✦ REVIEW : รีวิวไอเท็มทำความสะอาด และบำรุงหน้า เจ๋งๆ ที่ต้องมีหลังจากลุยมาทั้งวัน! ✦

✦สวัสดีค่ะเพื่อนๆ✦วันนี้แก้วกลับมาตั้งกระทู้อีกครั้งค้า รอบนี้บอกเลย เป็นกระทู้ติดพลีชีพนิดนึง เพราะหน้าสด ไม่ได้ลงเครื่องสำอาง และเป็นตอนเช้าด้วย  ก็เลยตาบวมนิดๆ เห็นรอยสิว และมีรอยแพนด้าบ้างนะคะ แหะๆ  (แต่ขอเขียนคิ้วนิดนึงค่ะ ไม่งั้นรับหน้าตัวเองไม่ไหวจริงๆ ฮ่าาา )

    ช่วงนี้แก้วเข้าสู่โหมดวัยทำงานแล้ว เวลาลันล้าลดลงแล้ว(ฮือ)  และช่วงเวลาที่แก้วทำงาน จะเป็นช่วงเวลาที่แปลกไปจากคนส่วนใหญ่ เพราะกะทำงานของแก้วจะเป็นช่วงเที่ยงๆบ่ายๆ ไปจนถึงสาม-สี่ทุ่มค่ะ  ซึ่งสำหรับแก้วแล้วนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้หน้าเราดูล้า และหมองได้ง่ายมาก  เพราะก่อนหน้านี้ ช่วงเวลาทำงาน(และเที่ยว)ของแก้วจะเป็นช่วงเวลากลางวันค่ะ สังเกตเห็นความต่างได้เลยว่าผิวหน้าไม่ได้ดูล้าดูหมองขนาดนี้    ระยะหลังๆมานี่ แก้วก็เลยพยายามมองหาสกินแคร์ เครื่องสำอาง ไปจนถึงไอเท็มต่างๆ มาใช้ในอากาศร้อนๆแบบนี้ เพื่อที่จะปรับให้ผิวหน้าและไลฟ์สไตล์ของตัวเองดีขึ้น สดชื่นขึ้น ดูล้าน้อยลง รวมถึงทำให้เห็นตัวเองในกระจกแล้วไม่ตกใจมากไปกว่าเดิมค่ะ    ดังนั้นกระทู้นี้ แก้วขอรวบรวมสกินแคร์ต่างๆ ที่แก้วอยากแนะนำเพื่อนๆที่ทำงานติดต่อกันยาวนานหลายชั่วโมง แล้วกำลังมองหาผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวมาใช้เพิ่มเติมค้า ซึ่งบางตัว อาจจะดูเรียบง่าย แต่แก้วเชื่อว่าเป็นของจำเป็นที่ใครหลายคนมองข้ามไปค่ะ     มามะ มาเริ่มกัน

    เริ่มต้นจากส่วนสำคัญก่อนค่ะ การดูแลผิวหน้า    ทุกครั้งที่กลับมาจากการทำงาน หมดวันนั้นๆแล้ว เพื่อนๆหลายคนน่าจะเป็นอย่างแก้ว คือรู้สึกเหนื่อย รู้สึกล้า และหลังจากนั้นความรู้สึกขี้เกียจก็จะตามมา เราอยากจะนอนอืดสบายใจไม่แคร์โลก    แต่ในความเป็นจริงเราห้ามทำแบบนั้นค่ะ     เพราะถ้าเราลงทุนแต่งหน้าไปทั้งวันแล้ว เราก็ควรที่จะลงทุนทำความสะอาดผิวหน้าให้ดีก่อนลงสกินแคร์ด้วย  การนอนหลับไปทั้งเครื่องสำอางบนหน้านั้น เป็นหนึ่งในกฏต้องห้ามสุดๆ เพราะมันจะทำให้ผิวหน้าอุดตัน เกิดเป็นสิวอักเสบได้ค่ะ โนวๆๆ เราต้องไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นนะคะ เพราะถ้าเป็นขึ้นมาแล้ว มันจะไม่ได้มาแค่หนึ่งเม็ดค่ะ มันจะมาเป็นดรีมทีม บุกตะลุยเต็มหน้าเรา และใช้เวลาในการรักษานาน แถมตอนหายอักเสบแล้ว จะเป็นรอยดำง่ายด้วยนะ เสมือนทิ้งไว้เป็นของระลึกต่างหน้า ทำให้เราต้องรักษากันไปอีกยกนึงค่ะ    ความเหนื่อยดังกล่าวจะไม่เกิด ถ้าเราทำความสะอาดผิวหน้าให้ดี    ซึ่งตัวทำความสะอาดหน้า หลังๆมานี้แก้วใช้ไม่กี่ตัวตามนี้ค่ะ

 Bifesta Cleasing Lotion Sebum ✻เป็นอีกตัวที่แก้วลองมาพักนึงค่ะ ล้างเครื่องสำอางออกดีมากค่ะ ชื่อว่า Lotion เหมือนกับตัว Biore แต่ตัวนี้จะเป็นน้ำใสๆเลยค่ะ ไม่หนืดไม่ข้น แต่แก้วว่าประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางดีพอๆกับ Biore  เพื่อนๆสามารถลองใช้ได้ค่ะแต่ทุกวันนี้แก้วก็ใช้ทำความสะอาดหน้า 2 ตัวนะคะ คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นกับBiore หรือไม่ก็น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นกับBifesta   เพราะ Biore กับ Bifesta ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ไม่ดีเท่าน้ำมันมะพร้าวค่ะ จากนั้นก็ล้างหน้าด้วยโฟมปกติได้เลยค้า

✻ Soap Me Snail ✻ตัวล้างหน้าตัวที่สองจะเป็นสบู่ของ Soap Me Snail ค่ะ ตัวนี้จะเป็นสบู่เมือกหอยทากจากญี่ปุ่น เป็นได้ทั้งตัวบำรุง และล้างหน้าได้ในตัวเดียวกัน เคลมเอาไว้ว่าสามารถทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส และดูอ่อนกว่าวัยได้ค่ะ และไม่ใส่สารก่อฟองอย่าง SLS หรือ SLES ค่ะ ทำให้อ่อนโยนต่อผิว แม้แต่เด็กก็ใช้ได้ค่ะ และมีข้อมูลว่าเป็นสบู่ที่มีค่า pH อยู่ที่ 7 ค่ะ    ซึ่งแบรนด์นี้มีส่วนประกอบที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดพรีเมียมต่างๆค่ะ เช่น-เมือกหอยทากญี่ปุ่น ที่เคลมไว้ว่าอุดมไปด้วยคอลลาเจน อีลาสติน และสารให้ความชุ่มชื้นผิว สามารถฟื้นฟูให้ผิวเรียบเนียนกระชับได้-สารสกัดจากทองคำบริสุทธิ์ มีบทบาทในเรื่องลดริ้วรอย และทำให้ผิวมีออร่าค่ะ-กลูต้าไธโอน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย กระ ฝ้าและจุดด่างดำค่ะ-วิตามิน C เป็นอีกตัวที่ช่วยให้ผิวยังคงไว้ซึ่งคอลลาเจน และอีลาสติน นอกจากนี้ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ ทำให้ลดริ้วรอยได้ และทำให้หน้าดูกระจ่างใสได้ค่ะ-Hyaluronic acid เป็นตัวที่ปรากฏในส่วนประกอบสกินแคร์เกือบทุกแบรนด์ ช่วยเรื่องบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอยได้ค่ะและอีกหลายสารสำคัญที่ทำให้หน้าเราดูกระจ่างใส สามารถเสริมฤทธิ์ลดริ้วรอยซึ่งกันและกันค่ะ    แพกเกจจิ้งจะมาแบบน่ารักๆตามภาพค่ะ แก้วชอบกิมมิคฝากล่องมาก จะมาเป็นหอยทากกับใบไม้ค่ะ น่าร้าก ~    เปิดออกมาแล้ว เพื่อนๆจะได้ครบทั้งสบู่ และตาข่ายครบเลยค่ะ

เหตุผลที่มีตาข่ายมาด้วย เพราะเนื่องจากเราสามารถถูสบู่กับตาข่ายให้เกิดเป็นฟองขึ้นมาได้ จากนั้นจึงนำฟองสบู่มาล้างหน้าและลำคอค่ะวิธีนี้จะดีตรงที่ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย ถนอมผิวหน้าได้ค่ะ 

วิธีการง่ายมากค่ะ เริ่มต้นจากนำตาข่ายไปชุบน้ำให้เปียกสักหน่อย จากนั้นก็ใส่สบู่เข้าไปในตาข่าย  แล้วก็ถูๆๆจนเกิดฟองตามภาพค่ะ  ฟองจะเกิดง่ายมากค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าต้องใช้แรงเยอะ ฮ่าา

ซึ่งจากการทดลองใช้ ฟองสบู่ที่ได้จะนิ่มมากค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเลย เป็นลักษณะหนืดๆจากเมือกหอยทากค่ะ ทำให้ง่ายต่อการที่นำมาล้างหน้ามาก  ตอนล้างลองนวดๆบนผิวหน้าสักนิดนะคะ เพื่อผ่อนคลาย และล้างสิ่งตกค้างบนหน้าได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นก็ค่อยล้างออกค้า    จากการใช้แล้ว ฟองสบู่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีค่ะ และไม่รู้สึกหน้าตึงหลังจากล้างหน้าเสร็จ ซึ่งเป็นจุดที่แก้วชอบมาก รู้สึกไม่รุนแรงกับผิวเราค่ะ    และเมื่อลองใช้ทั้งเช้า-เย็นติดต่อกัน จะรู้สึกว่าผิวนิ่มขึ้นด้วยค่ะ ถ้าใช้ระยะยาวไป สุขภาพผิวน่าจะชุ่มชื้นขึ้นค่ะ    แก้วเลยมองว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหน้าสบู่ที่เป็นได้ทั้งตัวทำความสะอาดที่ดี และสามารถบำรุงผิวหน้าไปได้ในขั้นตอนเดียวกัน ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค้า

✻ Innisfree Super volcanic pore clay mask ✻

Clay Mask หรือมาร์คหน้าด้วยโคลน เป็นอีกหนึ่งสเตปที่แก้วแนะนำให้ทำค่ะ (ถ้าทำไหว ไม่หลับไปก่อน) เพราะมีผลกับผิวหน้าเราแบบสังเกตเห็นได้เลยนะคะ ว่าทำให้หน้าเราสะอาดขึ้น ใสขึ้น สิวอุดตัวลดลง หน้ามันน้อยลง และที่สำคัญคือรูขุมขนดูเล็กลงด้วยค่ะ อ่ะ ปรบมือออ ~    สาเหตุที่เราต้องใช้โคลนมาร์คหน้ามาช่วยกู้ผิวเรานั้น เพราะว่าทุกวันนี้เมื่อเราออกไปข้างนอก ผิวเราถูกทำร้าย และปะทะกับสิ่งสกปรกต่างๆโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่เชื่อแก้ว เพื่อนๆลองมองออกไปข้างนอกดูค่ะ เราจะเจอทั้งฝุ่น ทั้งควัน ทั้งมลพิษเต็มไปหมด สิ่งพวกนี้นอกจากจะทำให้ผิวเราเหี่ยวแล้ว ยังอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวเราหมองคล้ำ และเป็นสิวอุดตันได้ค่ะ  ซึ่งการใช้โคลนมาร์คหน้าจะช่วยดึงสิ่งสกปรกที่อุดตัวในรูขุมขนขึ้นมาบนผิว แล้วเมื่อเราล้างโคลนออก สิ่งสกปรกก็จะออกไปกับโคลนค่ะ ทำให้รูขุมขนสะอาด กระชับ ดูเล็กลง และทำให้หน้าเราไม่มันด้วยค่ะ

    ซึ่งจะเลือกโคลนแบรนด์ไหน ก็ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลนะคะ เพราะตอนนี้ตามท้องตลาดมีแบรนด์ดีๆหลายแบรนด์มากกก ลองสิบแบรนด์ ดีทั้งสิบแบรนด์ ก็เป็นไปได้แล้ว! ตัวเลือกดีๆของสตรีมีเพิ่มขึ้นค่า ฮ่าา  แต่ส่วนตัว แก้วชอบ Innisfree ค่ะ  เพราะชอบแบรนด์ที่ค่อนไปทางธรรมชาติๆค่ะ และใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้กี่ครั้ง ประทับใจกับผลลัพธ์ทุกครั้งค่ะ อิอิวิธีการใช้ ให้ลงโคลนบนหน้า เว้นรอบดวงตากับริมฝีปาก มาร์คให้หนาหน่อยนะคะ อย่าบางเกินไป จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกค่ะ  ใช้ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็ได้ค่ะ แต่แก้วเคยบ้าเห่อทำมันทุกวันเลย ผิวก็ไม่ได้แพ้นะคะ     แต่สำหรับใครที่ไม่อยากลงสกินแคร์หลายตัว เพราะตาปรือไม่ไหวแล้ว อยากจะนอนสุดๆแล้ว แก้วแนะนำว่าลงไปเลยแค่ 1 ตัวค่ะ คือกลุ่ม Serum หรือกลุ่มอื่นๆที่ลงลึกไปถึงผิวชั้นในได้    ซึ่งกระทู้นี้แก้วจะขอพูดในส่วนที่เพิ่งได้มาลองตัวใหม่นะคะ ตัวอื่นค่อยตามมาในกระทู้ถัดๆไปค้า

✻ Innisfree the grean tea seed serum ✻

    เป็นอีกหนึ่งตัวที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงดีมากๆ สำหรับคนเป็นสิว หรืออยากดูแลผิวหน้าไม่ให้เป็นสิวค่ะ    จากการใช้ เซรั่มมีกลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ เนื้อเหลวนิดๆ เกลี่ยง่าย ใช้แล้วหน้าไม่มันระหว่างวันด้วยค่ะ และที่สำคัญคือ เออ สิวมันลดลงจริงๆ! ฮ่าาา บอกรัก green tea seed กันค่าาาใครที่กังวลในเรื่องของสิว หรืออยากป้องกันสิว ลองตัวนี้ได้ค่ะ แต่ข้อเสียอย่างนึงก็คือ ทางแบรนด์เค้าใส่น้ำหอมมา ถ้าหากใครแพ้น้ำหอม หรือผิวแพ้ง่ายในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม ไม่อยากเสี่ยง แก้วแนะนำว่าเลี่ยงตัวนี้ไปนะคะ    วันนี้คัดมา 4 ตัวเด่น ที่มีผลช่วยกู้สภาพผิวหน้าเราได้เห็นผลค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหาสกินแคร์มาติดเอาไว้ สามารถใช้ง่าย เป็นทั้งตัวทำความสะอาด และบำรุงได้นะคะ

    ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาอ่านกระทู้แก้ว    ✻ ไว้เจอกันใหม่ค้า ✻

Discussion (4)

ชอบภาพอ่ะค่ะ น่าร้ากกกก