คืนสุขภาพดีให้ผม … รีวิว 5 Hair Serum สำหรับคนผมเสีย ผมร่วง ต้องได้ต้องโดน!!

14 3
สวัสดีค่ะหยุงกลับมาแล้วหลังจากหายไปสามเดือน ด้วยความนอยด์เพราะปัญหาผมพัง ทำให้ชีวิตไม่ปังจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ ยอมรับว่าหยุงเป็นคนที่บำรุงผิวหน้าพิถีพิถันมาก แต่กับเรื่องผมนี่เรียกว่าละเลยก็ได้ แหะๆ เพราะคิดว่าใช้อะไรก็ได้ พอเริ่มอายุเยอะขึ้น บำรุงไม่ดี ประกอบกับทำสี ผ่านเคมี ความร้อนต่างๆ ตู้มมมม ผมพังก่อนไม่รอแล้วนะ ร้องไห้ T.T แต่เมื่อไม่อยากผมพังข้ามปี จึงต้องรีบปฏิวัติผมเสียเลยค่ะ ขออธิบายสภาพผมที่พังก่อนละกันค่ะ เริ่มจากผมหยุงเสียจากการทำสี ใช้เคมีเยอะ จึงแตกปลาย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ตามมาด้วยผมร่วง (หนักม๊ากกก) น่าจะเป็นเพราะเครียดจากการทำงาน นอนน้อย ประมาณนี้ เมื่อผมพังมากๆ หยุงเลยเริ่มมองหาตัวบำรุง เสิร์ทเน็ตสาวๆ แนะนำให้ใช้พวกแฮร์เซรั่มเป็นประจำทุกวัน แต่ภารกิจของเราใหญ่หลวงนัก จึงกระหน่ำซื้อมาลองหลายยี่ห้อเลยจ้า เล่นใหญ่มากจริงๆ 555 หยุงใช้เวลาทดลองมาประมาณนึง ซื้อเอง เสียตัวเอง ลองเอง เจ็บเอง นักเลงพอ เอาล่ะไปเริ่มการรีวิวกันเลยว่า ตัวไหนได้ไปต่อ ตัวไหนโดนเท นั่งอ่านกันเก๋ๆ  ฟิ้วววววว 

Hair Serum ที่รีวิวมีดังนี้ …

1.Botanicals Fresh Care Coriander Strength Source 
ปริมาณ 125 ml. ราคา 399 บาท 
2.L’oreal Elseve Extraordinary Oil 
ปริมาณ 100 ml. ราคา 299 บาท 
3.Smooth E Silk-E Multi-Vitamin Hair Serum 
ปริมาณ 30 ml. ราคา 225 บาท 
4.Schwarzkopf Extra Care Rosa Canina Oil Elixir 
ปริมาณ 80 ml. ราคา 299 บาท  
5.Hair System by Watsons Ultimate Hair Oil 
ปริมาณ 70 ml. ราคา 199 บาท  


วิธีทดสอบประสิทธิภาพ

  1. บีบผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ ทดสอบเนื้อสัมผัส 
  2. ทดสอบทาลงบนเส้นผมขณะแห้ง ใช้ผมจำนวนช่อเท่าๆ กัน ชโลมปริมาณ 1 หยด ทดสอบการซึมซาบ และความเหนอะหนะ
  3. ทิ้งไว้ 40 นาที แล้วใช้ฟิล์มซับความมัน แปะไว้บนเส้นผม เพื่อทดสอบความมันตกค้างที่จะเกิดขึ้นระหว่างวัน 
Botanicals Fresh Care Coriander Strength Source

คำเคลม: เซรั่มบำรุงเส้นผมแบบลีฟออน ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างเมล็ดคอเรียนเดอร์ พืชที่อุดมไปด้วยโอเมก้า ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผม เสริมความแข็งแรง และลดการเปราะขาดง่าย โคโค่นัท ออยล์ และโชยาออยล์ ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึกให้ผมนุ่ม ชุ่มชื่น ตรงสลวย เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ชโลมได้ทั้งศีรษะจนสุดปลายผม ปราศจากซิลิโคน พาราเบนและสีสังเคราะห์ 


จุดที่ปัง: เนื้อเซรั่มบางเบาสมอย่างที่เคลม ชโลมลงเส้นผมปุ๊ป ซึมปั๊บ ความอ่อนโยนต้องให้ ไม่รู้สึกระคายเคืองหนังศีรษะ ชอบที่ใช้ได้ทั้งศีรษะ ไม่ต้องเว้นโคนผม ทำให้บำรุงได้ทั่วถึงดี 


จุดที่แอบพัง: กลิ่นฉุน รุนแรงมากๆ เป็นกลิ่นแนวพฤกษา แต่เราว่ามันฉุนจนแสบจมูก ทาบนผมแล้วระหว่างวันได้กลิ่นแบบนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แพคเกจเป็นหัวบีบแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าใช้งานยากค่ะ 

L’oreal Elseve Extraordinary Oil 

คำเคลม: ออยล์สูตรเข้มข้น อุดมไปด้วยสารสกัดจากน้ำมันของดอกไม้ถึง 6 ชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคาโมมิเลีย และอื่นๆ ช่วยให้เส้นผมสลวย เงางาม มีน้ำหนัก สุขภาพดี บำรุงผมที่แตกปลายให้กลับมาสุขภาพดี เหมาะสำหรับคนผมเสียมาก ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ 


จุดที่ปัง: กลิ่นดีงามมาก หอมอ่อนๆ เวลาทาบนผม ระหว่างวันได้กลิ่น ผู้ดี๊ ผู้ดีค่ะ แพคเกจหรูหราเว่อร์วังมากออยล์เข้มข้น ทาแล้วรู้สึกเลยว่าผมนุ่มสุดๆ ถ้าชโลมเน้นปลายผม ตัวนี้แก้ผมแตกปลายได้ดี


จุดที่แอบพัง: ตัวนี้ไม่สามารถชโลมทั่วศีรษะได้ ควรเว้นช่วงโคมผม ด้วยความมันของออยล์ เราใช้แล้วถ้าไม่เว้นโคนผม ผมร่วงจ้า ออยล์ตัวนี้ทาแล้วไม่ค่อยซึม มีความมันทิ้งไว้บนเส้นผมเยอะมาก ระหว่างวันผมมันเหมือนคนไม่สระผมมาสามวันได้ มีความจับตัวเป็นก้อนๆ ไม่สบายศีรษะเท่าไหร่  


Smooth E Silk-E Multi-Vitamin Hair Serum

คำเคลม: แฮร์เซรั่มเข้มข้น เน้นเรื่องความอ่อนโยน เพราะเป็นเวชสำอาง ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Pro-Vitamin B5 ช่วยบำรุงเกล็ดผมและบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง Ginkgo Biloba Extract ช่วยบำรุงเส้นใยในเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม Vitamin E บำรุงผิวชั้นนอกของเส้นผมให้ชุ่มชื้น ปกป้องเส้นผมจากมลภาวะและแสงแดด สามารถชโลมได้ทั่วศีรษะ ไม่ต้องเว้นโคนผม ปลอดภัย เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะ 


จุดที่ปัง: ความอ่อนโยน ตัวนี้คือเดอะเบสท์ ใครเป็นสาวแพ้ง่ายแนะนำเลย กลิ่นหอมละมุนๆ ถูกจริตมากชอบที่ไม่ต้องเว้นโคนผม ชโลมไปโลดทั่วศีรษะ เป็นเซรั่มเข้มข้น แต่ไม่ทำให้ผมมัน และหลุดร่วง ทาปุ๊บ ซึมปั๊บ ไม่ทิ้งความมันให้เหนอะหนะ ถ้าผมเสียเวลาใช้ให้เน้นปลายผมเป็นพิเศษ ผมแตกปลายหนักๆ ตัวนี้เอาอยู่ ใครผมร่วง มีปัญหาหนังศีรษะอ่อนแอ อยากแนะนำให้ลองแชมพูและครีมนวดของสมูทอี และตามด้วยแฮร์เซรั่มตัวนี้ เราใช้แล้วผมร่วงน้อยลง หนังศีรษะสตรองขึ้น ผมสุขภาพดีขึ้นด้วย ส่วนผสมคล้ายๆ กัน น่าจะอยู่ในไลน์โปรดักช์เดียวกันนะ เป็นแฮร์เซรั่มที่ขวดเล็ก เหมาะแก่การพกพา ใช้เเล้วผมหอม นุ่มลื่นทั้งวัน 


จุดที่แอบพัง: อยากให้ทำขวดใหญ่กว่านี้มาขายด้วย เพราะปริมาณ 30 ml. สำหรับเราที่ใช้ทุกวัน หมดเร็วมาก 

Schwarzkopf Extra Care Rosa Canina Oil Elixir

คำเคลม: ออยล์บำรุงเส้นผม สูตรสำหรับผมแห้งเสีย สารสกัดเข้มข้นจากโรซ่า คานิน่า (ดอกกุหลาบป่า) เน้นเรื่องการเติมความชุ่มชื่นให้เส้นผม ฟื้นบำรุงอย่าล้ำลึก สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผมตรงสลวย จัดทรงง่าย และมีน้ำหนัก ชโลมผมได้ตั้งแต่กึ่งกลางถึงปลายผม ละเว้นบริเวณโคนผม


จุดที่ปัง: ขวดสวยน่าใช้ มีความหรูหราเบอร์สิบ ออยล์มีความบางเบา ชโลมแล้วซึมซาบสู่เส้นผมเร็วดี ให้ความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นดอกกุหลาบชัดเจน หอมละมุน ติดผมดีมากๆ ใช้แล้วผมนุ่มดีเลย


จุดที่แอบพัง: แอบติที่ไม่สามารถทาทั่วทั้งศีรษะได้ ไม่แน่ใจว่า เพราะแบรนด์กลัวเรื่องความมัน หรือว่าไม่อ่อนโยนเท่าที่ควร แต่เราไม่แพ้ตัวนี้นะ ตัวนี้ไม่รู้ว่าใช้แล้วผมร่วงมั้ย เพราะเราเว้นโคนผม ตามที่เค้าบอก และกลิ่น ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นกุหลาบ ต้องข้ามไปเลย เพราะน้องกุหลาบกลิ่นชัดมากจริงๆ จ้า บังเอิญเราชอบก็รอดไป 


Hair System by Watsons Ultimate Hair Oil

คำเคลม: น้ำมันบำรุงเส้นผมสูตรสำหรับผมแห้งเสีย เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อุดมด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ 8 ชนิด เช่น Macadamia Oil, Argan Oil, Olive Oil และอื่นๆ ช่วยเรื่องฟื้นบำรุงผมแห้งเสียอย่างล้ำลึก อ่อนโยน เพราะปราศจากสารเคมี ไม่มีพาราเบน แอลกอฮอล์ ซิลิโคน และสารเคมีทุกชนิดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นผม ชโลมได้ตั้งแต่กึ่งกลางจนถึงปลายผม เว้นบริเวณโคนเส้นผม 


จุดที่ปัง: กลิ่นหอมผู้ดี เนื้อเซรั่มเข้มข้น เหมาะกับคนที่ผมแตกปลายหนักๆ ฟื้นบำรุงผมได้ดี ใช้แล้วผมนุ่ม แพคเกจน่าใช้ ชอบความอ่อนโยน และการร่วมเอาน้ำมันธรรมชาติมาถึง 8 ชนิด ให้ฟิลออร์แกนิคๆ 


จุดที่แอบพัง: ตัวนี้ชโลมลงผมแล้วเหมือนไม่ซึมอ่ะ ทิ้งไว้ซักพัก ผมก็ยังจับตัวเป็นก้อนๆ อยู่ (ตามภาพ) เหนอะหนะ ไม่สบายศีรษะ ไม่เหมาะสำหรับใช้ตอนเช้า เพราะผมจะมันระหว่างวันหนักมาก ไม่โอเคจ้า เราใช้ตอนกลางคืน ตื่นมาคือต้องสระผมใหม่ เคยทาแล้วระวังไม่ดี ไปโดนโคนผมบ่อยๆ ผมร่วงค่ะ ร้องไห้หนักมาก 



ทิ้งไว้ 40 นาที แล้วใช้ฟิล์มซับความมัน แปะไว้บนเส้นผม เพื่อทดสอบความมันตกค้างที่จะเกิดขึ้นระหว่างวัน … มาดูว่าแบรนด์ไหนทิ้งความมันระหว่างวันไว้น้อยที่สุด



จัดอันดับความมันระหว่างวัน

อันดับ 1 >> Smooth E แทบไม่มีความมันระหว่างวัน ใช้ตัวนี้ไม่ต้องสระผมทุกวัน ผมก็ไม่มันเยิ้ม ไม่เป็นก้อน เริ่ดสุด 

อันดับ 2 >> Botanicals และ Schwarzkopf มีน้ำมันออกมาบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สาวผมแห้งไม่ต้องสระผมทุกวันก็ได้ 

อันดับ 3 >> L’oreal Elseve และ Hair System by Watsons มันเยิ้มเหมือนหัวชโลมน้ำมันเลยจ้า ขนาดเราเป็นคนผมแห้ง ยังคิดว่าสองตัวนี้ไม่ค่อยซึมซาบ แถมทิ้งความมันระหว่างวันให้รำคาญใจ แง่ๆ 



ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ค่อนเก็ทว่าแฮร์เซรั่มมันสำคัญกับผมยังไง ผ่ามมมมมม!!! ดูเลยจ้า … รูปซ้ายเป็นก่อนที่จะใช้แฮร์เซรั่ม ผมชี้ฟู แตกปลาย รูปขวา คือใช้แฮร์เซรั่มมาแล้ว เกือบเดือน ผมดูสุขภาพดี เรียบ ตรงสลวย มีน้ำหนักขึ้นจ้า 

ก่อนไปขอสรุปว่า แฮร์เซรั่มมันสำคัญมากเลยนะสาวๆ ทำความสะอาดผมด้วยการสระแล้ว บำรุงด้วยครีมนวด และให้อาหารผมด้วยแฮร์เซรั่ม 3 ขั้นตอนง่ายๆ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลาเลยนะจ๊ะ เราเจ็บมาก่อน 555 ส่วนแฮร์เซรั่มที่เรา Approved แล้วว่าจะได้ไปต่อในฐานะลูกรักมี 2 ตัว อันดับหนึ่งคือ Smooth E เพราะอ่อนโยน ช่วยลดอาการขาดหลุดร่วง หนังศีรษะแข็งแรงขึ้น ฟื้นบำรุงผมแตกปลายได้ดี ชโลมทั่วศีรษะได้ ไม่ต้องเว้นโคนผม ง่ายต่อการใช้งาน แทบไม่ทำให้ผมมันเยิ้มระหว่างวัน มีความมันจิ๊ดเดียวเท่านั้น และอันดับสอง Schwarzkopf เนื้อออยล์บางเบา ซึมซาบเร้วดี กลิ่นหอมกุหลาบ ละมุนๆ บำรุงผมให้นุ่มดี แต่ข้อเสียคือเวลาใช้ต้องเว้นช่วงโคนผม ยุ่งยากนิดนึง และแอบมีความมันระหว่างวันมากกว่าสมูทอีนิดนึง ผมแห้งมากๆ น่าจะตอบโจทย์ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ไปแล้ว บายจ้า ><”



yungyingnaka

yungyingnaka

FULL PROFILE