Night time Skin Care: บำรุงผิวยามค่ำคืน หน้าไม่เปียก เราไม่นอน!

19 8
สวัสดีค่ะ รินเองน้า กลับมาอีกแล้วววว หลังจากมีสกินแคร์ตอนเช้า (อ่านได้ที่: https://www.jeban.com/topic/252803)
วันนี้ก็จะมารีวิว ผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิว ยามค่ำคืนกันค่ะ เชื่อว่า หลายๆคน ก็ต้องนอนเปิดแอร์กันใช่มั้ยคะ อากาศเย็นสบายก็จริง แต่สิ่งที่ห้ามลืมก็คือ อากาศเย็นอาจจะทำให้ผิวแห้งได้นะคะ หากเราบำรุงไม่เพียงพอ 

ถ้าผิวแห้งเกินไป สะสมไปเรื่อยๆก็ -> เกิดริ้วรอย เพราะฉะนั้น บำรุงให้เพียงพอกันเถอะค่ะ Night time Skincare ของริน มีหลายอย่าง (พื้นฐานเป็นคนเยอะ และพื้นเพเป็นคนขี้กังวลมาก) ไม่จำเป็นต้องมีเยอะแบบนี้นะคะ แต่รีวิวนี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์เหล่านี้ค่ะ 

Disclamer: อย่าเป็นบ้าเหมือนเรา ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้ที่เหมาะกับผิวของตัวเอง เท่านั้นก็พอค่ะ 

อ่ะ เริ่มค่ะ หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว ขั้นตอนแรกคือ Toner ค่ะ ซึ่งใช้ toner อยู่ 2 ตัว ตามนี้ค่ะ สลับกันตามวัน และ ตามอารมณ์

1. Etude House Soon Jung pH 5.5 Relief Toner : ตัวนี้คือ เหมือนน้ำธรรมดา ไม่มีกลิ่นใดๆ เหลวๆ เหมือนน้ำเปล่ามากค่ะ ตัวนี้เขาเคลมว่าจะช่วยปรับค่า pH ของผิว (ที่อาจจะสูงขึ้นจากโฟมล้างหน้า หรือ คลีนซิ่งที่เนื้อค่อนข้างเข้มข้นมาก aka not for sensitive skin ไรงี้ค่ะ) เพื่อให้พร้อมที่จะรับการบำรุง 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: เฉยๆค่ะ แต่ก็ใช้มาเรื่อยๆ เพราะราคาไม่แรง สามารถใช้แบบเหมือนเป็นการเช็ครอบสุดท้ายว่าหน้าเราสะอาดพอรึยัง ถามว่าซื้อต่อไหม ก็คงซื้อนะคะ เหมาะกับใคร: เหมาะสุดก็คือผิวแพ้ง่ายค่ะ และก็คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนผิวมันนะคะ เพราะมันไม่ได้ใส่ความชุ่มชื้นใดๆเข้าไปเพิ่มมากมาย  คนผิวแห้งใช้ได้ค่ะ เหมือนใช้น้ำเช็ดหน้า 

2. Fresh Rose Deep Hydration Facial Toner: ตัวนี้ดังเวอร์ คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก บางคนก็คงเคยใช้แล้วด้วย โทนเนอร์ที่สกัดมาจากกลีบกุหลาบ ในขวดมีอยู่ด้วยนะคะ สวยเวอร์ ช่วยขจัดความหมองคล้ำ และ มอบความชุ่นชื้นให้ผิวค่ะ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ชอบบบบบ มันดีเนาะะะ นี่ชอบเพราะนางให้ความชุ่มชื้นได้ดี สมชื่อนางค่ะ คือพอเช็ดเสร็จแล้ว ทิ้งสำลีแล้วเอามือกดๆหน้า ให้น้ำซึมเข้าผิว ก็รู้สึกว่า เออ ผิวมันฉ่ำๆอยู่นะ แต่เรื่องผิวสดใสมั้ย ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่เรื่องความชุ่มชื้นนั้น เริ่ดมากเลย เหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกคนที่อยากใช้ค่ะ ผิวมันก็โอ ผิวแห้งก็โอ ผิวแพ้ง่ายก็คิดว่าโอนะจ้ะ ลองไปเทสก่อน นางไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์จ้า
3. Mamonde First Energy Serum: เป็นพรีเซรั่มง่ะ หน้าที่เดียวกับ Sulwhasoo First care Activating Serum ตัวนี้สกัดจากดอกไม้ (ดอกสายน้ำผึ้ง สวยๆ) ง่ายๆเลยนะ มันก็คือแบบเข้าไปปลุกผิวเราแบบ แกๆ ตื่นได้แล้ว อาหารกำลังจะมา เตรียมตัวให้พร้อมนะจ้ะ ไรงี้ ก็คือ พร้อมจะให้รับสกินแคร์ตัวต่อไปอีกอะหละ เนื้อสัมผัสเป็นเจลใสๆ ซึมไวดีค่ะ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ก็โอเคนะ มันช่วยแค่ไหน ยังไม่รู้ แต่ใช้แล้วรู้สึกดีค่ะ 5555 เหมือนแบบ เอ้อ ผิวพร้อมนะ อาหารกำลังจะมาแล้ว เหมาะกับใคร: ทุกคนที่อยากใช้อีกแหละค่ะ 555 ถามว่าจำเป็นแค่ไหน เอาจริง ไม่ขนาดนั้น คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ลงสกินแคร์หลายตัวเวอร์เหมือนเรา ก็เหมือน ใช้น้อยตัว แต่ตัวนี้ช่วยเสริมให้ทุกตัวทำหน้าที่ของพวกนางอย่างเต็มที่ อะไรทำนองนั้นจ้า
4. La Mer The Treatment Lotion: ก็เป็นโลชั่นที่ดีมากตัวนึง ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น นิ่มขึ้น เนื้อสัมผัสซึมไวประมาณนึง แต่พอจับหน้าแล้ว เออ หน้ายังนุ่มๆ 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: แพงค่ะ หมายถึง รู้สึกว่าตัวเองแพง? เปล่าค่ะ ราคาเนี่ย แพง! แต่ก็คุณภาพแน่นขวดอะค่ะ ใช้ได้นานมาก ใช้มาเดือนกว่าแล้ว ไม่กระเตื้องเลย สอง-สามเหยาะ ทั่วหน้าแล้ว ใครมีทุนพอที่จะspendกับเรื่องนี้ได้ก็ แนะนำนะคะ เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนที่รู้สึกต้องการการบำรุงแบบไม่ไหวแล้วว แบบโอย หน้าฉัน ต้องการการบำรุงแบบสุด ไรงี้งะ เพราะมันราคาสูงเด้อ ถ้าผิวไม่ได้แบบ เอ้อ urgent เบาๆ ใช้ตัวอื่นก็ได้นะ แต่ถ้าอยากลอง จัดไปค่ะ ของมันดีจริงๆ ถ้าใครอยากเริ่มกับ La Mer ก็ขอแนะนำตัวนี้นะคะ ราคาน่าจะถูกสุดในบรรดาลาแมร์ทั้งหลาย แต่ถ้ารู้สึกว่ามันไม่คุ้ม แนะนำพวกน้ำตบ SK-II หรือ Missha, Innisfree ค่ะ 
5. Blanc & Eclare Serein Enriching Essence Moisturising Boost: เอสเซนส์ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เนื้อเบาๆ แต่ก็ให้ความชุ่นชื้นดีนะ ทาๆไปสักพัก พอมันเริ่มซึม เหมือนเอาน้ำมาสาดหน้า นางฉ่ำ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ดีสิคะ แบรนด์แม่เราเอง นี่ไม่ได้ลำเอียง หรือ ไทอินเลยนะแกรรร ล้อเล่นนน ใช้แล้วก็รู้สึกดีนะ ให้ความชุ่มชื้นดี นางบอกว่าสกินแคร์นางมีส่วนผสมหลักเป็น Tasmania Rain Water คือแบบเป็นน้ำที่บริสุทธิ์สุดในโลกไรงี้ (เว่อปะ) แต่แกรรร ของเขาดีนะ ราคาไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถูกอะไรขนาดนั้น 5555 หาซื้อยากอีก ลำไยตรงนี้ สั่งเว็ปมา ก็ชอบโดนภาษี เฮ้อม แต่นะคะทุกคน ของ มัน ต้อง มีเหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกคนบนโลกนี้ค่ะ 55555 ล้อเล่นนน เหมาะกับคนผิวแห้ง ที่ไม่แพ้ง่ายจนเกินไป เพราะได้กลิ่นน้ำหอมด้วยนิดนึงตอนใช้ เลยแบบ อืม ต้องมีแน่ๆ แต่นั่นแหละค่ะ ใครอยากลอง อย่ารีรอ ดูหน้าแม่เราสิ สวยเด้ง เพราะนางใช้อันนี้หละแกกกกกกก (ขายของ /เสียงป้าตือ)
6. Drunk Elephant B-Hydra Intensive Hydration Gel: อันนี้จะคล้ายๆกับตัว Blanc&Eclare ค่ะ แต่เนื้อจะข้นกว่า หนืดกว่านิดหน่อย ของบลองถ้าเอียงมือก็แอบมีไหลๆ ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเลย แต่ไม่ว้าวอะไรขนาดนั้นนะคะ เนื้อสัมผัสเพราะเป็นเจลเลยบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ไม่หนักหน้าเลย ซึมไวมากเด้อ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ดีค่ะ ชุ่มชื้นดี ไม่หนักหน้า สบายหน้า คนผิวมันน่าจะใช้ได้เหมือนกันด้วยความที่นางเบาและซึมไวพอสมควรเหมาะกับใคร: ทุกสภาพผิวสามารถใช้ได้นะคะคิดว่า มันอ่อนโยน ไม่มีกลิ่นใดๆ ไม่เหม็น ใช้แล้วสบายหน้า แต่หาซื้อยากไปหน่อย ต้องซื้อตามร้านในไอจี

7. Innisfree Whitening Pore Synergy Serum: เซรั่มที่มีวิตามินซี เป็นส่วนประกอบหลักๆ (คิดว่าใช่นะ ดูจากขวดที่เป็นรูปส้ม) ช่วยเรื่องความกระจ่างใสอะไรทำนองนี้ เนื้อเข้มข้นเหมือนกัน เนื้อมันจะอารมณ์แบบเหมือนผสมกันระหว่าง essence กับ serum (มีทั้งใสๆและขาว) เนื้อซึมไวดี ไม่เหนอะหนะ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: สดชื่นดีค่ะ กลิ่นมันด้วยแหละมั้งแบบส้มๆแต่ไม่ส้มจ๋าเหมือนพวกกลิ่นน้ำหอมในห้องน้ำงะ ช่วยเรื่องกระจ่างใสไรงี้มั้ย ยังไม่แน่ใจ ใช้มาเกือบจะครึ่งขวด ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าแบบ เหยย ชัดเวอร์ไรงี้ แต่ก็รู้สึกผิวใสขึ้นนิดนึงนะ ไม่ได้ดูแบบทึมๆ 5555เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องความกระจ่างใส เพราะวิตามินซีอะเนาะ พอมาอยู่ในสกินแคร์ หลักๆก็ช่วยเรื่องนี้แหละ คิดว่าผิวบอบบาง น่าจะใช้ได้ เพราะไม่มันเข้มข้นจนกัดหน้าเรา ราคาไม่แพงมากจนเกินไป ลองไปเทสกันก่อนนะ ว่าชอบเนื้อมั้ย

อ่ะ ว่ากันถึงเรื่องครีม อันนี้คือ ทั้งหมดที่ใช้เลยนะคะ ย้ำว่า เลือกได้ตามสะดวก ตามปัจจัยของแต่ละคนเลยค่ะ :) พูดง่ายๆ อย่า เสีย สติ เหมือน เรา
8. Innisfree Orchid Enriched Cream: ครีมที่สกัดมาจากดอกกล้วยไม้บนเกาะเชจูของเกาหลี ที่จะให้ความชุ่มชื้นได้ล้ำลึก และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี (คำเคลมของนาง) เนื้อครีมแน่นๆ สีม่วงอ่อนๆ กลิ่นก็หอมอ่อนๆ 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: รู้สึกดีค่ะ เหมือนได้รับการบำรุงจริงๆ ชุ่มชื้นดี แต่ไม่มากเวอร์ ตื่นมาก็โอเค หน้าไม่แกร่ก (แบบแห้งแกร่ก)เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนที่อยากได้ความชุ่มชื้นค่ะ และ เหมาะกับคนที่เป็นยุนอา หรือ ลีมินโฮ (เอ้า) ราคาไม่แพงมาก แต่ก็หลักพันนะ ราคาสมเหตุสมผลแหละ 
9. Shiseido Multi Bright Night Cream: ครีมที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส แล ความชุ่มชื้น เพราะเนื้อสัมผัสเป็นเจล หนืดๆนิดนึง เลยรู้สึกเหมือนเอาเยลลี่ใสๆมาทาหน้า แต่ไม่เหนอะนะ โอเคมากกก เวลาลงแล้วรู้สึกดีเลย 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: พูดอีก ก็จะหาว่าเวอร์ รู้สึกดีสิ ชอบเนื้อสัมผัสนาง มันสบายหน้า เหมือนเราได้รับการบำรุงจริงๆอะ ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ยังไม่แน่ใจนะ แต่ชอบ กลิ่นก็ดี เนื้อซึมไม่ไวมาก พอซึมแล้วไม่ได้หายวับไปเลย ยังทิ้งความฉ่ำไว้บ้าง เหมาะกับใคร: ใครที่รู้สึกว่าผิว Dull ลองไปลองดูนะ พอผิวเรามันทึมๆ มันก็จะแอบแห้งๆ หรือใครผิวมัน ก็ต้องลองนะคะ มันช่วยให้ชุ่มชื้นได้ดี ลงหลอกผิวเรา ว่าที่หน้ามีน้ำพอแล้ว ไม่ต้องปล่อยน้ำมันออกมาแล้วนะยะ ราคาแอบแรงเบาๆ สมกับซิเซโด้ 
10. Amorepacific Moisture Bound Rejuvenating Cream: ครีมเนื้อสัมผัสบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากกกกก คือมันเป็นครีมที่เบา เหมือนมีส่วนประกอบเป็นเจลแต่หน้าตาเหมือนครีม มันจะหนืดๆ แต่ชุ่มชื้นมากเลยนะ ชอบมากเลยจริงๆ ใช้ตอนไปเกาหลีช่วงหนาวๆ นางก็เอาอยู่ค่ะ ตื่นมาหน้ายังมีความฉ่ำๆ รู้สึกดีมากกกกกกก เนื้อซึมไม่เร็วมาก แต่โอนะ ชอบ ค่อยๆนวดวน 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ชอบค่ะ ย้อนไปอ่านด้านบน คงรู้ว่า เออ มันชอบจริงๆ ชุ่มฉ่ำ หน้าเปียกสมใจเลยเหมาะกับใคร: คนที่ผิวแห้งมากๆ น่าจะชอบนะ เพราะมันช่วยได้ดีเลย แต่ข้อเสียคือ ไม่มีในประเทศไทยค่ะ คนรู้จักก็น่าจะไม่เยอะมาก แถมราคาก็แพงเวอร์ (เอ้า) ก็นางเป็นแบรนด์ท๊อปของ amorepacific เอาชื่อบริษัทมาตั้ง เสียหน้าไม่ได้ วัตถุดิบต้องพรีเมียมค่ะ เริ่ด
11. La Mer Creme de La Mer: เราใช้แบบเนื้อครีมสูตรออริจิ นางเข้มข้นมากกกกกกกกกกกกกก ใช้นิดเดียวพอนะ แล้วต้องเอามาวอร์มบนมือก่อน จนมันใส อย่าวอร์มเยอะไปนะแก เดี๋ยวกลายเป็นครีมทามือ แล้วค่อยเอาไปกดๆ บนผิว ก็ให้ความชุ่มชื้นได้ดีประมาณนึง รู้สึกช่วยรักษาสมดุลหน้าได้ดี งงปะ เขาเคลมว่าช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ไรงี้ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกนะ แต่ชอบเหมือนกัน ลงแล้วรู้สึกดี เนื้อซึมไวจ้า
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: แพง อีกแล้ว ราคามันเนี่ย แพงเวอร์ แง้ แต่ก็เออ ชอบแหละ พอลงบนหน้าแล้วรู้สึกได้รับการบำรุง ที่ล้ำลึก ก็คงซื้อต่อไปเรื่อยๆ เก็บหอมรอมริบ กินผักต้มกับน้ำพริด เก็บตังมาซื้อครีม (เด็กๆห้ามทำตามนะคะ)เหมาะกับใคร: คนที่มีอยากลงทุนด้านสกินแคร์ค่ะ 55555 เพราะมันแพง แนะนำให้คิดแล้วคิดอีก ก่อนจะซื้อ อ่านรีวิวหลายๆคนนะ 
12. Physiogel Daily Moisture Therapy: moisturiser ที่ชุ่มชื้นมาก ราคาไม่แพงเลย สามารถใช้ได้มากตามต้องการ ไม่ทำให้แพ้เพราะเป็นเวชสำอาง วันไหนต้องการความชุ่มชื้นหนักมาก หรือเวลาไป ตปท. อยากเอาไปทาเยอะๆ ก็แนะนำนะค่ะ เป็นหลอดๆ พกพาได้สะดวก เหมาะมากกับการแบ่งไปทาบนเครื่องบิน ตอนไหนรู้สึกว่าแห้ง ทาค่ะ แห้งปุ๊ป ทาปั๊ป เนื้อซึมไวนะ ไม่เหนอะหนะ
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: ชุ่มชื้นค่ะ ไม่รู้ผลระยะยาวมันจะเบอร์ไหน แต่หน้าชุ่มเลยนะหลังทา ชุ่มแบบไม่เปียกอะ เข้าใจมั้ยอะ ฮือออ พูดแล้วงงเด้อ แล้วด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นเวชสำอาง เลยรู้สึกว่าช่วงไหนผิวอ่อนแอมาก สิวเห่อ กลัวเป็นไรนั่นนี่ ก็ใช้ตัวนี้ รู้สึกปลอดภัยดีค่ะเหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกคนบนโลกนี้ นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ทุกคนบนโลกที่รู้สึกว่าผิวแห้ง และ ต้องการความชุ่มชื้น ใช้ได้หมดค่ะ ราคาเป็นมิตร คุณภาพคับแก้ว ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย จะเริ่ดสุด 
13. La Mer The Eye Balm Intense: ครีมที่จะช่วยเสริมความกระชับเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา เนื้อครีมสีเขียวๆอ่อน ตอนแรกเปิดมา งง ว่าทำไมมันเขียวๆ ไม่มีกลิ่น เนื้อสัมผัสตอนแรกคิดว่าหนักเพราะคำว่า Intense แต่ไม่จ้ะ นางเบาอยู่ ซึมไวดีค่ะ 
ใช้แล้วรู้สึกยังไง: รู้สึกดีเพราะมันซึมไวดี ส่วนเรื่องผล เดี๋ยวขอใช้ไปสักพัก แล้วจะอัพเดทในไอจีนะ แต่ตอนนี้ชอบเพราะเนื้อนางเบา เหมาะกับใคร: ตามที่บอกไปในทุกผลิตภัณฑ์ La Mer ด้านบนค่ะ 55555 


เหยยยยยยยยย หมดล้าวววววววว ที่ใช้หลักๆก็ประมาณนี้นะคะ ตอนกลางคืนเท่านั้นนะแจ้ะ จริงๆ มีตัวอื่นอีก (ริน=ผีบ้า) เป็นบ้าปะ เหมือนคนเป็นโรคประสาทอะค่ะ กว่าจะได้นอน ลงกี่ชาติกว่าจะเสร็จ แต่เอาจริงแปปเดียวนะ ลงครีมไป ดูยูทูปไป แปปเดียวก็เอ้า หมดละ ไรงี้ อย่าลืมลงสกินแคร์นะคะ ไม่ว่าจะขี้เกียจเบอร์ไหน อย่างน้อยก้อโปะ sleeping mask ไว้อย่างนึงก็ยังดีค่ะ ไม่มีก็ moisturiser ที่เราใช้อยู่ โบกเข้าไปค่ะ


ตอนนี้บายก่อนค่ะ พิมพ์ยาวมาก คิดว่า dissertation โอ้ย 



ririnb

ririnb

Natural Addiction: Natural beauty is a key to the best version of you.
เสพย์ติดความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะแต่งลุคไหน คีย์สำคัญคือ ความเป็นธรรมชาติค่ะ

FULL PROFILE