Celeb and Body Shaming
candy337Candice Swanepoel
นี่คือแคนดีซเพียงไม่กี่วันก่อนคลอดเบบี๋คนที่ 2 ด้วยการคลอดแบบธรรมชาติ
ก็อย่างที่เห็นค่ะ เธอเป็นคุณแม่ตั้งท้องที่ดูน่าอิจฉาชะมัด เรายังจำที่จีเซล บุนด์เชนเล่าได้ว่าตอนที่ท้อง น้ำหนักเธอขึ้นมาแค่ 7 กิโลกรัม พอได้เห็นแคนดีซ เชื่อว่าเธอก็คงไม่ต่างกัน ราวกับว่ามีแค่ส่วนท้องเท่านั้นที่ขยายขึ้นมาตามไซส์ของเบบี๋ แต่รูปร่างส่วนอื่น ๆ ดูจะไม่ต่างจากตอนที่เดินแบบบนรันเวย์เลย
และนี่คือแคนดีซหลังจากคลอดได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ หน้าท้องของเธอดีดกลับมาอย่างรวดเร็ว และดูไม่หย่อนเหมือนท้องแม่หลังคลอดด้วย ภาพนี้เหมือนกับสาวหุ่นนางแบบเพิ่งไปกินบุฟเฟต์ชาบูมามากกว่า
หากยังนึกภาพไม่ออก ขอให้ลองชมผลงานของ Jade Beall ช่างภาพที่นำเสนอภาพความเปลี่ยนแปลงของคุณแม่หลังคลอด หนังท้องของพวกเธอจะถูกยืดออกไปในขณะตั้งครรภ์ เมื่อคลอดแล้วก็ไม่ได้ดีดกลับคืนมาเหมือนกับหนังยาง หลายคนมีทั้งรอยเหี่ยว รอยแตกลาย และมันคือเรื่องที่ปกติมากที่สุด
แม้จะเป็นคนที่ออกกำลังกายจนกล้ามท้องฟิตอย่างนางแบบ fitness คนนี้ หลังคลอด ท้องก็ดูหย่อนอยู่ดี มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่แม่หลังคลอดจะต้องยอมรับ และเราไม่คาดคิดว่าจะมีใครต้องตามมาจับผิดแม่ลูกอ่อนเช่นนี้ พวกเค้าคาดหวังจะได้เห็นอะไร ? ซิกส์แพ็คหลังคลอด 2 สัปดาห์เหรอ ??? มันตลกเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
เมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหลังคลอดของแคนดีซว่าดูไม่สวยเป็นนางฟ้า VS เธอก็เหลืออดและโต้ตอบบนInstagram ว่า
"นี่คือชั้นหลังจากที่คลอดลูกชายได้ 12 วัน ถ้าคุณจะพูดอะไรแย่ๆ เกี่ยวกับขั้นแล้วล่ะก็ลองคิดให้ดีๆ เถอะ สังคมผู้คนน่ะโหดร้ายต่อกันและกัน มาตรฐานความงามทำให้ผู้หญิงอยู่ยากขึ้นทุกวัน"
"ชั้นไม่อายที่จะเปิดเผยหน้าท้องหลังคลอด ที่จริงแล้วชั้นก็ภูมิใจเชียวล่ะ ชั้นอุ้มท้องลูกชายมาตั้ง 9 เดือน ชั้นว่าชั้นมีสิทธิ์ที่จะมีพุงบ้าง หรือเพราะชั้นเป็นนางแบบอย่างนั้นเหรอ ? เราก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกันนะ ปล่อยให้ชั้นมีความสุขไปกับการมาเที่ยวทะเลเถอะค่ะ"
" ไม่เห็นว่าชั้นจะต้องปกปิดพุงตัวเองเพราะผู้คนสร้างมาตรฐานความงามที่เหนือจริงให้กับผู้หญิง เราเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตนะคะ จะให้ทำยังไง?"
"นี่คือชั้นหลังจากที่คลอดลูกชายได้ 12 วัน ถ้าคุณจะพูดอะไรแย่ๆ เกี่ยวกับขั้นแล้วล่ะก็ลองคิดให้ดีๆ เถอะ สังคมผู้คนน่ะโหดร้ายต่อกันและกัน มาตรฐานความงามทำให้ผู้หญิงอยู่ยากขึ้นทุกวัน"
"ชั้นไม่อายที่จะเปิดเผยหน้าท้องหลังคลอด ที่จริงแล้วชั้นก็ภูมิใจเชียวล่ะ ชั้นอุ้มท้องลูกชายมาตั้ง 9 เดือน ชั้นว่าชั้นมีสิทธิ์ที่จะมีพุงบ้าง หรือเพราะชั้นเป็นนางแบบอย่างนั้นเหรอ ? เราก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกันนะ ปล่อยให้ชั้นมีความสุขไปกับการมาเที่ยวทะเลเถอะค่ะ"
" ไม่เห็นว่าชั้นจะต้องปกปิดพุงตัวเองเพราะผู้คนสร้างมาตรฐานความงามที่เหนือจริงให้กับผู้หญิง เราเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตนะคะ จะให้ทำยังไง?"
อันที่จริง เราคิดว่าแคนดีซคือแรงบันดาลใจซะด้วยซ้ำ เธอรู้ว่ามีพาพาราซซี่ซุ่มเก็บภาพอยู่ แต่ก็ไม่ได้กดดันตัวเองว่าต้องไปฟิตหุ่นให้หน้าท้องเรียบแบนมีไลน์กล้ามสวยๆ ก่อนถึงจะเปิดเผยรูปร่างในบิกินี่ แต่เธอกลับเอนจอยกับบรรยากาศสวยงามที่ชายทะเลท่ามกลางผู้คน แม้จะมีพุงเล็กๆ ต่างจากตอนเดิน VS show แต่เธอก็ดูมีความสุขดีนี่นา
มันเหมือนตลกร้ายกาจ นางแบบ Victoria's Secret ถูกกระแนะกระแหนมาตลอดว่าทำให้ผู้หญิงหมกมุ่นกับความงามเหนือจริงและเอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับรูปร่างที่ผอมบางผิวพรรณเรียบเนียนดูสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าพวกเธอรอบเอวใหญ่ขึ้น คนบางกลุ่มก็พร้อมโจมตีให้เจ็บใจ
Nina Agdal
นางแบบสาวหน้าหวานที่ไม่ได้นำเสนอลุคแบบ skinny ต้องเฟลสุดๆ เมื่อเธอถูกแม็กกาซีนยกเลิกหน้าปกแล้วแนะนำให้ไปฟิตหุ่นมาใหม่
"ชั้นรู้สึกทั้งผิดหวังและตกตะลึงกับความเป็นจริงอันแสนเจ็บปวดแห่งวงการแฟชั่น ไม่กี่เดือนก่อนชั้นได้ตกลงร่วมงานถ่ายแบบกับทีมงานผู็สร้างสรรค์ที่ชั้นเชื่อมือและเคยทำงานด้วยกันมาก่อนแล้ว
แต่ชั้นกลับได้อีเมลที่มีน้ำเสียงไม่แยแสว่าแม็กกาซีนจะไม่เอาชั้นขึ้นปกและลงสกู๊ปด้วยการอ้างเหตุผลว่าตัวของชั้นไม่ได้แสดงความสามารถออกมาดีนักและยังไม่เข้ากับตลาดเป้าหมายของพวกเค้า สำนักพิมพ์บอกว่าตัวจริงของชั้นไม่เหมือนกับในพอร์ทโฟลิโอและหุ่นของชั้นก็ใหญ่กว่า*ไซส์ชุดตัวอย่าง" แต่นั่นมันไม่จริงสักนิด ถ้ามีใครที่พอจะสนใจติดตามชั้น พวกเค้จะทราบว่าชั้นไม่ได้มีรูปร่างเหมือนนางแบบผอมบางแต่เป็นรูปร่างนักกีฬาและส่วนเว้าส่วนโค้งแบบสุขภาพดี
ชั้นใช้เวลาเป็นปีที่เผชิญกับแรงกดดันของวงการจนต้องก้าวถอยหลังออกมา ชั้นได้เดินกลับเข้าสู่การถ่ายแฟชั่นในฐานะผู้หญิงวัย 25 ที่รู้สึกผ่อนคลายกับตัวตนและยังรู้สึกแข็งแรงกว่าเดิมมากกว่าที่เคยเป็น บางครั้งชั้นใส่ไซส์ชุดตัวอย่างได้ บางครั้งก็ใส่ไซส์ 4 หรือไซส์ 6 ชั้นไม่ได้มีหุ่นเหมือนนางแบบรันเวย์ และไม่เคยผอมบาง ในตอนนี้ชั้นสามารถยอมรับตัวเองทีมีส่วนเว้าโค้งได้ ชั้นออกกำลังกายอย่างเต็มที่ใน gym เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและส่วนที่สำคัญที่สุดนั่นคือสุขภาพจิตใจ
ชั้นพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า รูปร่างของชั้นดูดีขึ้นมากตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการตอนอายุ 16 ขณะนั้นชั้นมีนิสัยการกินไม่ดีและกินน้อยจนไม่เพียงพอ
มันช่างย่ำแย่ที่คุณมาประกาศตอกย้ำให้ก้มหน้าก้มตายอมรับสิ่งที่คุณกำหนดขึ้นมา ชั้นตัดสินใจเปิดเผยภาพนี้เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเสียงสนับสนุน นี่มันไม่ใช่เรื่องของชั้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดของคนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ในวงการแฟชั่นแต่อยู่ในทุกสังคม ชั้นอยากเรียกร้องให้ผู้หญิงจากทุกหนทุกแห่งยอมรับชื่นชมในรูปลักษณ์ของตัวเอง ขอให้ทุกคนร่วมสนับสนุนกันด้วยการส่งแรงใจให้เข้มแข็งแทนที่จะมาทำร้ายจิตใจกันเองค่ะ"
