เพราะเป็นชะนีจะมีลิปกี่สีกี่แท่งก็ได้ !!!! [เปิดกรุลิปส่วนนึง] part.1
ShitChomm3211สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิว liquid lipstick มีทั้งแบบแมท กำมะหยี่ กลอส หรือจะ แบบแท่ง ทินท์ อะไรก็ได้ที่แต่งเเต้มเติมความสวยให้ปากเรามีสีสัน 55555 ในราคาเอื้อมถึงแตะต้องได้หาซื้อได้ง่าย เพราะเราก็ไม่มีตังเหมือนกัน เนื่องจากว่าจะค่อนข้างเยอะเราจะขอแบ่งเป็น 2 part คือออ 1.Liquid lipstick ทุกแบบ 2.ลิปแบบแท่งธรรมดา
!! หากมีผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเนอะ ขึ้นอยู่กับสภาพปาก การกินความชอบของแต่ละคนเนอะ ทั้งหมดนี้คือเงินเราเองทั้งหมดไม่มี sponsor ใดๆทั้งสิ้น#ถ้าทางแบรนด์ผ่านมาเห็นแล้วไม่ถูกใจก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ 55
เรามาเริ่มกันที่ ลิปจิ้มจุ่ม
1.Cute Press
เริ่มที่แบรนด์ที่อยู่กับคนไทยมานานแบรนด์นี้หาได้ง่ายตามห้างทั่วไป ก็นี้ทางแบรนด์เคลมว่าเป็น moist lock plumping lip ง่ายๆก็คือตัวนี้จะไม่แมทเป็นลิปที่ให้ความชุ่มชื้น ปากไม่แห้ง
packaging : 5/5 (สมราคา applicator ถือว่าดีมากในราคานี้ ทาง่าย)
เนื้อลิป : 4.8/5 (อย่างที่ทางแบรนด์เคลมเลยให้ความชุ่มชื้นดี เนื้อเนียน เนื้อดี สีชัด กลบสีปากได้มิด มีกลื่นหอมอ่อนๆ แต่ด้วยความที่นางให้ความ moist นางจะติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่แต่โดยรวมถือว่าโอเคอยู่)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 199 บาทแต่จะมีโปรบ่อยเราซื้อมาตอนโปร 1 แถม 1 คุ้มค่าสุด)
สรุป : 4.9/5
2.Naree(Ultra Matte)
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไทยอีกตัวนึงที่ค่อนข้างชอบ คือเซอร์ไพร์สมาก ตอนแรกซื้อมาลองเล่นแท่งนึง มาลองจริงแล้วชอบมาก กลับไปตำเพิ่มแทบไม่ทัน 55555 ซึ่ง Naree มีสีให้เลือกหลายสีมากไปหาตำกันดู ตัวนี้จะเป็นจิ่มจุ่มเนื้อแมทเด้อpackaging : 4/5 (มันดูธรรมดาไปนิดนึงอ่ะ ตัวที่ทาก็แอบแข็งไปนิดนึง)เนื้อลิป : 5/5 (เนื้อแมทดีมากแต่ไม่แมทแบบปากแห้งขาดน้ำ เนื้อค่อนข้างสบายปากไม่หนักไม่จับตัวเป็นก้อนเลย ปกปิดสีปากกับเติมร่องปากได้ดีแม้จะเป็นสีอ่อน เนื้อเนียน ทาง่าย แห้งค่อนข้างไว เอาใจไปเลย เลิฟมาก)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 399 บาทแต่จะมีโปรเหลือแท่งละ 159 ซึ่งไปทีไรเราก็เห็นราคานี้ตลอดไม่รู้จะยกเลิกเมื่อไหร่ 555 ก็รีบไปตำกันน้อออ)
สรุป : 4.7/5
3. 4 U 2 Kiss me harderเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมาแรงในขณะนี้ จัดโปรตลอดปีละลายทรัพย์กันแทบไม่ทัน ตัวนี้จะเป็นเนื้อแมท หาซื้อได้ง่าย ช่วงหลังมีการรวมตัว บิวตี้บล็อกเกอร์มาร่วมออกแบบสีลิปตามสไตล์ด้วยpackaging : 4.5/5 (กลางๆ ถือว่าโอเค ไม่ได้ทายาก)
เนื้อลิป : 3.5/5 (เนื้อแมทแต่ไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ถ้า Kiss แก้ว ก็หลุดติดแก้ว 5555 ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ขอหักตรงนี้ แต่ถ้าทาเบลอๆคือสวย ส่วนสีต้องทาสัก 2 รอบสีจะออกมาสวยคมชัด เนื้อมันค่อนข้างบางเบานิดนึง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราเลือกสีอ่อนมาด้วยรึป่าว )
ความคุ้มค่า : 3.5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 259 บาทแต่เราซื้อมาตอนราคา 199 บาท โปรก็มีมาเรื่อยๆ ไปหาตำกันเน้อ)
สรุป : 3.8/5
4.Nani Somatte (Butter Matte)เป็นแบรนด์ที่ออกมา 2 รุ่นแล้ว เขาเคลมมาว่า เนื้อเนียนนุ่มดุจ กำมะหยี่ เนื้อสีแน่น ให้ความชุ่มชื้นไม่แห้งแตกpackaging : 5/5 (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัว คือเราชอบเพคเกจที่เป็นพลาสติกขุ่นๆของนางมาก 5555 applicator ดูอ่อนช้อยเด้งดึ๋งรับไปกับริมฝีปากของเรา 55555 ซึ่งก็คือทาง่ายนั่นเอง)
เนื้อลิป : 4.5/5 (ทำได้ตามที่เคลมไว้ เป็นลิปแมทที่เนื้อเนียนนุ่ม ทาแล้วเนียนไปกับริมฝีปาก ติดทนอยู่แต่ต้องให้เวลานางแห้งนิดนึงเพราะนางเป็นเนื้อกำมะหยี่ให้โอกาสนางหน่อย 5555 เรื่องสีคือชัดแม้แต่สีอ่อนก็กลบสีปากมิด เหมือนนางทำสีมาเพื่อสาย ฝ.)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 250 บาทแอบแรงนิดๆ แต่โดยรวมโอเค คุณภาพสมราคา)
สรุป : 4.7/5 (การที่นางแห้งช้าสามารถนำมาเกลี่ยทาตาเป็น eye shadow baseได้ด้วยสวยงามเว่อร์ กันน้ำสุดอะไรสุด)
5.Golden Roseแบรนด์นี้ก็ค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตาซึ่งนางก็โด่งดังกับลิป crayon ซึ่งตอนนี้นางก็ได้ออกลิปแมทมาแล้วจ้าา นางเคลมว่าติดทนนาน ให้ความชุ่มชื้นจากวิตามิน Epackaging : 5/5 (ดูดีมีสเน่ห์ แข็งแรง ตัว applicator ก็อ่อนช้อยเด้งดึ้งเหมือนกับ Nani ก็คือทาง่าย)
เนื้อลิป : 4.5/5 (ขอหักตรงที่ค่อนข้างแห้งช้า ต้องให้เวลานางสักหน่อย แต่การรอคอยย่อมคุ้มค่า เนื้อนางดี สีนางชัด กลบปากมิด เม็ดสีแน่น สัมผัสนางละมุนละมอม ให้ความชุ่มชื้นทั้งที่เป็นเนื้อแมท มีกลิ่นหอมๆ)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 299 บาทเนื้อนางคุ้มที่จะเสียเงินให้บอกไม่ถูกเหมือนโดนมนต์ขลัง )
สรุป : 4.8/5 (การที่นางแห้งช้าสามารถนำมาเกลี่ยทาตาได้ด้วยงามเว่อร์ กันน้ำสุดอะไรสุด ส่วนตัวจะชอบของนานิมากกว่าหน่อย)
6.Oh my matteนางเคลมหนักมากเรื่องการติดทนนานและกันน้ำ จริงๆก็เห็นมานานเพิ่งได้โอกาสตำเพราะราคานางค่อนข้างยั่วยวนปล่อยนางไว้ไม่ได้จริงๆpackaging : 3.5/5 (ฝาเลอะง่ายเพราะเป็นความสีดำพลาสติกด้าน ส่วนตรงที่สกรีนชื่อแบรนด์ตรง package มีสกรีนเลอะ เบี้ยว ไม่ชัดไปบ้าง ส่วนตัวที่ทาก็ไม่ได้ทายากเข้ากับเนื้อลิปดี)
เนื้อลิป : 5/5 (คือนางจะแห้งช้านี๊สนึง แต่พอแห้งแล้วนางอมตะมากก คือนางแน่นจริง น้ำเปล่ากับ cleansing ธรรมดาๆเอานางไม่ลงนะจ๊ะ ต้องใช้ eye and lip remover เนื้อลิปนางไม่หนักปากด้วยนะ สีชัดสีกลบสีปากมิด เนียนไปกับปาก แต่อาจจะไม่ชุ่มมากเพราะนางแมทจริง ยอมล้าววว )
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคา 139 บาทมาขนาดนี้แล้วก็ไปตำเถอะ อย่ารอช้า)
สรุป : 4.5/5 (เซอร์ไพร์สมาก ถ้าไม่ซีเรื่อง packaging ไปตำเถอะ ยอมแล้ว กลัวล้าววว)
7.Maybellineแบรนด์คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทย นางออกมานานแล้ว ซึ่งไม่แน่ใจว่านางจะมีอยู่รึเปล่า นางเป็น Velvet Mattepackaging : 5/5 (ดูดีมีสเน่ห์ ตัว applicator ดีมีขุยขนอะไรไม่รู้ที่ทำให้ทาง่าย เนอะ)
เนื้อลิป : 5/5 (ดูธรรมชาติกว่าพื้นป่าก็ตัวนี้ นางให้ feeling born this way เกิดมาก็มีปากแบบนี้ สุขภาพดีน่าจุ๊บ นี่คือลิปที่แบบ real make up no make up คือทาแล้วธรรมดามาก กลืนไปกับปากเลย)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 299 บาท คุ้มจริงๆมีคนเคยกล่าวเป็น Dup กับ Giorgio Armani)สรุป : 5/5 (ตำเถอะ ไว้หลอกผู้ว่า บ้าา เปล่านะเราไม่ได้แต่งหน้าทาปาก ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลยย )
8.Estroนางเคลมมาว่าแมทติดทน ไม่แห้งให้ความชุ่มชื้นปากไม่ลอกpackaging : 5/5 (น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น เอาไปเลยค่ะ)
เนื้อลิป : 4.5/5 (เนื้อเกลี่ยง่าย สีนัวมาก แมทแต่ไม่แห้ง ติดทนไม่มากเท่าที่เคลมเลยขอหักนิดนึงเนอะ แต่โดยรวมคือดี ชอบนะ)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 450 บาทแต่เราสอยมาตอนนางโปรแท่งละ 250 บาทเราก็เห็นนางโปรแบบนี้ตลอดนะ ใครเจอแวะไปลองสี ตำติดไม้ติดมือกันได้ )
สรุป : 4.8/5
9.Tokyo Dollsเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยเห็นโฆษณาเลย 55 แต่หางตาเหลือบไปเห็นในชั้นวางก็ลองตำมาดู นางเคลมมาว่า ลิปแมท แบรนด์ไทย คุณภาพ Hi-endpackaging : 5/5 (สวย ดูดี ไม่ใช่แค่ตัวลิปคือนางจะมีกล่องมาให้ด้วยหรูหราดูดีมาก ดูแข็งแรง applicator อ่อนช้อยดึ๋งดั๋ง)
เนื้อลิป : 5/5 (เอาไปเลย นางเป็น semi-matte สีดี เนื้อดีมาก ชัดมาก เนียน เกลี่ยง่าย กลิ่นถือว่าโอเคออกขนมๆ ปากไม่แห้ง ง่ายๆนางดีไปตำ)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคา 390 อาจจะแพงกว่าตัวอื่นนิดหน่อย เป็นตัวแรกที่เรายอมซื้อด้วยราคาเต็ม 5555 แต่ซื้อเหอะนางดีๆๆๆ)
สรุป : 5/5
10.Pop Me (เด็กร้อยเอ็ดกำลังดัง ต้องอ่านร้องในธรรมนอง Pick Me ตลอด 5555)ด้วยราคาและเพจเกจ ที่ชวน งง เราก็ซื้อมาแบบ งงๆ มือไปเองเหมือนนางเล่นของรู้ตัวอีกทีก็เอามาทาหน้ากระจกแล้วpackaging : 5/5 (คือยอมรับว่าตอนที่เห็นเพคเกจครั้งแรกคืองงมาก นี่ลิปหรือขนมถุง 555555 แต่ก็โอเคอยู่ไม่แย่ๆ ถ้าเทียบกับราคานาง)
เนื้อลิป : 5/5 (เออคือนางดีนะ คือเราหา ref นางไม่ได้เลย ด้วยความเป็นชะนีมโนเราคงคิดว่านางไม่น่าจะเป็นลิปแมท55 สีนางดีชัดนัวเนียน คือตอนที่หยิบๆมาก็ไม่คิดว่านางจะใช้ดีอ่ะ 5555 คือนางทนมั้ยไม่แน่ใจแต่ลองถูๆนางก็ยังอยู่เหมือนนางไม่รู้จักหมด กลิ่นเหมือนขนมบิตกิส มั้ง )
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 99 บาท อ่านไม่ผิดหรอก นาง 99 จริงๆ ไปลองเหอะเดี๋ยวก็เข้าใจนี่ว่าจะกลับไปตำให้ครบทุกสี)สรุป : 5/5 (งงกับนาง แต่นางดีนะ บอกก่อน )
11.Essenceตัวนี้จะเป็นกลอส มีสี เป็น Ultra shine ทาแล้วไม่เหนียวpackaging : 4.5/5 (โอเค ธรรมดาทั่วไปเนอะ )
เนื้อลิป : 5/5 (นางค่อนข้างทำหน้าที่ตัวเองได้ดี เป็นกลอสที่ไม่เหนียวตรงกับที่แบรนด์เคลมมาเลย ทาแล้วปากไม่วาวแบบกินกล้วยทอด วาวแพงวาวผู้ดี ดูเป็นคุณหนู กลิ่นหอม มีสีนิดๆให้พอสุขภาพดี สายกลอสอย่าพลาด)
ความคุ้มค่า : 5/5 (คิดว่าตัวนี้ราคาประมาณ 100 ต้นๆมั้งจำไม่ได้อ่ะ ลองหากันดูตาม shop essence)
สรุป : 4.8/5
12.Maybelline lip tintนางเคลมว่าเป็นลิปที่ให้สีสันจัดจ้าน ติดทนนาน บำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นpackaging : 5/5 (จิบแจบ อ้วนป้อม น่ารักดูดีมีชาติตระกูล)
เนื้อลิป : 5/5 (ตรงตามที่เคลมเลย คือเป็น Tint ที่ให้สีสวยสดใส ติดทน แต่ทาแล้วปากไม่แห้งกร้านแห้งกรัง มีกลิ่นหอมแนว berry หน่อย)
ความคุ้มค่า : 4.5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 299 บาทเราว่าแพงไปนิดแต่ก็โอนะ)
สรุป : 4.8/5 (ใสใส วันไหนตื่นมาแค่จะไปเซเว่นก็อันนี้อันเดียวจบ)
13.Daisoก็ Daiso อ่ะ 60 บาท เครื่องสำอางนางก็มีมาให้เล่นเรื่อยๆเสมอมา วันนี้จะมาดู Tint ตัวใหม่ล่าสุดของนางกันpackaging : 4/5 (มันดูไปไม่สุด วัสดุดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่)
เนื้อลิป : 4.5/5 (เป็น tint เนื้อเจลๆ ที่ทาแล้วปากดูชุ่มชื้นไม่ทำให้ปากแห้ง สีสดใส เนื้อเจลทาง่ายเกลี่ยง่าย ขอหักนิดตรงที่ถ้าอยากได้สีชัดจริงๆคือต้อง build กันสองสามรอบ)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ก็ 60 อ่ะแก ซื้อเถอะ นางโอเคเลยไม่แย่ๆ)
สรุป : 4.8/5
14.Periperaวี๊ดดด ตัวสุดท้ายแล้ว อันนี้จะมีทั้ง ink และ velvet ช่วงนี้นางกำลังดังหรือเราคิดไปเอง 555 นางเคลมเรื่องติดทน สีชัด ก็ไปสอยมาลองซะหน่อยไหนๆก็เอาบูธมาตั้งในมอ.packaging : 5/5 (มีความครีเอทสุดด เป็นขวดน้ำหมึก ดูเหมือนวิทยาศาสตร์ ดูปุ๊กปิ๊ก จุ๊บจิ้บ น่ารัก เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้เลย)
เนื้อลิป(ink) : 5/5 (เป็นเนื้อ liquidเหลวๆ สีสดสีชัดติดทนนานมากกก คืออันนี้นานจริง ปาดเดียวอยู่ทั้งวัน บางทีก็สองวัน 55555 มีกลิ่นหอมอ่อนๆ)เนื้อลิป (velvet) : 5/5 (ติดทนสมกับเป็น Peripera เกลี่ยงายสีสวย ทาแล้วดูโคเรียมากๆ ไปได้สุดกับสายลิปเนื้อ Velvet)
ความคุ้มค่า : 5/5 (ตัวนี้ราคาประมาณ 300 กว่าบาทแอบแพงแต่นางติดทนสมคุณภาพ คุ้มสุด)
สรุป : 5/5
คือจะบอกว่า peripera นางล้างไม่ออกจ้า 5555 ค้างอยู่ที่แขน 2 วัน
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะค้า หากมีอะไรอยากแนะนำหรือแชร์กันก็คอมเมนท์บอกกันได้เลยค่า#กราบสามครั้งแบบไม่แบมือเดี๋ยวเราจะมาเปิดกรุแบบแท่งกันกระทู้หน้าเนอะ เลิฟชะนีไทยต้องอย่าหยุดสวย
Discussion (11)
Naree สีสวยอ่ะ เดี๋ยวไปซื้อตามบ้าง
รีวิวได้เริ่ดจริงๆค่ะ
เต็มอิ่มจุใจมากข่าา