เปิดกรุรีวิว Mask 8 กระปุกที่มี

22 5
ย้อนอดีตกลับไปดูในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา บูมรู้สึกว่าตัวเองใช้ Mask แบบกระปุกเยอะพอสมควร แรกๆ ก็เริ่มจาก 1 กระปุก เป็น...2...3.....จนมารู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไป 8 กระปุก(แต่ไม่ได้ใช้มันพร้อมๆ กันนะ จะบ้าหรอ!) บูมเลยตัดสินใจหยิบ Mask ที่บูมใช้ทั้งหมดในช่วงนี้ มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันว่าแต่ละตัวบูมชอบ / ไม่ชอบ ตรงไหนบ้าง เพื่อนำไปประกอบการช๊อป(ในอนาคตอันใกล้ของเพื่อนๆ) 

หมายเหตุ : 

  • บูมเป็นมนุษย์ผิวผสม - มัน (มันในบริเวณ T-Zone) 
  • มักจะมีสิวอุดตันขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อทำความสะอาดกันแดด BB หรือ รองพื้นออกไม่หมด
(หากใครไม่ชอบอ่านเนื้อหา สามารถชมแบบคลิปได้เลยค๊าบ)

1. MiiLYN : Brightening Overnight Mask (15ml./490.-)

ประเดิมกันที่ตัวแรก แบรนด์น้องใหม่ที่บูมได้ทดลองใช้ (คือลองล่าสุดมันเลยยังจำได้ชัดเจน แก่แล้วก็งี้) Mask ตัวนี้มีสีและเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างคุ้นเคย เหมือนแบรนด์ทางฝั่งโอปป้า ที่ขึ้นต้นด้วยตัว 'L'  
เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเจลสีฟ้าขุ่นๆ ซึมค่อนข้างง่าย และเมื่อเซตตัวแล้วไม่หลงเหลือความมันไว้บนผิว
กลิ่น : Mask ตัวนี้มีน้ำหอมผสมอยู่ กลิ่นไม่แรงมาก ส่วนตัวแล้วบูมยังโอเคกับกลิ่นของเค้าอยู่ (แต่ใครที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย หรือมีประวัติแพ้น้ำหอมอยู่แล้ว แนะนำว่าข้ามไปจะดีกว่าจ้า)

บรรจุภัณฑ์ : ความดีงามของ Mask กระปุกนี้เรื่องแรกเลยคงไม่พ้นกระปุกแบบสูญญากาศ ที่ช่วยลดการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกได้ดีนักแล

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ

  • Niacinamide : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดการเกิดสิว(ในความเข้มข้นมากกว่า 6%) ซึ่งทางแบรนด์ไม่ได้ระบุเรื่องความเข้มข้นมาจึงไม่สามารถสรุปในเรื่องการลดสิวได้แน่ชัด
  • Ascorbyl Palmitate : วิตามินซีที่มีความเสถียรสูงกว่า L-Ascorbic Acid มีคุณสมบัติที่สำคัญกับผิวหลายด้าน อาทิ :

    • ต่อต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant)
    • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว
    • ช่วยให้ผิวกระจ่างใส (เป็นข้อมูลตามที่ผู้ผลิตแจ้งเท่านั้น)
    • เร่งการรักษาแผลเป็น
  • Arbutin : อาร์บูติน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hydroquinone-beta-D-glucoside. ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นเซลล์ผิวให้ยับยั้งการผลิตเมลานินซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวดำลง, คล้ำ, และทำให้รอยด่างดำชัดขึ้น นึกภาพเปลือกมะม่วงหรือเปลือกกล้วยที่วางทิ้งไว้นานๆ ดูนะครับ การที่ผิวของเปลือกผลไม้นั้นดำคล้ำลง ก็เพราะว่าเกิดการสร้างเมลานินอย่างรวดเร็วนั่นเอง ซึ่งก็เหมือนกันกับกระบวนการการสร้างเม็ดสีผิวของคนเรา แต่ในพืชมันเกิดปฏิกิริยาเร็วกว่ามากเท่านั้นเอง ซึ่งในทางการแพทย์อาร์บูตินจัดเป็นตัวเลือกในการทำให้ผิวขาวกระจ่างใสที่ได้ผลดีและปลอดภัยมาก


