(รีวิว) เวิร์คชอปกับ Hourglass มีพาเลทและรองพื้น Hourglass สูตรใหม่รุ่นเนื้อลิควิดที่เปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งทันทีที่ทาและคุมมันนานตลอดวัน!

สวัสดีค่ะ ชาวจีบัน แพทตี้บิวตี้ค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกเลย ยินดีที่ได้รู้จักกันนะคะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ร่วมกิจกรรมกับทางแบรนด์ Hourglass ที่จัดขึ้นที่ Sephora สาขา Emquatier นะคะ และจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ตัวที่ได้ลองใช้ในกิจกรรม โดยเฉพาะนางเอกน้องใหม่ คือ รองพื้นสูตรใหม่ของทางแบรนด์ รุ่น Immaculate Liquid Powder Foundation Mattifying Oil Free ค่ะ

มาเริ่มที่การเวิร์คชอป ได้เรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าและการใช้ผลิตภัณฑ์ Hourglass จากคุณวาเนซซ่า เมคอัพอาร์ทติสของทางแบรนด์จากอเมริกา นางน่ารักมาก และเป็นกันเองสุดๆ อยากรู้อะไรถามได้หมด ไม่มีกั๊กเลย คุณวาเนซซ่าถามว่าจะให้ลองแต่งทั้งหน้าหรือว่าครึ่งหน้าดี เลยบอกไปว่าขอครึ่งก่อนค่ะ เพราะอยากเห็นความแตกต่าง ผลิตภัณฑ์ที่ได้ลองมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. Veil Mineral Primer

ไพรเมอร์ตัวดัง เชื่อว่าเป็นไพร์เมอร์ในดวงใจสาวจีบันหลายๆคนแน่นอน เป็นไพร์เมอร์ที่ได้รับรางวัลสุดยอดไพรเมอร์จาก InStyle Best Beauty Buy Award 3ปีซ้อน! คุณวาเนซซ่าทดสอบประสิทธิภาพให้ดูด้วยการให้ทาบนหลังมือ เนื้อสัมผัสเบาและบางมากๆ คุณสมบัติของเค้าคือ ช่วยปกปิดรอยดำรอยแดงได้ (โดยส่วนตัวแล้วได้เป็นบางส่วนค่ะ เพราะเรามีรอยเยอะ) และช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง

จากนั้นคุณวาเนซซ่าฉีดน้ำบนหลังมือ ฉีดๆๆๆ สิ่งที่เห็นคือ โอ้โห! เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัวเลย 555 เพราะไพรเมอร์ตัวนี้กันน้ำกันเหงื่อทำให้เมคอัพไม่หลุดหรือดรอปและช่วยให้ติดทนนานตลอดวัน

2. รองพื้น Immaculate Liquid Powder Foundation

มากันที่นางเอกของเรา ใครหน้ามันและเป็นสายฝ. ชอบลุคแมทท์ๆจะต้องหลงรัก ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อลิควิดที่เปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งหลังทา!รุ่นนี้เป็นสูตรปรับปรุงใหม่ มาในรูปแบบหลอดสีเทา ระดับการปกปิดอยู่ในระดับกลาง ตัวนี้จะใช้มือหรือแปรงในการเกลี่ยก็ได้ แต่ทางแบรนด์แนะนำว่าไม่ควรใช้ฟองน้ำเกลี่ยค่ะ เพราะเนื้อรองพื้นเป็นน้ำกึ่งๆโคลน(clay) มีส่วนผสมพิเศษคือแร่โคลนธรรมชาติชื่อเคาลิน ซึ่งคุณสมบัติของโคลนตัวนี้คือดูดซับความมันที่หน้าเราผลิตขึ้นมาระหว่างวัน เนื้อรองพื้นบางเบามากๆ แต่ปกปิดได้ดี เกลี่ยเสร็จแล้วเค้าจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งและให้ลุคแบบ velvet matte   โดยที่ไม่ต้องตบแป้งเพิ่มเลย ดีงามมากๆ อยากจะบอกว่าเป็นรองพื้นที่ตามหาเลย เพราะคุมมัน ได้ลุคแมทท์ โดยที่ยังดูเป็นงานผิว โอ้ยยย รัก

3. Illume Sheer Color Trio

พาเลทตัวใหม่ที่เพิ่งเข้าไทย เป็นพาเลทที่รวมบรัช บรอนเซอร์และไฮไลท์เนื้อครีมไว้ในพาเลทเดียว! ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น

-  ใช้บรอนเซอร์ในการคอนทัวร์กรอบหน้าและดั้ง-  ใช้บรัชทาแก้ม-  ใช้บรัชปกปิดรอยคล้ำใต้ตาแทนcorrector! เพราะด้วยหลักการของสี รอยคล้ำต้องแก้ด้วยสีโทนส้ม-  จากนั้นใช้ไฮไลท์กลบทับบรัชที่ใช้ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาอีกที (เพราะตาแพนด้าอย่างหนัก 555)-  ใช้ไฮไลท์บริเวณสันจมูกและหน้าผาก เพื่อให้หน้าพุ่ง-  ใช้บรอนเซอร์ทาเปลือกตาแทนอายแชโดว์!

โอ้มายก้อดดด อะเมซิ่งมากๆ คือตลับเดียวครบ จบจริงๆ

4. Hourglass Ambient Lighting Palette

เป็นพาเลทแป้ง 3 เฉดสี เทคนิคของคุณวาเนซซ่าคือใช้แปรงปาด 3 ตัวรวด ใช้เซทหน้าแทนแป้งฝุ่น พาเลทนี้เป็นอีกตัวที่ปลื้มมากๆ เพราะช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า ให้หน้าดูเปล่งประกาย เวลาโดนแสงไฟแล้วหน้าจะนวลๆผ่องๆมีออร่าอย่างบอกไม่ถูก เป็นอีกหนึ่งพาเลทที่สมควรมีไว้ประจำโต๊ะเครื่องแป้งจริงๆ

มาถึงตอนนี้เทียบหน้าที่คุณวาเนซซ่าแต่งให้ครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นที่ตัวเองแต่งมาจากบ้าน เห็นได้ถึงความแตกต่าง ว่าด้านที่ใช้ Hourglass จะดูเป็นงานผิว ได้ลุคโกลว์เบาๆ ฉ่ำหน่อยๆ ดีงามมม

มาต่อกันอีกครึ่งหน้าที่เหลือและผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปกันเลย

5.  Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick

ต่อมาคุณวาเนซซ่าให้ลองอีกครึ่งหน้าด้วยการใช้รองพื้นแบบแท่ง ที่ทางแบรนด์เคลมว่าปกปิดได้ยาวนาน 12 ชม. ตัวนี้คนผิวแห้งก็ใช้ได้ คนผิวมันก็ใช้ดี และใช้แทนคอนทัวร์กับไฮไลท์ได้ด้วย เทคนิคการใช้รองพื้นแบบแท่งที่คุณวาเนซซ่าแนะนำคือ การ “แตะ” แค่แตะบนแก้ม 3-4 จุดแล้วใช้แปรงเกลี่ย คุณวาเนซซ่าย้ำตลอดว่า Less is More หรือ น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ (อันหลังนี่เติมเอง 555) อีกเทคนิคคือการเลือกเฉดสีรองพื้นแบบแท่งสำหรับการคอนทัวร์และไฮไลท์ สีไฮไลท์ที่เหมาะคือ 2 เฉดที่อ่อนกว่าเฉดรองพื้นที่ใช้ ส่วนเฉดที่เหมาะสำหรับคอนทัวร์คือ 2 เฉดที่เข้มกว่าเฉดรองพื้นนั่นเอง

6. Hourglass Girl Lip Stylo

ปิดท้ายด้วยการลงลิปสติก มาในรูปแบบแท่งคล้ายปากกาเมจิก ทาง่าย บางเบา แต่เนื้อแน่น โดยเทคนิคที่ใช้คือหลังการทาลิปสติกให้ใช้แป้งไฮไลท์แตะบริเวณกลางริมฝีปากล่างและเหนือริมฝีปากบน เพื่อช่วยเพิ่มความโดดเด่นของปากนั่นเอง

ทีนี้มาถึงบทสรุป ชอบผลิตภัณฑ์ทุกตัวเลย โดยเฉพาะรองพื้น ชอบทั้งสองแบบ ทั้งสูตรใหม่และแบบแท่ง ถ้าสาวๆคนไหนเกิดอาการรักพี่เสียดายน้องเหมือนกัน ก็เอาเป็นว่าถ้าใครที่หน้ามันมากๆ แล้วชอบรองพื้นที่คุมมัน ชอบลุคแมทท์แต่ยังดูเป็นงานผิว แนะนำให้ใช้รองพื้นสูตรใหม่ แต่ถ้าใครที่ชอบลุคแมทท์ปานกลางและปกปิดสูง แนะนำรองพื้นแบบแท่ง หรือถ้าสาวๆคนไหนชอบทั้งสองแบบและเปย์ไหว (เพราะราคาค่อนข้างแรงอยู่เหมือนกัน) ก็จัดเต็มไปเลยทั้งสองแบบค่ะ ทั้งรองพื้นเนื้อลิควิดสูตรใหม่ และแบบแท่งสีสว่างมาใช้เป็นคอนซีลเลอร์หรือไฮไลท์ก็ได้นะ

ทั้งหมดนี้เป็นรีวิวจากประสบการณ์ของเราเองนะคะ ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ นอกจากการเข้าไปลงชื่อร่วมกิจกรรมกับทาง Sephora ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะคะ ถ้ามีคำถามอะไรอยากถาม ถามมาได้เลยค่ะ ยินดีมากๆ วันนี้ขอจบการรีวิวเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ช่วยสาวๆตัดสินใจเลือกซื้อนะคะ บ๊ายบายค่ะ

Discussion (8)

หูยยยยย
primer ดีจริงค่ะ รองพื้นติดทนขึ้นเยอะ
รองพื้นแบบนี้น่าสนใจมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