IT'S SKIN ACNE TIME! : รวมเซรั่มกู้หน้าสิว รอยดำ ผิวอักเสบ จาก IT'S SKIN 3 สูตร

12 3

ขอออกตัวก่อนเลยค่ะ ว่าเปาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับทางแบรนด์ แต่จุดเริ่มต้นนั้นมาจากการที่ตัวเองชอบสกินแคร์เกาหลีอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็เหลือบเห็น Jackson แห่งวง Got7 เป็นพรีเซนเตอร์เข้าไป เปาก็เลยกลายเป็นทาสการตลาดค่ะ (ก็เค้าหล่ออ่ะ)


แต่ถึงจะเป็นทาสการตลาด เราก็ประเมินความพอใจจากการใช้ตามคุณภาพสินค้าน้าาาา (พูดจริงๆ)

และเปาก็อยากจะบอกว่ามันดีมากจริงๆ เห็นผลเร็วมาก ราคาก็ไม่ได้แพง สามารถจับต้องได้ ก็เลยอยากจะแชร์ต่อค่ะ


สกินแคร์ของ It’s skin ที่ช่วยกู้ผิวปัญหาสิวและรอยดำ ที่เปาใช้แล้วได้ผลดีกับเปาสุดๆ มี 3 ตัวตามนี้ค่ะ

It's Skin Power 10 Formula Propolis

It's Skin Power 10 Formula VC Effector

It's Skin Power 10 Formula VE Effector



ถ้าหากกำลังเป็นสิวอักเสบ ผิวอักเสบ คันๆยิบๆ หรือทำท่าจะเป็นสิว

ขอนำเสนอตัวนี้ค่ะ It's Skin Power 10 Formula Propolis

สาเหตุที่หยิบเจ้าตัวนี้มาลอง เป็นเพราะว่าเปาสนใจเรื่อง โพรโพลิส (Propolis) อยู่แล้ว โพรโพลิสจะเป็นเหมือนกับกาวอุดรังผึ้ง ที่ผึ้งสะสมมาจากยางไม้ หรือยางดอกไม้ต่างๆ ทำให้โพรโพลิสมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถช่วยต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี


ดังนั้น ถ้าผิวใครอักเสบ มีสิวอักเสบ การทาโพรโพลิสจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผิวได้ ดังนั้น เปาไม่ลังเลเลยที่จะลอง It's Skin Power 10 Formula Propolis นอกจากภาวนาว่าอย่าแพ้นะ อย่าแพ้นะ อย่าแพ้นะ ~~~

และโชคดีมากค่ะที่ไม่แพ้!!


ผลลัพธ์นี่เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยค่ะ

ทาก่อนนอนบริเวณที่มี (หรือทำท่าจะมี) สิวอักเสบ มีรอยแดงๆ พอตื่นนอนมาดูกระจกอีกที เฮ้ย รอยแดง กับสิวอักเสบหายไปแล้ว! (แต่บางจุดยังมีสิวอักเสบอยู่ค่ะ แต่ดีขึ้นเยอะมาก หายอักเสบไปเยอะสุดๆ)


ยิ่งถ้าใครเป็นเหมือนเปา ที่ต้องแต่งหน้าทั้งวัน ทำงานแบบคร่ำเคร่งนิดๆ ทำให้ผิวระคายเคืองเป็นสิวง่าย นี่เลยค่ะ เจ้านี่แหละที่เหมาะกับคุณ

เพราะเปาสังเกตว่านอกจากจะช่วยให้สิวที่มีหายไปได้แล้ว เซรั่มตัวนี้ยังช่วยทำให้ผิวแข็งแรง เป็นสิวยากขึ้นอีกด้วยค่ะ


และผลพลอยได้คือผิวจะชุ่มชื้นด้วยนะคะ

เนื้อเซรั่มหนืดนิดๆ แต่ไม่เหนียวหน้าค่ะ แปปเดียวจะซึมเข้าผิวไปค่ะ


ลองเลยค่ะ ถ้าไม่แพ้

 เปาเชื่อว่าเจ้านี่จะช่วยกู้ผิวที่มีปัญหาสิวและอักเสบได้


ต่อมาก็เข้าสู่เรื่องปัญหาโลกแตก “รอยดำ”

ถ้ามาในเรื่องนี้เมื่อไหร่ สิ่งที่เปาสนใจเป็นอันดับแรกก็คือ วิตามินซี (Vitamin C) ค่ะ ก็เลยสอยเซรั่มฮิตในตำนาน It's Skin Power 10 Formula VC Effector มาใช้ 


สาเหตุที่เลือกกลุ่มวิตามินซี ก็เพราะวิตามินซีช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ปกติจะทำหน้าที่สร้างเม็ดสีเข้มได้ ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดรอยดำรอยสิวได้ค่ะ


แต่มีข้อจำกัดอยู่นะคะ หากใครมีผิวบอบบางแพ้ง่าย วิตามินซีอาจจะยิ่งไปทำให้ผิวระคายเคืองได้มากขึ้น เปาก็เลยแนะนำก่อน ว่าถ้าไม่แน่ใจ ให้ทดลองกับผิวข้างแก้มตัวเองก่อนจะลงทั้งหน้า ลองดูว่าจะแพ้มั้ย เพราะถ้าแพ้ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องแสบหน้าทั้งหน้าค่ะ


แต่เปาไม่แพ้ ฮ่าาาา (ดีใจมาก)


และผลลัพธ์ที่ได้ จะสังเกตเห็นภายในช่วง 1-2 สัปดาห์ค่ะ ที่แน่ๆคือหน้ากระจ่างใสขึ้น ขาวขึ้น ส่วนรอยดำนั้น จางลงค่ะ แต่จะค่อยๆจางนะคะ ไม่ใช่ว่าหายไปเร็วพรึ่บๆแบบนั้น ต้องใจเย็นๆนิดนึง ยิ่งใครเป็นคนน้ำเหลืองไม่ดี รอยดำรอยแผลจะยิ่งหายช้าค่ะ

เพราะงั้นก็เลยนำมาสู่ตัวที่สามค่ะ

วิตามินอี It's Skin Power 10 Formula VE Effector นั่นเอง !

เรื่องของเรื่องที่สอยเจ้าตัวนี้มาอีกหนึ่งตัว ก็เพราะหวังให้ช่วยเรื่องรอยดำยิ่งขึ้นไปค่ะ

เพราะวิตามินอี เป็นวิตามินที่ช่วยเรื่องรอยดำ รอยแผลเป็น และช่วยสมานแผลที่เกิดจากการอักเสบได้ดี 

เปาก็เลยอยากจะใช้วิตามินอี มาช่วยเสริมฤทธิ์ไปกับวิตามินซีค่ะ ผ่าง!!


พอมีความคิดนี้เท่านั้นแหละค่ะ สัญญาณเตือนอย่างหนึ่งก็ดังขึ้นมาทันทีว่า “ระวังผิวจะแพ้” 

เพราะวิตามินอี ก็เป็นวิตามินที่สามารถระคายเคืองผิวได้ และถ้าไปใช้คู่กับซี ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการระคายเคืองได้เพิ่มขึ้นไปอีก

และข้อสองก็คือ “หน้าจะมันเยิ้มมั้ย”

เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวที่เป็นวิตามินอี ไม่ถูกกับหน้าเปาสุดๆ เพราะทำให้หน้ามัน และเกิดเป็นสิวอุดตันเบาๆค่ะ (เฮ้อ)

แต่เปาเชื่อว่านี่เป็นเซรั่มที่เนื้อดูไม่หนักมันเยิ้ม (จากการลองบนผิว) มันก็ไม่น่าจะทำให้หน้าเรามันเยิ้มเท่าไหร่ (มั้ง)

และจากการลองทาลงที่ข้างแก้มตัวเอง พบว่าไม่ทำให้หน้าแพ้ค่ะ ลองทาคู่วิตามินซีก็ยังไม่แพ้ ก็เลยกล้าลงทั้งหน้าก่อนนอน

ตื่นเช้ามาเป็นไงคะ  -- แพ้ค่ะ

ล้อเล่นค่ะ ไม่ได้แพ้ 5555

ตื่นเช้ามา ที่แน่ๆคือหน้าเด้งมากกก เหมือนผิวใสขึ้น และผิวดูชุ่มชื้นมากขึ้น ดีมากเลยอ่ะ ชอบๆ ส่วนในเรื่องของรอยดำนี่ ไม่ได้หายไปทันทีค่ะ มันยังมีอยู่บนหน้า 

แต่ค่ะแต่ -- แต่เมื่อใช้ไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ เห็นผลต่างมากค่ะ ว่ามันหายเร็วขึ้นกว่าการใช้วิตามินซีเดี่ยวๆ  (อันนี้เทียบจากรอยดำจากสิว คนละรอยกับที่ลงวิตามินซีเดี่ยวๆไปก่อนหน้านี้นะคะ)


เพราะงั้นถ้าใครงบเหลือ อยากลองหาอะไรมาทาให้เห็นผลเร็วขึ้น และผิวหน้าไม่แพ้ระคายเคือง ลองดูค่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆ แถมได้ผลพลอยได้ลดริ้วรอยมาด้วยนะ เพราะเจ้าวิตามินซีกับวิตามินอีนี่ มีคุณสมบัติลดริ้วรอยได้ด้วยกันทั้งคู่ค่ะ 

และนี่ก็คือสามสกินแคร์จาก It’s skin ที่เปามักจะงัดมาใช้เวลาผิวหน้าเป็นสิว มีรอยแดง อักเสบ เป็นรอยดำค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องของสกินแคร์ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ ว่าถูกกับผิวหรือไม่ แพ้รึเปล่า ถ้าหากไม่เคยมีประวัติแพ้สารสำคัญตัวไหน ก็สามารถลองใช้ดูได้ค่ะ


หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะค้า แล้วไว้จะแวะมาตั้งกระทู้ใหม่ค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

จุ้บๆ



paopaoindex

paopaoindex

FULL PROFILE