชัดเจนขึ้น 
คาดว่าน้ำมันที่เราเห็นนั้นอาจจะมาจากส่วนผสม อย่าง Rosehip Oil นั่นเองค่ะ 
ถือว่าค่อนข้างประทับใจมากๆ สำหรับทั้งเซรั่มและครีมบำรุงใต้ตาตัวนี้ ลัลชอบตรง
ซึมไว และใช้ง่าย กลิ่นหอมน้ำผึ้งอ่อนๆ และไม่แพ้เลยอีกทั้งผลที่ได้คือเป็นที่น่าพอใจ จะหักคะแนนก็ตรงที่เค้าทำมาเป็นขวดแก้วพกพาไปไหนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมานิดนึงอีกทั้ง ลัลเป็นคนใช้ของแล้วซุ่มซ่ามชอบทำตกบ่อย 555+ 
กลัวขวดจะแตกมากๆ เสียดายแย่เลยค่ะ ^^ ...
 เดี๋ยวหากลัลมีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆของแบรนด์นี้อีก
จะมาทำรีวิวให้ชมกันเรื่อยๆนะคะ เพราะส่วนตัวชอบมากๆสำหรับสกินแคร์ที่อัดแน่น
ไปด้วยธรรมชาติขนาดนี้ 
อ้อ! ทุกคนอย่าลืมลอง ทดสอบครีมกับบริเวณท้องแขน หรือข้างกกหู ดูก่อนนะคะ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ถ้าผิวเรารู้สึกว่าระคายเคือง มีผื่นคัน หรือแสบแดง แสดงว่าเราแพ้เหล็กในผึ้ง ไม่สามารถใช้ครีมในไลน์นี้ได้ค่ะ  #ด้วยรักและหวังดีน้า สวัสดีค่า


lanaliive

lanaliive

❤ Hello "ลัล" >>> ʟᴜɴᴀʀɪᴤᴇ
❤ ᴀɢᴇ 28
❤ ᴏɪʟʏ ᴀɴᴅ ᴀᴄɴᴇ ᴘʀᴏɴᴇ ᴤᴋɪɴ
❤ ɴᴄ 30-35
❤ ʟᴏɴɢ ᴤᴛʀᴀɪɢʜᴛ ʜᴀɪʀ

FULL PROFILE