เรื่องเหลือเชื่อของผู้รอดชีวิต
candy 25 4
เจสสิก้า แมคเคลอร์ เบบี้แห่งชาติ
ชะตากรรมน่าสะพรึงของหนูน้อยเจสสิก้ากลายเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันทั้งประเทศภาวนาให้เธอรอดชีวิต หลังจากที่แม่ของเธอรับดูแลเด็ก ๆ และพาพวกเค้ามาเล่นด้วยกันกับลูกน้อยวัย 18 เดือนที่สนามหลังบ้านพี่สาว เมื่อเธอเข้าไปรับโทรศัพท์ในบ้านเพียงไม่กี่นาที สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
แม่หาเจสสิก้าไม่พบ ในขณะที่ความร้อนใจพุ่งสูงขึ้น เรื่องช็อกก็ตามมาซ้ำเติมเมื่อเธอได้ยินเสียงลูกสาวอ้อแอ้แผ่ว ๆ มาจากบ่อน้ำขนาดเล็กจิ๋วที่บ้านพี่สาวไม่ได้ใช้แล้ว เส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 8 นิ้วนั้นทำให้ยากจะเชื่อว่าจะมีใครตกลงไปได้
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ถึงกับตะลึงพรึงเพริดที่ได้พบว่ามีเด็กตัวเล็กๆ หล่นลงไปติดในบ่อเก็บน้ำนั่นจริง ๆ ในตอนแรกเธอยังส่งเสียงโต้ตอบกับคนบนพื้น แต่เมื่อเริ่มเงียบหายไป ก็สร้างความกังวลใจว่าเธอจะไถลลื่นลงไปลึกกว่าเดิม ซึ่งที่ก้นบ่อนั้นมีจุดศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้น หากเธอยังหล่นลึกลงไปเรื่อยๆ ก็อาจจะจมน้ำเสียชีวิตที่ก้นบ่อได้
ปฏิบัติการเฉพาะกิจของผู้ชำนาญการขุดเจาะจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างฉับไว
ปฏิบัติการเฉพาะกิจของผู้ชำนาญการขุดเจาะจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างฉับไว
หลังจากที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากหนูน้อยที่ติดคาบ่อลึกลงไปมากกว่า 20 ฟุต แม่ของเธอจึงเริ่มร้องเพลง Winnie The Pooh เสียงเล็กๆ ก็เริ่มดังคลอตามมาทำให้ทีมช่วยเหลือเริ่มมีกำลังใจขึ้น แต่เมื่อทีมนักขุดเจาะได้มาถึงพร้อมปฏิบัติงานด้วยเครื่องไม้เครื่องมือครบครัน แม่ก็ถูกขอให้แยกตัวออกไป เพราะความร้อนใจกับนาทีความเป็นความตายของลูกอาจจะขัดขวางการทำงานของมืออาชีพที่ต้องแข่งกับเวลา
แผนการตามภาพเล็กคือ ขุดเจาะบ่อใหญ่ที่ไม่ไกลจากกันแล้วหย่อนตัวกู้ภัยลงไปเพื่อขุดช่องเชื่อมต่อไปตำแหน่งของหนูน้อยเจสสิก้าเพื่อดึงเธอจากบ่อน้ำ แล้วใช้รอกช่วยพวกเค้าขึ้นมา
การขุดเจาะดำเนินไปพร้อมกับอุปสรรคบางประการ จากที่คาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะช่วยเหลือให้เด็กน้อยปลอดภัยจากการร่วงตกบ่อลึก เวลาก็เริ่มยาวนานออกไปเรื่อยๆ จนเลยมากว่า 2 วัน ผู้เชี่ยวชาญต่างร้อนรนเพราะเจสสิก้าไม่ได้รับน้ำและอาหารเข้าร่างกายมาเป็นเวลานาน ยิ่งเธอซูบลงเท่าไร โอกาสที่จะไถลลงมาลึกกว่าเดิมก็มีมากขึ้น แต่ทีมนักขุดเจาะก็ยังตั้งหน้าตั้งแต่ดำเนินแผนเดิม แม้จะเริ่มมีคนเริ่มปรากฏตัวในซีนเพื่อวิจารณ์ว่าพวกเขาคำนวณผิดพลาดจนขุดผิดตำแหน่งและคงไม่สามารถช่วยเหลือเจสสิก้าได้ เสียงเหล่านี้ต่างทำให้แม่ของหนูน้อยที่ติดตามสถานการณ์ผ่านวิทยุนั้นรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เธอจะไว้ใจแรงงานที่ขุดบ่อลึกนี้ได้ไหม ?
การขุดเจาะดำเนินไปพร้อมกับอุปสรรคบางประการ จากที่คาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะช่วยเหลือให้เด็กน้อยปลอดภัยจากการร่วงตกบ่อลึก เวลาก็เริ่มยาวนานออกไปเรื่อยๆ จนเลยมากว่า 2 วัน ผู้เชี่ยวชาญต่างร้อนรนเพราะเจสสิก้าไม่ได้รับน้ำและอาหารเข้าร่างกายมาเป็นเวลานาน ยิ่งเธอซูบลงเท่าไร โอกาสที่จะไถลลงมาลึกกว่าเดิมก็มีมากขึ้น แต่ทีมนักขุดเจาะก็ยังตั้งหน้าตั้งแต่ดำเนินแผนเดิม แม้จะเริ่มมีคนเริ่มปรากฏตัวในซีนเพื่อวิจารณ์ว่าพวกเขาคำนวณผิดพลาดจนขุดผิดตำแหน่งและคงไม่สามารถช่วยเหลือเจสสิก้าได้ เสียงเหล่านี้ต่างทำให้แม่ของหนูน้อยที่ติดตามสถานการณ์ผ่านวิทยุนั้นรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เธอจะไว้ใจแรงงานที่ขุดบ่อลึกนี้ได้ไหม ?
แต่ในที่สุด สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็ได้เกิดขึ้น สถานีโทรทัศน์หลายช่องได้ถ่ายสดให้คนอเมริกันได้ชมวินาทีที่ทีมช่วยเหลือดึงตัวของนักเจาะและเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาได้ เสียงเฮสนั่นได้สร้างความปีติให้แก่ทุกคนโดยเฉพาะครอบครัวที่เฝ้ารอข่าวดี
เจสสิก้ามีบาดแผลใหญ่ที่หน้าผาก แขน และเท้า แต่เบิกตาแป๋วใส่คนที่เข้ามาช่วยเหลือเร่งนำตัวเธอไปที่รถพยาบาล
และในที่สุด เจสสิก้าก็ปลอดภัย สังคมชื่นชมเธอในฐานะเด็กหญิงผู้เข้มแข็งที่ต้องผ่านการผ่าตัดถึง 15 ในเวลา และยังยิ้มร่าน่าเอ็นดูในทุกที่ ๆ ปรากฏตัว
เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เจสสิก้าโด่งดังในฐานะ "Everybody's Baby" ด้วยกำลังใจล้นหลามจากชาวอเมริกา พ่อแม่ของเธอพาไปออกอีเวนท์ต่าง ๆ รวมถึงเข้าพบประธานาธิบดีจอช บุช
เรื่องราวของ "ผู้รอดชีวิต"ที่กระแสสังคมเกาะติดความเคลื่อนไหวราวกับว่าเป็นญาติมิตรของตัวเองนั้นอาจจะมาในรูปแบบ "การสร้างผลประโยชน์" ในยุค 80s นั้น หนูน้อยเจสสิก้าได้กลายเป็นขวัญใจชาวอเมริกันและมีผู้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือครอบครัวแมคเคลอร์เป็นเงินนับล้านเหรียญพวกเค้าซื้อบ้านและรถใหม่เอี่ยม แม่ของเธอยอมรับว่า อาจจะไม่ได้ร่ำรวยฟู่ฟ่าเหมือนที่ถูกปล่อยข่าวลือโจมตี แต่ชีวิตชนชั้นแรงงานของพวกเค้าก็เปลี่ยนไป " เราเคยพบปะแต่ผู้คนที่อาศัยในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ ตอนนี้เรามีสังคมกับพวกชนชั้นกลางแล้วค่ะ"
"เราจะใช้เงินที่ได้รับบริจาคมาในเรื่องการรักษาพยาบาลและการศึกษาของเจสสิก้า เราจะให้เธอเข้าโรงเรียนเอกชน ชั้นอยากให้เธอมีการศึกษาดี ๆ ตั้งแต่เล็ก ๆ ชั้นไม่เคยได้รับโอกาสนั้น" แม่ของเจสสิก้ายืนยัน กระแส Everybody's Baby นั้นลากยาวมาอีก 2-3 ปี พ่อแม่ของเธอบอกว่าได้จัดการเตรียมเงินก้อนใหญ่ใน trust fund เพื่อเจสสิก้าได้นำมาใช้ตั้งต้นชีวิตหลังจากอายุ 25
เธอสูญเสียนิ้วเท้าไป 1 นิ้ว จากอาการเนื้อตายเพราะเลือดไม่หมุนเวียนตอนติดในบ่อ
เมื่อกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สื่อได้กลับมาแวะเวียนทำข่าวของเจสสิก้าอีก เธอทำอาชีพเป็นครูและมีลูกเล็กๆ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับสามี ส่วนข้อสงสัยเรื่องเงินทุนที่พ่อแม่เก็บไว้ให้ เจสสิก้าเปิดเผยว่ามันละลายหายไปกับภาวะวิกฤติหุ้นเมื่อหลายปีก่อน แม้จะพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง แต่เธอก็ได้ใช้ซื้อบ้านขนาดกะทัดรัดอาศัยกับครอบครัวแล้ว
เจสสิก้าไม่ได้มีความทรงจำเลวร้ายใด ๆ กับเหตุการณ์ตกบ่อแต่อย่างใด เธอเด็กเกินไปที่จะจำอะไรได้ แต่เธอก็รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ยังมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ "พระเจ้าอยู่เคียงข้างชั้นเสมอมา" เธอยังรู้สึกขอบคุณต่อผู้บริจาคเงินที่มีใจเมตตาต่อเด็กน้อยที่ไม่รู้จักกัน
ครอบครัวผู้รอดชีวิตจากสีนามิที่โหดร้าย
เชือว่าคุณผู้อ่านคงได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Impossible ดราม่าภัยพิบัติที่กระชากจิตใจคนไทย เพราะสร้างขึ้นจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงที่บ้านเรา ภัยสึนามิปี 2004 ที่ได้พรากชีวิตมากมายให้ดับสูญเกิดเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมด
เคยสงสัยมั้ยคะว่า บุคคลที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในชีวิตจริงนั้นคือใคร
มาเรีย แพทย์หญิงและครอบครัวชาวสเปนกำลังพักผ่อนในรีสอร์ทหรูที่เขาหลัก พวกเขาไม่คิดแม้แต่น้อยว่าสถานที่สวยงามสร้างความสำราญให้กับแขกผู้พักกำลังจะเกิดหายนะร้ายแรงขึ้น
ครอบครัวของหมอมาเรียคือแก่นของหนังอย่างแท้จริง เธอเป็นผู้เขียนบทร่วมกับนักเขียนมือฉมังเพื่อให้แน่ใจที่สุดว่า เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาจะตรงกับประสบการณ์จริงมากที่สุด และเชื่อว่าหลายคนคงสะเทือนใจไปกับหนังเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าผู้เขียน
หมอมาเรียและนาโอมิ วัทท์ที่เปิดใจในการถ่ายทำ The Impossible จนสนิทสนมกัน
เธอเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืมว่า
"มันเริ่มจากเสียงที่ดังน่าสะพรึงกลัว ชั้นมองไปรอบตัวและบอกตัวเองว่าคงคิดไปเอง ไม่มีใครเคยได้ยินเสียงน่ากลัวแบบนั้นมาก่อน มันเหมือนกับโลกกำลังถล่มลงมาทั้งๆ ที่ตรงหน้าก็ยังงดงามอยู่
แล้วก็มีสิ่งที่เหมือนกำแพงสีดำทมึนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ชั้นไม่ได้คิดว่ามันเป็นน้ำทะเล แต่เป็นกำแพงที่กำลังเข้ามาเล่นงานเรา ลูกชายคนรองเและคนเล็กกำลังว่ายน้ำกับพ่อของเค้า ส่วนลูคัส ลูกคนโตกำลังเล่นบอลที่เราซื้อในในวันคริสต์มาส
ชั้นกรีดร้องเรียกสามีและเด็กๆ คิดว่าเราคงจบสิ้นกันตรงนั้นแล้ว ลูคัสร้องเรียกแม่ฮะ แม่ฮะ !
แล้วพวกเค้าก็หายไปในกระแสน้ำ
ความรู้สึกต่าง ๆ ก็ประดังประเดเข้ามา ทั้งช็อกและก็กังวลเรื่องลูกชาย
ชั้นจำได้ว่าน้ำพัดไปกระแทกกับกำแพง สามารถรู้สึกได้ว่ามันกำลังถูกบีบอัดให้แตก
ชั้นไม่รู้สึกเจ็บปวดทางกายก็จริง แต่จมลงไปราวกับอยู่ในเครื่องปั่นแห้ง หมอบอกชั้นว่าชั้นน่าจะจมน้ำไปถึง 3 นาที เพราะในปอดเต็มไปด้วยน้ำ"
"มันเริ่มจากเสียงที่ดังน่าสะพรึงกลัว ชั้นมองไปรอบตัวและบอกตัวเองว่าคงคิดไปเอง ไม่มีใครเคยได้ยินเสียงน่ากลัวแบบนั้นมาก่อน มันเหมือนกับโลกกำลังถล่มลงมาทั้งๆ ที่ตรงหน้าก็ยังงดงามอยู่
แล้วก็มีสิ่งที่เหมือนกำแพงสีดำทมึนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ชั้นไม่ได้คิดว่ามันเป็นน้ำทะเล แต่เป็นกำแพงที่กำลังเข้ามาเล่นงานเรา ลูกชายคนรองเและคนเล็กกำลังว่ายน้ำกับพ่อของเค้า ส่วนลูคัส ลูกคนโตกำลังเล่นบอลที่เราซื้อในในวันคริสต์มาส
ชั้นกรีดร้องเรียกสามีและเด็กๆ คิดว่าเราคงจบสิ้นกันตรงนั้นแล้ว ลูคัสร้องเรียกแม่ฮะ แม่ฮะ !
แล้วพวกเค้าก็หายไปในกระแสน้ำ
ความรู้สึกต่าง ๆ ก็ประดังประเดเข้ามา ทั้งช็อกและก็กังวลเรื่องลูกชาย
ชั้นจำได้ว่าน้ำพัดไปกระแทกกับกำแพง สามารถรู้สึกได้ว่ามันกำลังถูกบีบอัดให้แตก
ชั้นไม่รู้สึกเจ็บปวดทางกายก็จริง แต่จมลงไปราวกับอยู่ในเครื่องปั่นแห้ง หมอบอกชั้นว่าชั้นน่าจะจมน้ำไปถึง 3 นาที เพราะในปอดเต็มไปด้วยน้ำ"
"ชั้นลอยขึ้นบนผิวน้ำได้แล้วเกาะต้นไม้ไว้ แต่มันก็ยากที่จะทรงตัวไว้ได้เพราะสถานการณ์มันห่างไกลจากปกติจริงๆ แต่มองออกไปประมาณอีก 15 เมตร ชั้นมองเห็นหัวเล็ก ๆ แล้วชั้นก็ใจชื้นขึ้นมา ชันว่านั่นคือลูคัส ชั้นได้ยินเค้าร้องเรียกหาจึงว่ายน้ำไปหาเค้าค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่ชั้นรู้สึกว่าโชคดีมากที่สุดแล้ว มันทำให้ลืมเรื่องตัวเองไปหมดสิ้น เราเกาะขอนไม้ลอยไปด้วยกัน
ชั้นรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย ตอนที่ชั้นอยู่บนต้นไม้ เลือดจากบาดแผลฉกรรจ์ไหลออกมามากมายเหลือเกิน ชั้นสัมผัสได้เลยว่ากำลังเข้าใกล้ความตายเข้าไปแล้ว อาการตกเลือดภายในของชั้นแย่พอ ๆ กับเลือดที่ไหลภายนอก"
พวกเค้าพาตัวไปที่สูงได้ และแม้ว่าจะเจ็บปวดจากบาดแผลก็ต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพราะหวาดหวั่นต่อคลื่นยักษ์ที่สามารถพัดขึ้นฝั่งมาได้อีก และชายไทยผู้หนึ่งก็เป็นผู้ค้นพบพวกเค้า
"เขาคนนั้นไม่ยอมให้ชั้นตายค่ะ เค้าตบหน้าชั้นทุกครั้งที่ชั้นทำท่าเหมือนจะขาดใจตายไป เขาบอกชั้นว่า มองลูกชายเธอเข้าไว้ เขารู้ค่ะว่าชั้นกำลังจะทนไม่ไหว
"เค้าช่วยดึงชั้นเดินฝ่าโคลนขึ้นมาจนแน่ใจว่าได้ส่งตัวชั้นไปรับความช่วยเหลือถูกที่แล้ว " แต่เธอไม่ได้มีความหวังเลยว่าสามีกับลูกชายอีกสองคนจะรอดตาย
หลังจากคลื่นซัดใส่ สามีของเธอพลัดหลงกับลูกชายแม้ว่าเด็กๆ จะอยู่ในอ้อมแขนเค้า แต่สายน้ำอันโกรธเกรี้ยวก็ได้กระชากพ่อลูกออกจากกันอย่างไม่ปราณี ตอนที่เอาตัวรอดจากการคว้าต้นไม้เหนี่ยวไวไ้ด้ ก็ต้องหลั่งน้ำตาเพราะคิดว่าลูก ๆ สิ้นลมจากการจมน้ำไปแล้ว
"ผมได้แต่ถามตัวเองว่า จะร้องไห้ไปทำไม เพราะผมไม่เหลือใครสักคนที่จะปลอบโยนให้หายเศร้าได้"
แต่ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น ชั่วอึดใจหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ของโทมัสร้องเรียกหาทุกคนในครอบครัว เมื่อเข้าไปถึงตัวลูกชายได้ ทั้งคู่ก็เกาะต้นไม้อยู่เป็นชั่วโมงก่อนที่จะพบว่าไซมอน เจ้าตัวเล็กยังมีชีวิตและปลอดภัยเช่นกัน!
"ผมได้แต่ถามตัวเองว่า จะร้องไห้ไปทำไม เพราะผมไม่เหลือใครสักคนที่จะปลอบโยนให้หายเศร้าได้"
แต่ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น ชั่วอึดใจหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ของโทมัสร้องเรียกหาทุกคนในครอบครัว เมื่อเข้าไปถึงตัวลูกชายได้ ทั้งคู่ก็เกาะต้นไม้อยู่เป็นชั่วโมงก่อนที่จะพบว่าไซมอน เจ้าตัวเล็กยังมีชีวิตและปลอดภัยเช่นกัน!
แต่ที่มหัศจรรย์ไปกว่านั้น อีกสองวันต่อมา ครอบครัวที่ถูกคลื่นทำให้พลัดพรากได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้งที่โรงพยาบาลหลังจากต่างฝ่ายต่างคิดว่าตายจากกันไปแล้ว มาเรียเจ็บหนักปางตาย สภาพของโรงพยาบาลท้องถิ่นที่รองรับคนเจ็บมากมายนั้นคงไม่ใช่สถานที่ ๆ จะช่วยให้เธอรอดชีวิตได้ เมื่อโชคเข้าข้างทำให้ครอบครัวกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา เธอถูกส่งตัวไปรักษาที่สิงคโปร์และต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนกว่าจะกลับสเปนได้
สึนามิได้เปลี่ยนชีวิตของครอบครัวชนชั้นกลางที่แสนสุขไปตลอดกาล
"ชั้นอาจจะไม่สมควรที่จะรอดชีวิต แต่ชีวิตมันก็ไม่แฟร์แบบนี้ ชั้นรู้สึกเจ็บปวดและเห็นใจคนมากมายที่ไม่สามารถรอดกลับมาและสูญเสียคนที่รักไป"
สึนามิได้เปลี่ยนชีวิตของครอบครัวชนชั้นกลางที่แสนสุขไปตลอดกาล
"ชั้นอาจจะไม่สมควรที่จะรอดชีวิต แต่ชีวิตมันก็ไม่แฟร์แบบนี้ ชั้นรู้สึกเจ็บปวดและเห็นใจคนมากมายที่ไม่สามารถรอดกลับมาและสูญเสียคนที่รักไป"
หมอมาเรียกลายเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจด้วยการแบ่งปันเรื่องราวความทรงจำที่โหดร้ายจากมหาตภัยครั้งใหญ่ แม้จะรอดชีวิตมาได้แต่ความเจ็บปวดนั้นก็ตามมาหลอกหลอนทุกคนในครอบครัวจนไม่สามารถปิดไฟนอนได้หลายเดือน ไซมอน ลูกชายคนเล็กฝันร้ายถึงปีศาจไร้ตา พวกเค้าจึงต้องร่วมหาวิธีเพื่อตื่นจากฝันร้ายให้ได้ เธอจึงอยากช่วยเหลือให้คนอื่นได้ก้าวข้ามเรื่องราวเจ็บปวดที่ผ่านมาเช่นกัน
โทมัส ลูกชายคนกลางเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยที่เวลส์เพื่อฝึกฝนเป็นไลฟ์การ์ดเต็มตัวจากความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้คน จากนั้นจึงเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา
"ในตอนนั้น พ่อของผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนอื่น มันจึงเป็นแรงกระตุ้นกับตัวผมว่า ชีวิตนี้มีเป้าหมายที่จะทำอะไร "
"ในตอนนั้น พ่อของผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนอื่น มันจึงเป็นแรงกระตุ้นกับตัวผมว่า ชีวิตนี้มีเป้าหมายที่จะทำอะไร "
การช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ที่หลังคาโลก
การช่วยเหลือนักผจญภัยที่กำลังหมดหนทางในการเอาตัวรอดจากนักบินผู้กล้าหาญท่ามกลางยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แม้คุณจะทราบถึงฉากจบแล้ว แต่หากได้ไปชมวีดีโอบันทึกเหตุการณ์เสี่ยงชีวิตในครั้งนั้นก็อาจทำให้อะดรีนาลีนในตัวคุณพร่างพรูออกมาเลยทีเดียว
คุณอาจจะคุ้นเคยกับฉากหนังที่นักบินหย่อนเชือกลงไปดึงคนภายล่างขึ้นมาด้วยทักษะการบินอันเลิศล้ำ แต่ในชีวิตจริง เรื่องแบบนี้จะดูไหลลื่นไปเหมือนกับการใช้เทคนิคในหนังรึเปล่า ?
เมื่อได้รับข้อความช่วยเหลือว่ามีนักไต่เขาประสบภัยติดอยู่ที่ยอดเขาอันนะปุรณะ ทีมช่วยเหลือชาวสวิส Captain ดาเนียล ออฟเดนเบลทเทน (นักบิน) และริชาร์ด เลห์เนอร์ (ผู้เชี่ยวชาญการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ภูเขา) จึงเร่งรุดเดินทางไปทำภารกิจเสี่ยงตายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนักผจญภัยเหล่านั้นให้รอดจากอาการแข็งตาย แต่ต้องพบกับสภาพอากาศเลวร้ายจนต้องรอให้ฟ้าเปิดก่อนที่จะขับเฮลิคอปเตอร์ไปยังที่หมายได้
เมื่อสภาพอากาศดีพอที่จะทำการบิน พวกเขาต้องขนอุปกรณ์การช่วยเหลือไปเต็มเฮลิคอปเตอร์ท่ามกลางข้อจำกัดทางเวลา เพราะถ้าไม่สามารถเคลียร์ภารกิจได้ เมฆหมอกที่กลับมาบดบังทัศนวิสัยจะบีบให้นักบินกลับฐาน ตำแหน่งแคมป์ของนักปีนเขานั้นอยู่ที่ความสูงราว ๆ 6900 เมตร ความสูงระดับนั้นเสี่ยงต่อชีวิตของนักบินกู้ภัยและยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาจะเข้าใกล้ภูเขาที่สวยงามแต่อันตรายทั้ง ๆ ที่ลมพัดแรงและมีอากาศให้หายใจเพียงเบาบาง พวกเขาต้องเดิมพันการตัดสินใจที่แม่นยำเพื่อเดิมพันกับความเสี่ยงเหล่านี้ และยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลืออย่างค่อยเป็นค่อยไป พวกนักไต่เขาเริ่มมีอาการย่ำแย่จากความหนาวเย็นและหิมะกัด นาฬิกาชีวิตของพวกเขากำลังจะหยุดลง
กว่า Captain ดาเนียลจะส่งตัวริชาร์ดโรยตัวลงสู่เบื้องล่างเพื่อเข้าถึงตัวผู้ประสบภัย ก็ต้องพยายามอยู่สามรอบเนื่องจากออกซิเจนที่เตรียมมาไม่เพียงพอจนต้องวกกลับไปตั้งต้นใหม่ กระแสลมแรงนั้นทำให้ตัวเฮลิคอบเตอร์โยกคลอนอย่างน่ากลัวเมื่อริชาร์ดห้อยตัวด้านล่าง
แต่พวกเค้าก็ทำได้สำเร็จ! กลายเป็นภารกิจเหลือเชื่อที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเฮลิคอปเตอร์ในจุดที่สูงที่สุดที่เคยมีคนทำไว้ พวกเขาประกบนักไต่เขาสลิงตัวต่อตัว แล้วพากลับไปที่ฐานแคมป์ทีละคนจนปลอดภัยทั้ง 3 คน
แต่พวกเค้าก็ทำได้สำเร็จ! กลายเป็นภารกิจเหลือเชื่อที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเฮลิคอปเตอร์ในจุดที่สูงที่สุดที่เคยมีคนทำไว้ พวกเขาประกบนักไต่เขาสลิงตัวต่อตัว แล้วพากลับไปที่ฐานแคมป์ทีละคนจนปลอดภัยทั้ง 3 คน
น่าเศร้าตรงที่แม้จะเป็นหนึ่งในทีมที่ช่วยชีวิตผู้ประสบภัย แต่เค้าเหล่านั้นกลับเข้าหาจับมือขอบคุณริชาร์ดผู้โหนสลิงไปช่วยเท่านั้น แต่เมื่อเห็นดาเนียลกลับแสดงความอึดอัดใจและนิ่งเฉย คุณนักบินคนเก่งก็ได้แต่ยักไหล่กับปฏิกิริยาตอบรับ
ความสามารถทางการกู้ภัยด้วยทีมเวิร์คและความกล้าหาญส่งผลให้พวกเค้าคว้ารางวัล Heroism จากอันทรงเกียรติจาก Aviation แต่แม้ว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ Captain ดาเนียลก็ไม่ได้ลำพองตน เขาบอกแต่เพียงว่า แต่ก่อนอาจมีคนเชื่อว่า การขับเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยชีวิตคนจากความสูงระดับนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้ และ "พวกเราได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือ และก็ทำตามหน้าที่ก็เท่านั้น"
ความสามารถทางการกู้ภัยด้วยทีมเวิร์คและความกล้าหาญส่งผลให้พวกเค้าคว้ารางวัล Heroism จากอันทรงเกียรติจาก Aviation แต่แม้ว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ Captain ดาเนียลก็ไม่ได้ลำพองตน เขาบอกแต่เพียงว่า แต่ก่อนอาจมีคนเชื่อว่า การขับเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยชีวิตคนจากความสูงระดับนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้ และ "พวกเราได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือ และก็ทำตามหน้าที่ก็เท่านั้น"
ภารกิจชิงตัวประกันกลางมหาสมุทร
อีกหนึ่งเหตุการณ์สุดระทึกที่ฮอลลีวู้ดจับไปสร้างหนัง เมื่อโจรสลัดโซมาเลียบุกจู่โจมเรือขนส่งสินค้าและเสบียงช่วยเหลือนามว่า MV Maersk Alabama แล้วจับตัว Captain ไปเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องออกโรงช่วยเหลือ
เมื่อโจรสลัดที่มีอาวุธครบมือบุกขึ้นเรือใหญ่ก็พยายามยึดอานาจควบคุมเรือด้วยการควบคุม captain และลูกเรือทั้งหมด แต่ก็ยังมีลูกเรือที่หลบซ่อนตัวและสามารถจับตัวโจรสลัดไว้แลกเปลี่ยนตัวประกันคนอื่น แต่หากคุณทำข้อตกลงกับโจร ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ลงเอยแบบ happy ทุกฝ่าย โจรไม่ได้รักษาคำพูดและชิงตัวผู้นำเรือ Maersk Alabama หนีไปด้วยเรือชูชีพพร้อมกับอาหารและเชื้อเพลิงที่จะพาไปถึงโซมาเลีย ชีวิตของ captain ริชาร์ด ฟิลลิปส์ก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากหมดประโยชน์ไปเมื่อใด พวกโจรคงสาดกระสุนใส่เขาอย่างไม่ลังเล
เพื่อช่วยเหลือชีวิตของcaptain ริชาร์ด กองทัพเรือสหรัฐต้องใช้ยุทธวิธีต่างๆ พวกเขาใช้สายฉีดน้ำที่มีแรงดันทรงพลังสกัดกั้นไม่ให้เรือชูชีพเดินทางต่อไปถึงโซมาเลียได้ เฮลิคอปเตอร์ถูกส่งออกไปบินต่ำใกล้น้ำเพื่อกดดันโจร แต่ก็ถูกตอบโต้ด้วยลูกกระสุน แม้โจรจะยิงไม่ถูกใครเลย แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าพร้อมจะใช้ความรุนแรงกับตัวประกันหากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
"พวกเรายังปลอดภัยดีและไม่ได้เกรงกลัวพวกอเมริกันสักนิด เราจะป้องกันตัวเองหากมีการโจมตีเกิดขึ้น" หนึ่งในสี่โจรสลัดพูดผ่านโทรศัพท์
หน่วย SEAL จึงเริ่มปฏิบัติการโดยไม่ให้ฝ่ายศัตรูรู้สึกตัว
"พวกเรายังปลอดภัยดีและไม่ได้เกรงกลัวพวกอเมริกันสักนิด เราจะป้องกันตัวเองหากมีการโจมตีเกิดขึ้น" หนึ่งในสี่โจรสลัดพูดผ่านโทรศัพท์
หน่วย SEAL จึงเริ่มปฏิบัติการโดยไม่ให้ฝ่ายศัตรูรู้สึกตัว
83 ชั่วโมงผ่านไป โจรสลัดก็เริ่มจนมุม เรือชูชีพไม่มีเชื้อเพลิงที่จะหลบหนีได้อีก ฝ่ายเจรจาที่ทำหน้าที่หว่านล้อมประประวิงเวลาไม่ให้โจรปลิดชีวิต captain รุกคืบด้วยการยื่นข้อเสนอให้ และพวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อผู้นำโจรสลัดต้องการความช่วยเหลือให้กองทัพเรือรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บจากบาดแผลติดเชื้อและร้องขออาหารน้ำดื่มเพิ่มให้คนบนเรือชูชีพ มันจึงเข้าทางแผนการช่วยเหลือทันที
มันคือการวางกับดัก
มีข้อตกลงใหม่ขึ้น เรือรบ Bainbrick จะลากเรือชูชีพไปส่งที่น่านน้ำโซมาเลีย การตกลงรับข้อเสนอนั้นก็เปรียบถึงการมอบสิทธิ์ควบคุมทิศทางเรือให้ฝั่งสหรัฐนั่นเอง
กองทัพเรือขอคำอนุมัติจากประธานาธิบดีโอบาม่าเพื่อยิงโจรเพื่อช่วยตัวประกัน แต่คำตอบคือ สามารถลงมือได้ก็ต่อเมื่อเห็นว่า captain ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตเท่านั้น
คำบอกเล่าของ captain ในวินาทีชีวิตที่อาจจะมีรายละเอียดแตกต่างจากหนังก็คือ โจรสลัดเริ่มรู้ตัวว่าถูกลวงให้ติดกับ พวกเขาคิดจะปลิดชีวิตตัวประกันและยิงปืนเฉียดหัวแสดงให้เห็นว่าเอาจริง สภาวะที่เลวร้ายเหมือนตกนรกทั้งเป็นและอาการเมาเรือทำให้ captain ดูย่ำแย่ลงมากจนแพทย์ทหารเรือจะต้องมาดูอาการที่เรือชูชีพและฝากอาหารไว้ให้ จากนั้นพวกโจรทะเลาะกันเองแล้วยิงปืนใส่ลมฟ้าระบายโทสะ โจรคนหนึ่งโผล่หัวมาที่หน้าต่างเพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าตัวประกันยังอยู่รอด จังหวะนั้นเองที่ SEAL ได้ clear shot และได้รับคำสั่งให้ประหารทันที
พวกเขาทำสำเร็จ โจรสลัดสามคนในเรือชูชีพตายเรียบ captainได้รับการช่วยเหลือหลังจากตกเป็นตัวประกันครบ 4 วัน