[Lip review] YSL tatouage couture liquid matte lip stain ที่เค้าว่ากันว่า 'ควรมี' นะออเจ้า

สวัสดีค่ะชาวจีบัน ห่างหายจากการรีวิวไปซะนาน 

วันนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมการรีวิวลิปสติตัวนี้ที่เค้าว่ากันว่า

สาวๆ 'ควรมี' ไว้ครอบครองกันนะตัวเธอออออ

เราจึงอยากนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ ชาวจีบีน

เผื่อว่าจะมีเพื่อนๆที่สนใจอยู่แล้วเป็นพิเศษ

เพื่อประกอบการตัดสินใจและแบ่งปันการเสียทรัพย์ให้ทั่วๆกันค่ะ

ว่าแล้วเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า

ลิปแมทกึ่ง tint จิ้มจุ่มของ YSL 

 ตัวนี้เป็นตัวที่ส่วนตัวไม่สามารถหาคำจำกัดความประเภทลิปได้ 

เพราะแพคเกจเป็นแบบลิปแมทจิ้มจุ่ม เนื้อสีชัดและมีหลายสีให้เลือก

เหมือนลิปสติกแท่ง แต่เนื้อสัมผัสของลิปเป็นน้ำๆเหลวๆ เหมือน tint ปาดๆทาๆถูๆ 

ตัวนี้ทาง YSL ออกมาหลายสีมากกกจนเลือกไม่ถูก 

แต่ที่เห็นสีที่หมดแล้วหมดอีกเห็นจะเป็นสี 5,8,16,23 สไตล์แดงหรือสีนัวๆ

         สำหรับเรา สี 23 หายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 รอบแรกที่เข้าประเทศเรามีงานเปิดตัวแย่งชิงกับเค้าไม่ทัน อดจ้า 

หลังจากนั้นมันก็ขาดตลาดวอดวายหายไปเลยเดือนกว่า

สุดท้ายได้มาด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เดินผ่านเลยวนๆไปถามเคาวน์เตอร์

เอ้า ! มีซะงั้น

เหลือ 3 แท่งสุดท้ายนะคะ คุณพี่บีเอกล่าว

จ้า โดนไปอย่าได้เสีย  แล้วเค้าก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง

แพคเกจจิ้ง ดีงามตามภาษาแบรนด์ไฮเอน สวยหรู เล็กพกง่าย 

สามารถใส่กระเป๋า เอาไปสะเทินน้ำสะเทิ้นบกได้ในระดับนึง แต่แนะนำ

ว่าไม่ควรทำตกค่ะ อาจจะมีแตกเพล้งได้ น้ำตาไหลไปตามๆกันเด้ออออ

เนื้อลิปเป็นน้ำ ปาดรอบแรกจะได้ฟีลเหมือนทาน้ำยาอุทัยทิพย์แต่เนื้อสีชัด

 มีกลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ  พอทับรอบสองสีลิปจะชัดขึ้น กลบปากได้มิดขึ้น 

รอแห้งซักนิดนึงแล้วเก็บรายละเอียดรอบๆขอบปากอีกรอบ เม้มๆ จะสวยเป๊ะๆ

การทาวิธีนี้แนะนำเฉพาะกับสีอ่อนๆ เช่น 11,16,23 เท่านั้นนะคะ
แต่ถ้าเป็นสีเข้มๆ ทาสามรอบแบบนี้ อาจจะเห็นชัดตั้งแต่หน้าบ้านกันเลยทีเดียวค่ะ

ถ้าเพื่อนๆที่สนใจสีเข้มๆ แต่ไม่ได้อยากทาให้ได้แบบชัด เข้มเห็นมาแต่ไกล 

เน้นเป็สายอยากได้แค่สีระเรื่อง ก่ำๆ เกาหลีหล่ะก็

 แนะนำให้เพื่อนๆแตะที่ทาบนรืมฝีปากแบบ 1-2 ครั้ง

แบบแต่น้อยยยย แล้วเอานิ้วเกลี่ยๆ ถูๆ เม้มๆ ปากเอาจะได้สีแบบนัวๆสวยๆ ค่ะ

ส่วนตัวเราเป็นคนสีขอบปากเข้ม ถึงสีเบอร์ 23 จะดูชัดขนาดนี้แล้วก็ยังรู้สึกว่ากลบสีปากเข้มๆที่ขอบได้ไม่มิดขนาดนั้นนะคะ แต่เราถือว่าโอเคค่ะ ชอบสี สีดูเป็นสีลุคธรรมชาติ นู้ดฝอทาได้ทุกวัน ลุคกันตาย ไปทำงาน ไปเที่ยว ไปงานสุภาพรอดทุกงานค่ะ 

comfirm !

เรื่องสัมผัสบนปาก ไม่เหนียว ไม่หนึบ ไม่รู้สึกหนาเหมือนมีลิปอยู่บนปาก

สบายปากดีมาก ผมรูดปากแล้วไม่ติดปากให้ต้องดึงหนีบหนับกันวุ่นวาย

เรื่องความติดทน ส่วนตัวเรา สำหรับสี 23 นี้ เราว่าไม่ได้ทนขนาดนั้นค่ะ

กินข้าว ดูดน้ำ ได้แค่ไม่ถึงครึ่งวัน หลุดค่ะต้องเติมเพิ่มให้เป๊ะ

ไม่่ได้เหมือนลิป liquid แมทฝอที่สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก

สำหรับราคา ตามนั้นเลยค่ะ 1,550 บาท 

ไม่มีคำบรรยายใดให้ลึกซึ้ง ราคาสูงเลยสำหรับลิป

ถ้าช่วงไหนเจอห้างที่ลดราคา 10% ก็จะเหลือ 1,300 ปลายๆ ค่ะ

สำหรับลิปรุ่นนี้ ทีจริงเราตกมาอีกสีนึงก่อนที่จะได้สี 23 มาครอบครอง 

คือเบอร์ 8 สี black red code ค่ะ เป็นสีแดงก่ำ เบอร์กันดี 

แต่ว่าส่วนตัวไม่ค่อยประทับใจเฉพาะตัวสีเท่าไหร่ เพราะเราไม่กล้าพอที่จะทาปาดๆ 

ลิปล้วนๆ ลงบนปากเหมือนสีอ่อนได้  เพราะมันเข้มและชัดมากกกกกกกกกกกกกกก 

ต้องใช้วิธีแตะแบบแตะเดียวแล้วเอานิ้วเกลี่ยๆ ถูๆ และต้องเอาลิปสีนู้ดอื่นๆ ทาทับอีก

ถึงจะให้ดูซอฟลงก้เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เพราะหลายขั้นตอนขึ้นไปอีก

แต่สำหรับเพื่อนๆที่ชอบลิปสีแดงอาจจะถูกใจกันเลยขอเอาสีมาแชร์ไว้ด้วยค่ะ

สำหรับเบอร์ 8 ที่เราบอกว่าใช้ผสมกับสีนู้ดอื่นๆ

ส่วนตัวลิปตัวนี้สามารถทาผสมได้กับลิปทุกแบบนะคะ

ทั้งแบบแท่ง แบบน้ำ หรือลิคควิทที่เนื้อหนึบๆหน่อย

คู่นี้เป็น YSL เบอร์ 8 กับไคลี่ลิปสี Dolce K

เราเคยพลาดซื้อ Dolce K มาแล้วทาไม่รอด ทาเดี่ยวๆเป็นผีอีเม้ยเดินได้

แต่พอได้เจ้าสี 8 นี่มา เราจะใช้วิธีทาไคลี่ลงไปก่อนแล้วค่อยเอา เบอร์ 8 ถูๆ ค่ะ

เป็นวิธีแก้ไขลิปที่สีซื้อมาแล้วสีเข้มเกินไปหรืออ่อนเกินไปได้อีกทางค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ

เห็นสีและรูปร่างของเจ้่ลิปตัวนี้แล้วชอบกันไหมเอ่ย

สำหรับลิปรุ่นนี้ แนะนำให้ไปลอง swatch และทากับปากดูก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ

เพราะว่าจากที่ดูรีวิวมาหลายๆท่าน ดูเพื่อนตัวเองทา ดู swatch กับมือ

รู้สึกว่าสีออกมาไม่เหมือนกันเวลาทาบนปากของแต่ละคน

แล้วก็สีไม่ค่อยเหมือนกับในแท่งด้วยค่ะ

วันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามและแวะเวัยนอ่านกระทู้รีวิวจนจบค่ะ

เพื่อนๆที่สนใจหรือไปตำลิปอันนี้มาแล้วแชร์ความคิดเห็นกันได้เลยนะคะ