Chloé NOMADE น้ำหอมสุดหรูสำหรับสาวมั่น

14 6
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมารีวิวน้ำหอมที่บีเพิ่งได้มาใหม่แล้วเห่อมากกก ชอบมากกกในตอนนี้ คือฉีดทุกวัน จะนอนก็ยังจะฉีด 555 แต่ที่มารีวิวไม่ใช่เพราะว่าบีเห่ออย่างเดียว แต่เป็นเพราะเค้าเป็นน้ำหอมที่ มีคนพูดถึง ค่อนข้างน้อยมากๆ ทั้งในไทยและแม้กระทั่งบล็อกเกอร์ต่างประเทศก็เช่นกัน บีรู้สึกว่าเค้าเป็นน้ำหอมที่น่าสนใจมาก เลยอยากจะมาเขียนรีวิวให้สาวๆที่สนใจเจ้าโคลเอ้ตัวนี้ได้อ่านกัน และเชื่อว่าสาวๆที่อ่านบล็อกนี้จบแล้วตามไปลองดม อาจจะตกหลุมรักเจ้าโคลเอ้ขวดนี้ได้ไม่ยากเลยค่ะ
น้ำหอมที่พูดถึงนี้ก็คือ เจ้า Chloé Nomade for Women ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา เป็นน้ำหอมแนว Chypre ซึ่งเป็นน้ำหอมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไซปรัส มักจะมีกลิ่นท็อปโน้ตที่สดชื่น และกลิ่นเบสโน๊ตเป็นโอ๊กมอส และแพทชูลี จริงๆแล้วบีไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมอะไรมากนัก แต่บีจะพยายามอธิบายให้เพื่อนๆเห็นภาพ และเข้าใจง่ายนะคะ
Chloé Nomade ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกน่ารักมากๆ เค้าอินสไปร์มาจากกระเป๋า Drew Bag ที่ถือเป็น Signature ของ Chole เลย อะไหล่สีทอง มาพร้อมกับพู่หนังกลับซึ่งเป็นกิมมิกที่ช่วยเพิ่มความเก๋ให้กับขวดไม่น้อย ถือเป็นการผสมผสานความหรูหราและความเท่ๆ ชิคๆเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว สีของน้ำหอมเป็นสีชมพูอมส้มอ่อนๆ เข้ากันกับสีของหนังกลับ ชอบอะ คนมันรักอะไรก็ดูดีไปหมด ไม่รู้จะพูดยังไง
Chloé Nomade เป็นน้ำหอมแบบ Eau De Parfum หรือ EDP ซึ่งจะมีความเข้มข้น และติดทนนานกว่าแบบ EDT อยู่ระดับนึง มีทั้งหมด 3 ไซส์ค่ะ 30 ml, 50 ml และ 75 ml. ที่บีซื้อมาเป็น 75 Ml. ขนาดใหญ่ที่สุด เพราะบีชอบมาก และรู้ว่าจะต้องฉีดไปทำงานทุกวันได้แน่นอน และมันจะต้องหมดเร็วมากแน่ๆ ก็เลยสอยมาเลยค่ะ จากร้าน EVEANDBOY ในราคา 3600 กว่าบาท ไม่แน่ใจราคาที่แน่นอนแต่คือถูกกว่าเคาเตอร์ไปหลายบาทเลยค่ะ ขวดประมาณนี้สำหรับบี ถ้าเป็นกลิ่นที่ฉีดได้ทุกวันแบบนี้ไม่เกิน 6-8 เดือน ก็หมดกดครั้งละ 5-6 สเปรย์ค่ะ
ซึ่งขวดนี้ก่อนที่บีจะซื้อ ก็ได้ทำการสเปรย์บนแขนตรงข้อพับ และออกไปนั่งรอเพื่อนที่สยาม อากาศก็ร้อนๆ แต่มันหยุดดมแขนตัวเองไม่ได้จริงๆ ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้วก็ยังติดทนจริงอะไรจริง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งก็ฉีดตัวอื่นมาแต่จางไปแล้ว นั่นก็เป็นสาเหตุให้วิ่งกลับไปซื้อทันที ตัดสินใจเลยว่าจะเอาขวดใหญ่ เพราะได้ใช้จริงแน่ๆ
มาดูกันที่โน้ตต่างๆของเค้ากันนะคะ
Top Notes : ลูกพลัม, มะกรูด, เลมอน, ส้ม
Middle Notes : ดอกฟรีเชีย, มะลิ, พีช, กุหลาบ
Base Notes : โอ้คมอส, แอมเบอร์วู้ด, พัชชูลี่, แซนเดิลวู้ด, ไวท์มัสก์
สำหรับบีกลิ่นที่เด่นๆออกมาเลยตอนที่ฉีดตอนแรกเนี่ยจะเป็นกลิ่นของลูกพลัม เค้าจะมีความหวานแบบสดชื่นๆ ไม่หวานเลี่ยน ไม่หวานขนม ด้วยเพราะมีมะกรูดและเลมอนนั่นเอง แต่ค่อนข้างจะหวานแหลมอยู่เล็กน้อยในตอนแรก บีจะฉีดก่อนแต่งหน้า พอระยะเวลาที่เดินออกจากบ้านกลิ่นก็จะกำลังดีไม่ฉุนเกินไป สงสารคนบนบีทีเอส 555 บีชอบน้ำหอมกลิ่นที่เฟรชๆ ถ้าจะหวานก็ต้องหวานด้วยกลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ สำหรับบีคือกลิ่นเปลี่ยนค่อนข้างเร็ว ตามมาเป็นกลิ่นของดอกฟรีเชีย และกลิ่นพีชที่จะเด่นขึ้นมา จะมีความหวานมากขึ้นอยู่ประมาณชั่วโมงที่ 3 ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นโอ้คมอส กลิ่นแป้งๆ สดชื่น และติดตัวเราไปตลอดทั้งวัน ฉีดตั้งแต่เช้าไปทำงานจนเลิกงานกลับมาบ้าน ยังมีกลิ่นจางๆอยู่ กลิ่นเหมือนเราเพิ่งจะอาบน้ำสะอาดๆสดชื่นออกมาจากห้องน้ำ อะไรประมาณนั้น แต่ก็ยังคงความหวานอยู่จางๆ บีจะชอบสเปรย์ใส่หวีแปรง แล้วแปรงผมเพื่อให้กลิ่นกระจายทั่วผม ถือเป็น Perfume Hack เบาๆ
บีเป็นคนที่ซื้อของมาเพื่อใช้จริงๆ ไม่ได้ซื้อมาเพื่อเก็บสะสมหรือเก็บกล่อง ไม่เคยเก็บอะไรไว้เลย ถ้าใช้หมดแล้วก็ทิ้งตลอด เป็นคนที่ใช้น้ำหอมหมดขวดจริงๆ เพราะไม่ได้มีเยอะ แต่บีเป็นคนที่แต่งตัวหลายแนวหลายบุคลิก บีก็จะมีน้ำหอมเอาไว้เพื่อให้ครอบคลุมกับการแต่งกายของเรา ขวดนี้เนี่ยบีฉีดแล้วเพื่อนๆหรือคนรอบๆข้างบอกว่า เหมาะกับบีมาก เพราะบีจะเป็นแนวทะมัดทะแมง แต่น้ำหอมแต่ละขวดที่มีนี่คือสาวหวานถักเปีย ทัดดอกไม้ ถักโครเชต์ทั้งนั้น แต่กลิ่นนี้มันเป็นน้ำหอมกลิ่นที่รู้สึกว่าฉีดแล้วชั้นจะออกไปพิชิตโลกอะไรประมาณนี้ มันมีความรู้สึกอิสระ สดชื่น รู้สึกถึงการผจญภัย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ลุยอะไรขนาดนั้น จะเป็นแนวแบบสาวปารีเซียงใส่ชุดซาฟารี ไปส่องสัตว์เก๋ๆ สวยๆ อารมณ์แบบนางเอกเรื่องเดอะมัมมี่อะค่ะ ประมาณนั้น เป็นความหวานที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ เป็นแนวแบบสาวมั่นทะมัดทะแมง มีสไตล์แต่ไม่ใช่แบบแมนๆคุยกัน ลุยๆ มันเป็นความคลาสสิคสมกับเป็นโคลเอ้จริงๆ ตีความเยอะเกิน แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ 5555555
สำหรับบีขวดนี้บีให้คะแนน 8/10 อาจจะหักตรงที่กลิ่นหวานๆหอมๆจางเร็วมากบนตัวบี อาจจะเป็นเพราะเคมีของแต่ละคน ใจอยากให้กลิ่นหวานหอมสดชื่นอยู่กับตัวนานกว่านี้อีกซักหน่อย แต่โดยรวมแล้วสำหรับบี ถือเป็นน้ำหอมที่บีสามารถจะฉีดได้ทุกวัน ในวันทำงาน มันช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่น ทะมัดทะแมง และที่สำคัญคือสามารถฉีดในอากาศร้อนๆอย่างบ้านเราได้ โดยไม่ทำให้คนรอบข้างเวียนหัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรีวิวน้ำหอมเป็นอะไรที่พูดและอธิบายยากมาก บีอยากให้เพื่อนๆกล้าที่จะเดินเข้าไปลองฉีดบนผิว เดินวนดูก่อน ลองดูว่ากลิ่นจะสามารถติดบนตัวเราได้นานแค่ไหน แล้วชอบมั้ยเมื่อกลิ่นมันเปลี่ยนไปตามโน้ตต่างๆของมัน น้ำหอมขวดแรกๆของบี บีซื้อจาก First Impression ทั้งนั้นเลย บางขวดก็ผิดหวังเพราะจางไวมาก มากจนเสียดาย รักนะแต่ไม่ซื้อต่อแล้วนะเธอ หมดไวเกิน บางขวดบนตัวเพื่อนหอมมาก พอมาฉีดที่เรากลับไม่อิน บางขวดไปเทสบนกระดาษ ชอบเลยซื้อมา พอมาสเปรย์ที่ตัวถึงกับถอนหายใจ เพราะมันไม่เหมือนบนกระดาษเลย น้ำหอมเป็นของที่ใช้แล้วหมดไปจริงๆ มันเป็นของฟุ่มเฟือย ซึ่งถ้าน้องๆที่ไม่ได้มีงบมากมายอะไร อยากจะมีน้ำหอมดีๆซักขวด บีเชื่อว่าการที่เราเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ ไปลองฉีด แล้วถ้าเราอินกับมันจริงๆ ก็ตัดสินใจซื้อมาลอง มันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร อยากให้ไปลองดมกันดูค่ะ มาเขียนรีวิวเพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้า โคลเอ้ตัวนี้ รีวิวน้อยเกิ๊นนนน ของดีๆแบบนี้ อยากประกาศให้โลกรู้วววววว์

สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะคะ กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้แรกของบี หากเพื่อนๆชอบหรือมีคำถามหรือคำแนะนำอะไร ก็สามารถติชมได้เลยนะคะ สวัสดีค่าาาา


suchihabee

suchihabee

FULL PROFILE