นั่งเล่นมือถือ เลื่อนฟีดไปๆ มาๆ ดันไปเจ๊อะกับรีวิวคุณพี่ปูเป้เข้าให้ ดูแล้วน่าสนใจพอตัว
กับสกินแคร์เพื่อผิวผสมของแบรนด์ Aesop: In Two Minds
ซึ่งสภาพผิวผสมเนี่ย เรามองว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างเลือกสกินแคร์ให้เหมาะได้ยากพอตัวเลย โดยจากประสบการณ์ตรงของคนเป็นผิวผสมแบบเรา ที่มันช่วง T Zone และแห้งช่วง U Zone  จะใช้สกินแคร์ที่แก้ผิวมัน ก็ดันไปแห้งช่วงแก้มลอกขุย จะใช้สกินแคร์รักษาผิวแห้งก็ดันไปทำจมูกหน้าผากมันแผล่บ แง้ๆๆๆ งงเอาใจผิวไม่ถูกแล้วเด้อ สรุปเลย…ถ้าเลือกใช้ไม่ดีสมดุลผิวมันก็จะเสียอย่างใดอย่างนึงไปอ่ะจ้ะ

พอมาเจอสกินแคร์ที่บอกกันตรงๆ โต้งๆ ว่าช่วยเยียวยาผิวผสมนะจ้ะ ก็หูพึ่ง มือสั่นๆ อ่านรีวิวพี่ปูเป้ไป ก็กระตุ้นต่อมความอยากมี อยากได้ของคนชอบดูแลผิว และทดลองสกินแคร์ใหม่ๆ แบบเรา

รอ…อะไรกันอยู่ล่ะ ทำงานใกล้พารากอนด้วย ตรงดิ่งไปที่ Beauty Hall สิจ้ะแล้วไปสอยนางทั้ง 3 ตัวมา และธรรมเนียนการใช้สกินแคร์ใหม่ของเราแล้วนั้น ก็ต้องมาขี้เห่อ ขี้อวดกันสักหน่อย ว่าแต่ตอนนี้ตัวเบาหวิวแล้วจร้า

ตัวเจลใสๆ ล้างหน้ามาพร้อมหัวปั้มให้เปลี่ยนตอนใช้งานจริง เพราะตอนแรกนางจะเป็นฝาขวดหมุนๆ มาก่อนค่ะ ปั้ม 2 ครั้งคือปริมาณที่พอเหมาะกับการใช้ ผสมน้ำเล็กน้อย ฟองไม่แยะ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของ Aesop ที่คล้ายอโรม่า
หรือสปาระดับพรีเมี่ยม ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเวลากลิ่นแตะจมูก ส่วนเนื้อเจลที่ละลายน้ำแล้วสัมผัสผิวหน้ารู้สึกละมุนมว๊ากกก ยิ่งตอนถูวนๆ ที่ผิวหน้า เฮ้ยยยเริ่ดอ่ะ แล้วตอนล้างนี่คือดีงามล้างออกง่าย ผิวไม่เอี๊ยด ไม่แห้งตึง แต่กลับให้ความรู้สึก
ว่านุ่มชุ่มชื้นแทน เสมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบผิวหน้า เราลองทิ้งช่วงก่อนลงบำรุง เพราะโดยปกติแล้วหลังล้างหน้า อาบน้ำเสร็จจะให้ผิวหมาดๆ แล้วลงบำรุงเลย แต่รอบนี้อยากเทสหน่อยว่าถ้าลองปล่อยทิ้งไว้ไม่บำรุง T Zone และ U Zone จะเป็นไงบ้าง
ปรากฎว่าผิวไม่แห้งไม่มัน ผิวธรรมดาปกติดีเลย ตอนจิ้มแก้มผิวยังคงเด้งๆ นุ่มๆ ชุ่มชื้นอยู่ จัดว่าตัวล้างหน้านางผ่านค่ะ

ถ้าหมดต่อให้แพงอันนี้เราจะซื้อซ้ำ ณ บัดนาวเราขอจัด Aesop : In Two Minds Facial Cleanser ให้อยู่ในกลุ่มลูกรักของเราอีกตัวค่ะ เพราะหามานานแล้วสำหรับตัวทำความสะอาดหน้าที่ไม่ทำให้ผิวมันเกินไป หรือแห้งเกินไปแบบนี้

เราคือสาวกติด Toner แบบหนุบหนับจริงๆ จากรีวิวที่ผ่านๆ มาเราจะมีลูกรักเป็น Fresh กุหลาบ แต่ไหนๆ รอบนี้ก็ยกเซทซีรี่ย์นี้มาแล้ว ก็ต้องลอง Toner ของแบรนด์นี้กันหน่อย หลังล้างหน้าเราเทนางหยดๆ ใส่สำลีแบบรีดข้าง
เนื้อคอตตอน ที่จะไม่กินเนื้อ Toner มากเกินไป ทำไมล้างหน้าแล้วต้องใช้ Toner หลายคงอาจสงสัย ทุกอย่างมีข้อดีค่ะ

การใช้ Toner หลังจากล้างหน้า เป็นการช่วยเช็ดทำความสะอาดสิ่งตกค้างในผิวหน้าได้อีกระดับ ฟังแบบนี้แล้วคนที่ห่วงสิว กลัวการอุดตัน และผิวอักเสบ คือควรทำขั้นตอนนี้อย่างมาก แล้วยังช่วยให้เป็นการเตรียมผิวที่ดี ทำให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เหมือนเราได้เคลียร์ผิวให้สะอาดๆ รอรับการบำรุงจากสกินแคร์ให้ได้ผลล้ำลึกขึ้นค่ะ กลับมาที่ตัวนี้ค่ะ ความพึงใจหลังการใช้ คือผิวผ่อนคลายดีค่ะด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของ Aesop เค้าล่ะค่ะ ช่วยเยียวยาฟื้นฟูจิตใจที่เหนื่อยล้าได้จริง คือไม่เว่อร์นะ สำหรับเราเรื่องกลิ่นนี่สำคัญมาก พอเช็ดตัวนี้แล้วรู้สึกผิวได้รับความนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีก 

มาถึงนางเอกของเราที่ทำหน้าที่เป็นตัวบำรุงที่แท้ทรู ตัวนี้จากส่วนผสมที่เค้าแจ้งมาเรามองว่าบรรดามนษย์สิว หรือผู้มีผิวอักเสบแสนง่ายได้ และแพ้มลภาวะสารพิษต่างๆ น่าใช้มากค่ะ เพราะมี Copaifera Officinalis (Balsam Copaiba) Resin พี่ปูเป้บอกในรีวิวว่า สารตัวนี้มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย ยีสต์ ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าช่วยทำให้ผิวสะอาดลดปัญหาเรื่องสิว แถมยังมีตัว Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Oilที่ช่วยปลอบประโลมผิวด้วย เราอ่านแล้วดูน่าสนใจสำหรับผิวเรา


ตอนนี้มากที่โดนสภาพอากาศที่หนาวเย็นในหน้าร้อนแบบงงๆ และก็กลับมาร้อนมากๆ ตามสไตล์เมษาเมืองไทยเนื้อสัมผัสที่เราได้ในการทาตอนแรกเลยคือแอบเหนอะหน่อยๆ แต่พอเอานิ้วมือคลึงเกลียแล้วก็กลืนไปกับผิวแบบง่ายดาย จนสงสัยว่านี่ใช่เนื้อเดียวกะที่ลงผิวตอนแรกป่ะ? เอาจริงๆ โดยรวมสำหรับเราถือว่าเป็นตัวบำรุงที่ใช้ได้ดีเลย

ขอสรุปความในใจจากการลองใช้ซีรี่ย์ In Two Minds 

ของ Aesop ระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สมดุลผิวดีขึ้นแบบเห็นชัดเลย คือผิวที่ลอกขุยที่แก้ม ช่วง U Zone ช่วงอากาศเย็นๆ ที่ผ่านมาหายไป จมูก หน้าผากของ T zone ที่เคยมันๆ หนึบๆ ผิว
ลดลงเห็นได้ชัดเจน ถ้าเทียบเป็นการแต่งหน้าคือฟีลว่า ผิว T Zone มันแมทซ์ขึ้นน่ะค่ะ แต่โดยรวมคือผิวไม่แห้ง ไม่มัน กลายเป็นคนผิวหน้าธรรมดา

แต่งหน้าเบาๆ ลงแค่คุชชั่นก็อยู่ได้ทั้งวันไม่ต้องเติม รูขุมขนของตัวเองที่ว่าเล็กแล้ว มาเห่อขยายขึ้นช่วงผิวแพ้อากาศก็เล็กลง และหลังจากใช้ไป 2 – 3 วัน
ผดผื่น ผิวอักเสบที่เกิดจากช่วงที่อากาศแปรปรวนก็ยุบลงตามด้วยค่ะ นี่ก็คงเป็นผลให้รูขุมขนหดเล็กลง หน้าเลยเนียนขึ้นไปโดยปริยาย

เอาเป็นว่าใครเงินถึงๆ แล้วอยากหาสกินแคร์ที่ช่วยเรื่องผิวผสม แถมยังเป็นคนผิวแพ้ง่าย Aesop : In Two Minds 3 ตัวนี้ ก็ถือว่าน่าสรรหามาใช้มว๊ากกก จะใช้ครบยกเซทก็ได้ หรือจะเลือกใช้ตัวที่เหมาะกับผิวตัวเองก็ได้ เพราะซีรี่ย์นี้สามารถนำไปใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้ไม่มีผลกระทบเน้อ