6 ไอเท็มโดนแบน ห้ามขึ้นเครื่อง คิดจะโหลดใส่กระเป๋าก็ต้องดูให้ดีก่อนนะ

65 29

ใกล้วันหยุดยาวเข้ามาทุกที ตั๋วโปรที่ซื้อไว้จะได้ใช้กันแล้วสินะ! ไหนใครมีเพลนไปเที่ยวบ้างง จะไปใกล้ๆ แบบไทยเที่ยวไทย หรือหนีร้อนไปเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ ก่อนแพคกระเป๋าขึ้นเครื่องก็อย่าลืมวางแผนจัดการกับสัมภาระให้ดีล่ะ

เพราะช่วงนี้หลายๆ สายการบิน เค้าอัพเดทกฎความปลอดภัยกันรัวๆ ของบางอย่างที่เคยเอาขึ้นเครื่องได้ ต้อนนี้เซย์โนว์แล้วก็มีนะจ๊ะ เราเลยรวมเอาข้อมูลจากหลายๆ สายการบินมาแชร์กัน ให้สาวๆ ได้

จัดการสัมภาระก่อนเดินทางกันแบบไม่โป๊ะ! ไม่ต้องตัดใจทิ้งไว้กลางทาง แบบกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงงง T^T

1. แท็ปเล็ต กล้องดิจิตอล!

อัพเดทกันล่าสุด สำหรับสาวๆ ที่กำลังจะบินไปช็อปกันที่ อเมริกา อังกฤษ อย่างน้อย 14 สายการบินสัญชาติตะวันออกกลางและแอฟริกา อย่าง Emirates, Etihad, Qatar และ Etihad ที่ชอบมีตั๋วโปรออกมายั่วใจ ใครเผลอกดไปแล้วก็นะ Item Must Have ที่ต้องพกไปติดตัวไปด้วย อย่าง แล็ปท็อป แท็ปเล็ต กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเกม และเครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพา ตั้งแต่ 21 มี.ค. 60 นี้ต้องโหลดไปกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สถานเดียว  ก็ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ป้องกันคนไม่หวังดีก่อการร้ายนั้นแหละ

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าข่ายโดนแบนรอบนี้ มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนขนาดปกติ หรือขนาดยาวไม่เกิน 16 ซม. กว้างไม่เกิน 9.3 ซม. และลึกไม่เกิน 1.5 ซม. เอาเป็นว่าถ้าใหญ่กว่าไอโฟน 7 พลัส ห้ามพกขึ้นเครื่องแล้วกันนะ 

เตรียมหาเคสกันกระแทก กับกุญแจล็อกกระเป๋า แบบ TSA Lock มารอกันได้เลย อ่ะ หรือว่าจะซื้อประกันคุ้มครองกรณีของในกระเป๋าหายไประหว่างโหลดก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

อัพเดทกันให้ดี เพราะตอนนี้แว่วมาว่า แคนาดา และประเทศในกลุ่มยุโรป ก็จะร่วมวงกับเค้าด้วย โอ้ยยย !!! จะไม่เอาไปได้เหรอ กล้องเนี้ย ขาดเธอว์เหมือนขาดใจ

อ่ะ ส่วนใครที่ใช้ สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note 7 ย้ำอีกครั้งว่าเค้าห้ามพกติดตัวขึ้นเครื่องบินหรือใส่ในกระเป๋าสัมภาระเด็ดขาด เพราะกลัวจะไปไหม้บนเครื่องบินนั่นแหละ นี่ก็น่าจะเรียกคืนไปหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังมีอยู่ล่ะก็ ตัวใครตัวมัน!

2. แบตเตอรี่สำรอง และแบตเตอรี่ลิเธียม

กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ไปแบบไม่รู้ตัว ก็เจ้าแบตสำรองหรือ Power Bank ที่ช่วยเติมเต็มชีวิตติดเน็ตของสาวยุคดิจิตอลอย่างเราๆ ให้เพลินกับการไถมือถืออัพเดททามไลน์กันแบบไม่ต้องกลัวแบตหมด แบตจะเสื่อมเร็วแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ขอให้มีไฟไว้ก่อนว่างั้น

แต่เดี๋ยวก่อน ทุกสายการบินเค้าออกกฎห้ามโหลด Power Bank ใต้ท้องเครื่องมาแล้ว ใครยังไม่ได้อัพเดทนี่เชยนะ

ตามกฎแบตเตอรี่สำรองที่จะพกขึ้นเครื่องต้องมีความจุไฟฟ้า ไม่เกิน 20,000 mAh สังเกตได้จากสติ๊กเกอร์บน Power Bank เลยจร้า หรือถ้ากลัวที่พกไปจะไม่พอเค้าก็ให้พกใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ต่อ 1 คน (ต้องเยอะอะไรเบอร์นั้น ให้ได้เงยหน้ามองวิวระหว่างทางบ้างเถอะ!)แต่ถ้าความจุเกิน 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 32,000 mAh สามารถพกใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ได้ไม่เกิน 2 ชิ้น ต่อ 1 คน ส่วนอันที่ห้ามไม่ให้เอาขึ้นเครื่องเด็ดขาดคือแบตเตอรี่สำรอง ที่ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh นี่จะเอาไปชาร์ตไฟรถยนต์กันหรืออย่างไร แม่คู้ณณ

ส่วน แบตเตอรี่ลิเธียม อย่างที่ใช้ในแล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ และกล้องดิจิตอล ต้องมีกำลังไฟไม่เกิน 160Wh เพราะอาจเกิดความร้อน และลัดวงจรจนลุกไหม้ได้ หากประกอบอย่างไม่เหมาะสม แบตปลอม แบตเทียบ นี่ก็ระเบิดกันอยู่บ่อยๆ อย่างตอนที่ผ่านเครื่องแสกนในสนามบิน ก็จะต้องเอาแล็ปท็อปออกจากกระเป๋าเพื่อแยกตรวจ ถ้าไปเจอสายการบินที่เคร่งๆ นี่เค้าถึงกับให้ ปิดขั้วแบตเตอรี่ด้วยเทปที่ไม่นำไฟฟ้าเพื่อหุ้มฉนวน และแยกแบตเตอรี่แต่ละอันเอาไว้ในถุงพลาสติกต่างหาก ยิ่งใหญ่ไปอีกกใครจะพกแบตเตอรี่ลิเธียมเดินทางไปด้วย ก็ดูให้ดี ลองมองหาสัญลักษณ์ Ce Fc และ RoHs บนตัวแบต ที่จะช่วยยืนยันได้ว่าแบตเตอร์รี่ของเราได้มาตรฐาน ไม่ใช่ของก็อปนะจ๊ะ แต่ถ้าซวยเจอของก็อปในก็อป นั่นก็อีกเรื่องนะ!

3. ของเหลวในกระเป๋าถือ

อันนี้ปวดใจมากกก สำหรับสาวที่ชอบแบ็คแพค เดินทางใกล้ๆ แบบมีกระเป๋าใบเดียวไปได้ทุกที่ เพราะของเหลวในหมวดเครื่องสำอางที่ขาดไม่ได้นี่เหละ เค้าห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องในปริมาณที่มากเกินกำหนด เกินไปจนสามารถทำสารประกอบระเบิดได้ (ยิ่งใหญ่อะไรเบอร์นั้น)

ของเหลวอย่าง ครีมทาผิว น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม เจล ยาสีฟัน ยาประจำตัว อาหารเหลวของเด็กน้อย ถึงแม้จะใส่กระเป๋าถือได้แต่ต้องมีปริมาณไม่เกิน 100 มล. (3.4 ออนซ์) ต่อชิ้น

เท่านั้นไม่พอ ยังต้องใส่ในถุงพลาสติกใสที่ปิดซีลได้ รวมแล้วต้องไม่เกิน 1 ลิตร ได้คนละหนึ่งใบเท่านั้น ส่วนขนาดก็ไม่ควรใหญ่กว่า 20 ซม. x 20 ซม. หาซื้อขวดแบ่งตามร้าน Drugstore มารอได้เลย

มัดใส่ถุงรวมกันแล้วก็อย่าลืมปิดถุงให้เรียบร้อยไม่ให้ของเหลวกระจายออกมาเซย์เฮลโหลว ให้ปวดใจ 

ยังอยู่กันที่หมวดความงาม เพิ่มเติมอีกนิดสเปรย์แต่งผม น้ำหอม ยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ห้ามเกิน 0.5 กก./ลิตร ต่อชิ้น และน้ำหนักรวมทุกชิ้นไม่เกิน 2.0 กก./ลิตร

ส่วนสาวๆ ที่แยกขาดจากเครื่องม้วนผมไม่ได้ รู้มั้ยว่าบางสายการบินให้เอาติดตัวไปได้แค่เครื่องเดียวเท่านั้น โดยเฉาพาะเครื่องม้วนผมที่มีก๊าซไฮโดรคาร์บอน ที่จะต้องมีฝาปิดนิรภัยครอบไว้อย่างแน่นหนา และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าได้นำก๊าซออกแล้ว และไม่อนุญาตให้นำขวดเติมก๊าซสำหรับเครื่องม้วนผมดังกล่าวเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องหรือเช็คอิน (บ้านเราอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นกับที่ม้วนผมประเภทนี้ รอดไปค่ะ แต่ถ้าใครมี ก็ดูให้ดีก่อนเดินทางกันนะคะ)

4. กระเป๋าใบใหญ่เกินหิ้วขึ้นเครื่องไม่ได้นะ

จัดกระเป๋าเดินทางแต่ละทีนี่เรื่องใหญ่นะ จะไปกี่วัน อากาศเป็นไง กระเป๋าจะต้องไซส์แค่ไหนถึงจะพอดี แต่สาวๆ อาจจะลืมไปว่า แต่ละสายการบินนั้น เค้าจำกัดจำนวนกระเป๋า ขนาดกระเป๋า และน้ำหนักที่ต่างกัน ก่อนไปต้องเช็คให้ดี

โดยเฉพาะกระเป๋าที่จะเอาติดตัวขึ้นเครื่อง เพราะบางสายการบินอย่างแอร์เอเชีย เค้าให้เอากระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้แค่ใบเดียว และต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. เมื่อรวมกับด้ามจับ ล้อ และกระเป๋าด้านข้างแล้ว

ส่วนกระเป๋าสัมภารที่จะเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือที่นั่ง ต้องมีขนาดไม่เกิน 40 ซม. X 30 ซม. X 10 ซม. สามารถสอดไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้ และ น้ำหนักรวมของสัมภาระ 2 ชิ้นต้องไม่เกิน 7 กก.

ถ้าต้องการพกของที่มีความยาวขึ้นเครื่อง อย่างขาตั้งกล้อง แนะนำให้โหลดใต้เครื่อง เพราะอุปกรณ์ช่วยถ่ายรูปของเราน้านน อาจจะมีความยาวเกิน จนเจ้าหน้าที่บางสนามบินไม่ให้นำขึ้นเครื่อง ต้องเสียเวลากลับไปต่อแถวโหลดสัมภาระอีกรอบ ไม่โอเคนะ

5. เครื่องประดับราคาแพง ของก็อป

ไปเที่ยวทั้งทีไปแบบสบายใจไม่ต้องห่วงดีกว่า พวกของมีค่าเก็บไว้ที่บ้านเถอะ เดี๋ยวไปลืมไว้ที่โรงแรมจะเรื่องใหญ่เอา แถมสายการบินส่วนใหญ่เค้าไม่ให้โหลด ของที่มีมูลค่ามากกว่า 2,500 ดอลลาร์ อย่างอัญมณี สร้อยเพชร เงินสด ส่วนคนที่อยากจะใส่เฟอร์ขนสัตว์เตรียมพร้อมไปจากสนามบิน (ถ้าหาที่มาของขนที่มีไม่ได้) เก็บไว้ก่อนดีกว่า ติด ตม. มาหนิ ตัวใครตัวมันเลยนะ เพิ่มเติมอีกนึดสาวๆ ที่จะเดินทางไปประเทศในแถบยุโรป ของผิดลิขสิทธิ์นี้ตรวจกันเข้มมาก มองปราดเดียวนี่แสกนได้เลยนะว่าจริงไม่จริง DVD เถื่อน รองเท้ากระเป๋าแบรนด์เนมแบบก๊อบเกรด AAA มิลเลอร์นั้น หิ้วของแท้ดีกว่าค่ะ หรือแบบ No Logo น่าจะดีกว่า

ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ขึ้นเครื่องนั้นเอาแบบที่ง่ายๆ ไอเท็มที่เป็นโลหะนี่ควรเลี่ยง ทั้งเข็มขัด รองเท้าบูธ สร้อยต่างหู เลี่ยงเลยดีกว่า จะได้ผ่านเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ง่ายๆ ไม่ต้องมาถอดทีละชิ้น!

6. อาวุธปืน ของมีคม บุหรี่ไฟฟ้า 

ข้อสุดท้ายลืมที่ไม่ได้ ก็บรรดาวัตถุต้องห้าม ของอันตราย ที่ห้ามขึ้นเครื่องเด็ดขาด อย่างปืน แส้ กระบองสองท่อน ปืนไฟฟ้า ดาบ มีด แล้วยังมี 

  • ไม้ตียุงไฟฟ้า
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับการทำให้สลบ
  • วัตถุระเบิด ก๊าซไวไฟ และไม่ไวไฟ เช่น สีสเปรย์, ก๊าซบิวเทน หรือ น้ำมันไฟแช็ก
  • ก๊าซเย็นจัด เช่น กระบอกดำน้ำที่เต็มแก๊สเต็ม หรือไนโตรเจนเหลว
  • ของเหลวไวไฟ เช่น สี, ทินเนอร์ หรือ สารละลายต่างๆ
  • วัตถุไวไฟ เช่น ไม้ขีดไฟชนิดจุดติดทุกที่ และไฟแช็คสำหรับจุดซิการ์
  • เปอร์ออกไซด์อินทรีย์ เช่น เรซิน ปุ๋ยชนิดต่าง ๆ
  • สารมีพิษ สารพิษ เช่น สารหนู ไซยาไนด์ ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช
  • สารกัมมันตรังสี เช่น เรเดียม
  • สารติดเชื้อ และ ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
  • สารกัดกร่อน เช่น กรด, ด่าง, ปรอท หรือ เทอร์โมมิเตอร์
  • สัตว์มีชีวิตที่ติดโรค และบุหรี่ไฟฟ้า

ส่วนของที่ต้องลุ้นว่าจะเอาขึ้นเครื่องได้มั้ย ก็อาหารและผลไม้สด อาหารทะเลสดหรือแช่แข็ง หรือเนื้อสัตว์ที่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกันก่อนว่าผ่านมั้ย

ทั้งหมดนี้ก็คือ 6 ข้อที่รวบรวมมาแชร์กัน ในยามที่สถานการณ์การบินไม่ปกติ อย่าลืมอัพเดทก่อนเดินทางกันตลอดๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงนี่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทางที่ดีลองคลิกเข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ของสายการบินนั้นๆ ก่อน ว่าเค้ามีกฏหรือข้อจำกัดที่เกี่ยวกับสัมภาระยังไงบ้าง จะได้เดินทางแบบลื่นไหล ไม่มีสะดุดนะจ๊ะ


tarnnn

tarnnn

แต่งหน้าไม่เก่ง แต่เราเป็นสายอุปกรณ์ ว่างๆ ก็ช็อปปิ้งคลายเครียด ล้มละลายได้ทุกวันเพราะเราคือ Jeban team

FULL PROFILE