เคล็ดลับความงามของหญิงสาวในอดีต : Beauty Secrets from Most Beautiful Women of History

32 7
เคล็ดลับความงามจากหญิงงามในยุคประวัติศาสตร์ที่อาจจะทำให้คุณตกตะลึง  หนทางไปสู่ความงามเพริศแพร้วเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะเป็นอย่างไร  ลองมาติดตามค่ะ

Marie Antoinette  , Queen Of France

เจ้าหญิงออสเตรียผู้อ่อนเยาว์ไร้ประสบการณ์ที่กลายมาเป็นราชินีฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 และกลายเป็นราชินีองค์สุดท้ายด้วยจุดจบจากเครื่องตัดหัวกิโยตินสยองชวัญ  มีเรื่องเล่ากล่าวขวัญมากมายเกี่ยวกับตัวเธอ แน่นอนว่าความงดงามของมารี อ็องตัวแน็ตจะเลื่องลือมาข้ามวันเวลาจวบจวนปัจจุบัน
Eau Cosmetique de Pigeon 
ผลิตภัณฑ์ชำระล้างผิวหน้าที่เห็นแค่ชื่อแล้วคุณอาจจะลังเลสงสัย   เราล้างด้วยนกพิราบได้ด้วยหรือ ?


ใช่แล้วค่ะ  สูตรการล้างหน้าสุดพิสดารนี้มาจากเดนมาร์ก เป็นการนำเอาน้ำคั้นจากผลไม้ ดอกไม้ ถั่ว น้ำตาล บอแรกซ์ การบูร ไวน์ขาวมาผสมกับสตูว์นกพิราบแปดตัวมาใส่ในภาชนะกลั่น  และใช้เวลา 17-18 วันเพื่อจะกลั่นให้ได้ "น้ำพิราบ" มาใช้ล้างหน้าเพื่อผิวพรรณที่งามสุดยอด



ตอนที่มาเยือนฝรั่งเศสใหม่ๆ  ราชสำนักต้องรีบแปลงโฉมผู้ที่จะเป็นว่าที่ราชินีให้กลายเป็นมาดามผู้งดงามทรงสง่าเป็นหน้าตาของฝรั่งเศส  แม้จะเป็นเจ้าหญิงมาจากออสเตรีย แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเด็กสาวที่ดูปอน ๆ ไม่โดดเด่นเก่งกาจด้านใดเป็นพิเศษ  แต่เรื่องความสวยความงามนั้นดูจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงให้เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด  ควีนมารี อองตัวแน็ตจึงเริ่มใส่พระทัยในความสวยความงามจนกลายเป็นตำนานเล่าขานมาหลายร้อยปี
ความคลั่งไคล้ในผิวขาวในยุคนั้นทำให้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง  หลังจากที่ล้างหน้าด้วยน้ำกลั่นนกพิราบแล้ว  ควีนก็จะใช้ Eau d’Ange  (น้ำนางฟ้า) ที่มีส่วนผสมของกำยาน น้ำกุหลาบ น้ำดอกส้ม เซจและสมุนไพรต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวขาวจัดเพื่อแสดงความเป็นผู้ดีสูงศักดิ์  ยิ่งขาวเห็นเส้นเลือดก็ยิ่งงาม
Bathe
เพราะเคยเป็นเจ้าหญิงจากออสเตรีย  ความเชื่อเรื่องการอาบน้ำจึงแตกต่างจากชาวฝรั่งเศส พระนางทรงแช่น้ำในอ่างเพื่อชำระสิ่งสกปรกจากร่างกายบ่อย  นักประพันธ์หนังสือ Marie Antoinette: Intimate History ได้เล่าว่า พระนางจะใช้ผ้ามัสลินชุบรำข้าวขัดผิว ส่วนน้ำในอ่างนั้นก็จะเติมเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ลงไปเพื่อให้ผิวนุ่มนวล 
เคียสเทน ดันสท์ในบทบาทพระนางมารี อองตัวแน็ต  พระนางจะอาบน้ำทั้งชุดผ้าลินิน
ในภายหลัง  เมื่อชื่อเสียงของพระนางเริ่มตกต่ำก็ได้มีเสียงโจมตีเรื่องวิสัยความรักสะอาดว่าดูเป็นเยอรมันเกินไป หรือแม้กระทั่งถูกปล่อยข่าวลือว่าพระนางเชื้อเชิญผู้ชายเข้ามาหาตอนที่กำลังแช่น้ำตัวเปลือยเปล่า
Makeup

แม้จะใช้โลชั่นเพื่อความขาวแล้วก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ  จึงต้องเติมผงสีขาวเข้าไปอีกเพื่อให้ดูซีดสมพระทัย แต่งแต้มผงชาดที่แก้มให้แดงปลั่งซึ่งเป็นเทรนด์ของแวร์ซาย แล้วแตะน้ำมันหอมที่เปลือกตา ขนตา ริมฝึปากให้ได้ลุคที่ดู glossy
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ความงามหรือวิกผมขาวของพระนางนั้นก็เป็นสิ่งที่มีราคาแพงหาได้ยาก  คนที่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อหามาแต่งเสริมเติมความงามก็ได้แต่พลิกแพลงหาสิ่งที่ราคาย่อมเยามาใช้แทน  แต่สูตรความงามที่ดูเหมือนจะพอจะทำตามได้คือ mask หน้าที่ผสมคอนยัค ไข่ขาว  นมผงและน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน เชื่อว่าจะทำให้ผิวเต่งตึงเปล่งปลั่ง
Empress Elisabeth of Austria


จักรพรรดินีผู้เลอโฉมใช้เวลามากมายในการบำรุงบำเรอความงามจนเลื่องลือ
The Hair Is Crown Of Glory

ดวงพักตร์ที่งดงามนั้นอาจจะไม่ต้องบรรยายยืดยาว เพราะได้ปรากฏชัดเจนในภาพเหมือนของพระนาง Sisi อยู่แล้ว  อีกสิ่งที่พระนางภาคภูมิใจคือผมสีน้ำตาลเข้มที่ดกหนาและยาวลงไปถึงระดับเท้า
นอกจากจะมีช่างผมที่ไว้ใจเพียงผู้เดียวที่จะทำหน้าที่ดูแลเส้นผมให้แล้ว ก็ยังใช้เวลาหลายชั่วโมงจัดทรงเป็นเปียสวย   การแปรงผมนั้นก็ต้องระมัดระวังให้เบามือที่สุดเพราะพระนางไม่ต้องการให้มีผมที่หลุดร่วงลงมา   ช่างผมจะต้องจดจำจำนวนเส้นผมร่วงหรือแตกปลายและเพื่อความมั่นใจจึงต้องโชว์หวีให้พระนางเห็นอีกด้วย   เธอจึงต้องหาวิธีกลบเกลื่อนไม่ให้มีเส้นผมตกค้างที่หวีก่อนที่จะรายงานพระนางเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ถูกกริ้ว
การจัดแต่งทรงผมนั้นยาวนานขนาดที่พระองค์ใช้เวลานั้นศึกษาตำราเรียนภาษาต่างประเทศจนคล่องแคล่ว  แต่สิ่งที่ดูหนักหนาสาหัสไปกว่าคือการสระผมที่มีสูตรบำรุงเป็นไข่ดิบกับบรั่นดีซึ่งต้องใช้เป็นจำนวนมากพอสำหรับผมยาวของพระนาง  กลิ่นคาวไข่และกลิ่นเหล้านั้นจะต้องถูกกำจัดออกไปด้วยการล้างอย่างพิถีพิถันที่สุด กว่าจะปล่อยให้ผมแห้งก็กินวลาทั้งวัน   งานดูแลผมจักรดินีแสนสวยนี้ทำให้ช่างทำผมประจำพระนางต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก  แต่ตัวพระนางเองก็ต้องผจญกับปัญหาเหมือนกัน  เมื่อศีรษะต้องรับน้ำหนักผมปริมาณมากปานนั้นก็เกิดอาการปวดศีรษะ จิตใจที่พะวงกับเส้นผมนั้นทำให้พระนางตรัสออกมาว่า "เราตกเป็นทาสของผมเราเอง" 
Steak Mask

เมื่อได้ทราบถึงสูตรมาสก์หน้ากลางคืนของพระนางซีซี่แล้วก็ต้องพรั่นพรึง... พระนางจะบรรทมไปพร้อมๆ กับการแปะมาสก์ "เนื้อลูกวัว" เพื่อให้พักตร์งามแจ่ม  การแช่อ่างอาบน้ำนั้นก็เป็นน้ำมันมะกอกร้อนๆ เพื่อให้ผิวดูนุ่มนวลอ่อนวัย  บางครั้งก็เกือบเป็นอันตรายจากน้ำมันที่ร้อนเกินไป   เรื่องที่ฟังดูน่าแหวะและสุ่มเสี่ยงนี้  พระนางถือว่าเปรียบเหมือนกับ "หน้าที่" ซึ่งมีเป้าหมายในการรักษาความงามที่ดูอ่อนเยาว์ไว้ให้นานที่สุด  
Hardcore Diet

เรื่องอาหารการกินของพระนางซีซี่นั้นอาจจะทำให้หลายคนเบ้หน้า  เพราะมันไม่ได้ฟังชวนเจริญอาหาร  แต่มีผู้วิเคราะห์ไว้ตรงกันว่า  ความเคร่งครัดเพื่อจะมีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นนี้เป็นสัญญาณของโรคปฏิเสธอาหาร ที่จริงแล้วพระนางบริหารร่างกายด้วยการขี่ม้าและเดินเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง  และยังมีการออกกำลังกายในห้องส่วนตัวที่มีอุปกรณ์สั่งทำพิเศษ แต่ถึงกระนั้นพระนางก็ยังควบคุมกระยาหารจนเรียกได้ว่าสุดโต่ง  แทบจะไม่มีแป้ง อย่างดีก็เป็นเกรวี่แบบเบาๆในมื้อเย็น   สูตรอาหารที่ชวนตกใจมีซุปสกัดจากไก่ดิบ นกกระทา เนื้อกวาง เนื้อวัว  ถ้าเป็นสุดสัปดาห์  พระนางจะกินแต่ไข่ ส้มและน้ำนมดิบ  ยังไม่พอ เมื่อสู่ยามราตรี พระนางจะสวมใส่ชุดนอนที่ท่อนบนชุ่มโชกไปด้วยน้ำส้มสายชูด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยให้เอวเล็กบาง
อุปกรณ์ออกกำลังของจักรพรรดินี
ผลลัพธ์ของวิธีไดเดทและออกกำลังกายนั้นทำให้พระนางรักษาทรวดทรงให้ผอมบางตราบถึงวาระสุดท้ายอันแสนเศร้า
Yang Guifei
สนมเอกที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้ที่งามที่สุดในประวัติศาสตร์จีน  งามเสียจนดอกไม้ยังต้องอาย
จากสาวน้อยแสนงามผิวพรรณผุดผ่องและยังมีกลิ่นหอมเป็นที่เลื่องลือนั้นดูจะมีเส้นทางชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะความสวยที่ว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินนั้นทำให้เธอกลายมาเป็นชายาของท่านอ๋อง  บุตรฮ่องเต้และน่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสมไปแสนนาน    แต่เพราะงามเหนือใครทำให้ที่ปรึกษาฮ่องเต้หมายตาให้เธอเลื่อนจากตำแหน่งลูกสะใภ้ไปเป็นพระสนมเอกของผู้ปกครองแผ่นดินซะเอง 
เมื่อได้ชื่อว่าหยางกุ้ยเฟยผู้มีอำนาจวาสนาส่งเป็นชายาที่ฮ่องเต้ลุ่มหลง   แน่นอนว่าเธอจะบำรุงบำเรอความงามด้วยวิธีต่างๆ ตามที่นิยมในสมัยราชวงศ์ถัง  แต่สิ่งที่โดดเด่นในบันทึกเรืองราวของเธอก็คือความหลงไหลในผลไม้หวานหอม  ทุกวันจะมีรถม้าขนลิ้นจี่จากทางใต้มาส่งที่วังเพื่อพระสนมหยางกุ้ยเฟยโดยเฉพาะ  เธอไม่ได้กินลิ้นจี่แสนอร่อยเพียงเท่านั้น  แต่เธอยังโปรยผลไม้นี้ลงไปในอ่างน้ำแร่ร้อนและใช้เวลายาวนานชำระร่างกายด้วยความเชื่อว่าลิ้นจี่จะทำให้ผิวพรรณเธอนุ่มนวลเปล่งปลั่งงามดังหยก
ตำนานเรื่องความงามของหยางกุ้ยเฟยนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าจะเป็นไปตามที่ประวัติศาสตร์จีนระบุไว้หรือไม่  ที่ผ่านมาหลายคนรับรู้ชื่อของเธอที่เป็นหญิงงามที่ทำให้แผ่นดินล่ม เพราะฮ่องเต้ลุ่มหลงจนละเลยการปกครองบ้านเมืองจนเปิดโอกาสให้มีการฉ้อฉลจนเกิดกบฎและหยางกุ้ยเฟยก็ถูกบังคับให้ผูกคอตายด้วยวัยไม่ถึง 40 ปี  แต่ก็มีเสียงค้านว่าเธออาจจะเป็นเหยื่อของสังคมชายเป็นใหญ่ ที่ถูกลงโทษด้วยการนำเรื่องความงามเย้ายวนมาอ้างเพื่อกลบเกลื่อความบิดเบี้ยวของสภาพสังคม


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE