The dark side of Asia's Entertainment industry - ด้านมืดของวงการบันเทิงเอเชีย

แฟนพันธุ์แท้ของคนดังมักมากับเสียงกรี๊ดจากความตื่นเต้นดีใจ  ความหลงไหลอยากจะได้เห็นหน้าไอดอล  ยิ่งถ้าได้ใกล้ชิดต่อมน้ำตาก็แทบจะระเบิด บางคนอาจจะทุ่มเงินสนับสนุนผลงานและของที่ระลึกและคอยติดตามให้กำลังใจเมื่อไอดอลปรากฏตัวสาธารณชน ยิ่งคลั่งไคล้มากเท่าไร พฤติกรรมของแฟนๆ ก็จะดูเวิ่นเวอต่างกันไป ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้สายรั่วก็อาจถูก buzzfeed เอาเรื่องราวไปสร้าง content แชร์ให้ขำต่อ ใครสายเปย์ก็อาจกระทบไหล่คนดังแบบสวยๆ


แต่ถ้าเป็นแฟนสายสยองขวัญล่ะ  ?

แทคยอน 2 PM กับจดหมายเลือดประจำเดือน!

เรื่องแฟนคลับไอดอลนั้น  จากสายตาคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 30 กว่าปี ก็พอจะเข้าใจได้นะว่าพฤติกรรมสุดโต่งที่ได้ยินมาหลายๆ ครั้งนั้นมันอาจจะมาจากฮอร์โมนเด็กสาวที่พลุ่งพล่าน  ผู้ใหญ่ตั้งเยอะแยะที่ยอมรับว่าตอนเป็นวัยรุ่นนั้นเคยคลั่งศิลปินมากจนทุ่มทุนสร้างทำสิ่งที่มองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกอับอายเหลือรับ  ด้วยความที่กลุ่มเป้าหมายของศิลปินที่ขายรูปลักษณ์มาคู่กับความสามารถทางการแสดงเป็นแพ็คเกจนั้นจะเป็นวัยรุ่นตั้งแต่สิบกว่าขวบไปจนถึงยี่สิบต้น ๆ การแสดงออกของแฟน ๆ  บางคนก็อาจจะชวนให้คิดว่า  "แหม่ ทำไปได้"

 แต่เรากำลังพูดถึงการส่งจดหมายพร่ำเพ้อที่เขียนด้วยเลือดประจำเดือนและตัดขนเพชรของตัวเองส่งไปให้ไอดอล...   อันนี้ล้ำเส้นไป 800 กิโลเมตรค่ะท่านผู้ชม!

"ชั้นขอมอบจดหมายที่เขียนด้วยเลือดประจำเดือนให้กับแทคยอน    โอเคนะ แทคยอน  เธออยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีชั้น   แถมกระจุกขนตรงที่ลับมาให้ด้วยนะ"   ข้อความที่เหมือนหลุดมาจากมิติที่บิดเบี้ยวนี้ทำให้เกิดการตามล่าตัวคนทำ และมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นเรื่องโกหกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากชาวเน็ท  เจ้าตัวท้าทายให้พิสูจน์ด้วยการโชว์คราบเลือดบนผ้าอนามัย ...!!! กระแสความโกรธเกรี้ยวจากชาวเน็ทยิ่งหลั่งไหลโจมตีอย่างรุนแรงจนเจ้าตัวต้องประกาศขอโทษแทคยอนและแฟนๆ  เธอยืนยันว่าไม่ใช่ antifan แต่เป็นผู้หญิงที่หมกมุ่นกับแทคยอนมากมายก็เท่านั้น  

หรือจะเป็นการกรีดข้อมือรีดเลือดไปเขียนจดหมายถึง  Lee Joon วง MBLAQ's  การหลั่งโลหิตพิสูจน์ความรักนั้นฟังดูสยดสยอง และเมื่อนึกถึงตัวศิลปินแล้วก็น่าเห็นใจที่ต้องมาพานพบกับเรื่องราวทำนองนี้   เอเจนซี่อาจจะมีการคัดกรองไม่ให้มีจดหมายแปลกปลอมหลุดไปถึงมือศิลปิน


แต่บางครั้ง การรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่นก็ยังไม่อาจปกป้องพวกเขาจากความหมกมุ่นที่กลับกลายมาเป็นความคิดมุ่งร้าย

เมื่อก่อนเราคุ้นเคยแต่คำว่า  hater  เพียงแค่เปิดเว็บกอสสิปที่มีกล่องคอมเมนท์ก็จะพบคำวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ทต่อคนดังที่พวกเค้าไม่ชอบขี้หน้า  แต่เมื่อกระแสเกาหลีเข้ามายึดครองเอเชีย เราจึงได้มาค้นพบกับคำว่า Anti-Fan  คนที่หมกมุ่นในตัวคนดังด้วยความประสงค์ร้าย เฝ้าคอยแกะรอยติดตามและวางแผนสร้างความเดือดร้อนไปถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต!

Yunho แห่ง TVXQ ได้เล่าถึงวินาทีที่รับเครื่องดื่มจาก anti-fan ที่ปลอมตัวเข้ามาปะปนในทีมงาน  แล้วเขาถึงกับอาเจียนออกมาเป็นเลือดและหมดสติไป "ตอนนั้น ผมมีความคิดวูบขึ้นมาว่าเลิกเป็นคนดังไปซะคงดีกว่า  แม้แต่จะทักทายผู้คนผมก็ยังทำไม่ได้เต็มที่ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า panic attack ได้มั้ย  มันหลอกหลอนจนผมต้องไปปรึกษาแพทย์  ผมขุ่นเคืองมากที่ตัวเองต้องมาฝังใจกับเรื่องนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลือกที่จะดื่มเครื่องดื่มยี่ห้อเดียวเท่านั้นครับ"

ช่วงที่เจย์ พัคถูกมรสุมต่อต้านเพราะมีคนเอาข้อความที่โพสท์ระบายอารมณ์จากความเก็บกดสมัยเป็นเทรนนีมาแฉ และในที่สุดเค้าก็ต้องออกจากวง  2PM ไป  เจย์ พัคเป็นหนุ่มอเมริกันเต็มขั้นและมีปัญหากับการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานและใช้ชีวิตในสังคมเกาหลี  คำพูดที่ดูเหมือนเด็กปากเปราะนั้น ถ้าลองมองแบบกลางๆ แล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าไม่ว่าใครก็อาจจะมีโมเมนท์แบบนั้นได้  ลองคิดถึงตอนที่เราต้องไปอยู่ในบ้านเมืองที่ไม่รู้จักมาก่อน ยังไม่เข้าใจวัฒนธรรม  การเข้าสังคม อาหารการกิน ทุกอย่างดูลำบากไปหมด เมื่อเขาต้องชดเชยความผิดพลาดจากการไม่ระวังคำพูดด้วยการจบเส้นทางเป็นสมาชิกบอยแบนด์ที่โด่งดังก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อกันแล้ว แต่มันช่างน่าสะพรึงที่ได้รู้ว่ามีแคมเปญ "แจบอมควรไปฆ่าตัวตายซะ" และมีคนลงชื่อร่วมกว่า 3000 คนก่อนที่จะถูกลบไป ในสายตาของคนที่มีลูกอย่างเราก็ได้แต่กังขาว่ามีเด็กวัยทีนกี่คนที่ได้ลงชื่อเรียกร้องให้ศิลปินจบชีวิตตัวเองเพียงเพราะเขาเคยพูดในสิ่งที่ไม่ถูกใจ ....?

