[workshop] Clarins x JiniJay ผิวสวยอ่อนวัยด้วยเคล็ดลับจากคลาแรงส์

11 9

สวัสดีค่าเพื่อน ๆ ทุกคนนนน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก หลังจากที่ไม่ได้เขียนกระทู้มา...(ไปแอบดูในประวัติก่อน) 8 ปีค่ะ!

ฮ่าาา ดังนั้นขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะค้า นู๋เจย์ JiniJay จะเรียนจีนี่ หรือเจย์ หรือจีนี่เจย์ก็ได้แล้วแต่สะดวกค่า

จีนี่ได้มีโอกาสจากจีบันไปร่วม workshop "Shine & Bright Facial Treatment” กับ Clarins ในวันเสาร์ที่ผ่านมา รอบ 15:00-16:00 ค่า

พอเห็นหน้าสาว ๆ ก็อุทานออกมาว่า โวะ สาวจีบันนี่สวยทุกคนเลย! หน้าใสกันมากมายค่ะ

แอบจิ๊กรูปจากกระทู้น้องปอยแปป

อย่างที่สาว ๆ ได้สัมผัสกัน ช่วงนี้อากาศร้อนม้ากกกก แต่เราก็ยังอยากมีผิวออร่ากันอยู่ถึงแม้แดดจะแรงเบอร์นี้ใช่มั้ยคะ

งาน workshop ครั้งนี้ ก็เลยนำเสนอตัวช่วยที่จะดูแลผิวของเรา ให้กระจ่างใสไม่แคร์ฤดูของเมืองไทย (ที่มีแต่ร้อนและร้อนมาก ฮรืออออ) นั่นเองค่ะ

ซึ่งนี้เป็นสูตรใหม่ มีส่วนผสมพิเศษจาก Acerola Cherry ที่เคลมว่าจะช่วยยับยั้งการผลิตเมลานิน แบบเหนือกว่าสูตรอื่น ๆ ทุกตัวมีกลิ่นหอมเชอรี่เบา ๆ 

อุปกรณ์ประจำ Workshop ครั้งนี้ ที่สาว ๆ เห็นปุ๊บ เริ่มเอะใจว่า งี้ก็ต้องล้างหน้าสิเนี่ย คิ้วชั้นนน!

ใช่แล้วจ้า (แต่ใครไม่สะดวกจะล้างหน้าก็ทดลองที่ผิวมือแทนได้ค่า) เพราะผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มีมูสที่ใช้ล้างหน้าแบบที่ล้างเครื่องสำอางได้ด้วยในขั้นตอนเดียว เหมาะกับสาว ๆ ที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ ไม่ต้องยุ่งยากหลายขั้นตอนเลย

Brightening Creamy Mousse Cleanser เป็นเนื้อมูสสีชมพูอ่อน ๆ

ใช้ครั้งละ 3 กดก็พอ วนบนหน้า ถ้าแห้งไปให้ใช้น้ำแตะเพิ่มเอาแทน ไม่ต้องกดมูสเพิ่มจ้า

ใน Workshop เราไม่สะดวกจะล้างด้วยน้ำ ก็เลยใช้ผ้าเปียกเช็ดแทน ถ้าเป็นที่บ้านสามารถล้างด้วยน้ำได้เลยค่า

ดูความสะอาดหมดจด ดูคิ้วที่หายไปนั่นสิ (อันนี้เว้นส่วนตาไว้นะค้า เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาแต่งหน้าใหม่)

แต่ทางคลาแรงส์ก็แนะนำว่า ให้ล้างหน้าแบบครบขั้นตอนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งนะคะ เคลียร์เครื่องสำอางที่ตกค้างออกไป จะได้สวยกันนาน ๆ

โดยวิธีของคลาแรงส์ หลังจากที่หน้าเปียกน้ำทุกครั้ง จะให้ใช้เป็นตัว Brightening Treatment Lotion เช็ดตามค่ะ ซึ่งจะมี 2 สูตรคือ Aqua เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบน้ำใส ๆ เหมาะกับผิวมันและผิวผสม และแบบ Milk เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบน้ำนม เหมาะกับผิวแห้งค่ะ 

*เคล็ดลับ* อันนี้ชอบมาก

ใช้สำลี 2 แผ่นเลยค่ะ หยดโลชั่นลงไปให้พอชุ่ม ม้วนแล้วบิดค่ะ สำลีจะชุ่มทั่วแผ่น แล้วเช็ดจากกึ่งกลางหน้าออกด้านข้าง *อย่างเบามือ* พร้อมกันทั้งสองข้างเลย โดยให้หยุดมือเมื่อเช็ดทั่วหน้าแล้วนะคะ อย่าไปเช็ดย้ำจนสำลีแห้ง

เพราะสำลีที่แห้งนี่แหละที่ทำร้ายผิวเราค่ะ แต่วิธีนี้อาจจะทำให้เปลืองโลชั่นไปหน่อยถ้าสำลีหนา ดังนั้นให้ใช้สำลีที่บาง หรือใช้แผ่นเดียวแล้วลอกให้เป็น 2 แผ่นก็ได้ (เดี๋ยวนี้มีสำลีแผ่นบางที่ใช้กับโทนเนอร์ขายแล้วนะ หาซื้อได้จ้า)

ผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปที่แนะนำคือ Brightening Revive Gel ซึ่งหลัก ๆ แล้วตัวนี้เทียบเท่ากับ Night Cream ค่ะ แต่ที่พิเศษว่านั้นคือ สามารถใช้เป็น Sleeping Mask และ Intensive Mask ได้ด้วย

โดยการใช้เป็น Sleeping Mask คือใช้ปริมาณเป็น 2 เท่าของที่เราใช้เป็น Night Cream ปกติ ใช้แล้วนอนเลย เป็นการบำรุงที่มากขึ้นกว่าปกติที่ทำได้เป็นประจำ

ส่วนการใช้เป็น Intensive Mask คือเป็นการบำรุงเร่งด่วน เช่นใช้ก่อนออกงานนะคะ ใช้เป็นปริมาณ 3 เท่าของปริมาณที่เราใช้เป็น Night Cream ค่ะ (ซึ่งมันจะดูเยอะและน่าตกใจ ให้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกตัวเองว่านี่คือมาสก์ ไม่ใช่ไนท์ครีมค่ะ 555) พอกทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยสำลีชุบโลชั่นค่ะ หรือจะล้างน้ำออกก็ได้เหมือนกัน

ตัวนี้เป็นเนื้อเจลค่ะ ให้ความรู้สึกเย็นและไม่หนักแบบเนื้อครีม ตอนมาสก์จะรู้สึกยิบ ๆ ที่ผิว ซึ่งทางคลาแรงส์บอกว่า ผลิตภัณฑ์กำลังทำความรู้จักกับผิวอยู่ (แต่ส่วนตัวไม่ตกใจนะคะเพราะเคยเป็นกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่น) แต่ถ้าแสบ บวม แดง อันนี้ถึงจะเป็นอาการแพ้ค่ะ 

ขั้นตอนต่อไปคือเซรั่มที่ชื่อว่า Tri-Intensive Brightening Serum ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญของทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ เพราะเซรั่มนี่แหละเข้มข้นสุด วิธีใช้คือกด 3 ปั๊มนะคะ วอร์มบนฝ่ามือแล้วกดลงบนผิวหน้า ไม่ใช้การเกลี่ยนะคะ

*เคล็ดลับ*

คลาแรงส์ให้ความสำคัญกับการสัมผัสผิวหน้าให้น้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวมีริ้วรอยค่ะ ซึ่งวิธีนี้ใช้กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นก็ได้ แต่ความชื้นของผลิตภัณฑ์คลาแรงส์ออกแบบมาเพื่อวิธีนี้จะทำให้เนื้อไม่แห้งบนมือไปก่อนจะถึงผิวหน้า ถ้าใช้กับยี่ห้ออื่นก็ต้อง adapt นิดนึงไปตามเนื้อผลิตภัณฑ์ค่า

ขั้นตอนต่อไป สำหรับการบำรุงผิวประจำวันในตอนกลางวันจะเป็นตัว Brightening Emulsion ซึ่งมี 2 สูตรค่ะ คือแบบมี SPF กับแบบไม่มี SPF

ซึ่งตัวที่พวกเราได้ลองใช้กันเป็นแบบมี SPF ค่ะ

เหตุผลที่เป็นเนื้อ emulsion เพราะอีมัลชั่นนั้นให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอโดยไม่หนักแบบเนื้อครีมนั่นเอง

วิธีใช้ก็กดออกมาบนฝ่ามือ วอร์มแล้วกดบนใบหน้าเหมือนเดิมค่ะ

สูตร SPF เมื่อทาแล้วจะเป็นฟิล์มบาง ๆ เคลือบบนผิว ซึ่งสาว ๆ มีประสบการณ์ร่วมกันว่า มันเป็นขุยค่ะะะ

ก็เลยสอบถามได้ความว่า ถ้าเป็นสูตรไม่มี SPF จะไม่เป็นขุยแบบนี้ แต่ก็ต้องทากันแดดเพิ่มอีก 1 ขั้นตอนค่า 

หลังจาก Workshop เรียบร้อยแล้ว ก็มีชุดผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองให้กลับมาลองใช้ที่บ้านต่อด้วย ดี๊ดี

ขอบคุณจีบัน.คอมที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ให้สมาชิกได้มามีส่วนร่วมกันนะคะ ได้เคล็ดลับดี ๆ เยอะเลย

รู้สึกยินดีมาก ๆ ที่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ สาว ๆ น่ารักกันทุกคน และก็ชื่นชมทีมงานที่ดูแลผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างดีด้วยค่ะ

กระทู้ยาวนิดนึง หลังจากที่ไม่ได้เขียนมาน๊านนนน ติชมกันได้นะค้า

พบกันใหม่โอกาสหน้าค่า


นู๋เจย์

นู๋เจย์

มือใหม่หัดแต่ง

FULL PROFILE