*sample size ไซส์ 2 ไม่น่าจะเกิน 4 ค่ะ
แต่ชั้นกลับได้อีเมลที่มีน้ำเสียงไม่แยแสว่าแม็กกาซีนจะไม่เอาชั้นขึ้นปกและลงสกู๊ปด้วยการอ้างเหตุผลว่าตัวของชั้นไม่ได้แสดงความสามารถออกมาดีนักและยังไม่เข้ากับตลาดเป้าหมายของพวกเค้า สำนักพิมพ์บอกว่าตัวจริงของชั้นไม่เหมือนกับในพอร์ทโฟลิโอและหุ่นของชั้นก็ใหญ่กว่า*ไซส์ชุดตัวอย่าง" แต่นั่นมันไม่จริงสักนิด ถ้ามีใครที่พอจะสนใจติดตามชั้น พวกเค้จะทราบว่าชั้นไม่ได้มีรูปร่างเหมือนนางแบบผอมบางแต่เป็นรูปร่างนักกีฬาและส่วนเว้าส่วนโค้งแบบสุขภาพดี
ชั้นใช้เวลาเป็นปีที่เผชิญกับแรงกดดันของวงการจนต้องก้าวถอยหลังออกมา ชั้นได้เดินกลับเข้าสู่การถ่ายแฟชั่นในฐานะผู้หญิงวัย 25 ที่รู้สึกผ่อนคลายกับตัวตนและยังรู้สึกแข็งแรงกว่าเดิมมากกว่าที่เคยเป็น บางครั้งชั้นใส่ไซส์ชุดตัวอย่างได้ บางครั้งก็ใส่ไซส์ 4 หรือไซส์ 6 ชั้นไม่ได้มีหุ่นเหมือนนางแบบรันเวย์ และไม่เคยผอมบาง ในตอนนี้ชั้นสามารถยอมรับตัวเองทีมีส่วนเว้าโค้งได้ ชั้นออกกำลังกายอย่างเต็มที่ใน gym เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและส่วนที่สำคัญที่สุดนั่นคือสุขภาพจิตใจ
ชั้นพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า รูปร่างของชั้นดูดีขึ้นมากตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการตอนอายุ 16 ขณะนั้นชั้นมีนิสัยการกินไม่ดีและกินน้อยจนไม่เพียงพอ
มันช่างย่ำแย่ที่คุณมาประกาศตอกย้ำให้ก้มหน้าก้มตายอมรับสิ่งที่คุณกำหนดขึ้นมา ชั้นตัดสินใจเปิดเผยภาพนี้เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเสียงสนับสนุน นี่มันไม่ใช่เรื่องของชั้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดของคนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ในวงการแฟชั่นแต่อยู่ในทุกสังคม ชั้นอยากเรียกร้องให้ผู้หญิงจากทุกหนทุกแห่งยอมรับชื่นชมในรูปลักษณ์ของตัวเอง ขอให้ทุกคนร่วมสนับสนุนกันด้วยการส่งแรงใจให้เข้มแข็งแทนที่จะมาทำร้ายจิตใจกันเองค่ะ"
*sample size ไซส์ 2 ไม่น่าจะเกิน 4 ค่ะ
พวกเราอยู่ร่วมในสังคมที่มีสื่อบันเทิงสร้างมายาเรื่องความงามสมบูรณ์แบบให้ผู้คนหมกมุ่นเรื่องรูปลักษณ์ ในโลกแห่งความจริง สาวที่มีส่วนสูง 175 ซ.ม ขึ้นไปและยังผอมบางพอที่จะใส่เสื้อผ้าไซส์ 0- 2 ที่เราได้เห็นตามรันเวย์นั้นคือกลุ่มน้อยของสังคม แต่ถูกนำมาตั้งเป็นมาตรฐานความงามให้กับคนหมู่มาก แต่กระนั้น ก็ยังน่าตกใจที่นิน่าถูกยกเลิกงานหน้าตาเฉย เธอไม่ได้ใกล้เคียงกับความอวบหรือมีส่วนเกิน เพียงแต่ไม่ผอมจนเอวคอดกิ่วและขาเล็กเป็นตะเกียบ และนั่นทำให้เธอถูกเฉดหัวออกจากการเป็นนางแบบขึ้นปกmagazine
Ashley Graham
ขนาดนางแบบหุ่นเพรียวยังโดนขนาดนั้น นางแบบไซส์ใหญ่ขึ้นมาคงไม่ถูกปล่อยผ่านไปได้ แอชลีย์คือผู้หญิงที่ต้องผจญกับ troll รายวัน ถ้าไม่ strong จริงๆ ก็คงไม่สามารถยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้
แอชลีย์ แกรห์มคือนางแบบผู้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการแฟชั่น เธอไม่ต้องการคำจำกัดความให้กับตัวเองว่าเป็นนางแบบ plus size แต่มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะให้ผู้คนเลิกแบ่งแยกและสนับสนุนนางแบบที่มีsize หลากหลายแตกต่างกันไป จากเดิมที่นางแบบplus size จะถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะ และถูกมองว่าไม่สามารถเข้าสู่วงการแฟชั่นชั้นสูงได้ ความสำเร็จของแอชลีย์ได้เรียกเสียงชื่นชมจากบรรดาแฟนๆ ที่คาดหวังว่าโลกแฟชั่นจะลดละเลิกการสร้างมายาคติที่กดดันให้ผู้หญิงคลั่งผอม แต่เมื่อมีคนรักก็มีคนชังค่ะ
ไม่เพียงแต่มีคอมเมนท์ของชาวเน็ทที่โจมตีแอชลีย์ แต่คนบางคนได้นำภาพของเธอมาจับคู่เปรียบเทียบกับนางฟ้า VS และจิกเรียกอย่างไม่ปราณีว่าเป็นนางแบบอ้วนในขณะที่ฝ่ายที่ผอมเพรียวจะถูกยกให้เป็นนางแบบที่แท้จริง รวมไปถึงแฮชแทกเสียดแทงใจอย่าง "ต่อต้านความอ้วน"และ "แฟทกินี่"
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้าเป็นเราล่ะ อยู่ดีๆ มีคนเอาภาพบิกินี่ที่มีเซลลูไลท์ไปวางข้างกับนางฟ้า VS ขาเรียวยาวไร้ไขมันแล้วด่าราวกับว่าเราไปขโมยข้าวเค้ากิน แล้วภาพนั้นก็ถูกส่งต่อกันไปทั่วโลกออนไลน์ บอกตรงๆ เราคงจิตตกไปบ้างเหมือนกัน ถึงจะรู้ดีว่าไม่ควรไปใส่ใจก็เถอะ
"ชั้นรู้ว่ามันดูเจ้าคิดเจ้าแค้นไปสักหน่อยถ้าโพสท์รูปงี่เง่าที่มีคำบรรยายเปรียบเทียบนางแบบตัวจริงกับนางแบบอ้วน แต่ชั้นจะบอกให้พวกคุณรู้ถึงคำนิยามของนางแบบที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก สีผิว ผม การนับถือศาสนา สิ่งเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าคุณคือนางแบบที่แท้จริงหรือไม่ เพราะฉะนั้น สาวๆ ทุกคนที่มีความหวังและความฝัน พยายามสู้ต่อไปนะคะ อย่าให้พวกขี้แพ้บน Instagram มาหยุดยั้งคุณได้"
ส่วนเรื่องเซลลูไลท์ที่ถูกกระหน่ำโจมตีมานาน คุณจะพบว่าทั้งพื้นที่ social media ของเธอเองหรือบรรดาเว็บไซท์กอสสิป มีชาวเน็ทหลายคนที่แสดงความเห็นเย้ยหยันว่าเธอมีต้นขาขรุขระแบบคอทเทจชีสไม่ชวนมอง และแอชลีย์ก็ได้ประกาศเคลียร์ไว้แล้วว่า "ชั้นออกกำลังนะคะ แล้วก็พยายามจะเลือกกินแต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ชั้นพอใจกับตัวเองในตอนนี้แล้วค่ะ ชั้นไม่ได้อับอายที่มีเซลลูไลท์หรือเนื้อสวนเกิน และคุณก็ไม่จำเป็นต้องมาจิตตกกับเรื่องนี้เช่นกันค่ะ"
Kelly Clarkson
นักร้องสาวพรสวรรค์ที่ถูก bully เรื่องรูปร่างมาแล้วหลายครั้ง แต่การมองโลกในแง่บวกก็ทำให้เธอก้าวต่อโดยไม่ปล่อยให้ถ้อยคำถากถางมาเหนี่ยวรั้งการใช้ชีวิตให้มีความสุข
เคลลี่ก็เหมือนกับผู้หญิงอีกมากมายบนโลกที่ในช่วงหนึ่งของชีวิตก็เคยผอมมาก่อน
เคลลี่เป็นนักร้องจากเวที American Idol รุ่นแรกที่ดังสุดๆ ทำอัลบั้มออกมาขายดิบขายดี และเป็นเจ้าของเพลงที่มักมีคนเลือกนำมาขับร้องในการประกวดร้องเพลงไม่ต่างจากดิว่าทรงอิทธิพล สำหรับเราแล้ว เคลลี่มีความคล้ายคลึงกับอเดลที่ไม่เน้นการขายรูปลักษณ์แบบศิลปินในกระแส เธอมีฐานแฟนคลับแข็งแกร่งตั้งแต่ประกวด America Idol ลุคที่นำเสนอในช่วงที่เริ่มโด่งดังก็เหมือนกับวัยรุ่นอเมริกันทั่วไป แต่เคลลี่ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องแถวหน้าได้เพราะความสามารถและคุณภาพของเพลงที่จับใจผู้คน
เคลลี่เริ่มน้ำหนักขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้กลายเป็นอุปสรรคต่อเส้นทางการเป็นนักร้องดังของเธอแต่อย่างใด เธอประสบความสำเร็จจนถูกยกเป็นต้นแบบของเวทีAmerican Idol ที่น้อยคนที่จะมีเพลงขึ้นชาร์ทและยอดขายถล่มทลายเหมือนกับเคลลี่ แต่ในขณะเดียวกัน บรรดาสื่อและคนในโลกออนไลน์ก็เริ่มจิกกัดเรื่องรูปร่างที่เริ่มอวบขึ้น
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาหลังการตั้งท้องทำให้เคลลี่ตกเป็นเป้าหมายการ bully แม้แต่ผู้ประกาศของ Fox News ก็ยังแย้บใส่เธอว่าน่าจะกินพิซซ่าให้น้อยลงไปบ้าง หรือแม้กระทั่ง "แม่เจ้าโว้ย เธอถูกเป่าลมใส่ตัวรึไงนั่น" ยังมีคนในวงการสื่ออังกฤษแดกดันเธอว่า "ไปกินแดนเซอร์มาทั้งตัวเลยรึไงถึงได้อ้วนขนาดนั้น" และอีกสารพัดคำพูดแรงๆจากชาวเน็ท
เคลลี่ยบอกกับ Heat Magazine ว่า
"ชั้นรู้สึกดีค่ะ มันไม่ได้รบกวนจิตใจอะไรเลย มันเป็นโลกแห่งเสรีนี่นา จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะค่ะ ชั้นแค่ไม่ได้สนใจว่าพวกเค้าจะคิดยังไง ชั้นเน้นเรื่องความสุข ความมั่นใจและจิตใจที่เบิกบาน ชั้นให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มาตลอด ยิ่งชั้นมีครอบครัวแล้ว ชั้นไม่ได้ต้องการการยอมรับจากคนนอกหรอกค่ะ"
เมื่อถูกจิกกัดว่าเป็นยายอ้วน เคลลี่ก็ตอบกลับ troll แบบชิลๆว่า "และยังโคตรเริ่ดอยู่นะเธอ"
ล่าสุด หลังจากที่เธอเริ่มผอมลง สื่อหลายเจ้าได้นำเสนอเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของเคลลี่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นชื่นชม แต่เรากลับมองเห็นผู้หญิงที่มีดวงตาที่ฉายแววแห่งความสุข แม้จะถูก bully เรื่องรูปลักษณ์ แต่เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับเสียงนกเสียงกา ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ต้องเผชิญกับ bodyshaming เธอบอกว่าชินซะแล้ว ใครจะมาด่าว่าเธอก็ไปรอต่อคิวยาวเหยียดได้เลย เธอขอใช้ชีวิตตามที่ต้องการแทนที่จะต้องกังวลว่าใครจะคิดยังไง
Taylor Swift
เธอเคยถูกคนวงการเดียวกันตราหน้าว่าผอมเกิน นำเสนอแต่ความงามที่ไม่องความเป็นจริง แต่พอน้ำหนักขึ้น กลับถูก fatshame !
Discussion (7)