Outspoken Celebrities - คนดังสุดมั่นผู้ไม่หวั่นในการแสดงความเห็น

คุณอาจจะคุ้นเคยกับภาพลักษณ์อันดูดีของคนดัง ไม่ว่าพวกเขาจะแสดงความเห็นต่อเรื่องใดก็ดูคมคายน่าฟังราวกับมีประชาสัมพันธ์มากระซิบบอกบทอยู่ข้างหู  จนบางครั้งผู้ที่ต้องการความเผ็ดมันในวิถึแห่งการเม้าจะต้องกลอกตาอย่างแผ่วเบาให้กับ statement โลกสวยกลีบลาเวนเดอร์ปลิดปลิวลอยพริ้วในอากาศ   แต่ก็มีเซเลบอีกหลายคนที่พูดอะไรแบบตร๊งตรง จะว่าพูดแทนใจในสิ่งที่คนส่วนมากไม่กล้าประกาศออกมาก็ไม่ผิดสักเท่าไร   และด้วยความมั่นใจที่จะตรงไปตรงมาแบบนี้ บางทีก็มีดราม่าตามมาให้ติดตามกันอีกหลายยก  


มีใครบ้างที่ขึ้นชื่อเรื่องความคิดเห็นตรงๆ แรงๆ แทงใจกันถ้วนหน้า

ความรู้สึกแบบ pure ที่มีต่อพระเอกหนุ่มใสมาแรงที่เด็กกว่า 5 ปี


เจนได้แสดงความรู้สึกแบบหิวกระหายต่อหนุ่มตาหวานทิโมธีจาก Call me by your name เมื่อได้รู้จากนักข่าวว่าเขามีอายุ 22 ว่า

"ชั้นไม่รู้ว่าเค้าเด็กขนาดนี้ เค้าฮ็อทม้ากกก นี่ชั้นกำลังรอให้เค้าโตอีกสักหน่อย รู้มั้ย ชั้นจะต้อนเค้าให้จนมุมแบบต้อนหมูมาเชือดเลยล่ะ รอให้เค้าอายุสัก 30 ก่อนเถอะ เสร็จชั้นแน่! เอ้านี่เค้าไม่เด็กเกินไปที่ชั้นจะพูดแบบนี้ใช่มั้ย เค้าอายุเกิน 18 แล้วรึเปล่า ? มันจะดูเป็นยังไงนะ ถ้าชั้นบอกว่าคนๆ นี้ร้อนแรงมาก แต่เค้าดันอายุแค่ 15! "

ดูหิวโหยอย่างจริงจัง  แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจนอาจพูดแทนคนจำนวนหนึ่งที่มองน้องทิโมธีเหมือนเบคอนร้อนฉ่าที่ถูกเสิร์ฟมาในอาหารเช้า   แม้เจนจะยังอยู่ในวัยสาวสะพรั่งที่ 27 ขวบ  แต่ใช้คำบรรยายเหมือนน้องเพิ่งจะเรียนจบ ม.ต้น   แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นหนุ่มเต็มตัว เรียนมหาวิทยาลัยดัง  ถ้าน้องอายุ 30 แล้ว เจนจะลงมือจริงๆมั้ย...?

เรื่องการเลิกเรียนตั้งแต่มัธยม

" ชั้นดรอปเรียนตั้งแต่อยู่ ม. ต้น  ชั้นไม่มีวุฒิการศึกษา GED หรือประกาศนียบัตรใดๆ  ชั้นเรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ  ชั้นไม่ได้นึกเสียดายแต่อย่างใด  ชั้นต้องการจะมุ่งมั่นไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ตัวเองต้องการโดยที่ไม่ให้มีอะไรมาเป็นอุปสรรคกั้นขวาง    บางอย่างเช่น การคบหาเพื่อนฝูงไม่ได้สำคัญสำหรับชั้นมากเท่ากับงานแสดง ก็ตั้งแต่ที่อายุเพียง 14 แล้วค่ะ"

เมื่อถูกวิจารณ์ว่าเห็นแก่เงินที่แบรนด์จ้างให้ใส่ชุดเว้าลึกโพสท่าถ่ายรูปท่ามกลางความหนาวเย็นท่ามกลางนักแสดงชายที่แต่งกายด้วยเสื้อโค้ทที่ดูอบอุ่นรัดกุม

"ว้าว ชั้นล่ะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นมันยังไงเลยนะเนี่ย นี่มันเหลวไหลชะมัด ชั้นล่ะหงุดหงิดจริงๆ ชุด Versace ที่ชั้นใส่น่ะช่างเลิศหรูปานนั้น คิดเหรอว่าชั้นจะใส่โค้ทกับผ้าพันคอมาปกปิดมัน ชั้นยืนด้านนอกแค่ 5 นาทีเองนะ ให้ยืนอยู่กลางหิมะชั้นก็จะใส่ชุดนี้เพราะชั้นรักแฟชั่นและชั้นเลือกที่จะทำแบบนี้เอง"

"นี่มันเหยียดเพศกันชัดๆ เหลวไหลซะจริง  นี่ไม่เป็นเฟมินิสท์เลยนะคะ  ทำตีโพยตีพายไปกับทุกอย่างที่บางคนทำ  การสร้างความขัดแย้งในเรื่องงี่เง่า อย่างชุดที่ชั้นเลือกใส่นั้นมันไม่ได้ทำให้เราได้ไปถึงไหนกันสักที  แต่มันกลับจะเบี่ยงเบนประเด็นไปจากเรื่องที่ควรจะต้องให้ความสำคัญจริงจัง ทำใจยอมรับบ้างเถอะค่ะ  ที่คุณเห็นชั้นสวมใส่อยู่ทุกอย่างน่ะมันเป็นตัวเลือกของชั้น  และถ้าชั้นอยากจะรู้สึกหนาว มันก็เป็นเพราะชั้นเลือกเองเหมือนกันค่ะ !"

ประเด็นที่เจนถูกวิจารณ์นั้น จริงๆ ไม่ได้มาจากการเปิดเผยเรือนร่างค่ะ จะเห็นได้ว่าชุด Versase ดำนั้นก็เป็นสไตล์ปกติที่เราเห็นกันตามพรมแดง  คนดังใส่โป๊กว่านี้เยอะแยะก็ไม่ได้ถูกโจมตีกลายเป็นประเด็น  gossip  แต่มีคนจุดประเด็นขึ้นมาว่า  อีเวนท์นี้ไม่ใช่งานพรมแดงยามค่ำคืน นักแสดงชายก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นแบบ casual ไม่ได้ใส่สูทหรือทักซิโด้  จึงมีคนจับผิดว่าเป็นเรื่องของดาราที่รับค่าตอบแทนเพื่อใส่ชุดโฆษณาให้กับแบรนด์ดัง  แม้ว่าจะอากาศหนาวและดูไม่เข้ากับกาลเทศะแต่ก็ยอมทำ

เจนมีสัญญากับ Dior   ไม่ใช่ Versace   ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทำให้เธอต้องใส่ชุด Dior ออกงานเป็นส่วนใหญ่  คนดังที่เป็น spokeperson ของแบรนด์ใด ก็จะต้องโพรโมทสินค้าด้วยการใช้แบรนด์นั้นไปจนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด  มีคนกล่าวหาเธอว่าได้ผลประโยชน์จาก Versace และภาพที่ออกมาดูเหยียดเพศเพราะผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนั้นเผยสัดส่วน สวนทางกับผู้ชายที่ใส่โค้ทกันถ้วนหน้า   และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เจนต้องออกมาโต้กลับว่าคำกล่าวหาเรื่องเธอยอมใส่ชุด sexxy ท้าลมหนาวเพื่อเงินหรือถูกบังคับต่างหากที่เหยียดเพศ  

ชาวกอสสิปหลายคนเห็นด้วยกับเจนว่าถ้าได้ใส่ชุดนี้ ถึงต้องลุยหิมะก็ยินดี แต่ก็ยังมีบางคนที่เห็นแย้งว่าเป็นการสร้างภาพสาวสุดเจ๋งที่เป็นตัวของตัวเอง  

เผือกอย่างออกหน้าออกตา

ส่วนมากคุณจะได้เห็นนางเอก A List ที่เก็บอาการกระหายใคร่รู้ในเรื่องเม้าของชาวบ้าน  ประเภทที่มีสื่อมาถามก็จะ no comment  หรือโบ้ยว่า อุ๊ย นั่นเรื่องส่วนตัวของคนอื่นนะคะ   แต่นั่นไม่ใช่เจน..


ดังที่เรารายงานไปแล้วว่า ในเวลานี้เรืองมิตรภาพที่แท้ทรูของเทย์เลอร์ สวิฟท์และคาร์ลี่ คลอสดูจะเปลี่ยนแปลงไป มีสัญญาณให้เห็นลางๆ  แต่ล่าสุด คาร์ลี่ออกเที่ยวกับเคที่ แพร์รี่เลยจ้ะ  ก็รู้กันอยู่ว่าเคที่เป็นศัตรูของใคร   ข้าเม้าก็ไถ่ถามกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น  ไม่ได้คาดคิดว่านางเอกออสการ์อยากจะเผือกกับเค้าด้วย

"ชั้นอยากรู้จังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคาร์ลี่คลอสและเทย์เลอร์ สวิฟท์  ด้วยความสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าเลยนะ   นี่ไม่มีใครอยากรู้เหมือนกันเหรอคะ  มันทำให้ชั้นสงสัยจนตาสว่างทั้งคืนเลยล่ะ   เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอน้อ"

ประกาศกร้าวต่อสู้กับความไม่เท่าเทียม
เรื่อง pay gap ในฮอลลีวู้ดนั้น ยังมีคนมองว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ ไม่ได้กระทบกระเทือนสังคมคนทั่วไป  แต่จริงๆ แล้วในวงการบันเทิงก็ได้สะท้อนความคิดชายเป็นใหญ่ได้อย่างชัดเจน   ในขณะที่มีเสียงปรามไม่ให้นักแสดงหญิงออกมาโวยวายเรื่องค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมเพราะถึงอย่างไรพวกเธอก็มีรายได้สูงกว่ามนุษย์เงินเดือนเป็นร้อยเท่าพันเท่า   บ้างก็กล่าวหาว่าบรรดานางเอกโป้ปดเรื่องได้ค่าตัวน้อยกว่าผู้ชาย  สงสัยจะเรียกร้องความสนใจก็เท่านั้น    

เชื่อมั้ยคะว่า topic นี้  นางเอก A List หลายคนก็ยังเลี่ยงที่จะตอบ  บางคนพูดตรงๆ ว่าแค่ได้ทำงานกับผู้กำกับชั้นนำก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว  เอมี่ อดัมส์ที่เล่น American Hustle ยอมรับว่ารู้เรื่องที่ได้ค่าตัวน้อยกว่าผู้ชาย และเธอก็มีทางเลือกอยู่แค่ 2 อย่างคือ ทำใจรับค่าตัวเท่านี้แล้วได้เล่นหนังออสการ์แคมเปญหรือถอนตัวเพราะผู้ชายได้เงินมากกว่า (มาก)   หรือจะเป็นเคท วินสเล็ทที่บอกว่าไม่ชอบพูดถึงเรื่องเงินค่าตอบแทนเพราะเป็นเรื่องที่ฟังดูหยาบคาย และรู้สึกว่าตัวเองโชคดีในสิ่งที่มีอยู่แล้ว


หลังจากที่เกิดการแฮคอีเมลของผู้บริหาร Sony ทำให้สังคมได้ทราบว่าเจนนิเฟอร์และเอมี่ได้รับค่าตอบแทนใน American Hustle น้อยกว่า คริสเตียน เบลล์  แบรดลีย์ คูเปอร์ และเจอเรมี่ เรนเนอร์  (พระเอกสองคนแรกนั้นอาจจะพอทำใจ เพราะนักแสดงนำ 4 คนนั้นได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ยกทีม แต่เจอเรมี่ที่เล่นบทสมทบกลับได้ค่าตัวมากกว่านางเอกอย่างเอมี่นั้นฟังน่าปวดใจจริง ๆ )

และเจนก็สร้างความฮือฮาด้วยการเขียนจดหมายเปิดผนึกแสดงความโกรธในเรื่องความไม่เท่าเทียมนี้ 

"ตอนที่ Sony ถูกแฮคนั้นทำให้ชั้นรู้ว่าตัวเองได้ค่าตอบแทนน้อยกว่าพวกคนโชคดีที่บังเอิญว่ามีไอ้จู๋มากเท่าไร  จริง ๆ ชั้นไม่ได้โกรธ Sony เลยค่ะ  แต่ชั้นโกรธตัวเองที่ยอมแพ้ในการเจรจาต่อรองเร็วเกินไป  ชั้นไม่ต่อสู้เพื่อให้ได้เงินหลายล้านดอลลาร์นั้นมาก็แค่อยากจะสร้างภาพให้เป็นที่น่าชื่นชอบและดูเป็นนางเอกที่ไม่เรื่องมากสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใหญ่"

"ชั้นล้มเลิกความพยายามที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองให้ฟังน่าเอ็นดูและยังเป็นที่ชื่นชอบแล้ว   ช่าง แ..ง"