Skincare ที่ลองใช้ใหม่แล้วชอบ มีอะไรบ้างมาดูกัน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีบันที่น่ารักทุกคน กระทู้วันนี้ ต่อจะมาเล่าถึงผลิตภัณฑ์หมวดสกินแคร์ ที่ลองหามาใช้เพิ่มเติมจากสกินแคร์เดิมๆที่ใช้อยู่ เป็นขั้นตอนบำรุงที่ช่วยกู้ชีพให้ผิวเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น (ใฝ่ฝันที่จะเผยหน้าสดได้ไม่เขิน) แฮ่ๆ แต่ก็เลือกสกินแคร์ตัวที่หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูง สามารถซื้อใช้ได้อย่างต่อเนื่องได้ มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีตัวไหนที่ใช้แล้วชอบบ้าง  

มาเริ่มกันเลยดีกว่า ต่อขอเรียงลำดับจากลำดับการใช้งานบนผิวนะคะ 

ตัวแรกนะคะ เป็นโทนเนอร์เช็ดหน้าที่เปลี่ยนมาใช้ได้ไม่นานนี้ กลิ่นส้มอ่อนๆ โทนเนอร์สีใส มีส่วนผสมของ mushroom extract และ สารสกัดจาก ส้ม YUZU Vitamin B3 และสารสกัดจากดอก Chamomine 

วิธีใช้ : เทลงบนสำลีแล้วเช็ดให้ทั่วหน้า หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ ใช้ทั้งเช้าและเย็น

ต่อชอบนะ กลิ่นหอมส้มอ่อนๆ ไม่เปรี้ยว ทำให้ได้ความรู้สึกเฟรช 

เป็นตัวช่วยอีกชั้นนึง ว่าเราทำความสะอาดสิ่งสกปรก

บนหน้าออกหมดด้วยหรือเปล่า ตัวส้มไม่แรงเกินไป 

ไม่ทำให้แสบผิว แสบหน้า หรือ ระคายเคือง 

ส่วนเรื่องกระชับรูขุมขน ต้องใช้กันไปอีกนานๆเด้อ 

เจลว่านหางจระเข้ 95% ผสมวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทากจากธรรมชาติ เนื้อเจลบางเบา ไม่มีแฮลกอฮอลล์

วิธีใช้ : ทาทั่วหน้าในตอนเช้า หลังจากใช้โทนเนอร์เสร็จ

ผลลัพธ์จากการใช้

ต่อเป็นคนที่ผิวมันขาดน้ำ และก็แพ้ง่ายด้วย เวลาเจอฝุ่น ควันหรือสารเคมีอะไรนิดหน่อยก็สิวขึ้นแล้ว ใช้ตัวนี้แล้วเหมือนมันช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื่นด้วย หน้ามันน้อยลง ไม่เหนอะหนะผิวหน้า แล้วอย่างที่รู้ๆกันว่านหางจระเข้ช่วยในเรื่องลดการอักเสบและรอยดำ รอยสิวดูจางลงได้ด้วย  

4.BHASAJ NATURAL E CREAM ราคา 49 บาท

ครีมลดริ้วรอย และจุดด่างดำ ผสมวิตามินอีจากธรรมชาติ คืนความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวบนใบหน้าไม่ให้แห้งตึง

วิธีใช้ : ทาทั่วหน้าในตอนกลางคืน หลังจากใช้โทนเนอร์เสร็จ

 ตอนกลางคืน เปิดแอร์นอน ไม่ต้องกลัวเรื่องหน้ามันเหนอะหนะ ก็จะใช้ครีมตัวนี้บำรุงเลย เนื้อครีมค่อนข้างจะเข้มข้น นวดวนๆไปจนกว่าครีมจะซึมเข้าผิว ใช้มาหลายกระปุกแล้ว ต่อว่ารอยสิวดูจางลง ตื่นเช้ามาหน้าก็นุ่มนิ่ม ไม่แห้งตึง ถึงแม้ว่าครีมจะเข้มข้นแต่ไม่ทำให้สิวบุกในยามค่ำคืนนะจ้ะ อีกอย่างหวังผลในเรื่องของวิตามินอีช่วยเรื่องของริ้วรอยก่อนวัยด้วย ป้องกันไว้ก่อน เดี๋ยวเกิดขึ้นมาจะแก้ไขไม่ทันการเอา 

5.Oxe’cure Anti-Melasma Cream ราคา 4 g. 185 บาท / 10 g. 395 บาท

ครีมทาฝ้าด้วยนวัฒกรรม Mela Vite Plus เข้มข้นด้วยไวท์เทนนิ่งเอเจ้นท์หลากชนิด มี aloe vera (ว่านหางจระเข้) และ Chammomile ช่วยลดการอักเสบของผิว และทำให้ผิวชุ่มชื่น ครีมทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของฝ้า กระแดด ฝ้าแดด และปัจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดฝ้าได้ รวมทั้งการทากันแดดไม่สม่ำเสมอด้วย (สำหรับคนเป็นฝ้า เขาเคลมว่าปัญหาฝ้าแลดูจางลงใน 2 สัปดาห์ด้วยนะ)

วิธีใช้ : ทาเฉพาะจุดด่างดำ รอยคล้ำ และบริเวณ T-ZONE ที่จะถูกแสงตกกระทบเป็นส่วนมาของหน้าในตอนเช้า และ ทาทั่วหน้าในตอนกลางคืนหลังจากที่ใช้ตัว BHASAJ NATURAL E CREAM

หลายคนเข้าใจว่าครีมทาฝ้าต้องทาเฉพาะเป็นฝ้าแล้วเท่านั้น เหมือนต่อตอนแรก แต่จริงๆแล้วครีมทาฝ้าไม่เป็นฝ้าก็ใช้ได้นะ สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ ทำให้ลดและป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำในอนาคตได้ อ่ะ มาพูดถึงผลจากการใช้ของเรา อย่างแรกเราชอบเนื้อครีมที่เป็นสีเนื้อ ทำให้หน้าไม่วอก และปรับให้ผิวดูกระจ่างใสด้วย เพราะด้วยเราไม่ได้เป็นคนผิวขาว ครีมบางตัวจะทำให้หน้าวอกได้ เวลาถ่ายรูปด้วยแฟลชจะรู้เรื่องเลย หน้าขาวกว่าคอ คนผิวคล้ำหลายคนคงประสบปัญหานี้ ตัวครีมมีลักษณะเข้มข้นแต่ทาบนผิวแล้วซึมเข้าผิวไปไม่หนักหน้า ไม่เหนอะหนะ ไม่ได้เพิ่มความมันของผิวเพิ่มขึ้นเลยทาตอนกลางวันได้ แล้วก็ผิวของต่อโดนไฟเยอะ ในการถ่ายคลิปรีวิว คลิปแต่งหน้า ต้องจัดแสง จัดไฟหลายดวง ก็กลัวไฟจะทำร้ายผิว จนผิวเบริ์นเหมือนกัน เลยใช้ครีมทาฝ้าตัวนี้ ช่วยป้องกันผิวและลดการเกิดฝ้าในอนาคตด้วย

6.KA UV WHITENING PROTECTION CREAM SPF 50 ราคา 90 บาท

ครีมกันแดดของ KA สูตร oil free สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA (PA +++) และ UVB มีส่วนผสมช่วยในเรื่องของ whitening ด้วย ตัวครีมหาซื้อง่าย และ ราคาไม่แพง

วิธีใช้ : ทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายของครีมบำรุงและก่อนแต่งหน้า ในตอนเช้า

อย่างที่บอกไปว่า แสงแดดไม่ใช่เรื่องตลก อยู่ในห้อง หลอดไฟ รังสีจากจอคอมก็ทำให้หน้าหมองคล้ำ เกิดฝ้าได้ ต่อใช้ครีมกันแดดตัวนี้เสริมประสิทธิภาพของครีมทาฝ้า Oxe’cure จะได้ทั้งบำรุงและปกป้องแสงแดดไป ครีมกันแดดตัวนี้ ต่อใช้มานานแล้ว ไม่ไปเพิ่มความมันบนใบหน้า ต่อว่านางกันแดดได้จริง สังเกตได้จากเวลาออกแดด โดนแดดแรงๆ โดนไฟจัดๆ ผิวไม่แดง ไม่เบริ์น ไม่แสบ เลยติดใจใช้ครีมกันแดดตัวนี้เป็นประจำ

ครีมมาส์คหน้า ด้วยคุณค่าสารสกัดจากมะเขือเทศ และพืชผักกว่า 10 ชนิด ที่จะช่วยเผยผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส พร้อมด้วยวิตามิน อี และคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระชับ ชุ่มชื่นและสุขภาพดี

วิธีใช้ : ทา  sleeping mask ตัวนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าบหลังจากที่เราทาครีมบำรุงใดๆแล้วก็ตามเสร็จแล้ว มาส์คตัวนี้สามารถทาแล้วนอนได้เลย

ผลลัพธ์จากการใช้

ตัวเนื้อครีมหอมเหมือนโยเกริ์ต ไม่มีกลิ่นประหลาด ทำให้ใช้พอกหน้าแล้วนอนได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เนื้อครีมไม่เหนียว ไม่ได้เปิดแอร์นอนก็ไม่เหนอะหนะ ตื่นเช้ามาผิวสดใส ถึงแม้วันไหนนอนดึก ตื่นเช้ามาหน้าก็ไม่โทรม ตัวนี้ติดมากใช้หลายกระปุกแล้ว ยิ่งช่วงไหนอากาศเย็นๆหน่อย จะพอกช่วงซอกจมูกหนาๆหน่อย ผิวจะได้ไม่ลอก แห้ง เป็นขุยๆ

เอารูปเปรียบเทียบผิวเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กับผิวปัจจุบันมาให้ดูค่ะ (หลายๆคนรอบตัวบอกว่า ผิวดีขึ้น ต่อก็รู้สึกว่าผิวเรียบเนียนขึ้น สิวไม่ค่อยขึ้น ผิวค่อนข้างกำลังฟื้นตัว ถึงแม้จะยังไม่เรียบเนียนใสสุด แต่ก็พยายามสู้ต่อไปค่ะ โดยการรักษาบำรุงด้วยสกินแคร์ด้วยตัวเองโดยที่ไม่พึ่งหมอผิวหนัง)

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับผลิตภัณฑ์ในกระทู้นี้เพื่อนๆถูกใจตัวไหนกันบ้างคะ ถ้าชอบตัวไหนมาเม้าท์ให้ฟังบ้างน้าาาา วันนี้ขอตัวลากันไปแต่เพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