[Zource out] คัดมาแล้ว 12 ชิ้น จากร้าน Cute Press ที่ต้องซื้อซ้ำ!!

25 6

ฮายยยยย ซิสสสสส


วันนี้คิสตั้งใจมานำเหนอ Topic ใหม่ (ทีมงานคะ รบกวนเตรียมวิกสีม่วงและกรรไกรด้วยค่ะ) สำหรับแบรนด์ที่คิสใช้แล้วซื้อลามปามเลอะเทอะไปจนครบเกือบทุกไลน์ ทุก cate.


คิสอาจจะไม่ได้มีเยอะนะคะ เรียกว่าไลน์นึงอาจจะซื้อมาใช้อยู่สัก 1-3 ชิ้น คิสมีอยู่หลายๆแบรนด์ที่เข้าข่ายแบบนี้เลย Etude, Tarte, L'oreal, Kate รวมถึงแบรนด์ที่คิสสะสมของใช้อย่าง Jill Stuart ด้วย


คิสจะทยอยเอาของดีธงฟ้าราคาประหยัดมาฝากทุกคนเรื่อยๆนะคะ วันนี้ตั้งใจว่าจะดึงมาแค่ TOP10 หลุดไปหน่อย ทะลุไป TOP12 เลยทีเดียว แค่เริ่มก็ดูจะรั่วละ

มาประเดิมด้วยแบรนด์สัญชาติไทยอย่าง Cute Press แบรนด์ที่คิสใช้มาตั้งแต่ยังมีวางขายใน Loft ยุคแรกๆ เมื่อก่อนคิสจำได้ว่าไม่ได้มีหน้าร้านเยอะขนาดนี้ และคิสเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Cute Press เป็นแบรนด์ของคนไทย

ต่อมาถึงรู้ว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ในเครือเดียวกับ Oriental Princess ต่างกันที่คิวเพรสที่ร้านดู positioning เข้าถึงประชาชนมากกว่า ดูทรงแล้วน่าจะบริการเฉยๆ แต่กลับหักมุมด้วบริการเทพมากๆทุกครั้งที่เข้าไป

ขอกล่าวถึงเรื่องบริการของที่นี่เป็นพิเศษ เพราะคิสรู้สึกประทับใจมากๆเป็นการส่วนตัว ไม่เคยสักครั้งที่เข้าไปแล้วไม่แฮปปี้ ถ้าบอกว่า "ขอดูก่อนนะคะ" พนักงานก็จะยืนดูเงียบๆ ไม่มาวุ่นวาย และทุกครั้งที่สอบถามอะไร คำตอบมีเสมอ ไม่มีหน้าหงิกหน้างอ ไม่มีชักสีหน้า และแนะนำโปรแบบ....อยากรู้มากเลยว่าเก็บฮาร์ดดิสก์ไว้ข้างใบหูหรือยังไงกัน เพราะเป็นคิสคงจำขนาดนี้ไม่ได้ บางทีคิสเข้าไปหยิบแล้วจะซื้อๆออกเลย พนักงานก็ยังแนะนำว่าคิสได้สิทธิ์ลดนั่นลดนี่อยู่ นับถือเรื่องการ training มาก ไม่รู้ดูแลกันยังไง ไปเข้าสาขาต่างจังหวัดก็ยังบริการดี ไม่แตกต่างกัน

ถ้า SSUP ผ่านมาอ่าน อยากจะขอให้โคลนนิ่งทีมเทรนนิ่งไปหาแบรนด์ทั่วโลกเลย บริการของคิวเพรสแตกต่างโดดออกมาจนอยากให้แบรนด์ไฮเอนท์มาเรียนรู้เลยค่ะว่ารักษามาตรฐานได้ยังไง audit แบบไหนให้ได้แบบนี้

ก่อนจะตัดเข้าสู่คลาส Branding นะคะ คิสขอตีมือตัวเองกลับแพร่บ -  -"

ของที่เลือกมาทั้งหมด คิสตามใจตัวเองสุดขีดนะคะ ไม่อิงกระแสตลาดทั้งสิ้น


1st Best Foundation - Evory Radiance in N1


ตัวนี้คิสรีวิวไปแล้วใน [All in] รวบตึงแป้ง Cute Press Evory (N1) ยกตระกูล by หนูคิส ว่าทำไมต้องเลือกตัวนี้ เลยขอไม่อธิบายเพิ่ม คนอื่นอาจจะชอบรุ่น Evory Retouch/ Stellar กัน ซึ่งคิสก็ชอบนะ แต่ยังไงก็จะเลือกตัวนี้เป็นแป้ง default ที่ต้องซื้อซ้ำวนไปค่ะ

Regular Price: 359 thb/ Refill 329 thb


2nd Best Powder -Oil Control Loose Powder


แป้งฝุ่นกระปุกจิ๋วที่ซื้อแบบไม่หวังอะไร เพราะราคาถูกผีหลอก และคิสเองก็เคยใช้แป้งฝุ่นเค้ามาก่อนแล้วเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามันพิเศษอะไร เวลาผ่านไปนานแสนนาน เพิ่งรู้ว่าเค้าพัฒนามาไกลแล้ว ตัวนี้เป็นสูตรตัวเดียวกับรุ่น ฺBye Bye Oil Natural White Powder สูตรแป้งส้มยูซุ นะคะ คิสซื้อตัวนี้เพราะมันลดราคา - -"

ตัวนี้คิสชอบมากตรงที่มันใช้งานแทนแป้งของ Innisfree ที่คิสใช้อยู่ได้เลย feature คล้ายกันมาก คุมมันดี เกลี่ยง่ายไม่เค้กกี้ ไม่มีกลิ่นประหลาดกวนใจ เนื้อแป้งสัมผัสดีมากเกินราคา ข้อเสียคือแพคเกจน่าผิดหวังมาก คือเข้าใจว่ามันมีเรื่องราคาอยู่ แต่คิสยอมจ่ายแพงขึ้นแน่ๆถ้าแพคเกจดีกว่านี้ ส่วนพัฟไม่เป็นไร เพราะคิสไม่หวังอะไรกับพัฟอยู่แล้ว คิสเคาะออกมาใช้แล้วใช้คู่กับพัฟของมูจิ มันดีงามมากค่ะ อยากให้ repackage ทำไซส์ใหญ่ออกมาขาย ทำให้ sturdy ไปเลย แต่ถ้าไม่มีคิสก็ซื้อวนไปละนะ ตัวนี้คิสซื้อตุนอีก 2 กระปุกแล้วค่ะยังนอนอยู่ในกล่อง

Regular Price 139 thb(6g.)

3rd Best Tools: 1-2 Beautiful All in One Blender  


ตัวนี้เป็นพัฟ flat top ที่คิสใช้งานเกือบทุกครั้งที่ใช้แป้งผสมรองพื้นในช่วงหลัง เป็นอีกไอเท็มที่ซื้อแบบไม่คาดหวังอะไร กลายเป็นว่าฟองน้ำไข่ตัวนี้ดีแซงหน้าราคาไปลิ่วมากๆ เนื้อฟองน้ำ dense มากนะคะ ถ้าเอามาเพื่อใช้เกลี่ยรองพื้นโดยเฉพาะคิสเองว่ายังไม่ใช่ค่ะ แต่เอามาใช้งานคู่กับแป้ง compact แล้วมันเริศมาก

คิสชอบการดีไซน์ที่ practical กับการ Tap เนื้อแป้งมากเป็นพิเศษ ทำคิส recall ไปถึงฟองน้ำไข่ของ Real Technique ที่คิสซื้อซ้ำบ่อยมากกกกกกกกก ตัวนั้นจะใช้งานได้ทั้งแบบกับรองพื้นลิควิทและแบบแป้ง แต่พัฟพังง่ายมาก เต็มที่ก็ 4 เดือนก็พังแล้ว ส่วนอันนี้คิสใช้มาสักพักแล้วยังไม่เจอปัญหาอะไรค่ะ ข้อเสียคือเนื้อ dense มากกกกกก มากจนเอาไปใช้งานแบบ damp ยากมาก

อีกอย่างที่ชอบคือมัน bleach ตอนล้าง ของ Beauty Blender นี่สีตกกระจายจนรำคาญเลย ตัวนี้ไม่เป็นค่ะ โปรดมาก ซื้อซ้ำต่อแน่นอน และคิดว่าควรซื้อ spare มาเก็บไว้ก่อนสลับใช้เวลาล้าง ก่อนหน้านี้มีซื้อมาอีกอันนึง สุดท้ายยกให้เพื่อนไปแล้วค่ะ

Regular Price: 239 thb

4th Best Rouge: Good bye Dry Lips in Lollipop


ตัวนี้งอกออกมาจากการที่คิสได้ของแถมเป็นลิปรุ่น Little Mermaid (orange sherbet) ซึ่งเนื้อมันชุ่มมากกกกก คือทาได้เลยทันทีไม่ต้องลงบาล์มก่อน เนื้อมอยส์ฉ่ำสุดๆ  พิคเมนท์ดีใช้ได้ แต่ติดไม่ทนนะ ทาแล้วก็ทาเรื่อยๆค่ะ โชคดีที่ไม่มีกลิ่นแปลกๆแถมมาให้ หอมแนวฟรุตตี้อ่อนๆ ทำให้ทาได้เรื่อยๆทั้งวันแบบไม่ติดใจอะไร

คิสใช้ลิปของ Cute Press อยู่ทั้งหมด 5 รุ่น ผิดหวังก็มี เฉยๆก็มี ชอบก็มี คงได้มา breakdown ให้อ่านกันวันหลัง คิสขอยกให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถูกใจมากที่สุด เพราะ LE ในรุ่นน้องแอเรียลก็มีข้อเสียตรงที่แพคเกจ cardboard มันไม่ travel friendly กับคิสเอาซะเลย มาสวอชเนื้อรุ่น Good bye Dry Lips แล้วคิสมั่นใจมากว่ามันเนื้อเดียวกันกับรุ่นน้องเต้ยนั่นละ

อีกเรื่องที่ชอบคือ variety ที่ทำออกมาได้ดี โทนสีทาแล้วดูแพง แ่พคเกจก็ดูดีเกินราคาไปอีก ส่วนสีคิสมีซื้อมา 2 สี มีน้องอบเชย(สวยมาก แต่ไม่ค่อย MLBB เหมาะกับการทาแล้วแต่งตาไปด้วย) กับน้องอมยิ้ม ซึ้งขอยกมงให้ตัวหลังสุด สีสวยมากกก ทาแล้วที่ทำงานทัก "ทาสีนี้แล้วขึ้นนะ สวยดี" ได้ยินคำว่าสวยนี่มือไม้อ่อนค่ะ แม๊ อยากจะเหมามาแจกทั้งหมู่บ้าน 55

regular price: 229 thb(3.7 g.)

5th Best Blusher: Nonsstop Beauty 8 Hr Blush in Sweet Date


คิสมั่นใจมากๆๆๆว่าหลายคนมีบลัชตัวนี้อยู่ในมือ เพราะมันดีมากๆ ไม่อยากเชื่อว่าราคานี้จะทำบลัชออกมาได้ดีเว่อร์ ตัวนี้คิสมีอยู่ 2 สี คือตัวนี้กับ Honeymoon ที่เรียกว่าควรจะเป็นที่ปัดแก้มสี Default เลย สีคล้ายๆกับ Tarte ที่คิสมี แต่เนื้อคนละแบบกัน ของ Tarte เนื้อจะแห้งแข็งเป็นหินบะซอล แต่ติดทนระดับโลก(แหง่สิจ้ะ ราคาต่างกัน 10 เท่า)

ข้อเสียก่อนเลยคือเนื้อที่ Powdery มากๆ คิสนึกถึงบลัชของ Mac ทีเคยใช้สมัยเรียน(ทุกวันนี้คงปรับสูตรไปนานแล้ว คิสไม่ได้ซื้อต่อ) คือปัดแล้วแป้งมันเป็นฝุ่นออกมาเลย ต้องเคาะก่อนปัด/ แพคเกจเป็นพลาสติกก๋องแก๊งแต่ให้อภัยได้/ พิคเมนท์กำลังดี เนื้อบลัช blendable, buildable ค่อยๆลงจะดีที่สุด เพราะติดทนถึงตอนเย็น

ที่คิสเลือกสีนี้ออกมาทั้งๆที่ไม่มีคนพูดถึงนัก เพราะเป็นบลัชสีอมม่วงน่ารักๆ อาจจะไม่ได้ฟิล baby pink นะคะ ปัดแล้วได้แก้มชมพูแดง เป็น Natural Flush บนผิว NC 20 ดู barbie มากค่ะ คิสชอบโทนสีแบบนี้มากเป็นพิเศษเลยขอพูดถึงมากกว่า Honeymoon ทีคนพูดถึงกันเยอะอยู่แล้ว คิสซื้อต่อแน่นอน อย่าเลิกผลิตก็ละกันนะคุณพระคุณเจ้า แนะนำมากค่ะ

Regular Price: 159 thb (3.5 g.)

6th Best Mascara - Color Fantasy Lash Perfection Mascara


มาถึงของที่คิสขาดไม่ได้ และใจกล้ามากพอจะฟังธงว่าตัวไหนดีไม่ดี เพราะเกิดมาชาตินี้ใช้มาสคาร่ามาเยอะจริงๆ เยอะเกินความจำเป็นเลยละ

สำหรับมาสคาร่าของ Cute Press บอกตรงๆว่าไม่เคยมองรุ่นนี้มาก่อน เพราะไปซื้อแต่รุ่น Jet Set 3 in 1 มาตลอด(คิสใช้มาทั้งตระกูล Jetset แล้ว รุ่น 3 in 1 คิสปลื้มที่สุด ซื้อซ้ำบ่อยที่สุด) อันนี้คือซื้อเพราะน้องพนักงานแนะนำว่าขายดีมาก เอาวะ น้องว่าดี พี่ก็ว่าดี หยิบมาแบบไม่หวังอะไร

ข้อดีของตัวนี้ข้อแรกเลยคือปัดง่ายมากกกกกก หัวมันออกแบบมาดีมาก เหมาะกับมือใหม่หัดปัดมาสคาร่าเลยละ เพราะหัวไม่เล็กไป(เล็กไปคิสปัดแล้วเลอะนะ) และไม่ใหญ่แบบ Jet Set หรือรุ่นอื่นๆ ปัดแล้วให้ฟินิชที่คล้ายๆกับ Jet Set มาก ดูเป็นธรรมชาติ ขนตากระจายออกมาเป็นแพ เรียงตัวสวยเหมือนใช้มาสคาร่าแบบซี่หวี การงัดขนตาทำได้ในระดับพอใช้ คิสต้องใช้มาสคาร่าเบสทุกวันอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร

ถ้าเทียบกับการปัดโดยไม่ใช้เบส ไม่ใช้ที่ดัดขนตาเลย คิสลองเทียบกับมาสคาร่าในเรงค์ราคาเดียวกัน คิสขอยกให้ตัวนี้เทพสุดแล้วค่ะ ไม่แพนด้า ไม่เลอะ ปัดง่าย ขนตาออกมาเรียงสวย ไม่ต้องดึงขนตาส่วนเกินออก คิสมีปัญหาเรื่องขนตาชอบกระจายตัวไร้ทิศทาง ตัวนี้ใช้ง่ายค่ะ Jet Set ก็ดีนะ แต่ปัดยากกว่ารุ่นนี้ค่ะ อันนี้ดีเทพมาก แพคเกจสวยด้วย ตบมือค่ะ

Regular Price: 199 thb(7 g.)

7th Best Brow Mate - Jetset 12 Hr. Natural Brow Kit


ไม่แน่ใจว่าคิวเพรสเคยทำ Brow Kit ออกมาก่อนหน้านี้รึป่าว เพราะตัวนี้ทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่จะออกมาครั้งแรกแล้วดีได้เลย คือมันน่าจะเป็นไอเท็มที่ developed มาแล้ว

ขอยกให้เป็น Brow Kit สัญชาติไทยที่ดีที่สุดเท่าที่คิสเคยใช้มา ดีแบบ significant ตอนนี้ของ benefit brow zing นอนเฉยๆมาหลายอาทิตย์แล้ว คิสใช้ตัวนี้ทุกวันเลย และซื้อเพิ่มอีกเฉดด้วย ทั้งๆที่มันไม่ควรตุนเท่าไหร่ อันนึงใช้งานได้นานมากๆ

ที่ว่าดี ดีเหลือเกิน ดีเพราะ?? เนื้อที่ pressed มามันไม่เป็นฝุ่นเลย เป็นพิคเมนท์เนื้อกึ่งๆครีม ไม่ใช่เนื้อ baked แต่กลับให้พิคเมนท์ที่ชัดและติดทนสไตล์ baked คู่สีที่จัดมาดีมากๆ (มีเฉดเดียวทีติดใจคือสีกลางของพาเลทสีน้ำตาลเข้ม คิสว่ามันโดดไปนิดนึง) แพนออกแบบมาได้ดีแนวแบรนด์ญี่ปุ่น practical มาก สีใช้งานได้ทั้งหน้า เนื้อไม่มี fall out ให้ตายเหอะ ดีเกิ๊นนนนน

คิสซื้อพาเลทอีกอันเพิ่มเพราะอยากใด้เอามาคอนทัวร์ด้วย ซึ่งก็คิดไว้ไม่ผิด เฉดสีอ่อนทำออกมาได้ถูกอันเดอร์โทนผิวมาก ไม่โดด ไม่หลอก แต่พิคเมนท์มันแรงมาก ถ้าจะเอามาคอนทัวร์ต้องค่อยๆลงทีละน้อย คิสเดาว่าผู้หญิงทั่วๆไปน่าจะชอบพาเลทสีอ่อนกัน แต่คิสชอบสีเข้มมากกว่า ซื้อ 2 อัน เพราะสีอ่อนใช้คอนทัวร์ได้ดีมาก

ขอพล่ามถึงเรื่องแพคเกจเพิ่มออกมาเป็นพิเศษ เพราะทำออกมาได้ sturdy ขนาดพอเหมาะพอเจาะ ทั้งขนาดกระจกและ tools ที่ให้มานี่ก็ใช้งานได้จริง ปรกติคิสจะโยนทิ้งค่ะ อันนี้โยนไม่ได้ 55 ใช้ดีทั้ง 2 หัวแปรงและ spoolie เรื่องขนาดจิ๋วมากเข้าใจได้ ทำได้ขนาดนี้เทพมาก ถ้าไม่หลอกตัวเองคิสว่าดีกว่า Kate ไปเยอะ ซื้อเหอะ ซื้อเลย กราบบบ

Regular Price: 249 thb(3.2 g.)

8th Best Sunscreen: White&Matte SPF50+/PA++++ in Ivory


ตัวนี้คิสลังเลพอสมควรว่าควรจะเลือกรุ่น Ultra Smooth ฝาส้ม หรือแบบฟลูอิทตัวนี้ดี เพราะใจนึงก็ชอบฝาส้มมากๆ ใช้มาตั้งแต่ยังเรียนหนังสือจนถึงทุกวันนี้ ใช้ทั้ง 2 รุ่นและชอบมากทั้งคู่

แต่ต้องจบด้วยรุ่น White&Matte เพราะเรื่องเฉดสี เพราะ Ivory นี่แทบจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคิสเลย ใช้ตัวเดียวจบ สีมันเป๊ะกับผิวคิสมากๆ ไม่ต้องใช้เบสเขียวก่อนก็ลงได้ สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน ข้อเสียคิสมีข้อเดียว คือเนื้อสไตล์ fluid ที่ค่อนข้าง runny เวลาใช้คิสจะรู้สึกไม่โอเคเหมือนเนื้อครีมหรือเนื้อมูส

ตัวนี้เรื่องประสิทธิภาพกันแดด คิสขอบอกว่า "ไม่แน่ใจ" คือไม่ได้มั่นใจมากนักในเรื่องคุณภาพการกันแดดว่าจะเสถียรมากขนาดไหน รู้ว่ามันกันได้ละ แต่กันเทพตลอดทั้งวันขนาดไหนไม่รู้ ไม่เคยทาไปโดนแดดโหดๆเลยสักครั้ง ใช้เฉพาะวันที่ไม่่ได้ทำอะไรมาก อยู่บ้านหรือออกไปกินโจ๊กแล้วกลับบ้าน ตัวนี้สามารถช่วยปรับสภาพสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ดูเนียนขึ้นได้ เนื้อไม่แห้ง เกลี่ยง่าย ทิ้งความมันไว้น้อยมาก ไม่ลงแป้งตามก็ยังได้ คิสเป็นคนผิวมันมากๆ ทาตัวนี้แล้วไม่ค่อยทาแป้งซ้ำค่ะ ผิวมันดูสวยกำลังดี

ข้อดีอีกข้อเลยคือมันไม่ oxidize ซึ่งค่อนข้างสำคัญมากกับผลทาง cosmetics ถ้าปาดแล้วหน้าหมองระหว่างวันก็ไม่ไหวนะ เอาว่าตัวเองสัมผัสดี สีก็ดีงาม ใช้แล้วรู้สึกว่าออกจากบ้านได้ ผิวดูสวยแล้ว มีเฉดให้เลือกอยู่หลายเฉด ถ้ามีที่ตรงกับผิวคุณอยู่ก็ไม่ควรพลาดที่จะหยิบกลับบ้านด้วยประการทั้งปวงค่ะ(อย่าลืมจ่ายตังค์นะเทอ 55) คิสมั่นใจว่าจะไม่จบที่ขวดเดียวหรอก มีซื้อซ้ำแน่นอน

Regular Price: 379 thb (30 ml)

9th Best Mist: Mineral Water Plus Collagen (Orange)


ตัวนี้ซื้อแบบไม่คิดอะไรมาก คิดด้วยว่าก็คงเหมือนเอาน้ำแร่ขวดๆมาฉีดใส่หน้า ตอนซื้อก็ลองฉีดเล่นมันทุกสีเลย มาชอบตัวนี้มากที่สุด กลิ่นโอเค ราคาก็แพงกว่าเพื่อนด้วย แต่ก็ราคาน่ารักน่าชังอยู่ดี

พอเอามาใช้ เรียกว่าอย่า underestimate ขวดพลาสติกหน้าตาบ้านๆแบบนี้นะ คิสใช้แล้วว่าหัว dispenser ทำหน้าที่ได้ดีเลย ไม่ได้ละเอียดเว่อร์นะคะ แต่ดีกว่าที่คิดไว้ คิสว่ามันดีพอๆกับหัวสเปรย์ของ Urban Decay ค่ะ คือ moderate ทั้งคู่ ไม่ออกมาเป็นเม็ดๆ ไม่ต้อง depot ไปขวดอื่นให้เสียเวลา

ตัวนี้ฉีดได้แบบบันเทิงเริงใจไม่ต้องกลัวเปลือง คิสฉีดหลังลงแป้งผสมรองพื้นเสร็จ ฉีดตัวนี้ใส่ฟองน้ำไข่ 3 ที แล้ว tap กับหน้า แล้วฉีดใส่หน้าซ้ำอีกรอบ ใช้ฝ่ามือประคบทำให้ freeze เครื่องสำอางให้ติดทนมากขึ้น กลิ่นและสัมผัสดีต่อใจค่ะ ซื้อขวดที่ 2 แล้ว และจะซื้อต่อไปค่ะ

Regular Price: 169 thb (100 ml)

10. Best Scent: Sweet Musk Eau De Toilette


กลิ่นมัสก์ น่าจะเป็นน้ำหอมที่ทรหดอดทนอยู่ในแบรนด์นี้มาตั้งแต่ day one ที่คิสเห็น และต่อให้มีกี่กลิ่นออกมา คิสว่ากลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นยืนพื้นที่น่าซื้ออยู่ดี

ต้องบอกก่อนว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ฉีดเดียวๆแล้วไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ค่ะ กลิ่นจะ Flat มากๆ จนเข้าขั้นน่าเบื่อได้

ถึงขวดจะมีลายสกรีนเป็นรูปดอกไม้หวานๆ แต่คิสกลับไม่รู้สึกว่านี่เป็นกลิ่นหอมเด็กๆใสแบ๊วโลกสวยดิสนีย์แลนด์เลยแม้แต่น้อย

ตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่านี่เป็นกลิ่นของผู้หญิงที่โตเป็นสาวแล้ว และมีความ "แก่น" อยู่นิดๆในตัว คือดูเป็นผู้หญิงที่ภายนอกอาจจะดู cool beauty อยู่ แต่พร้อมจะขยิบตาให้ป้อจายที่หมายหัวเอาไว้แบบสงวนท่าที แบบ"มาขอไลน์ชั้นสิจ้ะ" เรียกว่าเป็นกลิ่นที่ flirty พอสมควร

คิสแนะนำว่าควรใช้กลิ่นนี้ร่วมกับน้ำหอมกลิ่นอื่นๆจะเวริคมากๆ ทำให้กลิ่นมีมิติมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่อง consistency ของตัวนี้คิสให้ที่ 4-5 ชัวโมงค่ะ ควรฉีดซ้ำระหว่างวันถ้าอยากให้กลิ่นติดทั้งวันทั้งคืน

Regular Price: 499 thb(60 ml)

ใจอยากจะรวบตึงให้ได้เลขสวยๆที่ 10 ตัวนะ แต่ของอกเพิ่ม เพราะใช้แล้วชอบจริงๆ

11th Best Serum: Asta Gold Oil Essence


ในขณะที่ตัวอื่นๆที่คิสซื้อมา คิสไม่ค่อยคาดหวังมากนัก และจบด้วยความประทับใจบ้าง ไปจนเฉยๆก็มี

ตัวนี้เป็นตัวที่คิส "โคตรคาดหวัง" คือคิดไว้เลยว่าขอให้ดีเถอะ คิสจะได้มีทางเลือกสกินแคร์ราคาดีๆบ้าง และด้วยความที่ก่อนหน้านี้คิสไม่เคยซื้อสินค้ากลุ่ม skin care ของคิวเพรสเลย คิสก็ไม่รู้ควรจะเริ่มที่ไลน์ไหนก่อนดี เดินวนไปวนมาในร้านก็ยังเลือกไม่ได้ มาจบที่ตัวนี้ เพราะคิสใช้น้ำมันบำรุงผิวอยู่เดิมแล้ว

ตัวเป็นเนื้อเซรั่มกับน้ำมันแบบมิกซ์มาเรียบร้อยแล้ว กดใช้ทาหน้าได้เลยทันที ซึ่งก่อนหน้านี้คิสเอามาทาใต้ตาแทน Tarte ทีหมดไป ผลก็คือใช้งานได้ดี ไม่แสบหรือแพ้ ก็ลามปามเอามาทาหน้าผาก ก็ใช้ได้โอเคอีก คราวนี้เอามาผสม 50:50 กับออยล์ของ Trilogy เลย ใช้อย่างละหยดก็ทาได้ทั่วทั้งหน้า โดยทาออยล์ให้ทั่วหน้า และคิสตามด้วยครีมบำรุงเฉพาะบริเวณหน้าผากทีมีปัญหาเรื่องความแห้งและริ้วรอยมากกว่าจุดอื่น

เท่าที่ใช้มาก็ต้องบอกว่าประทับใจมาก คิดไม่ผิดเลยที่ซื้อมา ดีใจมากๆด้วยที่เจอ ข้อเสียคิสหาไม่เจอเลยตัวนี้ ชอบมากจริงๆ และจะซื้อต่อแน่นอน กลัวแต่จะทะลึ่ง discont. ขึ้นมานี่ละ อย่าเลิกผลิตนะได้โปรดดดดด

Regular Price: 499 thb(15 ml)

12th Best Eyeshadow: Nonstop Beauty Liquid Chrome in Day Light


ตัวนี้ตอนแรกกะว่าจะไม่เอาเข้ามารวมด้วย แต่ใช้งานบ่อยเลยคิดว่าไม่หยิบมาพูดถึงไม่ได้ เป็นลิควิคอายแชโดว์ทีเคยเห็นรีวิวผ่านตาแล้วไปสวอชของจริงแล้ว...เฉยๆ เฉยมาก ไม่ได้คิดว่ามันดีอะไรขนาดนั้น และฟินิชก็ไม่ได้สมชื่อ Chrome สำหรับคิสแล้วเนื้อมัน plain มากๆ -  -"

แต่พอเปืดใช้มาก็ปาดเกือบทุกวันเลย เนื้อทำหน้าที่ได้ดี พิคเมนท์คิสว่าเฉยๆ เป็นสีแชมเปญแบบที่หยิบมาใช้ยังไงก็รอด เหมาะกับเอามาใช้เป็นอายแชโดว์เบสมากกว่า และดีตรงที่เอามาใช้เป็นอายไพรมเมอร์ และทำให้ผิวบริเวณเปลือกตาดูสว่างขึ้นมาแบบกำลังดี ไม่ได้ดูเว่อร์มากสำหรับการแต่งหน้าแบบ everyday look(ในเฉดสีที่คิสซื้อนะ เฉดอื่นไม่รู้ค่ะ) เนื้อไม่ crease ไม่ไหล ไม่ตกเป็นก้อนๆระหว่างวัน เรียกว่า foolproof ที่จะหยิบขึ้นมาใช้ และด้วยราคาค่าตัว คิสว่าคิสอยากจะซื้อสีอื่นมาใช้เพิ่มนะ และแนะนำสำหรับใครที่ไม่ชอบแต่งตาโหลดๆ แต่อยากให้ตาดูไม่โทรม ตัวนี้ตอบโจทย์ในราคามิตรภาพไทยจีนที่สุด

Regular Price: 199 thb (6g.)

หมดแล้วค่ะ ครอบคลุมจักรวาลชีวิตของคิสเลยสำหรับแบรนด์นี้ และจริงๆคิสมีซื้อของเค้ามาใช้เยอะมาก บางตัวดีแซงซ้าย แล้วมันเลิกผลิต!! เลยไม่รู้จะไปหาซื้อต่อที่ไหนดี

หวังมากๆว่าทุกคนจะถูกใจกับ Selection ทั้งตัวแบรนด์ที่คิสชอบ และของที่คิสก็ชอบมาก หน้าตาอาจจะดูลำบากว่ามาจากแบรนด์เดียวกัน ดูยังไม่ค่อยมี unity ในเรื่องของ product/package design เท่าไหร่นัก แต่ทำออกมาได้พีคมากทั้ง 12 ชิ้น อยากให้มีของดีๆราคาน่ารักแบบนี้ให้คนไทยใช้งานกันไปเรื่อยๆ

แบรนด์ไทยหลายแบรนด์ทำสินค้าออกมาได้ดีมากนะคะ คิสอยากจะใช้แบรนด์ไทยให้มากกว่านี้ด้วย แต่ตอนนี้ก็ยังมีที่สุดในใจอยู่แค่แบรนด์นี้เท่านั้น(คิวเพรสคะ จ้างคิสเป็นพรีเซนเตอร์มั๊ย คิสจะไปทุบหน้าที่เกาหลีรอค่ะ 555) คิสรู้สึกว่าร้านนี้มันดีพร้อมให้คิสต้องวกต้องวนกลับไปซื้อมาใช้เรื่อยๆ CRM,  loyalty program ก็ดีเกิ๊น คิสไม่ลังเลเลยที่จะเดินเข้าไปวนดูว่ามีอะไรเข้ามาใหม่ๆบ้าง ในขณะที่แบรนด์ไทยอื่นๆคิสแทบจะไม่อยากเดินเข้าไปเลย นอกจากคิดไว้แล้วว่าจะซื้ออะไร เดินเข้าไป หยิบจ่ายตังค์ และไม่อยากจะเข้าถ้าไม่จำเป็น

ก็ขอให้ดีในทุกด้านแบบนี้ไปเรื่อยๆเหมือนเดิม อย่าเปลี่ยนไปน้า ใครมีสกินแคร์ตัวไหนของร้านนี้ที่อยากแนะนำก็บอกคิสด้วยนะคะ จะได้ตามล่ามาใช้ต่อไป กราบบบบ

^_____^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE