ส่องสไตล์สาวเปรี้ยวศตวรรษที่ 19

เมื่อพูดถึงอิทเกิร์ลแห่ง Millennials อาจจะหนีไม่พี่น้องบ้าน Kardashian / Jenner

แต่ถ้าเป็นศตวรรษก่อนล่ะ? จะต้องสวยเปรี้ยวปังรูปแบบใดจึงจะมีชื่อเสียงในสังคม มาติดตามชมกันสิคะ


It girls แห่งยุค Edwardian
Edwardian คือรัชสมัยการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้า Edward ที่ 7 แม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่เนิ่นนานหลายทศวรรษ แต่ก็เป็นยุคที่มีจุดเปลี่ยนสู่ความ modern แตกต่างจากความอนุรักษ์นิยมในรัชสมัยก่อน  
Lily Elsie


สาวงามผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับ Rachel Weisz ผู้นี้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปถึงต่างประเทศว่าเป็นเจ้าของริมฝีปากที่น่าจูบที่สุดในอังกฤษ อาชีพนักแสดงละครเพลงสร้างความโด่งดังจนกลายเป็นหญิงสาวที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งยุค



จากภาพของอิทเกิร์ล Edwardian สิ่งที่คุณไม่สามารถจะมองผ่านไปได้คือทรงผมที่เซ็ทลอนจนใหญ่โตเมื่อรวมหมวกไปด้วยก็ยิ่งดูวิจิตรพิสดารมากขึ้น ราวกับว่านี่คือการสร้างฐานทัพอะไรบางอย่าง
ชื่อเสียงของ Lily ขจรไปไกลจนสื่ออเมริกันตีพิมพ์ชื่นชมในความงามอันหยดย้อยและยังแสดงความประหลาดใจว่า รูปลักษณ์อันดึงดูดใจนี้กลับสร้างแฟนคลับที่เป็นเพศเดียวกัน ผู้หญิงอังกฤษนั้นยกย่องเธอซะเหลือเกิน

Hat Game ของสาวยุคนี้อาจจะทำให้คุณกังขาว่า นี่คือลุคที่ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ หรือเป็นภาพ fahion ที่ต้องสุดโต่งตามแบบฉบับนางละคร เราจึงขอพิสูจน์ค่ะ


และนี่คือ street style ในยุค Edwardian 
หากถามถึงผลงานชื่อดังบนจอที่นำเสนอ fashion สาวสังคมผู้มีชื่อเสียงในยุค Edwardian คงจะหนีไม่พ้น Downton Abbey ค่ะ แคแรคเตอร์ในซีรีย์ไม่ได้ทำผม volume และใส่หมวกใหญ่อลังการ ดูเรียบโก้มีออร่าชนชั้นสูง
Lady Mary แห่ง Downton Abbey นั้นอาจจะเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เธอคือตัวแทนของสาวชนชั้นผู้ดีที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เธอกล้านำเทรนด์ใหม่ๆ ที่สังคมยังไม่ยอมรับเต็มที่

* มีแต่ซีซันแรกๆ ที่ตรงกับ Edwardian ค่ะ ในช่วงหลังนั้นจะเป็นภาพของครอบครัวผู้ดีหลังสงครามจบซึ่งเข้าสู่ความโมเดิร์นของศตวรรษที่ 20 การแต่งกายก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีก
ยุค Edwardian เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่คอร์เซ็ทยังได้รับความนิยมแพร่หลายในหมู่หญิงสาว หลังจากที่ยึดมั่นฝนรูปร่างความเว้าโค้งในอุดมคติมายาวนานหลายร้อยปี เมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลก fashion ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป มีความนิยมในแพทเทิร์นชุดที่เอวสูงมากขึ้นและบราเซียร์ได้เข้ามาครอบครองพื้นที่แทนการทรมานร่างกายให้การใช้คอร์เซ็ทบีบรัดดูเอวเล็กมากที่สุด
ความนิยมในเว้าโค้งนั้นเริ่มจางหายไปในยุค 1920s dHมีเทรนด์ Flapper Girls ขึ้นมาแทนที่  พวกเธอใส่เดรสสั้นขึ้นมาตามสมัยนิยมและซิลลูเอททำให้ร่างกายดูลีนตรงไม่ต้องยึดมั่นกับการอวดหุ่นนาฬิกาทรายเหมือนกับที่ผ่านมา  





Geneviève Lantelme  - The Fashion Icon of Belle Epoque  Era


ฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลาง fashion ของโลกมาเนิ่นนาน และได้ขนานนามช่วงเวลาระหว่าง 1871 ถึง 1914 (เริ่มสงครามโลก) ว่า "La Belle Époque"  หรือ"ยุคแห่งความงดงาม" ที่เฟื่องฟูด้วยการพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมและเทคโนโลยี อุตสาหกรรม fashion ใน Paris เจริญรุดหน้าส่งอิทธิพลไปหลายประเทศ และเธอคนนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดและเป็นผู้นำ fashion แห่ง Belle Époque 
คุณคงเคยได้ยินเรื่องความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศสที่มีต่อศิลปวัฒนธรรมของชาติมาแล้ว อาณาจักร fashion ที่ Paris มีชื่อเสียงเลื่องลือ ดีไซน์เนอร์กล้าฉีกกฎเกณฑ์จากธรรมเนียมดั้งเดิมและสร้างเทรนด์ขึ้นมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ดีไซน์เนอร์บางคนส่งนางแบบในชุดสวยงามแปลกใหม่ไปใน event ต่างๆ เพื่อสร้างกระแสไม่ต่างจากปัจจุบัน

Geneviève นางเอกละครชาวฝรั่งเศสผู้นี้สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยกย่องเรื่องความงามและ fashion งามล้ำบนแม็กกาซีนยุโรปและอเมริกา ผู้คนซื้อ postcard ที่ตีพิมพ์ภาพของเธอส่งหากัน style อันสร้างเสียงโจษจันคือหมวกใบเท่าบ้านนั่นเอง

(โอเค เล็กกว่าบ้าน แต่มันก็ยังหย่ายยยยยยยยยมากจริงๆ)
ลองจินตนาการถึงผู้หญิงในยุคที่ร้องกรี๊ดด้วยความอิจฉาเมื่อได้เห็นหมวกไซส์มโหฬารของเซเลบดูสิ
Geneviève ขึ้นสู่จุด peak ของอาชีพนักแสดงแต่กลับจบชีวิตอย่างปริศนาทั้งๆ ที่ยังสาว แต่หลังจากนั้นหลายปีสื่อสิ่งพิมพ์ก็ยังเขียนข่าวเพื่อรำลึกถึงสาวงามที่นำความเลิศหรูจากปารีเซียงมาให้อีกฟากโลกได้ประจักษ์
ย้อนไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ดีไซน์เนอร์จากห้องเสื้อชั้นสูงมีวิธีสร้างความสนใจจากสังคมชาวไฮโซไม่แตกต่างจากปัจจุบันนัก แม้จะไม่มี Paris Fashion Week แต่จะส่งผลงานผ่านงานสังคม ดังสาวสามคนนี้ที่เดินสวยๆ เชิดๆ เข้าในการสนามแข่งม้าแล้วทำให้ทั้ง Paris ต้องช็อก นี่คือ the naked dress แห่ง ปี 1908 คุณอาจจะสงสัยว่านี่มัน naked ตรงไหน แต่มันเป็นดีไซน์ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนในยุคนั้น ปกติแล้ว ชุดของสุภาพสตรีชั้นสูงจะนำเสนอซิลลูเอทแบบนาฬิกาทราย แต่ภายใต้กระโปรงจะมีชั้นในเพื่อผกผิดเรือนร่างภายในหลายชั้น สาวสามนางกลับแสดงความมั่นใจในชุดที่ดูแนบเนื้อไร้กระโปรงซับในและยังผ่าขึ้นไปถึงระดับเข่าจนทำให้เกิดความอื้อฉาวเพราะผู้คนมองเห็น "ข้อเท้า" ของพวกเธอ



ภาพที่ถูกประนามว่าดูฉาวโฉ่นั้นกลับกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของ fashion มาถึงปัจจุบันนี้
และเมื่อเปรียบเทียบกับ naked dress ในปัจจุบัน...



Gibson Girls
ในยุคนั้น อเมริกาอาจจะเป็นประเทศใหม่  แต่ก็เจริญรุดหน้าขึ้นมารวดเร็ว เซเลบชื่อดังจากประเทศมหาอำนาจที่ยุโรปยังต้องเดินทางมาโชว์ตัว หลังจากยุค Edwardian เพียงไม่นานก็อุตสาหกรรมหนังที่ Hollywood ขึ้นมา ไม่ได้มีเพียงการแสดงบนเวทีอย่างเดียวแล้ว เทรนด์จากอเมริกาจึงมีอิทธิพลไปหลายประเทศทั่วโลก ในช่วงต้น 1900s นั้นก็มีการสร้างภาพผู้หญิงในอุดมคติขึ้นมาและขนานนามไว้ว่าGibson Girl
Gibson Girl ไม่ใช่ชื่อของผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นแคแรคเตอร์ที่ Charles Dana Gibson นักวาดภาพประกอบแม็กาซีนชื่อดังได้สร้างขึ้นมา จากอดีตอันยาวนานที่ผู้หญิงถูกจัดไว้ฐานะเพศอ่อนแอที่เป็นผู้ตามไร้ปากเสียง แต่นี่คือภาพของหญิงยุคใหม่ที่จิตวิญญาณอันเสรี พวกเธอได้รับการศึกษาดี รักการอ่านเขียนและศาสตร์ศิลปะต่างๆ ด้วยความมั่นใจเปี่ยมล้นทำให้ Gibson Girl กลายเป็นมาตรฐานความงามของหญิงสาวอเมริกันที่ถือว่าเป็นต้นแบบก็ว่าได้
Camille Clifford


ว่ากันว่าเธอคือ Gibson girl ที่ดังที่สุดในยุคนั้น เธอมี signature เป็นมวยผมสูงที่หมุนเลี้ยวเลี้ยวลดสะดุดตาและส่วนเว้าส่วนโค้งแบบนาฬิกาทราย
เมื่อเราพูดถึงเว้าโค้ง  เราหมายถึงรอบเอว 18 นิ้ว!
เปรียบเทียบลอนผมของอิทเกิร์ลฝรั่งเศสและอิทเกิร์ลอเมริกัน ในยุคนั้นดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจผมเรียบตรงเลย  และลอนผมก็ดู creative ได้ไม่สิ้นสุด
ช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีของ Edwardian ซิลลูเอทของการใส่คอร์เซ็ทที่นิยมกันในหมู่หญิงสาวนำสมัยนั้นเป็นดังในภาพ นั่นคือรูปร่างที่โค้งไปด้านบั้นท้ายเหมือนกับตัว S  จากเดิมที่เส้นสายร่างกายยังยืดตรง


(เป็น fashion ที่ดูแล้วรู้สึกว่าการเป็นคนงามในยุคนั้นอยู่ยากซะจริงๆ)
Camille  คือหนึ่งใน trensetter ที่ทำให้ผู้คนคลั่งคลั่งไคล้รูปร่างแบบตัว S สมัยนั้นอาจจะไม่มีการดูดไขมันไปใส่ก้น แต่โครงสร้างของคอร์เซ็ทจะช่วยให้คุณมีภาพของสาว perfect แม้ว่ามันจะไม่ healthy ก็ตาม 


Evelyn Nesbit   - The First Supermodel ?
ยุคนี้มี Kylie Jenner ร้อยกว่าปีก่อนต้องยกให้ Evelyn Nesbit 
เธอคือหนึ่งในต้นแบบของ Gibson Girls ที่เป็นต้องการมากที่สุดในหมู่ช่างภาพและนักวาดภาพที่ New York  อีกหลายสิบปีต่อมา สื่อทั้งหลายต่างก็ลงความเห็นว่าเธอคนนี้นี่แหละที่เป็น supermodel แห่งยุค 1900s
ศิลปินผู้โด่งดัง Charles Dana Gibson ใช้เธอเป็นต้นแบบวาดภาพ Gibson Girl และมันกลายเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
เธอช็อกสังคมด้วยการเป็นนางแบบภาพที่ดูโป๊เปลือยขัดต่อค่านิยมของยุค แต่มันกลับสร้างชื่อเสียงอย่างล้นหลามจนได้ขึ้นปก fashion magazine ชั้นนำมากมาย รวมไปถึงโฆษณาสินค้าชื่อดังตั้งแต่ครีมทาหน้า น้ำซ่าสีดำ ยาสีฟันไปจนถึงประกันชีวิต  ความสำเร็จเหล่านี้ถาโถมเข้ามาเมื่อเธอยังเป็นวัยทีนเท่านั้น
เพราะสวยร้อนแรงเป็นที่จับจ้องจากสังคม เรื่องราวชีวิตส่วนตัวก็ดูเหมือนจะพัวพันกับความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงเพราะความเนื้อหอมจึงตกเป็นข่าว gossip อยู่เสมอ เมื่ออายุเพียง 16 เธอก็ไปต้องตาต้องใจ Standford White หนุ่มใหญ่เพลย์บอยชื่อดังในกลุ่มชนช้ันสูง ( ตอนนั้น Evelyn อาจจะแค่ 14 ด้วยซ้ำ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าแม่ของเธอจะบิดเบือนปีเกิดจริงๆ เพื่อที่เลี่ยงข้อหา "ขายลูกกิน") เขาใช้กลวิธีแบบ "สายเปย์" เข้าทางแม่ของเธอ และใช้จ่ายเงินไปมากมายเพื่อเอาอกเอาใจครอบครัว Nesbit เมื่อได้โอกาสได้อยู่กันสองต่อสองในอพาร์ทเมนท์สุดหรูของฝ่ายชาย เขาได้ใช้อุบายมอมยาเพื่อทำลายพรหมจรรย์นางแบบวัยทีน แต่ดูเหมือนว่าทางเลือกของผู้หญิงในยุคนั้นจะมีไม่มากนัก เขาคือหนุ่มใหญ่ที่มีภรรยาออกหน้าออกตา  Evelyn ยังคบหา Standford ต่อ ก่อนที่เธอจะสานความสัมพันธ์ของทายาทมหาเศรษฐี Harry Kendall Thaw และเข้าพิธีวิวาห์กลายเป็นสาวสังคมสุดไฮโซเต็มตัว

แต่นั่นไม่ใช่ happy ending...


ก่อนแต่งงาน สามีได้ค้นพบความจริงจากปาก Evelyn ว่าเคยถูกข่มขืน เขาก็ได้เก็บความแค้นไว้แน่นอก เขาโทษแม่ของเธอว่าไม่ดูแลลูกสาวให้ดีพอ แต่ตัวเขาเองก็เคยแสดงพฤติกรรมป่าเถื่อนขืนใจเธอระหว่างร่วมทริปยุโรปด้วยกัน เธอทราบในเวลาต่อมาว่าด้านมืดสุดปริตของคนรักมาจากสารเสพติด แม้ว่าเรื่องนี้จะสร้างความกลัวให้เธอ แต่เมื่อถูกตื๊อเป็นเวลาหลายปีด้วยคำสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม Evelyn จึงยินยอมเป็นภรรยามตามกฎหมายของชายที่เคยล่วงมะเมิดเธออย่างรุนแรง

แม้สามีเธอจะร่ำรวยมากแค่ไหน อาการผิดปกติทางจิตก็ไม่สามารถหายไปเองได้   เขาก็มีอาการจิตหลอนหมกมุ่นว่า ชายคนรักเก่าของภรรยากำลังส่งคนมาเอาชีวิต   หลังจาก เข้าพิธีวิวาห์ไปได้เพียงปีเดียว Harry Kendall Thaw ก็ใช้ปินระเบิดสมอง Standford White กลางโรงละครด้วยความแค้น กลายเป็นตำนานพิษรักอื้อฉาวระดับประเทศ
ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวร้อนแห่งวงการ แต่ความยาวของชุดก็ไม่สูงขึ้นมาจากข้อเท้า
ใครที่ปลาบปลื้มกับชุดที่มี detailเป็นระบายก็คงปื๊ง fashion ยุคนี้สุดๆ

Discussion (4)

Evelyn Nesbit ดูสวยน่ารักนะคะ
น่าสนใจมากเลยค่ะ Evelyn Nesbit นี่สวยจัง
ชอบยุคนี้มากจ้าาา เอาอีก เอาอีก
กรี๊ดดดด ชอบสาวๆ ยุคนี้มากเลยค่ะ  ชอบสไตล์กกการแต่งตัว สวยมาก