[ PLOY REVIEW ] : REVIEW...ครีมบำรุงผิวหน้า Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin & Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
Ploy Thatsani 18 3
"ผิวหน้าโทรมไม่พอ ... นั่งทำงานในห้องแอร์ต้องมาเจอสภาวะทำให้ผิวแห้งกันไปอีก สาวๆอย่างเราต้องมีตัวช่วยสุดคลูที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเรากลับมาชุ่มชื้น อิ่มน้ำเหมือนเดิมกันค่ะ"
พลอยอยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ดีๆอย่างแบรนด์แบลคมอร์สให้รู้จักกันค่ะ ซึ่งเราอาจจะคุ้นชินแบลคมอร์สในรูปแบบของอาหารเสริมแน่นอน แต่ตอนนี้ทางแบลคมอร์ส เขามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอีออกมาแล้วค่ะ คือแบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีมมีด้วยกันถึง 4 สูตร ดังนี้ค่ะ
มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยค่ะ สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกายค่ะส่วนประกอบหลักๆจะประกอบด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากอโวคาโด และน้ำมัดสกัดจากเมล็ดแอพลิคอล รวมถึงน้ำมันสกัดจากเมล็ดทานตะวันด้วยค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น บำรุงผิวที่แห้งกร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะไม่มีสี ไร้น้ำหอม และปราศจากพาราเบนค่ะ
วิธีใช้:หลังทำความสะอาดผิว ลูบไล้ครีมให้ทั่วใบหน้า มือ ลำตัว หรือ บริเวณที่ต้องการอย่างข้อศอก ข้อพับก็ได้ค่ะ เป็นประจำทุกวัน เช้า - เย็น
ปริมาณ50 กรัม
ราคา370 บาท
เนื้อสัมผัสของครีมจะมีสีขาวเหลืองขุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อข้นไม่เหลวค่ะ
จากที่ได้ทดลองทาลงบนใบหน้า โดยการแต้ม 5 จุดสำคัญ แล้วลองเกลี่ยดูให้ทั่ว ปรากฏว่าถึงแม้เนื้อครีมจะข้น แต่กลับซึมลงสู่ผิวได้ไวค่ะ แต่จะทิ้งความเหนอะหนะไว้บนใบหน้าเล็กน้อย ทำให้เกิดความมันวาว ซึ่งสามารถทาแป้งฝุ่นทับตามได้ค่ะ จะรู้สึกสบายผิวขึ้นค่ะ
ตัวสุดท้ายค่ะ สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skinจะมีส่วนผสมที่ไม่แตกต่างจากBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolinมากค่ะ ที่เพิ่มมานั้นจะเป็นส่วนผสมของสารสกัดจากหน่อใต้ดินของดอก "CROCUS"หรือ "ซากุระตะวันตก"ที่ช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และกระตุ้นคอลลาเจน อีกทั้งมีส่วนผสมของTamanu Oilน้ำมันต้นกระทิงซึ่งมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย รอยแผลเป็น และมอบความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสและที่สำคัญปราศจากพาราเบนค่ะ
มาในรูปแบบของขวดปั๊มที่มีปริมาณสุทธิ50 กรัมราคา690 บาทค่ะ
วิธีใช้:หลังทำความสะอาดผิวหน้า ลูบไล้ครีมให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เป็นประจำทุกวัน ทุกเช้าและก่อนนอน
เนื้อครีมจะมีสีขาวขุ่น และเหลวกว่าสูตรBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolinค่ะ
จากที่ได้ทดลองทาลงบนใบหน้า จะรู้สึกสบายผิวกว่าค่ะ เนื้อครีมหลังเกลี่ยแล้วจะทิ้งความเงาวาวไว้เล็กน้อย ไม่หนักหน้าค่ะ และซึมไวเช่นกันค่ะ
ลักษณะของเนื้อครีมทั้งสองแบบค่ะ แทบจะไม่ต่างกันเลยค่ะ
จากที่ได้ทดลองใช้มาเกือบ 1 สัปดาห์ ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลพลอยได้คือรอยสิวจางลง ริ้วรอยใต้รอบดวงตาแลดูตื้นขึ้น ไม่ดูเหี่ยวย่นแล้วค่ะ และนั่งทำงานในห้องแอร์ได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ เพราะมีตัวช่วยดีๆจากแบลคมอร์ส ไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งเหี่ยวอีกต่อไปแล้วค่ะ
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ได้จากร้านขายยาทั่วไปนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ และ ขออภัยหากผิดพลาดประการใด ณ ที่นี้ค่ะ
Ploy Thatsani
#แบลคมอร์ส #แบลคมอร์สเนเชอรัลวิตามินอีครีม #วิตามินอี #ครีมบำรุงผิวหน้า #ผิวแห้ง
พลอยอยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ดีๆอย่างแบรนด์แบลคมอร์สให้รู้จักกันค่ะ ซึ่งเราอาจจะคุ้นชินแบลคมอร์สในรูปแบบของอาหารเสริมแน่นอน แต่ตอนนี้ทางแบลคมอร์ส เขามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอีออกมาแล้วค่ะ คือแบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีมมีด้วยกันถึง 4 สูตร ดังนี้ค่ะ
- Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
- Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
- Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Bright
- Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier
มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยค่ะ สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกายค่ะส่วนประกอบหลักๆจะประกอบด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากอโวคาโด และน้ำมัดสกัดจากเมล็ดแอพลิคอล รวมถึงน้ำมันสกัดจากเมล็ดทานตะวันด้วยค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น บำรุงผิวที่แห้งกร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะไม่มีสี ไร้น้ำหอม และปราศจากพาราเบนค่ะ
วิธีใช้:หลังทำความสะอาดผิว ลูบไล้ครีมให้ทั่วใบหน้า มือ ลำตัว หรือ บริเวณที่ต้องการอย่างข้อศอก ข้อพับก็ได้ค่ะ เป็นประจำทุกวัน เช้า - เย็น
ปริมาณ50 กรัม
ราคา370 บาท
เนื้อสัมผัสของครีมจะมีสีขาวเหลืองขุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อข้นไม่เหลวค่ะ
จากที่ได้ทดลองทาลงบนใบหน้า โดยการแต้ม 5 จุดสำคัญ แล้วลองเกลี่ยดูให้ทั่ว ปรากฏว่าถึงแม้เนื้อครีมจะข้น แต่กลับซึมลงสู่ผิวได้ไวค่ะ แต่จะทิ้งความเหนอะหนะไว้บนใบหน้าเล็กน้อย ทำให้เกิดความมันวาว ซึ่งสามารถทาแป้งฝุ่นทับตามได้ค่ะ จะรู้สึกสบายผิวขึ้นค่ะ
ตัวสุดท้ายค่ะ สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
สำหรับBlackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skinจะมีส่วนผสมที่ไม่แตกต่างจากBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolinมากค่ะ ที่เพิ่มมานั้นจะเป็นส่วนผสมของสารสกัดจากหน่อใต้ดินของดอก "CROCUS"หรือ "ซากุระตะวันตก"ที่ช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และกระตุ้นคอลลาเจน อีกทั้งมีส่วนผสมของTamanu Oilน้ำมันต้นกระทิงซึ่งมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย รอยแผลเป็น และมอบความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสและที่สำคัญปราศจากพาราเบนค่ะ
มาในรูปแบบของขวดปั๊มที่มีปริมาณสุทธิ50 กรัมราคา690 บาทค่ะ
วิธีใช้:หลังทำความสะอาดผิวหน้า ลูบไล้ครีมให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เป็นประจำทุกวัน ทุกเช้าและก่อนนอน
เนื้อครีมจะมีสีขาวขุ่น และเหลวกว่าสูตรBlackmores Natural Vitamin E Cream Lanolinค่ะ
จากที่ได้ทดลองทาลงบนใบหน้า จะรู้สึกสบายผิวกว่าค่ะ เนื้อครีมหลังเกลี่ยแล้วจะทิ้งความเงาวาวไว้เล็กน้อย ไม่หนักหน้าค่ะ และซึมไวเช่นกันค่ะ
ลักษณะของเนื้อครีมทั้งสองแบบค่ะ แทบจะไม่ต่างกันเลยค่ะ
จากที่ได้ทดลองใช้มาเกือบ 1 สัปดาห์ ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลพลอยได้คือรอยสิวจางลง ริ้วรอยใต้รอบดวงตาแลดูตื้นขึ้น ไม่ดูเหี่ยวย่นแล้วค่ะ และนั่งทำงานในห้องแอร์ได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ เพราะมีตัวช่วยดีๆจากแบลคมอร์ส ไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งเหี่ยวอีกต่อไปแล้วค่ะ
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ได้จากร้านขายยาทั่วไปนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ และ ขออภัยหากผิดพลาดประการใด ณ ที่นี้ค่ะ
Ploy Thatsani
#แบลคมอร์ส #แบลคมอร์สเนเชอรัลวิตามินอีครีม #วิตามินอี #ครีมบำรุงผิวหน้า #ผิวแห้ง
