[Get Braces: ชีวิตติดเหล็ก] คิดดีแล้วหรอ จะไปจัดฟัน??

18 6
ก่อนหน้านี้คิสมาเล่าแค่นิดๆแล้วก็หายไปเลย รู้สึกว่าเล่าผิดขั้นตอนไปหน่อย

ก่อนจะบอกว่าจัดแล้วรู้สึกยังไง ทำความสะอาดยังไง ดูแลฟันยังไง

เอาเรื่องแค่ว่า "ต้องคิดอะไรบ้างก่อนไปจัดฟัน" ให้ได้ก่อน


คิสนี่ถือว่าเป็นเคสที่คิดมากไป คิดนานไป แล้วคิดไปก็ไม่ได้คำตอบซะด้วย

วันนี้คิสจะมาช่วยสาวๆคิดค่ะว่าเราต้องคิดอะไรกันบ้าง พร้อมยัง?? ไปค่ะ

1. คุณจำเป็นต้องจัดฟันรึป่าว?? 


คนรุ่นๆคิส 198X กลุ่มนี้มักจะจัดฟันกันช่วงมัธยมปลายไปจนถึงเรียน U พอมายุคทำงานก็เรียกว่าจัดกันเสร็จหมด เรียกว่า 80% ของเพื่อนคิสจะจัดฟันกันเสร็จแล้ว

(คิสเป็นพวกตกค้างนะคะ คือไม่มีใครอยากจะมาจัดตอนอายุ 30++ หรอก)

เหตุผล?? บางคนรู้ตัวไวว่าฟันตัวเองไม่สวย ฟันเก ฟันไม่สบ หรือหมอก็แนะนำมาตอนไปอุดฟัน แบบนี้ง่ายค่ะ เพราะรู้สาเหตุ

อีกประเภทคือจัดโดยไม่มีเหตุผล จัดเพราะอยากจัด อยากมีเหล็ก

คิสจะไม่บอกว่า คิสสนับสนุนแนวคิดแบบนี้รึป่าว เพราะตอนเด็กๆคิสยอมรับว่าคิสก็มองว่ามันน่ารักดี

โตขึ้นมา คิสกลับอายที่จะต้องมีเหล็กติดกันฟัน เพราะมาจัดตอนอายุเยอะ และสังคมการทำงานกับคนต่างชาติ การจัดฟันเป็นอะไรที่เสียบุคลิกมากๆ เหมือนคุณมีอะไรผิดปรกติในร่างกาย และมีของแปลกปลอมติดกับตัว มันไม่โอเคมากๆ

เพราะฉะนั้นการสอบถามแพทย์เป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ จำเป็นหรือไม่


และถ้าคุณอยากจัดทั้งๆที่ฟันไม่มีปัญหาใดๆเลย จัดได้ค่ะ จัดตั้งแต่เด็กไปเลย

ถ้าคุณอายุเยอะแล้วอยากจัดละ?? ก็จัดได้ค่ะ ไม่มีใครห้ามแน่นอน

แต่ดีมั๊ย?? จะตอบตรงๆว่ารากฟันของเด็กกับผู้ใหญ่ไม่เหมือนกัน การเข้าที่จะช้ากว่า และรากฟันก็ไม่แข็งแรงเหมือนเด็ก

และรากฟันนี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุด เพราะนั่นคืออนาคตของฟันทั้งปาก แยกให้ออกระหว่าง "อยากทำ" กับ "จำเป็นต้องทำ" ให้ขาดแต่แรก

2. อยากจัดฟันก็แค่ไปหาหมอ จบแล้วมั๊ยอะ??


อย่านึกว่าแค่เดินไปหาหมอ จัดฟันแล้วมันจะจบง่ายๆ

สิ่งที่คุณต้องเจอแน่ๆในการจัดฟัน ไม่ว่าจะมีการถอนฟันหรือไม่ก็ตามคือ "รีเทนเนอร์" ที่จะงอกติดตัวคุณพร้อมจะหลอกหลอนกันไปตลอดชีวิต

คุณต้องติดเหล็ก หรือติดเครื่องมือไปเป็นระยะเวลา 1-2 ปี เคสยาก หรือคนไข้ขี้เกียจไปหาหมอต้องติดกัน 7 ปีก็มี

และการใช้ชีวิต การดูแลฟัน โดยมีเครื่องมือติด ไม่ใช่เรื่องสนุก


ของที่คุณเคยกินได้ ชอบกิน คุณอาจจะไม่ได้กินมันอีกเลย หรือกินก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม อยากทะลึ่งลองกินเหมือนเดิม เครื่องมืออาจจะหลุด และคุณก็ต้องวนกลับไปหาหมอใหม่ เสียตังค์เป็นวงจรอุบาศว์

(หมอไม่ได้อยากให้คุณกลับมา แล้วทากาวให้คุณใหม่นะคะ เค้าก็ปวดหัวเหมือนกัน แต่เครื่องมือไม่ได้เป็นอวัยวะเดียวกับร่างกายเรา มันหลุดได้ค่ะ ถ้าเราไม่ดูแลให้ดี)

ทำความสะอาดไม่ดี ปัญหาที่มาแน่ๆอีกคือ "ฟันผุ"

แต่เดี๋ยวก่อน คิสมีแถมให้อีกค่ะ

สำหรับใครที่ติดชา ติดกาแฟ คุณจะเลี่ยงปัญหา "ฟันมีคราบ" ไปไม่ได้เลย ถ้าไม่อยากได้โปรแกรมฟอกฟันหลังการถอดเครื่องมือ คุณต้องดื่มเครื่องดื่มเย็น ใช้หลอดแยงเข้าไปไม่ให้โดนฟัน

และที่เด็ดที่สุด ถ้าคุณไม่เคี้ยวอาหารให้ดี กระเพาะคุณจะเริ่มมีปัญหา go so big แน่นวล

3. วินัย ไม่มีขายที่ eve&boy?? 


ก่อนจะไปจัดฟัน คิสมักจะแนะนำคนรอบตัวเสมอว่า ให้เลือกคลินิคที่มั่นใจว่าตัวเองไปได้จริงๆ และไปได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหา ถ้าคุณขับรถ มีที่จอดรถมั๊ย มีค่าใช้จ่ายแฝงอะไรเพิ่มเติม จะไหวมั๊ย คิดให้ครบทุกด้านค่ะ

เราอาจจะเจอหมอที่ดีสุดๆ แต่หมออยู่อยู่ไกลไปอีก 200 ไมล์ทะเลนี่ก็ไม่ไหวนะคะ

จะจัดฟันไม่ใช่จัดทีไหนก็ได้ เอาให้สะดวกใช่มั๊ย?? งั้นใกล้ที่ไหนไปที่นั่น??

ไม่ใช่อีก

คุณต้องดูอีกว่าประวัติแพทย์นั้นเป็นยังไง ถนัดเฉพาะทางรึป่าว แล้วเคสคุณเหมาะกับท่านนี้มั๊ย

คิสแนะนำให้คุยกับแพทย์ไม่ต่ำกว่า 3 ที่ก่อนทำการจัดฟัน

คิสเลือกที่ๆแพงที่สุด และไม่ได้ใกล้บ้านมากที่สุด แต่คิสมั่นใจในตัวหมอมากที่สุด

(ที่ขนาดว่าเลือกดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด)

ให้จินตนาการว่าจะต้องเดินทางไปหาหมอบ่อยๆ คุณไหวรึป่าว


การจัดฟัน ต่อให้โรงพยาบาลหรือคลินิคสุดหรู คุณต้องรอคิว เวลา....พลังงาน...ค่าใช้จ่าย คิดทบทวนให้ดีๆ ถ้าฟันดีแล้วจะจัดเพราะคิดว่ามันน่ารัก คิสขอแนะนำให้เอาเงินไปทำทรีทเม้นท์ ทำศัลย์ ยังดีและทันใจกว่าค่ะ

4. จัดฟัน = สวยขึ้น ??


คิสไม่มั่นใจในเคสที่ไม่ได้ถอนฟันนะคะ แต่คิสเป็นเคสถอนฟัน เพราะฟันซี่ใหญ่มากจากกรรมพันธุ์ ถ้าไม่ถอน ฟันก็ไม่รู้จะเอาพื้นที่ๆไหนไปอยู่กันค่ะ หุบไม่ลง

พอต้องถอนฟัน เราเลือกไม่ได้แล้วค่ะว่าจะกี่ซี่ ชีวิตคุณจะอยู่ในมือหมอ

หมอจะแนะนำคุณตามดุลยพินิจและปสก. อยู่ที่คุณแล้วว่าคุณจะตัดสินใจแบบไหน

ในเคสที่คุณจำเป็นต้องถอนฟัน ส่วนใหญ่มักจะต้องถอน 4 ซี่(ฟันกรามน้อย)

ฟันแท้ทุกซี่มีคุณค่าหมดนะคะ คิสไม่แนะนำใครเลยให้ถอนถ้าไม่จำเป็น แม้แต่หมอเองก็ไม่แนะนำ เว้นแต่ในบางเคส


เอาละ ถ้าคุณถอน โครงหน้าคุณจะได้ปรับเปลี่ยน restructure กันแน่นอนค่ะ

และไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีจัดออกมาแล้วสวยเหมือนพิมฐากันหมด มันขึ้นอยู่กับโครงหน้าเดิมของคุณด้วยว่ารูปกระดูกเป็นแบบไหน


ของคิส คิสห่วงสุดคือโหนกแก้ม และมันก็มาตามนัดหมาย มาก่อนเวลาอันควรด้วย

ตอนนี้หน้าคิสโหนกแก้ม prominent มาก มากจนเกรงใจตัวเอง แก้มคิสตอบทั้งๆที่คิสไม่ได้ผอม แต่มันจะตอบ เหมือนของขาด ขาดของระดับ 10 พร้อมไปแคสเป็นผีปอบ 2018 เลยละ

ผู้หญิงจะดูหน้าเด็กก็แก้มยุ้ยๆ baby fat ถ้าหน้าคุณตอบ คุณจะไม่ได้ดูผอมสวย แต่ดูน่าเป็นห่วงเหมือนเด็กเอธิโอเปีย ใครมีปัญหาเรื่องนี้อ่านแล้วจะเข้าใจ

เพราะหน้าคุณไม่ได้เล็กลง แต่กระดูกคุณจะเด่นชัดขึ้น ผลคือการที่โครงหน้าชัดขึ้นในผู้หญิง อาจจะทำให้คุณดูเกินหญิงไปอีก 1 สเตปได้ ส่วนผู้ชายไม่ต้องห่วง เค้ารอดค่ะ

ก่อนที่จะไปจัดฟัน บางทีก็อาจจะมีทำการ predict คร่าวๆให้คุณได้ว่าจะมีการเปลีย่นแปลงยังไงบ้าง ถ้าหรูๆอาจจะมีทำเป็นแบบ 3D ให้คุณเห็นก่อนเลยก็ได้

แต่คิสไม่ได้มีแบบนั้นค่ะ การที่หน้าคิสเปลี่ยนไปแบบไม่รู้ทิศทางอนาคตเป็นเรื่องน่ากังวล แต่แน่นอนว่ามันก็ดีกว่าฟันเหยินๆแน่ๆละ

ก่อนตัดสินใจจัดฟัน โดยเฉพาะเคสที่มีการถอน ควรคิดให้ถี่ถ้วนค่ะ


ที่เค้าว่าจมูกโด่ง คาง และส่วนต่างๆ รูปหน้าจะสวยขึ้น อันนี้คิสอ่านเคสมาเยอะมากๆ คำตอบคือ ใช่ แต่เป็น illusion มากกว่า จมูกคนเราไม่ได้โด่งขึ้น คางเราไม่ได้แหลมขึ้น และกรามเราไม่ได้มน หรือสั้นลงไปได้ แต่การจัดฟันให้เข้ารูป ส่งผลเป็น domino effect ให้รูปหน้าจากที่มันไม่เข้าที่มันเข้าที่เข้าทาง พอกระดูกส่วนกรามมันสบกันตรงมากขึ้น รูปส่วนอื่นๆของหน้าจะปรับมิติ(คิสจากจะอธิบายเป็นคลิปนะ แต่ขี้เกียจค่ะ)

ให้คิดถึงรูป pop up ในการ์ดวันเกิด เปิดออกมาแล้วกางขึ้นมาได้แบบนั้น อวัยวะเราเท่าเดิมค่ะ แต่องศาเปลี่ยนทำให้มองดูแล้วมันเปลี่ยนไป

คิสค่อนข้างมั่นใจว่าราวๆ 70-80% ของคนเรา เมื่อกรามสบกันแล้วองศาจะลงตัวขึ้น

นั่นน่าจะเป็นสาเหตุให้คนเข้าใจว่าจัดฟันแล้วสวยขึ้นได้เหมือนศัลยกรรม

แต่...จัดฟันไม่ใช่การศัลยกรรมเพื่อความงาม ใครอยากสวยไปทำให้ตรงจุดจะดีกว่าค่ะ คิสตอบตรงๆ เพราะจัดฟันมีผลต่อรากฟันที่เราต้องดูแลไปตลอดชีวิต


สาธุ ขอให้ที่คิสอธิบายมีคนอ่านแล้วเข้าใจด้วย กลัวมันจะย้อนแยงกันจนปวดหัว

ถ้าอยากทำ คิดให้ดี ไม่อยากหน้าเปลี่ยนและไม่จำเป็น ไม่ต้องถอนฟันค่ะ จัดฟันเพื่อให้ฟันสบ ทำความสะอาดให้ง่ายขึ้น ฟันเรียงตัวสวยพอแล้ว

5. จัดฟันก็เสียแค่เงินปะละ ??


คิสอยากจะเรียกว่า สิ่งที่ต้อง trade off ไปน่าจะดีกว่า แต่กลัวจะซับซ้อนเกิน

เพราะ"เวลา" มีค่าไม่ต่างกับเงินเลยสำหรับคิส เงินยังหามาใหม่ได้ เวลานี่ไม่ได้

ค่าใช้จ่ายแต่ละที่ไม่ค่อยต่างกัน ในรูปแบบการจัดแบบเดียวกันนะคะ

เช่นการจัดแบบโลหะ แต่ละที่ไม่ต่างกันหรอก แต่ควรคิดในหลายๆมิติไว้ด้วยค่ะ

ส่วนการเตรียมฟัน อันนี้บางคนจะไม่ได้คิดไว้แต่แรก แต่ก่อนจะจัด หากคุณมีงบจำกัด แนะนำให้ไปหาคุณหมอ ปรึกษา เอกเรยให้เรียบร้อย ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น


ส่วนตัวเคสคิสมีปัญหาเยอะหน่อย ใช้ไปประมาณ 20,000 สำหรับการเตรียมฟัน ที่ร้ายกาจที่สุดคือเวลา คิสไม่ได้นับระยะเวลารวม แต่น่าจะถึง 3 เดือนได้

เท่ากับว่าคิดแบบสุทธิ round up แบบไม่สนใจ factor อื่นๆเลย ต้องมี 60k กันไว้สำหรับการจัดการฟัน และเวลาที่คิสจะต้องเสียในการนั่งรอเจอหน้าหมอทุกๆเดือนไปอีก 2 ปีเป็นอย่างน้อย

ถ้าเคสง่ายก็ไม่มีอะไรค่ะ อาจจะไม่ต้องคิดเรื่องนี้เลยก็ได้ แล้วแต่คน

นี่เอารูปที่คิดว่าตัวเองตั๊ลลากมาแปะนะ(กะว่าจะเอามาสู้กับน้องฟริ้งค่ะ) ตัวจริงคิสหน้าตอบมากค่ะ จนคิสไปปรึกษาหมอเพื่อจะฉีดแฟตตามจุดต่างๆให้หน้าไม่ดูน่าเกลียดแบบนี้ แต่หมอบอกว่าคิสฉีดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะคิสจัดฟัน ไม่แนะนำให้ทำอะไร แฟต, ฟิลเลอร์, โบท๊อกซ์ ไม่ต้องทำอะไรเลย ปล่อยไว้ ถอนเครื่องมือแล้วค่อยมาว่ากัน เพราะไม่ควรทำ


นี่คือเรื่องที่คิสไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน คิสไม่แอนตี้เรื่องการทำอะไรกับหน้าแล้วมันจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วย ถ้าทำแล้วดีคิสทำค่ะ แต่ตอนนี้คือทำไม่ได้ ต้องปล่อยให้หน้าเป็นข้าวปั้นโอนิกิริ๊กันไปแบบนี้ไปอีก 2 ปี หรืออาจจะตลอดชีวิต

คำถามอื่นๆคิสว่าคงเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น การกินอาหารที่คุณรับได้มั๊ย การบดเคี้ยว ความเจ็บ ฯลฯ และคิดว่าทุกคนก็จัดการเรื่องแบบนี้กันได้หมด


ถ้าอายุไม่ได้เยอะแบบคิส การมีเหล็กมาเป็นอวัยวะเพิ่มเติมอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ไม่ต้องคิดมาก แต่คุณควรคิดให้ดีค่ะ หลายๆคนที่คิสรู้จักไม่จบที่การจัดฟันแค่รอบเดียว และมันไม่ได้เป็นเรื่องสนุกเลยกับการไปหาหมอยืดเยื้อเรื้อรังที่ใช้เวลายิ่งกว่า Game of Thrones แบบนี้


หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


^_____^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE