คือตอนแรกคนก็โทษลุงวอเรนกับป้าเฟย์ บอกว่าอ่านผิด แต่มันไม่เหมือน MU ไงคะ ชื่อผู้ชนะมีแค่หนึ่งเดียว ไม่ได้มีรองอันดับ 1 ลุงมีท่าทางงุนงงแต่แรกตอนอ่านผลด้วย เพราะบนกระดาษมีแค่ชื่อเอมม่า สโตนกับหนัง La la land ป้าเฟย์แกก็เร่งเร้าให้ประกาศ พอลุงยังชั่งใจยื่นให้ป้าเฟย์ดู ป้าก็ประกาศโดยไม่สงสัยว่าLa la land ได้
มันน่าเจ็บปวดที่ทีมงานดีใจกันมากมาย ขึ้นไปขอบคุณและได้รางวัลในมือแล้ว แต่ลุงวอร์เรนก็ต้องมา[อกข่าวร้ายว่าเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรงแล้วทีม La la land ก็ต้องยืนรางวัลให้กับผู้ชนะตัวจริงอย่างทีม Moonlight ค่ะ
Discussion (46)
เราจินตนาการในช่วง fitting นั้น ทีมก็ต้องหารือกับเอมม่าเรื่องชุดที่ใส่ออกมาแล้วโดดเด่น เพราะเธอคือตัวเก็งสุดๆ เรื่อง fringe ที่พริ้วไหวตอนเดินก็น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เธอเลือกชุดนี้
ซึ่งจริงๆเราไม่ได้มองตามฝรั่งอีกหลายคนที่คิดว่าสาวผิวซีดควรจะใส่สีที่สว่างเจิดจ้า ตราบใดที่ makeup และผมเป๊ะ ดึงความโดดเด่นจากความกลมกลืนของชุดและสีผิว ซึ่ง,makeup ของเอมม่าในงานนี้เป๊ะเลยล่ะ ดูมีออร่า
เรเชล makeup artist ของเธอบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปินในอดีต Gabriel Rossetti ที่เขาวาดภาพสาวผมแดงบ่อยๆค่ะ
อย่างไรก็ดี เพราะมันเป็นค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ของเธอ จึงมีคนให้ความเห็นเหมือนกันค่ะว่ามันเป็นลุคที่เห็นจากเอมม่าเรื่อยๆ ออสการ์ปีที่แล้วก็ผมลอนปัดข้างเหมือนกัน
คริสซี่แอบงีบเพระาการประกาศรางวัลมันก็มีช่วงอืดๆอยู่นะ ก็เป็นการหลับท่ามกลาง A Lister แบบเก๋ๆ
ในที่สุดไวโอล่าก็ได้ออสการ์ speech ของเธอทำให้ผู้ฟังประทับใจมาก บางคนบอกว่าร้องไห้เลย หลังจากนั้นเธอก็บอกกับสื่อว่าการได้รางวัลครั้งนี้มันทำให้เธอรู้สึกราวกับเจ้าหญิง
ดูหน้าป้าเมอรีลก่อน แบบ อุู๊ย ตาเถร!
รางวัล Best Picture คือรางวัลใหญ่ของหนังคุณภาพที่ได้เข้าชิง แล้วสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดก็ได้เกิดขึ้น อาจจะคล้ายก็กรณีถอดมงมิสยูนิเวอร์ส แต่รายละเอียดมันต่างกันิดนึง เป็นเหตุการณืที่ขอตั้งชื่อว่า "จดหมายผิดซองแล้วกัน"
คือเรื่องการจัดการจดหมายผลรางวัลนั้น ไม่ใช่ว่าเค้าแค่มีพนักงานคอยยื่นซองให้กับเซเลบเพื่อประกาศหน้าเวที แต่จ้างบริษัทใหญ่โตจัดการ และไม่เคยผิดพลาดใหญ่โตแบบนี้เลย เรื่องราวมันน่าแปลกใจสุดๆ เพราะดันมาเกิดกับรางวัลโดดเด่นของงานด้วย
คือตอนแรกคนก็โทษลุงวอเรนกับป้าเฟย์ บอกว่าอ่านผิด แต่มันไม่เหมือน MU ไงคะ ชื่อผู้ชนะมีแค่หนึ่งเดียว ไม่ได้มีรองอันดับ 1 ลุงมีท่าทางงุนงงแต่แรกตอนอ่านผลด้วย เพราะบนกระดาษมีแค่ชื่อเอมม่า สโตนกับหนัง La la land ป้าเฟย์แกก็เร่งเร้าให้ประกาศ พอลุงยังชั่งใจยื่นให้ป้าเฟย์ดู ป้าก็ประกาศโดยไม่สงสัยว่าLa la land ได้
มันน่าเจ็บปวดที่ทีมงานดีใจกันมากมาย ขึ้นไปขอบคุณและได้รางวัลในมือแล้ว แต่ลุงวอร์เรนก็ต้องมา[อกข่าวร้ายว่าเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรงแล้วทีม La la land ก็ต้องยืนรางวัลให้กับผู้ชนะตัวจริงอย่างทีม Moonlight ค่ะ
ตอนนี้อินเตอร์เน็ทเข้าถึงทุกที่ หลายคนก็พยายามจับผิดถึงความผิดปกติ แต่ก็พบว่าลุงวอร์เรนได้รับซองผิดจริงๆ ดังนั้นเราไม่คิดว่าความผิดอยู่ที่ผู้ประกาศค่ะ คือมันน่างง ที่เห็นแต่ชื่อนางเอกและหนัง แต่มันมีแค่ 2 ชื่อก็ต้องประกาศไป
บริษัทที่จัดการก็ออกประกาศขอโทษและจะสอบสวนให้ละเอียดต่อไปว่าทำไมถึงผิดพลาดได้ถึงขนาดนั้น
แบร์รี่ เจนกิ้นส์ ผู้กำกับ Moonlight คือชาวอเมริกันผิวดำคนแรกที่กำกับหนังที่ได้รางวัล Best Picture (ผู้กำกับผิวดำคนแรกที่ได้เป็นคนอังกฤษ) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อเขามาพบว่า Moonlight ต่างหากที่คว้ารางวัลมันจึงทั้งสร้างความช็อกและความสุขให้มากมาย
ก็ต้องเสียใจกับทีมงาน La La land ด้วยจริงๆ ต้องมาเสียความรู้สึกกัน แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกคนค่ะ
ตอนดู Skins ก็เฉยๆนะ พอเห็นไปได้ดีกับหนัง Slumdog Millionaire ก็ชื่นชมอยากจะให้ไปไกลเพราะถ้าเป็นนักแสดง race อื่น บทหนังจะจำกัดมากๆ เพราะปัญหา diversity มันก็คงอยู่ แบบปฏิเสธไม่ได้ นักแสดงผิวดำ ก็ต้องรับบทแนวเดิม คิดภาพออกมั้ยคะ ประมาณคนผิวดำที่ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิและแสดงศักยภาพของตัวเอง คือมันค่อนข้างจำกัด ในขณะเรื่องWhitewashing ก็ยังมีให้เห็นเรือยๆ บางทีมันดูขัดตาจนคนด่าไปกันทั่ว (เช่นการ cast เอมม่า สโตน ให้รับบทสาวที่เป็นลูกเสี้ยวมีเชื้อสายเอเชียนและชาวพื้นเมืองฮาวายเอี้ยน ทั้งๆที่เธอน่ะฝรั่งแบบโคตรๆ พอหนังออกมาก็ถูกต่อต้านและล้มเหลวเรียกว่าเป็นจุดด่างในเส้นทาง A List ของเอมม่า และเธอก็เสียดายที่รับบทนี้ไปจนถูกถล่มเละเทะ ) แล้วพอมาดูที่เดฟที่เป็นหนุ่มอังกฤษเชื้อสายอินเดีย โอกาสที่ผ่าน casting ยิ่งแคบไปอีก แต่น้องเค้าเจ๋งจริงค่ะ คว้าบทนำใน Lion ซึ่งเป็นหนังสัญชาติออสซี่แล้วเข้าชิงออสการ์
อ้อ ตอนนี้สาวๆกรี๊ดเดฟกันมากขึ้นด้วย พอโตแล้วเซอร์ก็หล่อเลย สูงขายาวดู sexy เรานี่ดู Lion แล้วแบบ แอร้ยยย นี่เดฟจาก Skins เรอะ!