รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เจลล้างหน้าและโทนเนอร์งานเกาหลี จากแบรนด์ Dermartlogy แบรนด์น้องใหม่ในเครือของ Neopharm ที่ทำ Atopalm

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่าน

ไม่รู้ว่าวันนี้ชื่อกระทู้จะยาวไปไหนกัน

แต่ที่รู้คือวันนี้มี่มีรีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เจลล้างหน้าและโทนเนอร์งานเกาหลี จากแบรนด์ Dermartlogy แบรนด์น้องใหม่ในเครือของ Neopharm ที่ทำ Atopalm มาฝากกันค่ะ

ขั้นตอนหนึ่งของการดูแลผิวที่สำคัญ ก็คือ การล้างหน้าให้สะอาด

แบบไหนเรียกสะอาด สะอาดเรียกแบบไหน ??

สะอาดคือ ไม่ใช่ว่าต้องลากจนสำลีไม่มีสีติด หรือ ล้างจนหน้าแห้งหน้าแหก แค่ล้างแล้วเรารู้สึกผิวนุ่มก็พอค่ะ

วันนี้เลยเอาเจลล้างหน้ากับโทนเนอร์ของแบรนด์ Dermartlogy มารีวิวกันซักหน่อยค่ะ

เริ่มกันที่เจลเลยนะคะ

นางจะมาในกล่องกระดาษ  ด้านในจะเป็นรูปแบบหลอดค่ะ นางมี 2 ขนาด ตัวเป็นหลอดที่มี่ได้มา 200 ml และถ้าเป็นตัวใหญ่ 1000 ml จะเป็นแบบขวดปั๊มนะคะ

เนื้อเจลจะเป็นเจลใสๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ

วิธีใช้คือ นวดๆบนหน้าก่อนเอาสำลีเช็ดออก หรือ จะเอาไปล้างน้ำเลยก็ได้ค่ะเนื้อเจลจะค่อนข้างลื่น นวดง่าย นุ่มและลื่นดีค่ะ แต่ตอนล้างออกจะไม่มีฟอง ตามชื่อ Bubble free cleanser ของนางค่ะ

ค่า pH จะอยู่ที่ราวๆ 5 – 6 ซึ่งใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

ส่วนผสม:

จากส่วนผสม มี่ได้ทำสีไว้ 2 สีนะคะ คือสีเขียว กับ สีฟ้าสีเขียว คือ สารทำความสะอาดของ Cleanser ตัวนี้ค่ะ โดยที่ทางแบรนด์ใช้จะเป็นกลุ่ม Polymer ของ Glycerin ที่ทำปฏิกิริยากับกรดไขมันค่ะคือ Polyglyceryl-6 caprylate และ Polyglyceryl-10 laurate 2 ตัวนี้เป็นกลุ่มของสารทำความสะอาดชนิดไม่มีประจุ หรือ Non-ionic surfactant ที่มีความอ่อนโยนทั้งสองตัว โดยตัวแรกมีความสามารถในการละลายน้ำมันค่อนข้างดี จึงสามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เป็นประเภทน้ำมันได้ดี ส่วนอีกตัวเป็นตัวปรับ Feeling ให้มีความนุ่มนวล ซึ่งการใช้งานก็เป็นไปตามทฤษฎี คือ สัมผัสหลังล้างจะค่อนข้างนุ่ม ไม่แห้งตึง แต่ก็ไม่ลื่นเป็นเมือกๆเหมือนเจลบางยี่ห้อ และสารทำความสะอาดกลุ่มนี้มักจะไม่มีฟอง เลยทำให้เจลที่ได้ไม่มีฟอง ตามชื่อ Bubble free gel cleanser ของนาง

ส่วนสารบำรุงจะเป็นสีฟ้าค่ะ จริงๆพวก Cleanser พวกนี้สัมผัสผิวแค่เดี๋ยวเดียว ก็ต้องล้างออก มีหรือไม่มีก็คงไม่น่ามีปัญหา โดยสารบำรุงที่เขาเลือกใช้จะเป็นกลุ่มที่ละลายได้ในน้ำ อย่าง กรดอะมิโน Arginine วิตามินบี 5 และ Allantoin ที่เน้นไปที่ด้านความชุ่มชื้น กับลดการอักเสบระคายเคือง

พอเราล้างหน้าเสร็จ ขั้นตอนถัดมาก็คือการเช็ดโทนเนอร์ค่ะ ทางแบรนด์ก็มี Refresh toner ออกมาอีกตัว มาในแพคเกจรูปแบบสเปรย์ จะสเปรย์ลงหน้าแล้วตบๆเบาๆก็ได้ หรือจะสเปรย์ลงมือ วอร์มแล้วตบก็ได้ หรือจะสเปรย์ใส่สำลีก็โอ (ทางแบรนด์แนะนำให้สเปรย์ลงหน้าเลย แล้วตบเบาๆ)หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

ตัวโทนเนอร์เป็นขวดสเปรย์

หัวสเปรย์จะพ่นละอองออกมาได้ค่อนข้างละเอียด 

ตัวน้ำโทนเนอร์แห้งไวอยู่ค่ะ ยิ่งถ้าเอามือไปตบๆด้วยแล้วก็จะแห้งไวขึ้น

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 – 6 เช่นกันค่ะ

ในด้านของส่วนผสมก็ไม่ทำให้ผิดหวังนะคะส่วนผสม:

ในส่วนผสมมี่ได้ทำสีไว้สองสีค่ะ สีเขียวเป็นกลุ่มของสารเติมน้ำ และ สีฟ้าเป็น Pseudoceramide ที่เป็นนวัตกรรมสิทธิบัตรของทาง บ. Neopharm เขาค่ะ

ขอกล่าวถึงรายละเอียดของสาร Pseudoceramide ตัวนี้อีกซักหน่อยค่ะ สารตัวนี้มีชื่อว่า PC-9S เป็นสิทธิบัตรของทาง Neopharm อิงตามสิทธิบัตรอเมริกา US patent US6221371B1 ของปี 2001 Claim ว่าให้ประโยชน์ในการเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย

มีรายงานการวิจัยทดสอบประสิทธิภาพของสารนี้ในหนูทดลอง พบว่า ตัวนี้เมื่อใช้ร่วมกับไขมันชนิดที่มีในผิว (Physiological lipids) สามารถกระตุ้นให้ผิวเรามีการสร้างตัวรับชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า PPAR-α ออกมา ซึ่งมีประโยชน์ในการลดการอักเสบของผิว ตัวรับนี้ยังเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไขมัน ซึ่งน่จะเป็นกลุ่มของไขมันที่เป็น Barrier ผิว และในตัวเปเปอร์ยังกล่าวอีกว่า สารนี้สามารถต้านผลเสียของสเตียรอยด์ที่ไปทำให้ผิวบาง Barrier ผิวเสื่อม น้ำระเหยออกจากผิวได้มาก การใช้ PC-9S จะช่วยเร่งการฟื้นฟู Barrier ผิวได้ดีขึ้น (Arch Dermatol Res. 2015 Nov;307(9):781-92.)

จบแล้วค่ะวันนี้ 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางเพจ Dermskinstore และทางแบรนด์ DermArtlogy ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