How to Natural Wet Look : Less is more ฉ่ำแค่นี้ จะแค่ไหน ?

17 5

ฝนตก ยิ่งนึกถึงทีไรก็ยิ่งชุ่มฉ่ำ อุ่นในหัวใจ ~~~~~~~~~


สวัสดีค่าา สาวๆทุกคน ย่างเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว
และปีนี้ก็ไม่ได้มาแค่ฝน แต่มันพ่วงพายุมาด้วย !!!
สาวๆอย่างเรานอกจากจะทนแดดแล้วยังต้องทนฝนอีก

Strong ขนาดนี้ก็ต้องสาวจีบันนี่แหละค่ะ


แต่ แต่ แต่ ...

เห็นฝนฉ่ำๆ แบบนี้ Make up เราก็ต้องฉ่ำไม่แพ้กัน
วันนี้ก็มี How to มาฝากสาวๆ เป็น Look ที่เข้าก๊านเข้ากันกับสถานการณ์ตอนนี้

แต่เน้นตรงที่ " Natural wet look "

คือ ฉ่ำแบบน้อยๆ พอดีๆ แต่ดูมีอะไร (แล้วมันมีอะไร? 555+)

เราจะจับมือสวยไปด้วยกันในวันฝนพรำค่ะ !!!

STEP

: เตรียมผิว

ลงผลิตภัณฑ์ทั้งสองลงบนใบหน้า เน้นบริเวณรูขุมขน

STEP

: ลงรองพื้น

ใช้รองพื้นสีที่เข้ากับผิวที่สุดลงให้ทั่วหน้าด้วยฟองน้ำ (จะทำให้ดูเป็นงานผิวที่สุด) โดยส่วนตัวคิดว่าสีรองพื้นทั้งหมดที่จำหน่ายในไทยตอนนี้ ยกให้ศรีจันทร์ เบอร์ 50 เป็นสีที่เข้ากับผิวมากถึงมากที่สุด คือตอบโจทย์คนไทยสีผิวเข้มสุดอย่างเราม๊ากกกกกกกกก

STEP

: ปิดรอยคล้ำใต้ตา และจุดด่างดำบนใบหน้า

ด้วยความที่เจ็บมาเยอะกับรองพื้นผิดสี แต่ทำไงได้มันซื้อมาแล้ว 555+ ก็เลยจับมาทำเป็นคอนซีลเลอร์ซะเลย ผลดีเกินคาด เพราะเจ้าลอรีอัลทรูแมทตัวนี้ มี Shimmer ที่ช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้ดี แพนด้าของเราเลยหายวับไปกับตา !!!

STEP

: ลงแป้ง Set บริเวณตกกระทบของแสงบนใบหน้า

ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง เป็นอะไรที่ save สุดสำหรับสาวผิวสี... กดด้วยพับเพื่อให้แน่นบริเวณใต้ตา หน้าผาก จมูก และคาง เอาให้แป้งไปกองกันอยู่ในรูขุมขนให้หมด ไม่เนียนไม่เลิกค่ะ

STEP

: งานตา + คัดเบ้าตา

งานนี้ใช้พาเลตลูกรัก มากับ 6 สีโดนใจ พกพาสะดวก ไปไหนไปกันอย่าง Tarte Tartelette Flirt ใช้สีลำดับตามภาพ โดย (1) ลงไปให้ทั่วเปลือกตา (2) คัดเบ้าตา ใช้สีเข้มวาดเป็นครึ่งวงกลมบริเวณเบ้าตาของเรา (3) ลงสีสว่างที่มี Shimmer บริเวณกลางตา .... เท่านี้ก็ได้ดวงตาที่โดดเด่น ดูลึก เหมือนมีเชื้อตะวันออกกลางเลยทีเดียว หุหุ

STEP

: คอนทัวร์เพิ่มมิติให้ใบหน้า

คอนทัวส์หน้าโดยใช้แปรงขนแน่นๆ วนบริเวณกรอบหน้า โดยเน้นโครงหน้าเดิมของเราให้มากที่สุด และอย่าลืมงัดดั้งที่ขี้อายของเราออกมา โดยไล่จากใต้ท้องคิ้วมาถึงบริเวณที่สมควรจะมีดั้ง จากนั้นไล้ตรงปลายจมูกอีกที เราจะไม่ไล้ดั้งทั้งแท่งนะค่ะ เพราะมันจะดูปลอมไม่เป็นธรรมชาติ !!

STEP

: งานคิ้ว...เพราะคิ้วคือมังคุดของใบหน้า เอ้ย ไม่ใช่ !!!

เลือกใช้เป็นดินสอเขียนคิ้ว เพราะง่าย สะดวก และรวดเร็ว จบค่ะ อ้อ...สำหรับลุคนี้เราต้องแปรงขนคิ้วให้มันตั้งๆด้วยนะ จะได้ดูเซอร์ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจ

STEP

: งานแก้มนัว นัว

ใช้บลัชออนสี ส้มตุ่นๆ ออกไปทางน้ำตาล ( 4U2 สี M0 I Fancy u) ปัดวนๆตรงโหนกแก้ม ให้ดูมีสีสัน ไม่ดูเหมือนไปตากฝนมาแล้วป่วย 555+

STEP

: กรีดอายไลน์เนอร์

ใช้อายไลน์เนอร์แบบที่ถนัดลากให้ชิดโคนขอบตาที่สุด เอาาแบบไม่หนามาก วิงค์หางเล็กน้อย... สิ่งที่ยากที่สุดคือ เขียนยังไงให้เท่ากัน คือถ้าไม่เท่าก็ไม่ต้องซีเรียสนะ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่เท่ากัน !!!! เอ๊ะ คุ้นๆ

STEP

: ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า

นี่เป็นคนที่ขนตาทิ่มลงแบบทักทายกับผืนดินตลอด ซึ่งที่ดัดขนตาของบิ้วตี้บุฟเฟ่ถือว่าสุดนะ เข้ากับรูปตา ไม่กินหนังตา แถมราคายังน่ารักอีก ส่วนมาสคาร่าปัดนั้นปัดมันทั้งบนและล่างเลยค่ะ เพิ่มดีกรีความโตของดวงตา

STEP

: Hightlight ต้องมา

จัดไปเลยค่ะ ลงไปบริเวณโหนกแก้ม / สันจมูก / บนคิ้วฟาด / กระจับปาก ฟาดได้แต่ต้องฟาดให้พอดี จะให้เป็นหนังปลาทูมันก็ไม่ใช่ เอาแบบแค่ให้เล่นแสงได้ก็โอเค

STEP

: ทาลิป สีโทนนู้ดที่ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่ป่วย !!!

วิธีคือถ้าทาสีแรกแล้วไม่โอเค ไม่ต้องลบ ให้ลงสีอื่นทับเลย มันก็จะออกมานัวนัวๆใกล้เคียงกับสีแก้มหน่อยๆ (อันนี้ใช้ของ bourjois velvet 12 beau brun + Myca เบอร์ 6 )

ขั้นตอนสำคัญ


มาถึงส่วนสุดท้าย เป็นส่วนที่ How to นี้ เน้นย้ำมาแต่ต้น

Wet Look มันก็ต้องมีส่วน wet wet สิ !!!


โดยสิ่งนั้นก็คือ Lip Gloss ที่นอกจากจะทาปากได้แล้ว

ยังใช้ในการแต่งแต้มบริเวณต่างๆของใบหน้าได้อีก ดังเช่น เปลือกตา เป็นต้น


จบสักที เห้อ ....ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ >[]<


 เป็นการเขียน How to ที่ถือว่ายาวนานมากกกกกก

บอกแล้วว่า Less is more จริงๆ การแต่งหน้ามันไม่ได้มีอะไรเยอะเลย

แต่คนเขียนนี่แหละเยอะเกิ๊น 555+


สุดท้ายจริงๆ ขอให้สาวๆ Enjoy กับวันฝนพรำ

เราจะสวยไปด้วยกันค่ะ !!!

ปล. หรือที่พายุเข้านี่เพราะว่าเราหว่า


Je m'appelle Sarah

Je m'appelle Sarah

ชื่อกุ๊กกี้ค่ะ > Makeup lover <

FULL PROFILE