มหากาพย์รีวิวน้ำมันใส่ผม 6 แบรนด์ พิสูจน์กันเลยว่าตัวไหนฟาดสุด

13 6
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเราแห้งเสียมากมายค่ะ เพราะผ่านการทำสีมาหนักเลย จริงๆ ก็พยายามเล็มปลายออกอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังเหลือส่วนปลายผมที่ยังเสียอยู่ดีค่ะ ช่วงนี้ก็เลยบ้าหาน้ำมันใส่ผม เซรั่มบำรุงผม มาประโคมให้ผมกลับมาสวยเหมือนเดิม เรียกว่าตอนนี้น้ำมันใส่ผมเต็มบ้านกันเลยทีเดียว555 และเราก็เห็นว่าไหนๆ ที่บ้านก็มีน้ำมันใส่ผมอยู่เพียบแล้วก็เลยหยิบมาทำรีวิวซะเลย เผื่อให้เพื่อนๆ ที่อยากจะลองหาซื้อน้ำมันใส่ผม ได้ดูเป็นข้อมูลกัน โดยวันนี้เราจะมารีวิวน้ำมันใส่ผม 6 ตัวด้วยกันค่ะ แต่ละตัวก็เชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง แต่ใช้แล้วจะเป็นยังไงนั้น มาดูผลลัพธ์ของเรากันเลยค่า
ตัวแรกเริ่มกันที่ยี่ห้อแชมพูชื่อดังกันก่อนเลยค่ะ Sunsilk Natural Almond & Honey Serum ตัวนี้เนี่ยเพิ่งซื้อมาไม่นาน แต่เห็นขวดแล้วโดนใจมากค่ะ แพ็คเกจเค้าทำมาดี น่าใช้มากๆ อันนี้เราใช้แล้วชอบมากกก เพราะเนื้อค่อนข้างบางเบา แม้จะเป็นเนื้อเซรั่มที่ไม่ได้ใสเหมือนน้ำ แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ไม่ทำให้ผมมันจนเยิ้ม ลูบๆ ตรงปลายผมก็ช่วยให้ผมนิ่ม ไม่ชี้ฟู แล้วก็ผมแตกปลายน้อยลงด้วยค่ะ ขนาดใช้ไดร์เป่าผมยังรู้สึกเลยว่าผมนุ่มขึ้นกว่าเดิม เราใช้ตอนเช้าหลังสระผม กลับมาบ้านแล้วผมก็ไม่ฟูนะคะ ผมยังนุ่มอยู่ แถมยังกลิ่นหอมแบบวนิลาเบาๆ กลิ่นติดทนสุดๆ กลับมาบ้านแล้วยังหอมอยู่เลย
ตัวนี้เค้าบอกว่ามีส่วนผสม จากธรรมชาติ 100% ค่ะ คือมีทั้งน้ำผึ้งจากฝรั่งเศส แล้วก็ Almond Oil จากแคลิฟอร์เนีย โอ้โห ส่วนผสมฟังดูดีมากกก คือเท่าที่รู้มาน้ำผึ้งจะช่วยให้ผมนุ่มสวยอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าเป็นส่วนผสมที่โอเคมากๆ สำหรับเราเลย หลังจากใช้แล้วผมก็นุ่มขึ้น ลื่นขึ้น แถมมีน้ำหนักกว่าเดิมด้วย
ตัวที่ 2 คือ Bualuang Hair Coat Natural Herbs ตัวนี้เราจัดมาจาก Watsons ค่ะ ชื่ออาจจะฟังดูไท๊ยไทยไปนิด หน้าตาแพ็คเกจก็จะไทยหน่อยๆ แต่ด้วยความอยากลองก็ อ่ะ สอยมาจ้า ตัวนี้ใช้แล้วก็ช่วยให้ผมนุ่มขึ้นค่ะ ผมจะดูเงาขึ้น แต่เหมาะจะใช้กับตอนผมเปียกๆ หลังสระผมมากกว่า ถ้าใช้ตอนผมแห้งๆ จะทำให้ผมดูเยิ้มๆ มันๆ หน่อย แต่โดยรวมใช้แล้วก็โอเคเลยค่ะ ผมนุ่มขึ้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย ไม่ได้มีกลิ่นแบบไทยๆ อย่างที่คิด แต่ถ้าผ่านไปทั้งวันแล้ว เย็นๆ ผมอาจจะมีชี้ฟูบ้างเล็กน้อย
สำหรับส่วนผสมตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นสูตรสมุนไพรค่ะ แต่ไม่ได้บอกชัดเจนว่ามาจากอะไร แต่มีส่วนผสมของวิตามิน E ช่วยป้องกันแสง UVซึ่งเจ้าวิตามิน E จะช่วยให้ผมขาดหลุดร่วงน้อยลงค่ะ เวลาสางผมก็จะไม่ค่อยมีผมหลุดร่วงติดมาเหมือนเมื่อก่อน แต่ในส่วนของการป้องกันแสงยูวีอันนี้ยังไม่ค่อยเห็นผลหรือสังเกตได้ชัดเท่าไหร่ค่ะ
ตัวที่ 3 LUCIDO-L Argan Oil Hair Treatment Oil แบรนด์นี้ต้องบอกว่าขึ้นชื่อเรื่องน้ำมันใส่ผมสุดๆ เห็นมีรีวิวเยอะเลยต้องซื้อมาลองซะหน่อย ใช้แล้วคือชอบมากๆๆ อีกตัวเลย เพราะเราว่าตัวนี้เนื้อออยล์เค้าบางเบามากๆ เป็นเหมือนน้ำใสๆ ไม่เหนียวไม่หนืด ใช้แล้วไม่รู้สึกว่าผมมันหรือเหนียวเลย ใช้ลูบๆ ช่วงปลายผมตอนที่ผมเปียกหมาดๆ หรือจะใช้ตอนผมแห้งก็ได้นะคะ ใช้แล้วรู้สึกว่าผมนุ่มขึ้นนะคะ ไม่ชี้ฟู ไม่แห้ง หวีแล้วไม่พันกัน กลิ่นก็เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน เป็นอีกตัวที่เลิฟมากก
ส่วนผสมเด่นของตัวนี้ก็คืออาร์แกน ออยล์ค่ะ เค้าว่าน้ำมันที่สกัดได้จากผลอาร์แกนเนี่ย จะอุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิดและให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม แถมน้ำมันที่ได้จะไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนน้ำมันใส่ผมทั่วไป ทำให้น้ำมันตัวนี้จะออกแนวใสๆ ไม่เหนียวข้นเหมือนตัวอื่น ซึ่งตรงนี้แหละที่เราเลิฟมากก
มาต่อกันตัวที่ 4 คือ Lolane Natura Daily Hair Serum Magic in One
ตัวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าใครผมมัน หัวมัน ควรใช้น้อยๆ หรืออย่าใช้ตอนผมแห้งเด็ดขาดนะคะ เพราะใช้แล้วผมมันและเหนียวมากกก ฮืออ แต่ถ้าตัดเรื่องความเหนียวและมันออกไป ตัวนี้ถือว่าทำได้ดีเรื่องความนุ่มลื่น ช่วยให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย หายไปได้ค่ะ เนื่องจากตัวนี้มีความมันในระดับนึง ถ้าผ่านไปทั้งวันผมก็จะไม่ค่อยชี้ฟูค่ะ จะยังนุ่มลื่นอยู่ แต่พอตกเย็นๆ จะทำให้ผมดูมันขึ้น เน้นทาหรือบำรุงแค่ช่วงปลายผมที่เสียจะดีกว่าค่ะ
ส่วนผสมของตัวนี้เท่าที่อ่านมา มีส่วนผสมเยอะทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดเมล็ดโจโจ้บา ที่ช่วยให้ผมนุ่มลื่น จัดทรงง่าย สารสกัดเมล็ดทานตะวัน ช่วยเปลี่ยนผมแห้งเสียให้กลับมาสวย แล้วก็สารสกัดเมล็ดแมคคาเดเมีย อันนี้จะช่วยให้ผมเงางาม เพิ่มประกายให้กับเส้นผม ซึ่งเราว่าแต่ละส่วนผสมก็ทำหน้าที่ได้ดีค่ะ ผมนุ่มลื่นขึ้น เงาขึ้นจริง แต่ติดจะมันไปหน่อยนะ5555
มาๆต่อตัวที่ 5 กันน L'oreal Extraordinary Oil ตัวนี้เป็นลูกรักอีกตัวของเราเลยยย เพราะใช้แล้วชอบมาก ชโลมลงบนผมหลังสระ แล้วเป่า คือจะรู้สึกได้เลยว่าผมนุ่ม ลื่นขึ้น หวีง่าย แต่ถ้าผ่านไปทั้งวันแล้ว กลับมาบ้านก็จะมีผมฟูหน่อยๆ แต่ไม่ได้เยอะ ยังถือว่าโอเคอยู่ ส่วนกลิ่นก็จะเป็นกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ ไม่ฉุน เนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้เค้าจะค่อนข้างใส ไม่ข้น เลยรู้สึกว่าไม่เหนียวดีค่ะ ใช้ง่าย ไม่เหนอะนะ แต่ถ้าใครผมแห้งอาจจะต้องใช้เยอะหน่อยนะคะ เพราะเป็นเนื้อออยล์เลยรู้สึกว่าผมจะมันง่ายหน่อย และรู้สึกเหมือนเคลือบผมเฉยๆ ไม่ได้บำรุงซึมเข้าไป ไม่ได้เป็นออยล์เข้มข้นเหมือนตัวอื่น
อันนี้ที่บอกว่าหอมกลิ่นดอกไม้ เพราะส่วนผสมหลักๆ เป็นดอกไม้หมดเลยค่ะ เค้าบอกว่าสกัดเข้มข้นจากน้ำมันดอกไม้ 6 ชนิด ซึ่งก็จะมีทั้ง คาโมมาย ออยล์ ที่ช่วยเพิ่มความเงางามให้กับผม โรส ออยล์ อันนี้ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟูโลตัส ออยล์ ช่วยบำรุงผมอย่างเข้มข้น คือนอกจากผมจะนุ่มแล้ว กลิ่นดอกไม้ก็โอเคด้วย เลยต้องยกให้เป็นลูกรักอีกตัวเลยย
  มาถึงตัวสุดท้ายแล้ววววว Oriental Princess Concentrated Cuticle Hair Treatment Plus Sunscreen For Fluffy Hair สำหรับตัวนี้ ที่บ้านมีอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ใช้มานานมาก เลยไปขอใช้ดู ขวดจะใหญ่กว่าตัวอื่นเยอะเลย เนื้อออยล์เค้าจะเป็นสีขาวใส ค่อนข้างข้นเลยค่ะ ตัวนี้เราใช้แค่หยดเดียวก็พอแล้ว จะไม่ใช้กับช่วงโคนผมนะคะ เพราะรู้สึกว่าผมจะมันง่ายมาก จะใช้ลูบช่วงปลายผมหลังสระผม เป่าผมเสร็จ รู้สึกว่าผมนุ่มลื่นดีค่ะ แต่ผมยังมีความชี้ฟูอยู่บ้าง ยิ่งถ้าผ่านไปทั้งวันกลับมาบ้านก็ยังฟูอยู่หน่อยๆ ส่วนกลิ่นก็เฉยๆ ไม่ได้หอม หรือว่าฉุนเท่าไหร่ ถ้าซื้อช่วงโปรตัวนี้จะคุ้มมาก เค้าจัดลดราคาบ่อยๆ555 และขวดใหญ่ ใช้ได้นานค่ะ
ส่วนผสมเด่นๆ ของตัวนี้ก็คือ โจโจ้บา ออยล์ กับวิตามิน E เช่นกันคะ ตัวโจโจ้บาออยล์จะช่วยให้ผมไม่แห้งเสีย ช่วยบำรุงหนังศีรษะ แล้วช่วยลดอาการคันจากการเกิดรังแคได้ค่ะ แต่ตัวนี้เราจะไม่แนะนำให้ชโลมบริเวณหนังศีรษะมาก เพราะผมจะมันได้ง่ายๆ แต่ถ้าใครที่ผมแห้งแล้วอยากบำรุงหนังศีรษะด้วย ก็สามารถนะคะแต่อย่ามากเกินไปจ้า
  อ่ะ รีวิวความดีงามของทั้ง 6 ตัวไปครบแล้วว คราวนี้ก็มาถึงการให้คะแนนความชอบแต่ละตัวกันบ้างค่ะ ต้องบอกก่อนว่า ทั้ง 6 ตัวเราจะให้คะแนนจากการดูตัวผลิตภัณฑ์ และการเทสกับการชโลมลงบนผมจริงๆ โดยเน้นช่วงกลางผมถึงปลายผมลงมา รวมถึงดูหลังจากออกไปเผชิญโลกกว้างนอกบ้านด้วยว่ากลับมาแล้วผมยังโอเคอยู่มั้ย โดยจะตัดความเห็นเรื่องความมันของหนังศีรษะและโฟกัสที่เส้นผมแทนเนอะ เพราะส่วนตัวเราเป็นคนหนังศีรษะมัน งานนี้แต่ละตัวใช้แล้วผมจะมันมั้ย หรือจะฟู จะรอดมั้ย มาดูกันจ้าา


siinsirinn

siinsirinn

FULL PROFILE