แกะกล่อง The Ordinary รองพื้นสองสูตร Skincare ปังแล้วรองพื้นจะปังหรือพัง?

21 6
สวัสดีค่ะช่วงนี้รีวิวถี่เว่อเพราะมีของเล่นใหม่ๆที่ฝากคนอื่นซื้อทยอยเดินทางกลับไทยเพียบ แถมช่วงนี้งานไม่พีคมากหนีมารีวิวได้ 555
ของที่จะมารีิวิววันนี้คือรองพื้น The Ordinary ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกมา 2 สูตรคือรุ่น Coverage กับ Serum ทั้งสองสูตรจะมาพร้อมกับ SPF15 ซึ่งไม่น่าจะตบตีกับแดดเมืองไทยได้
ทั้งสองรุ่นมีการ claim คุณสมบัติไว้แบบเรียบง่ายมากตามนี้
- Coverage Foundation: A high-coverage creamy foundation that softens undesirable hues.
- Serum Foundation: A serum-textured natural coverage foundation softens undesirable hues and visibly reduces imperfections.
ณ จุดนี้งงว่าทำไมรุ่น Serum ดูเขียนเหมือนจะตั้งใจขายมากกว่า 555 แต่ทั้งสองรุ่นมีการระบุไว้ชัดเจนว่าก่อนใช้ให้เขย่าก่อนค่ะ
แต่ความเด็ดดวงของรองพื้นเจ้านี้ไม่ได้อยู่ตรงคุณสมบัติเว่อวังอะไรนะคะ ทาง Brand ค่อนข้าง claim ไว้แบบเรียบง่ายมาก แต่มันเด็ดอยู่ตรงเฉดสีที่ออกมาให้เลือกนี่แหละค่ะ คุณพระ!!เยอะเว่อจนขี้เกียจนับ Fenty หรือ MAC นี่มีอายได้เหมือนกันนะ ตอนเลือกนี่เลือกยากจริงๆเพราะไม่ได้ไปลองเองต้องกะเอา จนสุดท้ายมาจบที่ 1.2YG หรือ Light Yellow Undertones with Gold Highlights ตอนแรกอีนี่ตาแตกมากอะไรคือ Gold highlights ฟระ ปกติยี่ห้ออื่นคือจบแค่ Pink Neutral Yellow อียี่ห้อนี้มันมี higlights ไปอีกกกก ด้วยความที่ผิวออกเหลืองมากและรองพื้นที่เคยใช้มาส่วนใหญ่เหลืองไม่พอดีผิวเราเลยลองจัดอันนี้มาละกัน
ปล.ปกติจะใช้ MAC nc20 ค่ะ
พอลองเนื้อของรองพื้นทั้งสองรุ่นบนผิวจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ารุ่น Serum เนื้อเหลวจนเกือบจะเป็นน้ำแล้วพอปาดนิดเดียวหายไปกับผิวเลยไม่ต้องใช้ฟองน้ำหรืออะไร Blend ทั้งสิ้น รุ่น Coverage ก็จะมีความหนืดขึ้นมาอีกระดับแต่ก็ไม่ได้หนืดขนาดรองพื้น Coverage บางยี่ห้อนะ ยังมีความเกลี่ยได้และ Build-up ได้สำหรับจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ
เอาละค่าาาาาา ถึงเวลามาทดสอบแล้วว่ารองพื้นตัวนี้จะปังหรือจะพัง วันนี้จะทดสอบโดยทามันอย่างละครึ่งหน้าและดูว่าหลังจากทา 8 ชม.หน้าจะเป็นยังไงจะรอดไหมโดยไม่มีตัวช่วยใดๆ มีแค่ finishing powder แบบไม่คุมมันเลยเพื่อ Set รองพื้นเท่านั้น
ถ้าดูจากรูปด้านล่างจะเห็นเลยว่า Serum จะให้ finish look ที่ดูเป็นงานผิวจริงๆ ผิวยังดูโปร่งเหมือนผิวจริงมีความเงาแต่จะออกสว่างขึ้นและสีผิวเสมอกันมากขึ้น
ส่วนรุ่น Coverage ก็ตามชื่อรุ่นคือจะปกปิดเยอะกว่าและได้ลุคที่ดู Matte กว่า แต่ยังไม่ cakey หรือหนาเกินเหมือนบางยี่ห้อนะ แต่ก็เนียนอยู่แบบให้รู้ว่านี่แต่งหน้ามานะ 
เอาแบบซูมๆด้วยแล้วกันหลังลงรองพื้นจะเห็นเลยว่ารุ่น Serum จะทำให้หน้าดูสว่างขึ้นทั้งที่เป็นเบอร์เดียวกันแต่ริ้วรอยต่างๆก็ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย เหมือนแค่กระจายแสงให้หน้าดูสีผิวผ่องและสม่ำเสมอขึ้น แต่ Coverage จะคงสีเดิมแบบที่กดออกมาจากขวดและปกปิดได้ดีกว่าชัดเจนลองดูได้จากรอยสิวที่คางค่ะกลบได้เนียนอยู่โดยที่ไม่ได้ build-up หรือมาลงซ้ำเฉพาะจุด แต่ที่ไม่ชอบทั้งสองรุ่นนิดนึงคือมันแอบตกร่องตรงจมูกที่เป็นขุยๆอ่ะ 
อันนี้ต่อกันที่ทดสอบความทนและคุมมันของรองพื้นโดยวันนี้อยู่บ้านทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนอยู่ห้องแอร์บ้างสลับกับทำงานบ้านบ้าง เกริ่นนิดนึงว่าเราเป็นคนผิวผสมรองพื้นส่วนมากที่ใช้ก็จะไม่ค่อยรอดช่วง T-zone เป็นปกติ โดยผลที่ได้คือมันไม่คุมมันจ้า 555 หน้ามีความ dewy เว่อแบบไม่ต้องสาดไฮไลท์ แต่ที่เราสังเกตหลังใช้คือทั้งสองรุ่นไม่ oxidize ค่ะ หน้าไม่หมองยังดูเหมือนตอนที่เราลงใหม่ๆ รุ่น serum อาจจะดูสว่างน้อยลงหลังจากรองพื้น set ตัวกับผิว
แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบของรองพื้นทั้งสองรุ่นคือหลังจากซับมันก็ดูเวิร์คอยู่นะ รุ่น Serum จะค่อนข้างละลายติดกระดาษซับมาออกมาแต่รุ่น Coverage มีความติดทนคงกระพันมากกว่ารอยสิวต่างๆก้ยังคงปกปิดได้ดี แต่ผิวก็จะไม่ได้ดูแมตอลังการนะคะ สำหรับใครที่ชอบลุคแมตอาจจะต้องพกแป้งไปเติมระหว่างวัน
ขอสรุปทั้งสองรุ่นตามนี้เลยละกัน

Serum - งานผิว natural-look เนื้อบางไม่ปกปิด ไม่คุมมัน กระจายแสงดี รุ่นนี้มันดูผิวมากจริงๆแบบแอบแต่งไปโรงเรียนครูคงจับไม่ได้อ่ะ 555 เหมาะสำหรับคนผิวแห้งหรืออยู่ในห้องแอร์ทั้งวันไม่งั้นเยิ้มละลายจ้า

Coverage - งานเป๊ะ ปกปิดดีสีไม่เพี้ยนไม่ดรอประหว่างวัน มีสีให้เลือกเยอะมากเป็น Avartar ก็ยังหาสีที่ match ได้ แต่แต่แต่...ไม่คุมมัน ซับหน้าช่วยคุณได้แต่ใครผิวแห้งน่าจะปังมาก

สรุปว่ารองพื้นทั้งสองรุ่นนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้งเพราะไม่มีคุณสมบัติคุมมัน แต่ส่วนตัวเราคิดว่ารุ่น Coverage เวิคกว่าสำหรับเราเพราะถึงจะไม่คุมมันแต่พอซับมันออกก็กลับมาเป๊ะเหมือนเดิมแม้จะไม่ได้แมตเหมือนตอนแต่งหน้าใหม่ๆ ประกอบกับราคาที่ตีเป็นเงินไทยตกออกมาขวดละประมาณ 300 บาทมันต้องให้จริงๆอ่ะ 555
อ่านแล้วใครมีกิเลสก็อาจจะต้องขวนขวายนิดนึงเพราะมันไม่มีขายในไทย อาจจะต้องให้เพื่อนหรือแม่ค้าหอบหิ้วมาสนองกิเลสเรา ซึ่งเชื่อว่าแม้วางขายอยู่ที่ขั้วโลกสาวๆอย่างเราก็จะไปหาวิธีซื้อมาจนได้ 555


greenmelon

greenmelon

ผู้หญิงทุกคนย่อมมีความสวยในแบบฉบับของตัวเอง เพียงแค่เรารู้จักดูแลตัวเองอยู่เสมอ

Follow me on instagram : plaipuru

FULL PROFILE