"รักแรง เกลียดยิ่งแรงกว่า" อาจจะเป็นสิ่งที่เราได้ยินอย่างต่อเนื่องจากวงการแฟนคลับ K Pop  แม้แต่ศิลปินที่เป็นที่รักจากผู้คนจำนวนมาก แต่ถ้ามีข่าวใดที่ไปยั่วยุความรู้สึกแม้แต่นิด คนบางกลุ่มก็พร้อมที่จะใช้ถ้อยคำประหัตประหารความรู้สึกกันทางโลกออนไลน์  และเลวร้ายไปกว่านั้นคือตามไปรังควานเป้าหมายให้ทุกข์ทรมานใจ 

คุณอาจจะถอนหายใจเมื่อสาวไปถึงสาเหตุที่ศิลปินหญิงถูกรังควานแล้วพบว่ามักจะหนีไม่พ้นเรื่องหึงหวง  นักแสดงสาว Kang Eunbi นั้นถูกปล่อยข่าวลือพัวพันกับ Park Yoochun  หนุ่มที่เคยขึ้นชื่อว่าแฟนคลับหวงราวกับจงอางหวงไข่  วิบากกรรม  anti-fans จึงเริ่มต้นขึ้น เธอถูกปล่อยข่าวลือเสียหายและตามโจมตีรูปลักษณ์จากหัวจรดปลายเท้า ดูถูกดูแคลนผลงานดนตรีและการแสดง  ถูกคนปาไข่ นม ทิชชูใส่ที่กองถ่าย น้องชายถูกรังแกที่โรงเรียนจนต้องขอร้องให้พี่สาวออกจากวงการ  เธอซึมเศร้าอย่างหนักจนต้องพบจิตแพทย์ และร้ายที่สุดคือความพยายามที่จะฆ่าตัวตาย 

ที่น่าสลดไปยิ่งกว่าคือการถูกแฟนคลับที่ก้าวข้ามเส้นความรักในตัวศิลปินมาเป็นความคลั่งไคล้ต้องการเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็มาเฉียดเข้าใกล้ไอดอลไม่ได้   แต่ถ้ากล้่าเข้าใกล้ แฟนบ้าเลือดบางคนอาจจะลงมือทำรุนแรงจนชีวิตของใครคนนั้นพังทลายและจบลงด้วยความตาย!

เด็กสาวที่ไปออกวาไรตี้โชว์โด่งดังเพื่อนำเสนอเรื่องราวในการลดน้ำหนักถึง 40 กิโลกรัม เธอได้ถ่ายรูปคู่กับคังอินจากวง Super Junior หลังเวที  เมื่อภาพนี้ปรากฏใน Cyworld  จากชีวิตเด็กสาว 16 ที่น่าจะมีความสุขที่สุดหลังจากการลดน้ำหนักแล้วกลายเป็นคนใหม่ก็ดำดิ่งสู่ความตึงเครียด  เธอถูกแฟนของไอดอลหนุ่มตามถากถางด้วยคำพูดร้ายกาจโลกออนไลน์ มีคนสืบหาข้อมูลของเธอแล้วโทรไปด่าว่าขู่เข็ญ ไม่เว้นเพื่อนที่โรงเรียนที่ผสมโรงโจมตี เพื่อนของเธอได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่าเธอเคยระบายในเพจว่ารู้สึกแย่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้น  และในที่สุดแม่ของเธอก็พบร่างไร้วิญญาณของลูกสาว  เธอตัดสินใจผูกคอตายหลังจากที่ลดน้ำหนักสำเร็จ  แม้แม่ของเธอจะให้ความเห็นว่าลูกสาวมีความเครียดจากการควบคุมน้ำหนัก  แต่ผู้คนก็ยังโทษแฟนคลับไอดอลที่ตามราวีเด็กสาวผู้นี้   มีแฟนคนหนึ่งยอมรับด้วยซ้ำว่าเธอเป็นหนึ่งในคนที่ส่งข้อความรุนแรงถึงผู้ตาย และเมื่อได้รู้ตัวว่าทำสิ่งไม่ดีลงไปก็สายเกินไปแล้ว

ลองหลับตานึกถึงเด็กสาวที่ยังอ่อนวัยที่ต้องทรมานใจจากเรื่องน้ำหนักตัว  ตอนที่เธอยังอ้วนอยู่  ผู้คนรอบข้างปฏิบัติกับเธอไม่ดีนัก ต้องรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธจากสังคมมาโดยตลอด แต่พอลดน้ำหนักได้และมีชื่อเสียงจากการไปออกรายการดัง เธอถูกกล่าวหาว่าทำศัลยกรรมดูดไขมันแล้วหลอกลวงคนอื่นว่าอดทนลดน้ำหนักอย่างยากลำบากเพื่อจะเรียกร้องความสนใจ  แม้จะผอมลงสมใจแต่กลับทุกข์ไปกว่าเก่าเพราะถูกรังควานอย่างไร้สติของคนกลุ่มหนึ่ง  ความตายจึงเป็นหนทางที่เธอเลือกในการยุติปัญหา


แต่จะมีใครลุกขึ้นมาหารือกันเพื่อป้องกันแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาหรือไม่ ?

ชายคนหนึ่งได้โทรไปที่สถานีตำรวจเพื่อบอกเล่าว่าเขาต้องการจะใช้มีดแทงสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดัง  แม้ว่าพวกเธอจะปลอดภัยแต่ก็ต้องอกสั่นขวัญแขวนกับคำขู่ฆ่านี้  หลังจากชายคนนี้ถูกจับได้ เขาได้ระบุเหตุผลในการก่อเหตุว่ามาจากความโทสะที่ได้เห็น Apink ออกเดทกับเทรนนีใน reality show เขายังยืนยันว่าตัวเองต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อเพราะทุ่มเทเงินติดตาม Apink มาหลายปีแต่พวกเธอกลับไปเดทผู้ชายอย่างมีอิสระให้ปวดใจซะอย่างนั้น  !

หรือจะเป็นกรณีชายคนหนึ่งที่ขู่ฆ่ามินะวง Twice ด้วยการโพสท์ภาพมีดวางบนข้อมือและบอกว่า "ถ้าเธอไม่ตบแฟนของเธอแล้วฉีกปากของเขาออก ฉันจะไปฆ่าเธอซะ" 

ที่น่าสะพรึงคือ เรื่องขู่ฆ่าไอดอลนั้นเกิดขึ้นมากจนชาวเน็ทบางคนรู้สึกเฉย ๆ ไม่ชวนตระหนกแต่อย่างใด  ออกแนวว่าเป็นความคลั่งไคล้แบบแปลกๆ ของแฟนระดับฮาร์ดคอร์ แม้ว่าจะเคยเกิดเรื่องร้ายแรงกับคนดังมาก่อน  หากพวกเค้าทำอะไรที่ไม่ถูกใจแฟนบางคน  คำขู่ฆ่าจะถูกส่งถึงศิลปินด้วยวิธีต่าง ๆ  และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเบาใจได้เลยสักนิด 

เพราะว่าเคยมีกรณีของศิลปินที่เกือบต้องสังเวยชีวิตให้กับความคลั่งไคล้ที่กลายเป็นพฤติกรรมอันบิดเบี้ยวจากทำนองคลองธรรม  มายุ โทมิตะ  ไอดอลสาวญี่ปุ่นต้องนอนโคม่ากว่าสองสัปดาห์หลังจากถูกแฟนสติหลุดแทงไปที่ร่างกายของเธอ 34 ครั้ง !

ชายคนนี้พยายามติดตามไอดอลสาวแบบไม่หยุดหย่อน  เขาส่งข้อความ ของขวัญ จดหมายโดยไม่ยอมรามือ  เมื่อสถานการณ์เริ่มน่ากลัวจากสัญญาณตามรังควาน  เธอไม่ตอบรับความรู้สึกตามคำร้องขอ  และมันก็ทำให้เขาเริ่มวางแผนติดตามและแอบเข้าไปก่ออาชญากรรมร้ายแรงถึงในห้องแต่งตัวของเธอ