เบื้องหลังข่าวดี เจ้าชาย Harry - Meghan
candy355Royals on tour:Duke and Duchess of Sussex
Royal Tour ในที่นี่คือกรณียกิจของราชวงศ์อังกฤษในการเสด็จไปยังประเทศเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีอย่างเป็นทางการ และเป็นสิ่งที่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงหลายพระองค์สืบสานมานับร้อยๆ ปี
นี่เป็น Royal Tour ครั้งแรกที่เจ้าชาย Harry ได้เข้าร่วมพร้อมกับพระชายาชาวอเมริกัน สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ที่เฝ้าติดตามข่าวคราวราชวงศ์อังกฤษ ทั้งเจ้าชายและดัชเชสจะสร้างความประทับใจให้กับเจ้าบ้านกันอย่างไร มาติดตามใน mouth on the web ได้เลยค่ะ
.
Royal Tour ในที่นี่คือกรณียกิจของราชวงศ์อังกฤษในการเสด็จไปยังประเทศเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีอย่างเป็นทางการ และเป็นสิ่งที่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงหลายพระองค์สืบสานมานับร้อยๆ ปี
นี่เป็น Royal Tour ครั้งแรกที่เจ้าชาย Harry ได้เข้าร่วมพร้อมกับพระชายาชาวอเมริกัน สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ที่เฝ้าติดตามข่าวคราวราชวงศ์อังกฤษ ทั้งเจ้าชายและดัชเชสจะสร้างความประทับใจให้กับเจ้าบ้านกันอย่างไร มาติดตามใน mouth on the web ได้เลยค่ะ
.
Royal Maternity Style
หัวข้อเรื่อง Royal Tour Fashion นั้นฮือฮาตั้งแต่เริ่มต้น tour จากประกาศจากราชวัง Kensington อย่างเป็นทางการว่าเจ้าชายและพระชายากำลังจะมีทายาทด้วยกัน จากกำหนดวันคลอดในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าทำให้คาดเดาอายุครรภ์กันว่าน่าจะเข้าใกล้ไตรมาสที่ 2 แล้ว ซึ่งบางคนก็ยังประหลาดใจ เพราะเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนการประกาศข่าวดี ดัชเชสยังใส่กระโปรงทรงดินสอที่เข้ารูปดูไม่เหมือนคุณแม่ตั้งท้องนัก
Day 1
เมื่อมาถึง Australia ดยุคและดัชเชสแห่ง Sussex ก็เริ่มเดินสายทักทายเจ้าภาพที่ Opera House ด้วยสีหน้าที่สดชื่นแม้จะผ่านการเดินทางข้ามทวีป ทันใดที่มีภาพดัชเชสในเดรสขาว Karen Gee แบรนด์สัญชาติ Aussie กระแสความสนใจล้นหลามนั้นทำให้เว็บ Karen Gee ล่มไปหลายชั่วโมง ตัวดีไซน์เนอร์ได้เล่าความรู้สึกที่เป็นปลื้ม เพราะเธอไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ดังระดับโลก แต่ราชนิกูลที่โด่งดังได้เลือกใส่ชุดของเธอประเดิม Royal Tour
เราคิดว่าดัชเชสใส่สีขาวได้สวยเปล่งปลั่ง ส่วนเจ้าชาย Harry ก็ดูสมาร์ทไม่ต่างจาก event อื่นๆ ค่ะ
เราคิดว่าดัชเชสใส่สีขาวได้สวยเปล่งปลั่ง ส่วนเจ้าชาย Harry ก็ดูสมาร์ทไม่ต่างจาก event อื่นๆ ค่ะ
ความตื่นเต้นของเจ้าชายหลังจากได้รับของขวัญสำหรับ baby เป็นชิ้นแรกดูน่ารักทีเดียว
อากาศที่ Sydney มีความแปรปรวนไม่น้อย ดัชเชสจึงเลือกสวมเทรนช์โค้ท Martin Grant อีกแบรนด์จาก Australia ในช่วงที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ เราก็จะได้เห็นดัชเชสเปลี่ยนรองเท้าเป็น flat
เด็กหญิงวัย 9 ขวบต้องพบกับความตื่นเต้นเมื่อเจ้าชายเป็นผู้เสนอเป็นผู้กด shutter ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับดัชเชสเมแกนให้เอง สวนทางกับเรื่องธรรมเนียมที่สื่อหลายเจ้ามักยืนยันว่ามีข้อห้ามมิให้เชื้อพระวงศ์ถ่าย selfie หรือรูปหมู่กับแฟนๆ
อีกเหตุการณ์ที่ชมแล้วรู้สึกชื่นใจอย่างไม่ถูก นั่นก็คือคุณทวด Daphne Dunne วัยเหยียบร้อยปีผู้ที่เคยมารอต้อนรับเจ้าชายแฮร์รี่เมื่อปี 2015 และ 2017 ก็ได้มารอเพื่อจะพบกับเจ้าชายอีก และหนนี้เจ้าชายก็ได้พาพระชายามาแนะนำตัวด้วยค่ะ น่ารักจริงๆ
เมื่อปีที่แล้วที่คุณทวดมารอต้อนรับเจ้าชายก็เกิดมีฝนกระหน่ำลงมา แต่เธอไม่ได้ย่อท้อ เมื่อเจ้าชายพบว่าแฟนคลับสูงอายุยังอดทนรอคอยที่จะได้ทักทายกันก็มีท่าทางประทับใจอย่างที่เห็นในภาพค่ะ ซึ้งจัง
ภาพความปลาบปลื้มของทั้งสองตอนได้พบกันเมื่อปี 2015
กระแสความสนใจไปอยู่ที่พระชายา จากกระแสที่สื่อหนึ่งปล่อยข่าวว่า คู่ Sussex ใช้โอกาสในงานเลี้ยงหลังพิธีเสกสมรสของเจ้าหญิง Eugenie ประกาศข่าวดี ทำให้มีเสียงตำหนิพวกเค้าว่าแย่งซีนบ่าวสาวแบบไร้กาลเทศะ แต่ Harper’s Bazaar ได้อ้างแหล่งข่าววงในว่า เชื้อพระวงศ์ที่ใกล้ชิดต่างก็ทราบเรื่องการตั้งครรภ์ของดัชเชสมาก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อได้มาฉลองในวันมงคลกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาจึงมีการกล่าวแสดงความยินดี ส่วนแขกจำนวนมากมายในงานนั้นไม่ได้ทราบเรื่องนี้แต่อย่างใด
แต่กระนั้น การจับผิดจากผู้ที่ไม่พอใจในตัวดัชเชสชาวอเมริกันก็ดำเนินต่อไป ในเว็บบอร์ดของแฟนๆ ราชวงศ์อังกฤษนั้นก็ยังมีความเห็นที่ตั้งข้อกังขาและกล่าวหาพวกเค้าประกาศข่าวเรื่องทายาทในครรภ์เร็วเกินไป ดัชเชสเมแกนยังดูเพรียวบางไม่เหมือนคุณแม่ตั้งท้องเลยสักนิด แฟนคลับของเธอจึงนำเหตุผลมาโต้แย้งว่า อีก 3 วันหลังจากพิธีเสกสมรสของเจ้าหญิง Eugenie ดยุดและดัชเชสแห่ง Sussex ก็เดินทางมาถึง Australia แล้ว การประกาศเรื่องตั้งครรภ์นั้นย่อมเหมาะสมเพราะอาจจะมีความขัดข้องบางจากอาการของคุณแม่ตั้งท้องที่กระทบต่อตารางงาน เมื่อมีความชัดเจนเรื่องสภาพร่างกายก็ช่วยสร้างความเข้าใจอันดีกับทุกฝ่าย
ส่วนเรื่อง baby bump ของดัชเชส หลายคนก็เซอร์ไพรส์กันเลยทีเดียว ติดตามกันต่อนะคะว่าเป็นเพราะอะไร
แต่กระนั้น การจับผิดจากผู้ที่ไม่พอใจในตัวดัชเชสชาวอเมริกันก็ดำเนินต่อไป ในเว็บบอร์ดของแฟนๆ ราชวงศ์อังกฤษนั้นก็ยังมีความเห็นที่ตั้งข้อกังขาและกล่าวหาพวกเค้าประกาศข่าวเรื่องทายาทในครรภ์เร็วเกินไป ดัชเชสเมแกนยังดูเพรียวบางไม่เหมือนคุณแม่ตั้งท้องเลยสักนิด แฟนคลับของเธอจึงนำเหตุผลมาโต้แย้งว่า อีก 3 วันหลังจากพิธีเสกสมรสของเจ้าหญิง Eugenie ดยุดและดัชเชสแห่ง Sussex ก็เดินทางมาถึง Australia แล้ว การประกาศเรื่องตั้งครรภ์นั้นย่อมเหมาะสมเพราะอาจจะมีความขัดข้องบางจากอาการของคุณแม่ตั้งท้องที่กระทบต่อตารางงาน เมื่อมีความชัดเจนเรื่องสภาพร่างกายก็ช่วยสร้างความเข้าใจอันดีกับทุกฝ่าย
ส่วนเรื่อง baby bump ของดัชเชส หลายคนก็เซอร์ไพรส์กันเลยทีเดียว ติดตามกันต่อนะคะว่าเป็นเพราะอะไร
shirt dress (dressที่ออกแบบให้ท่อนบนดูเหมือนกับใส่เสื้อ shirt) และสีเขียว Olive นั้นเป็น style ที่ดัชเชสโปรดปรานมาก ลุคใน event ช่วงเย็นจึงไม่ได้เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เป็นดีไซน์ของ Brandon Maxwell จากฝั่ง USA ค่ะ
Day 2
เพื่อนของผู้เขียนที่อาศัยที่ Sydney ได้แสดงความประหลาดใจเมื่อได้ทราบว่าภารกิจต่อไปของทั้งคู่ราชนิกูลคือการเยี่ยมเยียนประชาชนใน Dubbo เมืองที่ห่างไกล
ทริปนี้ต้องพบปะกับเกษตรกรที่ฟาร์ม แน่นอนว่าทั้งคู่มาใน style ที่ทะมัดทะแมง จากที่ใส่รองเท้าส้นสูงไม่ขาด ดัชเชสเลือกรองเท้าบู๊ทจาก J.Crew จับคู่กับยีนส์ ส่วนเบลเซอร์นั้นมาจากแบรนด์ของนักเทนนิสสาวเพื่อนซี้ Serena Williams นั่งเองค่ะ
ทริปนี้สร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มต้น เด็กๆ ที่มาต้อนรับนั้นน่ารักมากและดูตื่นเต้นเต็มที่กับอาคันตุกะจากอังกฤษ
การพบปะครอบครัวเกษตรกรเป็นได้ด้วยดี ถึงจะมีเวลาน้อย แต่ดัชเชสได้เตรียมของฝากเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเจ้าบ้าน มันคือเค้กกล้วยหอม home made บางสื่อก็ฟันธงไปแล้วว่าดัชเชสอบเองกับมือ แต่บางคนก็เชื่อว่าอาจจะเป็นผู้ช่วยของเธอ
สภาพอากาศได้สร้างความ surprise ให้กับชาวออสซี่ เพราะ Dubbo ต้อง
ผจญกับภาวะฝนแล้งมาเป็นปี ฝนยังเลือกมาตกตอนที่เจ้าชายต้องกล่าวปราศรัยกับประชาชนนับพันที่มาต้อนรับจนมีภาพชวนยิ้มตามมา หลายคนตั้งชื่อเล่นให้กับพวกเค้าว่า "ราชนิกูลผู้เรียกฝน" อีกด้วย
ผจญกับภาวะฝนแล้งมาเป็นปี ฝนยังเลือกมาตกตอนที่เจ้าชายต้องกล่าวปราศรัยกับประชาชนนับพันที่มาต้อนรับจนมีภาพชวนยิ้มตามมา หลายคนตั้งชื่อเล่นให้กับพวกเค้าว่า "ราชนิกูลผู้เรียกฝน" อีกด้วย
Day 3
การเดินทางสู่ Melbourne ในวันที่ 3 นั้น ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะแต่งกายแมทช์กันด้วยชุดสีกรมท่า ชุดฝีมือการออกแบบของดีไซน์เนอร์หนุ่มออสซี่ไฟแรง Dion Lee นั้นทำให้นึกถึงลุคในวันก่อนเสกสมรส สีเดียวกัน จับ drape เหมือนกัน เรียกได้ว่านี่คือ style ประจำตัวเธอก็ว่าได้ ดูตัวอย่างจากภาพด้านล่างนะคะ
เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าชายยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอยู่ แม้จะไม่ใช่หนุ่มใสสไตล์ไอดอลแล้วก็ตาม
ส่วนพระชายานั้นสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับผู้คนด้วยการสวมสร้อยมะกะโรนีที่เด็กชายน่ารักนำมามอบเป็นของขวัญ เค้กกล้วยหอมเอย สร้อยพาสต้าเอย แฟนๆ เริ่มให้ความเห็นตรงกันว่าการเดินทางครั้งนี้ดูจะประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย
พูดถึง Royal Tour นั้นต้องรับประกันว่าต้องแพคเสื้อผ้ากองท่วมหัวลงกระเป๋า ต้องเปลี่ยนชุดให้เข้ากับสถานที่และตารางงานที่กระชั้นชิด ดังเช่นการพบปะการ์ดที่ชายทะเล เครื่องแต่งกายของทั้งคู่จึงดูเรียบง่ายเหมาะกับการเดินย่ำทรายและลมแรง
คู่ Sussex มี charisma เปล่งประกาย ดัชเชสนั้นมีความเป็น Hollywood ดึงดูดสายตา ส่วนเจ้าชายไม่เคยลืมความขี้เล่นไว้ที่พระราชวัง ทรงสร้างความครึกครื้นเสมอ
Day 4
นี่คือลุคในการพบปะกลุ่ม anti bad vibe circle ที่ชายหาด ดัชเชสใส่ชุดลายทางกรุยกรายจาก Martin Grant ดูเหมือนว่าเธอเลือกใส่ผลงานของดีไซน์เนอร์ชาวออสซี่เป็นส่วนใหญ่ค่ะ
ในที่สุดเราก็ได้เห็นดัชเชสในแบรนด์อังกฤษค่ะ นี่คือเรื่องที่เธอถูกวิจารณ์มาค่อนข้างมาก เพราะแม้ว่าจะไม่ใช่ธรรมเนียมหรือข้อบังคับ แต่เชื้อพระวงศ์อังกฤษมักจะปรากฏกายใน event ต่างๆ ด้วยชุดจากแบรนด์อังกฤษเป็นเรื่องปกติ อาจจะเป็นเหตุผลของเรื่องชาตินิยมมาเกี่ยวข้อง แต่หลักๆ แล้วก็เพื่อจะเป็นการแสดงให้ประชาชนผู้จ่ายภาษีอันเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของเชื้อพระวงศ์ได้เบาใจว่า เสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามนั้นก็เกิดจากฝีมือและแรงงานของคนร่วมชาติ เกิดเป็นผลประโยชน์หมุนเวียนร่วมกัน
ดังดัชเชส Catherine ที่โปรดปราน Alexander Mcqueen ห้องเสื้อโด่งดังจากอังกฤษและเลือกใส่แบรนด์ราคาย่อมเยาอย่าง Topshop บ่อยครั้ง แต่เมื่อดัชเชส Meghan แสดงออกชัดเจนว่าเธอเป็นแฟนเหนียวแน่นของ Givenchy ห้องเสื้อฝรั่งเศส แม้ว่าตัวครีเอทีฟดีไซน์เนอร์จะเป็นชาวอังกฤษ แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งก็ไม่สบายใจนักที่เธอมักจะเลือกใส่แบรนด์จาก USA และ Canada ทั้งๆ ที่ยังมีแบรนด์ดังจากอังกฤษอีกไม่น้อยที่ออกแบบชุดได้ตรงกับรสนิยมของเธอ ดัชเชส Meghan อาจจะใส่ชุดของ Alexander McQueen ,Stella Mccartney และ Burberry มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังถูกสิจารณ์ว่าไม่สนับสนุนแบรนด์อังกฤษเท่าที่ควรค่ะ
ดังดัชเชส Catherine ที่โปรดปราน Alexander Mcqueen ห้องเสื้อโด่งดังจากอังกฤษและเลือกใส่แบรนด์ราคาย่อมเยาอย่าง Topshop บ่อยครั้ง แต่เมื่อดัชเชส Meghan แสดงออกชัดเจนว่าเธอเป็นแฟนเหนียวแน่นของ Givenchy ห้องเสื้อฝรั่งเศส แม้ว่าตัวครีเอทีฟดีไซน์เนอร์จะเป็นชาวอังกฤษ แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งก็ไม่สบายใจนักที่เธอมักจะเลือกใส่แบรนด์จาก USA และ Canada ทั้งๆ ที่ยังมีแบรนด์ดังจากอังกฤษอีกไม่น้อยที่ออกแบบชุดได้ตรงกับรสนิยมของเธอ ดัชเชส Meghan อาจจะใส่ชุดของ Alexander McQueen ,Stella Mccartney และ Burberry มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังถูกสิจารณ์ว่าไม่สนับสนุนแบรนด์อังกฤษเท่าที่ควรค่ะ
เราชอบชุด Roksanda Ilinčić ดีไซน์เนอร์ชาวเซอร์เบียนที่ก่อตั้งห้องเสื้อที่ London ด้วยความปลาบปลื้มใน colour block อยู่แล้ว บวกกับโครงชุดที่เป็นทรง A นั้นช่วยส่งให้เธอสวยโดดเด่นขึ้น ดูไม่ใช่ just another blue dress
เธอต้องไปชมโครงการส่งเสริมพลังเยาวชนในโรงเรียนสตรี นับว่าเป็นลุคที่เหมาะสมกับกาลเทศะ ดูไม่ conservative เกินไปแต่ก็ไม่โฉบเฉี่ยวเกินงาม
Day 5
มาถึง event ที่ formal มากที่สุดในหลายวันมานี้ค่ะ ทั้งคู่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเปิดพิธีรำลึก ANZAC เป็นวันที่ระลึกถึงชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ทุกคนที่รับใช้และเสียชีวิตในสงคราม แฟนๆ มักกล่าวชมเสมอว่าเจ้าชายใส่เครื่องแบบแล้วดูภาคภูมิมีเสน่ห์จับตา ส่วนดัชเชสนั้นดูสำรวมในชุดของ Emilia Wickstead ดีไซน์เนอร์จาก New Zealand ที่สร้างแบรนด์ที่อังกฤษ ผลงานของเธอเป็นที่โปรดปรานของเชื้อพระวงศ์หลายคนค่ะ ก่อนหน้านี้มีดราม่าเรื่องชุดเจ้าสาวของดัชเชส หลายคนคงจำกันได้ (EW จิกกัดแบบกลายๆ ว่าชุด Givenchy ดูเหมือนดีไซน์ของเธอ และทรงผมของดัชเชสก็ยุ่งรุงรังเกินไป) ตอนนั้นแฟนๆ ก็คาดหมายกันว่าดัชเชสคงไม่เลือกใช้บริการของ EW แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่ได้ใส่ใจในคำวิจารณ์นั้นค่ะ
คุณผู้อ่านที่เคยผ่านตากระทู้ fashion ของ 2 ดัชเชสผู้โด่งดังน่าจะจำเรื่อง "กระดุม" ที่เรานำเสนอไว้ได้ มันเป็น style ประจำตัวของดัชเชสเคท และดูเหมือนว่าในตอนนี้ดัชเชสเม็กก็กลายเป็น buttons lover ไปอีกคน
จากนั้นช่วงเวลาค่ำคืนก็ได้เข้าร่วมเป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา Invictus Games (กีฬาทหารผ่านศึกได้รับบาดเจ็บจนสูญเสียอวัยวะที่เจ้าชาย Harry เป็นผู้ก่อตั้ง) เป็นอีกครั้งที่ดัชเชสเลือกชุด navy แต่คราวนี้เป็นเธอเลือก recycle เดรสจาก Stella McCartney ที่เคยใส่ออกงานสำคัญมาแล้ว การเวียนนำชุดเดิมมาใส่ในหลายโอกาสเป็นเรื่องปกติของเจ้าหญิงที่อยู่ในฐานะที่ประชาชนคาดหวัง นี่อาจจะเป็นการแสดงออกของเชื้อพระวงศ์ว่า มิได้นำรายได้จากภาษีมาจับจ่ายแบบไร้ขีดจำกัด (ราชวงศ์อังกฤษมีรายได้หลายทาง ไม่ได้มาจากงบประมาณจากรัฐเท่านั้นค่ะ)
จินตนาการตู้เสื้อผ้าของดัชเชสแล้ว ราวสีน้ำเงินเข้มน่าจะยาวมากพอดู
จินตนาการตู้เสื้อผ้าของดัชเชสแล้ว ราวสีน้ำเงินเข้มน่าจะยาวมากพอดู
เจ้าชาย Harry เป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์อังกฤษที่มีความโดดเด่นเรื่องการกล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้คน อันที่จริง นี่คือ skill ที่เหล่าเจ้าชายเจ้าหญิงจะต้องฝึกฝนจนโดดเด่นเพราะจะช่วยให้กรณียกิจต่างๆ สมบูรณ์แบบขึ้น เจ้าชายมักจะได้รับคำชมเรื่อง speech ที่มีพลังและจริงใจต่อผู้ฟัง และทำให้มีความคาดหวังต่อตัวพระชายาว่าจะสามารถฉายแสงได้เหมือนสวามีและเชื้อพระวงศ์คนอื่นหรือไม่
นี่คือเบื้องหลังเมื่อเจ้าชายกำลังซ้อมบทสุนทรพจน์โดยมีดัชเชสนั่งให้กำลังใจอยู่ไม่ไกล
Day 6
หลังจากมี event ที่เป็นทางการต่อเนื่อง ในวันนี้ทั้งคู่ดูผ่อนคลายลง แต่ก็ยังต้องพบปะกับรัฐมนตรีเพื่อเยี่ยมเยียนเด็กๆ และนักกีฬา
อาจจะดูเหมือนการล่องเรือชมเมือง แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Invictus Games ดัชเชสดูมีสปิริตและแข็งแรง แม้จะอุ้มท้องและมีตารางงานแน่น ส่วนสวามีก็ทรงเฮฮาไม่เปลี่ยนจริงๆ
Day 7
ลงเรือเดินทางไปยังเกาะ Fraser
ชุดลายทาง Reformation ของดัชเชสนี้สร้างข้อโต้เถียงให้กับชาวเน็ทเรื่องความเหมาะสม หลายคนเห็นตรงกันว่า แม้ชุดจะดูเข้ากับบรรยากาศชายทะเลอันงดงาม แต่ก็ต้องพบปะกับประชาชนต่อหน้าสื่อที่ติดตามอย่างใกล้ชิด maxi dress ผ่าสูงนี้อาจจะเหมาะกับทริปท่องเที่ยวอย่างเป็นส่วนตัวมากกว่า
แต่หลายคนก็แย้งว่า หากชุดของดัชเชส Meg ดูเปิดเผยมากเกินไป สำนักราชวัง Kensington ก็คงไม่ tweet ภาพภารกิจเยี่ยมเยียนเกาะ Fraser ด้วยภาพนี้ หรือเจ้าหญิงคนอื่นๆ ก็เคยออก event ด้วยชุดสั้นเหรือเข่าหรือผ่าข้างเปิดเผยเรียวขามาแล้ว
คุณผู้อ่านล่ะ คิดอย่างไร ?
คุณผู้อ่านล่ะ คิดอย่างไร ?
Day 8
เยือน Fiji
ชุดขาว Zimmerman แบรนด์สัญชาติออสซีนี้ไม่ได้สะดุดตาเรามากเท่าใดนัก ดูสุภาพอ่อนหวานพิมพ์นิยมของเจ้าหญิงยุคโมเดิร์น แต่มีเสียงทักท้วงมาว่า การสวมหมวกในพิธีนั้นไม่ถูกต้องตามธรรมเนียนประเพณีของ Fiji ทำให้มีการตั้งข้อกังขากับทีม stylist ของดัชเชสขึ้นมา บ้างก็อ้างว่า ผู้ที่เป็นแขกผู้มีเกียรติในพิธีนั้นจะได้รับข้อยกเว้น มิเช่นนั้นคงมีใครกระซิบแนะให้เธอถอดหมวกออกก่อนที่จะเริ่มพิธี ส่วนคนอื่นๆ ที่ร่วมงานรวมถึงนักข่าวนั้นไม่ได้รับอรุญาตให้สวมหมวกค่ะ
ถ้าพูดถึง style ดัชเชสมักจะถูกค่อนขอดเรื่องความชื่นชอบในสีโทน neutral (ขาว ดำ เทา เบจ หรือจะเป็นสีกรมท่าที่ใกล้เคียงกับดำ ) แฟน fashion หลายคนที่เห็นชุดสีเดิมวนเวียนกันก็บ่นว่าดูน่าเบื่อ คราวนี้ดัชเชสมาเหนือความหมายหมายด้วย cape dress สีฟ้สดใส เราต้องขอบอกว่าเธอกลายเป็นนางเอกของงานเลยทีเดียว เธอควงคู่มากับเจ้าชายที่แต่งกายเข้ากับงานเลี้ยงแบบ black tie
ผลงานการออกแบบจาก SAFiYAA ห้องเสื้อจาก London ใน royal tour ที่ยาวต่อเนื่องหลายวันนี้ทำให้เราคิดว่าดัชเชสน่าจะรับฟังเสียงวิจารณ์จากโลกออนไลน์หรือไม่ ? สื่ออังกฤษและชาวเน็ทต่อว่าเธอเรื่องเมินแบรนด์จากอังกฤษ เธอก็เริ่มใส่ติดต่อกันหลายวัน และเปล่งประกายในงานเลี้ยงต้อนรับยามค่ำคืนด้วยชุดสีฟ้าเจิดจ้าราวกับทะเลของ Fiji
เมื่อสื่อได้เผยแพร่ภาพด้านข้างของดัชเชส Meg นั่นทำให้เรานึกถึงข้อกล่าวหาจาก internet ว่าเธอแย่งซีนของเจ้าหญิง Eugenie ด้วยการประกาศเรื่องท้องอย่างรวดเร็วแม้ว่าbaby bump ยังไม่ดูขยายพอจะสังเกตเห็นได้ แต่เมื่อroyal tour ผ่านไปเพียงแค่สัปดาห์เดียว baby bump ก็ออกมา say hello แล้ว
FYI
liltle bump เป็นชื่อเล่นที่เจ้าชาย Harry เรียก baby ในครรภ์
FYI
liltle bump เป็นชื่อเล่นที่เจ้าชาย Harry เรียก baby ในครรภ์
Day 9
ทั้งคู่เดินทางไป University of the South Pacific ด้วยลุคดูสบายๆ แต่ event นี้สำคัญมากเพราะเป็นการพูดสุนทรพจน์ครั้งแรกของดัชเชสหลังจากที่เสกสมรสเข้าสู่ราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งที่จริงแล้วแฟนๆ ของเธอไม่ได้กังวลเรื่องทักษะการพูดต่อหน้าสาธารณชนของดัชเชสนัก เพราะเธอเคยกล่าวสุนทรนพจน์ในงาน Women's conference -ของ UN มาแล้ว
เนื้อหาของสุนทรพจน์ของดัชเชสว่าด้วยความสำคัญของการศึกษาระดับปริญญาในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับคำชมในแง่การถ่ายทอดจากประสบการณ์ทางการศึกษาของเธอเอง แน่นอนค่ะว่าศิลปะการพูดนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับอาชีพนักแสดงอยู่แล้ว ดัชเชสจึงผ่านงานนี้ไปแบบลื่นไหลไร้กังวล
Day 10
ก่อนที่จะโบกมือลา Fiji ทั้งคู่ก็ได้ร่วมพิธีเปิดอนุสาวรีย์วีรบุรุษ Labalaba ท่ามกลางฝูงชนที่มารอคอย
ชาว Fiji ที่มีรอยยิ้มสดใสพอๆ กับสีสันของเสื้อผ้า
ชุดของดัชเชสในวันนี้เป็นผลงานของ Jason Wu ดีไซน์ช่วงไหล่และแขนเสื้อไม่ได้ทำให้เราร้องว้าว แต่ชื่นชมสีเขียวเฉดนี้ค่ะ จำความที่คนเก่าคนแก่มักย้ำเตือนว่าหากมีผิวไม่ขาวแล้วอย่าใส่สีเขียวไม่งั้นจะดูมืดไปกันใหญ่ หรืออย่าริใส่สีแดงเพราะจะดูเป็นอีกาคาบพริก ความคิดเหล่านั้นดูล้าสมัยไปหมดแล้ว หากเลือกเฉดสีสันที่เหมาะสมก็ยิ่งขับผิวให้ดูผ่องสวยโดดเด่นขึ้นมา
Day 10
เยือน Tonga
เยือน Tonga
การเตรียมตัวเปลี่ยนเครื่องแต่งกายบนเครื่องบินด้วยความเร่งรีบนั้นทำให้มีความขัดข้องบางประการจนทำให้ดัชเชสกลายเป็นหัวข้อข่าวในหมวด wardrobe malfunction ขึ้นมา
เป็นที่กล่าวขานว่ายามที่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงต้องเดินทางเยี่ยมเยือนต่างประเทศนั้นจำเป็นจะต้องมีทีมที่เชี่ยวชาญเพื่อดูแลเครื่องแต่งกายให้ดูสมฐานะพระอาคันตุกะ ใน tour สู่ Tonga ครั้งนี้ ผู้ที่มาต้อนรับเป็นถึงเจ้าหญิงองค์โตของกษัตริย์ Tupou ที่ 6 เมื่อดัชเชสก้าวลงมาจากเครื่องบินด้วยท่าทางสวยสง่า แต่ชายกระโปรงกลับมีป้ายห้อยลงมา ไม่ต้องสงสัยว่าสื่อต่างพร้อมใจเล่นข่าวเรื่องนี้และยังไถ่ถามถึง stylist ของเธอกันเซ็งแซ่
ชุดแดงจับพลีทจาก Self-Portrait นั้นดูงามมิใช่น้อย แต่ก็มี Oops moment เล็กๆ มาดึงความสนใจไป แต่ไม่ว่าใครก็เจอเรื่องทำนองนี้ได้ใช่มั้ยล่ะ
ส่วนชุดในงานช่วงเย็นนั้น stylist เธอติดต่อ THEIA แบรนด์จาก New York ทำให้ Don O’Neill ผู้เป็น creative director ปลาบปลื้มมากและแทบจะหยุดทุกอย่างเพื่อตัดชุดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังระแคะระคายก่อนใครว่าดัชเชสกำลังตั้งครรภ์ เพราะได้รับ feedback ว่าชอบชุดมาก แต่อยากแก้ให้ช่วงกลางของชุดใหญ่กว่านี้และเขาต้องทุ่มตัดเย็บชุดใหม่อย่างเต็มที่เพราะยังมีงาน fashion show ล้นมืออยู่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้ประกาศอย่างไม่วางฟอร์มว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งใน royal tour ครั้งนี้
คุณผู้อ่านเห็นลุคต่างๆ ของดัชเชส Meg ใน royal tour แล้ว เราก็พอจะทราบว่าหลายคนคิดอย่างไรกับเมคอัพของเธอ พูดตรงๆ คือทั้งเป็นแฟนคลับที่ชื่นชมเธอมากๆ และคนที่หมั่นไส้คอยจิกกัด พวกเค้ากลับมีความเห็นตรงกันว่าดัชเชสควรปัดบรอนเซอร์ให้เบามือและเบลนด์ให้เป็นธรรมชาติกว่านี้ในหลายๆ ภาพแม้จะถ่ายจากระยะไกลคุณก็สามารถเห็นความส้มไปครึ่งใบหน้า แฟนๆ หลายคนเป็นห่วงว่าผลิตภัณฑ์ที่เธอใช้ดูไม่เข้ากับโทนสีผิวและทำให้ลุคที่ดูสวยสง่าดรอปลงไป
และมันเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจมาก เพราะดูเหมือนว่าดัชเชสเพิ่งจะมาเปลี่ยนแนวการแต่งหน้าก็ตอนเปิดตัวในฐานะพระคู่หมั้นของเจ้าชาย Harry ส่วนลุคเจ้าสาวในวันเสกสมรสนั้นก็ได้รับคำชมเรื่องเมคอัพอย่างล้นหลาม แต่หลังจากนั้นก็ดูเปลี่ยนไปอีกแนว
และมันเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจมาก เพราะดูเหมือนว่าดัชเชสเพิ่งจะมาเปลี่ยนแนวการแต่งหน้าก็ตอนเปิดตัวในฐานะพระคู่หมั้นของเจ้าชาย Harry ส่วนลุคเจ้าสาวในวันเสกสมรสนั้นก็ได้รับคำชมเรื่องเมคอัพอย่างล้นหลาม แต่หลังจากนั้นก็ดูเปลี่ยนไปอีกแนว
Day 11
เป็นอีกวันที่ต้องพบปะคนสำคัญของประเทศเจ้าภาพและเยี่ยมชมโครงการต่างๆ อย่าง nonstop
เดรสลายทาง Martin Grant นี้ทำให้เสียงตอบรับจากชาวเน็ทแตกออกเป็นสองข้าง สำหรับตัวผู้เขียนเองไม่ถึงกับร้อง Nay เหมือนกับอีกหลายความเห็น แต่ยอมรับว่าแพทเทิร์นช่วงแขนของชุดทำให้บางมุมของดัชเชสดูตัวใหญ่กว่าปกติ ส่วนการผูกโบกลางลำตัวนั้นก็ถือเป็น signature ของเธอไปซะแล้วค่ะ
ก่อนที่จะบินย้อนกลับไปที่ Australia อีกครั้ง เจ้าชายและดัชเชสได้เปลี่ยนชุดที่ดูลำลองมากขึ้นเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมกับประชาชนที่มาต้อนรับ ดังที่เราได้กล่าวไว้แล้ว สีฟ้าเฉดที่สดใสแบบนี้ดูเข้ากับดัชเชส Meg มาก แม้ว่า shirt dress จาก Veronica Beard จะดูเรียบง่ายแต่ก็ไม่น่าเบื่อ
เนื่องจากต้องเข้าเฝ้ากษัตริย์และราชืนีแห่ง Tonga เจ้าชายจึงต้องเปลี่ยนมาใส่สูทเพื่อให้สมพระเกียรติ มิได้มีเพียงแต่ดัชเชสที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมต่อสถานการณ์
Day 11
Australian Geographic Society Awards
เราเชื่อว่า ต้องมีใครบางคนที่แอบนึกถึงดัชเชส Megในลุคที่ดูเป็นเจ้าญิ้งเจ้าหญิง กระโปรงพองฟู ดีเทลหวานแหวว และลุคในงานราตรีคราวนี้ก็พอจะเข้าทาง ชุด Oscar de la Renta อาจจะไม่ใช่สีหวานล่องลอย แต่ก็ทำให้เรานึกถึง Audrey Hepburn หรือเจ้าหญิง Grace ขึ้นมาเหมือนกัน
Day 12
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทั้งสองต้องเดินทางย้อนกลับมาที่ Australia คือการเข้าร่วม Invictus Games ที่กำลังปิดฉากลง event สำคัญคือการแข่งขัน Wheelchair Basketball รอบชิงชนะเลิศและร่วมพิธีปิดในช่วงค่ำคืน เรามาชุมภาพจากช่วงกลางวันกันก่อนค่ะ
แฟนๆ fashion ได้ตั้งข้อสังเกตการทำ"การบ้าน" ของทีม stylist เพื่อให้ลุคของดัชเชสมีความสอดคล้องกับ event ในแต่ละสถานที่ ดังเช่น การใส่สีฟ้าสดใสที่ Fiji และการใส่สีขาวและแดงตรงกับสีธงชาติ Tonga และใน event นี้ สีเสื้อผูกโบตรงกลางจาก Scanlan Theodore เข้ากับสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกนั่นคือสีดอก poppy นั่นเองค่ะ
ลำดับต่อมาคือพิธีปิด Invictus game ดัชเชสรับหน้าที่สำคัญคือการกล่าวสุนทรพจน์เพื่อปิดงาน เราอาจจะไม่ได้ปลาบปลื้มกับชุดสีเขียวมะกอกแบรนด์ Antonio Berardi และรองเท้ารัดข้อที่หลายคนคอมเมนท์ว่าดูคล้ายกับกำไลผังชิปของนักโทษ แต่ที่ชื่นชมคือทักษะการพูดต่อหน้าสาธารณชนด้วยความมั่นใจ จากการเตรียมพร้อม บทพูดนั้นลื่นไหลและฟังดูเสน่ห์ ถึงจุดนี้ เราก็เริ่มสัมผัสได้แล้วว่าน่าจะเกิดความคาดหวังให้ดัชเชสดำเนินรอยตามเสด็จแม่ Diana ในเรื่องงานการกุศลและสุนทรพจน์สร้างแรงบันดาลใจ
FYI Vanity Fair อ้างแหล่งข่าววงในว่าผู้คนในรั้ววังแอบตั้งชื่อเล่นให้ดัชเชสว่า Di 2 และยังรวมไปถึงช่างภาพที่ติดตามถ่ายภาพเชื้อพระวงศ์อังกฤษมายาวนานก็ยืนยันว่า ภาพของดัชเชสใน Royal Tour นี้ทำให้เขาระลึกถึงตอนที่ติดตามถ่ายภาพเจ้าหญิง Diana ขณะที่เยี่ยมเยียนประเทศในเขตมหาสมุทรา Pacific เช่นกัน
FYI Vanity Fair อ้างแหล่งข่าววงในว่าผู้คนในรั้ววังแอบตั้งชื่อเล่นให้ดัชเชสว่า Di 2 และยังรวมไปถึงช่างภาพที่ติดตามถ่ายภาพเชื้อพระวงศ์อังกฤษมายาวนานก็ยืนยันว่า ภาพของดัชเชสใน Royal Tour นี้ทำให้เขาระลึกถึงตอนที่ติดตามถ่ายภาพเจ้าหญิง Diana ขณะที่เยี่ยมเยียนประเทศในเขตมหาสมุทรา Pacific เช่นกัน
Day 13
เหินฟ้าสู่ New Zealand
ในวันต่อมา ทั้งคู่กล่าวลา Australia และเดินทางสู่ New Zealand เราชื่นชอบชุดสีแดงม่วงจากแบรนด์ Hugo Boss ของดัชเชสจนแอบเสียดายว่าหากเธอใส่ชุดนี้ใน event ในวันแรกๆ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย ส่วนรองเท้าคู่เดิมที่ใส่ในงานปิดกีฬานั้นดูกลมกลืนไปกับสีของกระเป๋า ดูสบายตากว่าลุคก่อน อย่างไรก็ตาม แม้ชาวเน็ทจะไม่ปลื้มรองเท้าคู่นี้นัก แต่ปรากฏว่ามีคนช็อปตามจนหมดเกลี้ยงเหลือแต่สีอื่นๆ ไม่แตกต่างจากเสื้อผ้าอีกหลายชิ้นที่ปรากฏอยู่ใน tour นี้ หากมีราคาระดับ "พอเอื้อมถึง" ก็ขายหมดอย่างถ้วนหน้า
ดัชเชสตัวจริง ต้องผูกกลาง
เช่นเดียวกับโค้ทลายตาราง Karen Walker ดีไซน์เนอร์จาก New Zealand เมื่อสื่อเผยแพร่ภาพคู่สามีภรรยาแห่ง Sussex เมื่อเดินทางมาถึง item นี้ก็ขายหมดเกลี้ยง
ภาพที่น่าประทับใจ เมื่อสาวคนหนึ่งตื้นตันมากที่ได้พบกับราชนิกูลผู้โด่งดัง เธอถึงกับร่ำไห้ออกมา ดัชเชสจึงใช้เวลาพูดคุยกับเธอนานกว่าปกติ
ถ่ายภาพร่วมกับแฟนๆ รุ่นเยาว์
ป้ายนี้น่ารักน่าชัง "เรารักเธอ Meghan (Harry ก็พอใช้ได้อยู่นะ)"
เจ้าชายและดัชเชสได้พบผู้นำประเทศที่รัฐสภา Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งคลอดลูกไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ในตอนนั้นเธอเคยเปิดเผยความ surprise ที่ได้รับสารแสดงความยินดีจากดยุคและดัชเชสแห่ง Sussex เพราะเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าทั้งคู่จะส่งคำอสยพรที่เขียนด้วยลายมือมาให้
ดัชเชสมาในชัดสี navy ที่เข้มจนเกือบดำ จากแบรนด์ Jacinda Ardern
ดัชเชสได้กล่าวสุนทรพจน์ถึงประเด็นสิทธิหญิงและความเท่าเทียมในวาระครบรอบ 125 ปี ที่ผู้หญิงสามารถเลือกตั้งได้
Discussion (5)