ผลลัพธ์หลังการใช้ : จากที่บูมได้ลองใช้เจ้า MiiLYN : Brightening Overnight Mask แม้ว่าบูมจะอยู่ในห้องแอร์ (ที่เปิดแอร์ประหนึ่งอยู่ขั้วโลกเหนือ) แต่ตื่นเช้ามาผิวไม่แห้ง แถมยังนุ่ม ฟู ส่วนในเรื่อง Brightening ต้องบอกตรงๆ ว่าบูมยังไม่เห็นผลลัพธ์จาก Mask ตัวนี้ ใครที่เล็งๆ เรื่องผิวกระจ่างใส ขอให้ข้ามไปตัวอื่นจ้า

2. Hada Labo Perfect Gel (100ml./790.-)

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น ซึมเข้าผิวยากที่สุดในหมู่มวล Mask ทั้งหมดที่มี ? และเมื่อเซตตัวแล้วก็ยังมีฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่อีกชั้น ใครที่นอนในที่อากาศร้อนๆ บูมว่าเมือกแน่ๆ ฮะ
กลิ่น : Mask ข้อดีหลักๆ ของเจ้าฮาดะกระปุกทองตัวนี้คือมันไม่มีน้ำหอมจ้า  เพราะงั้นใครแพ้น้ำหอม และมีผิวแห้งบูมว่านี่คือสิ่งที่คุณกำลังมองหาเลยหละ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นบรรจุภัณฑ์ที่บูมไม่ชอบเอาซะเลย เป็นกระปุกที่ไม่มีกระทั่งฝาปิดมาให้ (เค้าขอฝาปิดก็ไม่ได้หรออออ)

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ

  • Squalane : ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิว ร่างกายของเราจะผลิต squalane ได้ด้วยตัวเอง แต่ในปริมาณลดลง เมื่อเราโตขึ้น โดยเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 20 ปีเป็นต้นไป squalane จะคล้ายกับ sebum ของเราจึงสามารถซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยต่อสู้กับความแห้งกร้าน  เพื่อความยืดหยุ่น และกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • Hydrolyzed Collagen : ช่วยให้เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่น อุ้มน้ำ และผิวดูเต่งตึงขึ้น 


ผลลัพธ์หลังการใช้ : เนื่องจากสภาพผิวผสมของบูม ทำให้ Mask ตัวนี้ใช้ได้ไม่บ่อยนัก มักจะถูกหยิบนำมาใช้ในช่วงที่ผิวแห้งลอกมากๆ เนื่องจากความสามารถในการล็อคความชุ่มชื้นที่ดี(ดีจนเกินไป) ถ้าในช่วยที่ผิวปกติแล้วบูมใช้ตัวนี้ต่อเนื่องกัน มักจะทำให้ผิวมันขึ้นกว่าปกติค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ

3.  Eri Eden : Rejuvenating Sleeping Mask (50ml./1,350.-)

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อ Gel-to-Essence สีขาวขุ่น ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีทีเดียว เมื่อเซทตัวแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่เล็กน้อย
กลิ่น : ความดีงามของมันคือนาง ไม่มีน้ำหอมจ้า  เพราะงั้นใครแพ้น้ำหอมตัวนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจนะขอรับ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นบรรจุภัณฑ์ที่บูมไม่ชอบเอาซะเลย แต่ยังดีที่เค้ามีไม้พายและฝาปิดมาให้ ลดโอกาสปนเปื้อนไปได้อีกนิดนึง

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ

  • Burdock Root Extract : รากพืชโกโบ หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียก Arctium Majus Root Extract ปลูกมากในประเทศญี่ปุ่น มีการนำเอารากของโกโบ มาทำคุณประโยชน์หลายอย่าง เช่น นำมาทำชาโกะโบ ที่ไม่มีคาเฟอีน นำมาช่วยบรรเทาอาการเป็นสิว สารสกัดจากรากโกโบอุดมไปด้วย Flavonoid และ Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องผิวพรรณ คือ ช่วยลดการอักเสบ จึงนำมาเป็นวัตถุดิบในการลดการอักเสบของสิว และลดการอักเสบของผิวชั้นกลางหลังจากโดนรังสีหนักๆ
  • Rose of Jericho : มีชื่อเล่นอีกชื่อที่เรียกว่า กุหลาบทะเลทราย ขึ้นในเมืองทะเลทรายได้ดี คำว่าเจอรีโค่ นั้นมาจากภาษาพื้นเมืองในประเทศจอร์แดน ความน่าสนใจคือเจ้ากุหลาบชนิดนี้คือ มันสามารถฟื้นคืนชีพได้ กล่าวคือ มันสามารถปรับตัว เพื่อเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย แม้จะแห้งเหี่ยวไปแล้ว แต่เมื่อได้รับการรดน้ำ ก็จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ในวงการวิทยาศาสตร์ความงามจึงนำพืชชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ เพื่อช่วยเรื่องความเต่งตึง และความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้บนผิว 
  • Saxifraga Stolonifera : เป็นพืชตระกูลหูเสือ หรือ สายพันธ์ุพี่น้องกลุ่ม สตอเบอร์รี่ มักถูกนำมาใช้ในวงการเวชสำอางค์ ซึ่งเชื่อว่า สามารถช่วยฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ พร้อมปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากรังสียูวี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติด้านอื่น เช่น ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และหวังผลเรื่องความเต่งตึงของผิว
  •  
ผลลัพธ์หลังการใช้ : โดยรวมบูมว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่แห้ง ขาดน้ำแบบเร่งด่วน ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเนื่องจากไม่ส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ สี น้ำหอม และพาราเบน และด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์รูปแบบ Gel to Essence ของ Eri Eden ทำให้ลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของสิวอักเสบ และปัญหาผิวอื่นๆได้อีกด้วยครับ

4. Shiseido : IBUKI Beauty Sleeping Mask (80m./1,450.-)

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อ Gel ใสๆ มีเม็ดบีสต์เล็กๆ เมื่อนวดผลิตภัณฑ์ลงบนผิว เม็ดเล็กๆเหล่านั้นก็จะแตกตัว ให้ความชุ่มชื้นอีกขั้นนึงบนผิว
กลิ่น : ถ้าตัดเรื่องกลิ่นน้ำหอมที่ใส่เข้ามา บูมขอบอกเลยว่า Mask กระปุกนี้คือหนึ่งใน Mask ที่บูมชอบมากที่สุดตัวนึงเลยหละครับ เนื่องจากกลิ่นเค้าจะออกแนว AROMA (แบบว่าอาม่าอะ เก็ทปะ) ซึ่งเป็นกลิ่นที่บูมไม่ชอบเลยจริงๆ 

บรรจุภัณฑ์ : อีกจุดนึงที่อยากให้ทางแบรนด์พิจารณาคือ เรื่องบรรจุภัณฑ์แบบกระปุก แถมยังไม่มีฝาผิดมาให้ ยังดีที่เค้าให้ไม้พายมาให้ตักผลิตภัณฑ์ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยหละครับ

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ

  • Phytoplankton Extract : ช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้บนผิว แถมยังทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับเนื้อสัมผัสที่ดูบางเบาของนางเลยหละ
  • Ascorbyl Tetraisopalmitate : วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เป็นชนิดเดียวที่มีประสิทธิภาพเทียบเทียบ Ascorbic Acid (วิตามินซี ธรรมชาติ) ในขณะที่มีความเสถียรที่สมบูรณ์ ไม่เสื่อมคุณภาพ มีประสิทธิภาพในการดูดซึมสู่ผิวได้มากกว่า Ascorbic Acid ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และชะลอการเกิดริ้วรอย
  • Tocopheryl Acetate : เป็นวิตามินอีเสถียร สามารถปกป้องเนื้อเยื่อแซลล์จากอนุมูลอิสระ สามารถปกป้องผิวจากริ้วรอยและวัยที่เกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร (premature aging) ซึ่งมักเกิดจากแสง UV 
ผลลัพธ์หลังการใช้ : ต้องบอกว่าผิดคาดในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น และการล็อคความชุ่มชื้นบนผิว ที่ทำได้ดีมากอย่างไม่น่าประหลาดใจ ผิดกับเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างบางกว่าชาวบ้านเค้า ทำให้บูมค่อนข้างประทับใจที่ Shiseido ทำออกมาได้ขนาดนี้ ขอชื่นชมฮะ จะติดก็ตรงที่กลิ่นเนี่ยหละครับ

5. Klairé : Anti-Pollution Overnight Mask (50ml./1,690.-)

เนื้อสัมผัส : เนื้อสัมผัสของ Overnight Mask ตัวนี้เป็นเนื้อเจลที่มีความขุ่นเล็กน้อยออกสีเหลืองจางๆ เกลี่ยค่อนข้างง่าย ซึมไว ให้ความรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่บนผิวเพื่อล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้
กลิ่น : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ใครเคยใช้เอสเซนส์ของเขาก็น่าจะคุ้นเคยในเรื่องของกลิ่นอยู่หละ แต่ต้องบอกเลยว่ากลิ่นของ Mask ตัวนี้ทำให้นอนหลับสบายทีเดียวขอรับ

บรรจุภัณฑ์ : บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก ยังดีที่มีฝาปิดมาให้ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยหละ

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ
  • Sodium Polyglutamate : หรือ Polyglutamic Acid เกิดจากการบ่มของ Soybean มีจุดเด่นคือการให้ความชุ่มชื้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากการทดลอง พบว่า Polyglutamic Acid มีประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นผิว ได้สูงกว่า Hyaluronic Acid จากผลการทดลองพบว่า Polyglutamic acid มีประโยชน์ต่อผิวต่างๆดังนี้ :

    • ยับยั้ง/ลดการทำงานของ hyaluronidase (กระบวนการทำลาย HA ตามธรรมชาติ) 
    • เพิ่มระดับ Hyaluronic Acid ของผิว
    • เพิ่ม Natural Moisturizing Amino Acids ของผิว
    • ช่วยให้ผิวสามารถสร้างความชุ่มชื้นได้ด้วยตัวเอง
    • ช่วยให้ผิวบอบบางแข็งแรงขึ้น
  • Saccharide Hydrolysate : เป็นสารกลุ่มน้ำตาลที่ได้มาจากผลเบอรี่ Schizandra Sphenanthera สารที่สกัดได้มานี้ เคลมถึงคุณสมบัติในการ

    • ต้านการอักเสบ
    • ช่วยปลอบประโลมผิว
    • ลดโทนแดง
  • Sodium Hyaluronate Crosspolymer : เป็นอนุพันธ์ใหม่ของ Hyaluronic acid เกิดจากการเอา Hyaluronic หลายๆตัวมาเชื่อมกันโดยใช้ปฏิกิริยาเคมี ทำให้ได้สารที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นได้สูงขึ้น และมีคุณสมบัติ Antioxidant เพิ่มเติมเข้ามา ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารนี้เพิ่มความชุ่มชื้นได้มากกว่า Hyaluronic acid ถึง 5 เท่า และยังเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวได้ถึง 24 ชั่วโมง

ผลลัพธ์หลังการใช้ : เป็น Mask อีกตัวที่ให้ความชุ่มชื้น และช่วยเรื่องการปลอบประโลมผิวได้ดีทีเดียว ที่สำคัญยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมให้กังวลใจว่าจะแพ้หรือไม่อีกต่างหาก ที่ถึงแม้ว่าวัดเรื่อง Texture เทียบกับ Shiseido แล้ว อาจจะหนักกว่าอยู่ซักหน่อย

6. Biotherm : Life Plankton Mask (75ml./2,100.-)


เนื้อสัมผัส : เนื้อผลิตภัณฑ์ชนิด Hydrogel ซึ่งทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่านี่เป็นไฮโดเจลแบบ Time-Release ด้วยเทคโนโลยีการหุ้มส่วนผสมของสารออกฤิทธิ์ไว้ในแคปซูลขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทำให้การปล่อยสารสำคัญออกมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า
กลิ่น : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมที่เป็นกลิ่นเฉพาะของไลน์ Life Plankton เลย ถ้าใครไม่ชอบหรือแพ้น้ำหอม ข้ามไปเลยจ้า


บรรจุภัณฑ์ : บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก ยังดีที่มีฝาปิดมาให้ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยหละ

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ
  • Life Plankton : ความเข้มข้น 5% ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนติออกซิแดนท์ตามธรรมชาติของเซลล์ เพื่อปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระทั้งภายในและภายนอกอย่างเช่นรังสี UV และยังรวมไปถึงคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและการระคายเคือง
  • Adenosine : เป็นสารตั้งต้นที่สำคัญต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ผิวใหม่ และช่วยลดเลือนริ้วรอย

ผลลัพธ์หลังการใช้ : เรียกว่าเป็น Mask ที่มีส่วนผสมที่แตกต่างกับแบรนด์อื่นๆ อย่างชัดเจน เห็นผลค่อนข้างชัดในเรื่องการลดการอักเสบ และลดการระคายเคือง (ถ้าคุณไม่แพ้น้ำหอมนะ) ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นผ่านฉลุยแบบไม่มีข้อสงสัยเลยค๊าบ

7. Fresh : Vitamin Nectar (100ml./2,650.-)

เนื้อสัมผัส : เป็น Mask ที่มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแปลก และน่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากเนื้อมาส์กจะนุ่มลละมุน ยังมีเหมือนเนื้อส้มผสมเข้ามาอีก (ถ้าไม่บอกนี่นึกว่าแจมส้มเลยนะ)
กลิ่น : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมที่หอมกลิ่นส้มมากกก(ก.ไก่ล้านตัว) ใครเป็นสาวกกลิ่น Citrus ต้องไม่พลาดจริงๆ ฮะ


บรรจุภัณฑ์ : บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก ยังดีที่มีฝาปิดมาให้ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยหละ
เนื้อสัมผัส : เป็น Mask ที่มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแปลก และน่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากเนื้อมาส์กจะนุ่มลละมุน ยังมีเหมือนเนื้อส้มผสมเข้ามาอีก (ถ้าไม่บอกนี่นึกว่าแจมส้มเลยนะ)
ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ
  • CITRUS LIMON (LEMON) FRUIT EXTRACT : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยสกัดจากการนำเปลือกของผลมะนาว ไปบ่ม (fermentation) ด้วยแบคทีเรียแลคโตบาซิลัส คล้ายกับการบ่มโยเกิร์ต มีประสิทธิภาพการระงับกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว (tyrosinase) ในระดับสูงถึง 70% เมื่อใช้ที่ระดับ 2% ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
  • ASCORBYL TETRAISOPALMITATE : วิตามินซีชนิดละลายในน้ำมัน ที่มีประสิทธิภาพเทียบเทียบ Ascorbic Acid (วิตามินซี ธรรมชาติ) ในขณะที่มีความเสถียรที่สมบูรณ์ ดูดซึมสู่ผิวได้มากกว่า Ascorbic Acid (superior percutaneous absorption) เนื่องจากอยู่ในรูปน้ำมัน จึงสามารถซึมสู่ผิวชั้นในซึ่งมีลักษณะเป็นไขมันได้มากกว่าชนิดอื่นๆ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รวมถึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย

ผลลัพธ์หลังการใช้ : อันนี้แปลกจริงๆ คือบูมเห็นผลลัพธ์ในเรื่องความกระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยหละ (แอบตกใจเหมือนกันนะ) คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผิวไม่ได้ขาวขึ้นจากการใช้มาส์กตัวนี้นะ แต่ผิวมันใสขึ้น Clear ขึ้น ที่สำคัญคือไม่มีอาการแห้ง ลอก ระคายเคืองอีกด้วยหละ

8. L'oreal : Pure Clay Mask (50ml./399.-)

เนื้อสัมผัส : ชื่อนางบอกชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่าเป็น Clay ซึ่งส่วนตัวแล้ว บูมไม่ชอบเนื้อ Clay Mask แบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันค่อนข้างแห้ง ยิ่งเมื่อทิ้งไว้ซัก 5-10 นาทีนี่คือหน้าตึง แบบไม่ต้องพึ่งโบท็อกซ์เลยทีเดียวฮะ
กลิ่น : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมที่ กลิ่นแนว Mentol เย็นๆ รู้สึกสะอาด (ซึ่งไม่เหมาะกับคนสกปรกอย่างบูมเท่าไหร่นัก)

บรรจุภัณฑ์ : บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก ยังดีที่มีฝาปิดมาให้ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยหละ

ส่วนผสมที่น่าสนใจ : บูมขออ้างอิงจากข้างกระปุกเป็นหลักนะครับ ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ
  • Kaolin : แร่โคลนที่ได้จากธรรมชาติ ชนิด high purity - cosmetic grade มีความบริสุทธิ์สูง เหมาะสำหรับผสมในสูตรที่ต้องการดูดซับความมัน เช่น มาส์ก แป้งทาหน้า (แป้งฝุ่น, แป้ง foundation, mineral make up) หรือครีมบำรุงผิวสำหรับผิวหน้ามัน
  • MONTMORILLONITE : แร่มอนต์มอริลโลไนต์ เป็นแร่ธาตุบริสุทธิ์ที่มีลักษณะทางกายภาพและคุณสมบัติทางเคมีที่หายาก มีแร่ธาตุที่มีความเข้มข้นสูง เช่นแมกนีเซียม แคลเซียม และโพแทสเซียมซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านริ้วรอย   ช่วยในเรื่องของการยับยั้ง การเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ (Anti-oxidant)และยังมีแร่ธาตุอื่นๆที่จำเป็นต่อผิวอีกมากมาย

ผลลัพธ์หลังการใช้ : ขนาดบูมเป็นมนุษย์ผิวผสม - ค่อนไปทางมันแล้ว ยังเอาไม่อยู่เลยจ้า ใช้แล้วผิวแห้งผาก เป็นทะเลทรายซาฮาร่าเลย ใครที่ผิวมันมากๆ น่าจะชอบ แต่ส่วนตัวแล้วบูมคิดว่ามี Clay Mask แบรนด์อื่นที่น่าสนใจกว่านี้นะขอรับ


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE