89th Academy Awards

.

Discussion (46)

พูดถึงนางเอกของงานนะคะ  หลายๆสื่อก็ยกให้ชุด Givenchy ของเอมม่านั้นติด  best dressed ตามคาด


เราจินตนาการในช่วง fitting นั้น ทีมก็ต้องหารือกับเอมม่าเรื่องชุดที่ใส่ออกมาแล้วโดดเด่น เพราะเธอคือตัวเก็งสุดๆ  เรื่อง fringe ที่พริ้วไหวตอนเดินก็น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เธอเลือกชุดนี้ 


ซึ่งจริงๆเราไม่ได้มองตามฝรั่งอีกหลายคนที่คิดว่าสาวผิวซีดควรจะใส่สีที่สว่างเจิดจ้า  ตราบใดที่ makeup และผมเป๊ะ ดึงความโดดเด่นจากความกลมกลืนของชุดและสีผิว ซึ่ง,makeup ของเอมม่าในงานนี้เป๊ะเลยล่ะ ดูมีออร่า  


เรเชล  makeup artist ของเธอบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปินในอดีต  Gabriel Rossetti  ที่เขาวาดภาพสาวผมแดงบ่อยๆค่ะ



อย่างไรก็ดี  เพราะมันเป็นค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ของเธอ  จึงมีคนให้ความเห็นเหมือนกันค่ะว่ามันเป็นลุคที่เห็นจากเอมม่าเรื่อยๆ  ออสการ์ปีที่แล้วก็ผมลอนปัดข้างเหมือนกัน



เอมม่ากับบรีกอดกันหลังจากที่ได้รางวัล จากนั้นเอมม่าก็เริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน





คริสซี่แอบงีบเพระาการประกาศรางวัลมันก็มีช่วงอืดๆอยู่นะ ก็เป็นการหลับท่ามกลาง A Lister แบบเก๋ๆ



ในที่สุดไวโอล่าก็ได้ออสการ์ speech ของเธอทำให้ผู้ฟังประทับใจมาก บางคนบอกว่าร้องไห้เลย หลังจากนั้นเธอก็บอกกับสื่อว่าการได้รางวัลครั้งนี้มันทำให้เธอรู้สึกราวกับเจ้าหญิง

ความโกลาหลที่ทุกคนโจษจัน แค่ดูหน้าแขก A List ก็รู้ว่าเรื่องใหญ่มาก


ดูหน้าป้าเมอรีลก่อน แบบ อุู๊ย ตาเถร!




รางวัล Best Picture คือรางวัลใหญ่ของหนังคุณภาพที่ได้เข้าชิง  แล้วสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดก็ได้เกิดขึ้น   อาจจะคล้ายก็กรณีถอดมงมิสยูนิเวอร์ส แต่รายละเอียดมันต่างกันิดนึง  เป็นเหตุการณืที่ขอตั้งชื่อว่า "จดหมายผิดซองแล้วกัน" 


คือเรื่องการจัดการจดหมายผลรางวัลนั้น ไม่ใช่ว่าเค้าแค่มีพนักงานคอยยื่นซองให้กับเซเลบเพื่อประกาศหน้าเวที แต่จ้างบริษัทใหญ่โตจัดการ   และไม่เคยผิดพลาดใหญ่โตแบบนี้เลย  เรื่องราวมันน่าแปลกใจสุดๆ เพราะดันมาเกิดกับรางวัลโดดเด่นของงานด้วย 


คือตอนแรกคนก็โทษลุงวอเรนกับป้าเฟย์ บอกว่าอ่านผิด แต่มันไม่เหมือน MU ไงคะ ชื่อผู้ชนะมีแค่หนึ่งเดียว ไม่ได้มีรองอันดับ 1  ลุงมีท่าทางงุนงงแต่แรกตอนอ่านผลด้วย เพราะบนกระดาษมีแค่ชื่อเอมม่า สโตนกับหนัง La la land  ป้าเฟย์แกก็เร่งเร้าให้ประกาศ  พอลุงยังชั่งใจยื่นให้ป้าเฟย์ดู  ป้าก็ประกาศโดยไม่สงสัยว่าLa la land ได้


มันน่าเจ็บปวดที่ทีมงานดีใจกันมากมาย ขึ้นไปขอบคุณและได้รางวัลในมือแล้ว แต่ลุงวอร์เรนก็ต้องมา[อกข่าวร้ายว่าเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรงแล้วทีม La la land ก็ต้องยืนรางวัลให้กับผู้ชนะตัวจริงอย่างทีม Moonlight ค่ะ




ตอนนี้อินเตอร์เน็ทเข้าถึงทุกที่  หลายคนก็พยายามจับผิดถึงความผิดปกติ  แต่ก็พบว่าลุงวอร์เรนได้รับซองผิดจริงๆ   ดังนั้นเราไม่คิดว่าความผิดอยู่ที่ผู้ประกาศค่ะ  คือมันน่างง ที่เห็นแต่ชื่อนางเอกและหนัง  แต่มันมีแค่ 2 ชื่อก็ต้องประกาศไป  




บริษัทที่จัดการก็ออกประกาศขอโทษและจะสอบสวนให้ละเอียดต่อไปว่าทำไมถึงผิดพลาดได้ถึงขนาดนั้น  

แบร์รี่ เจนกิ้นส์ ผู้กำกับ Moonlight คือชาวอเมริกันผิวดำคนแรกที่กำกับหนังที่ได้รางวัล Best Picture (ผู้กำกับผิวดำคนแรกที่ได้เป็นคนอังกฤษ)  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อเขามาพบว่า Moonlight ต่างหากที่คว้ารางวัลมันจึงทั้งสร้างความช็อกและความสุขให้มากมาย

ก็ต้องเสียใจกับทีมงาน La La land ด้วยจริงๆ  ต้องมาเสียความรู้สึกกัน แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกคนค่ะ
เดฟ พาเทลพาแม่มาด้วย น่ารักเนอะ



ตอนดู Skins ก็เฉยๆนะ พอเห็นไปได้ดีกับหนัง Slumdog Millionaire ก็ชื่นชมอยากจะให้ไปไกลเพราะถ้าเป็นนักแสดง race อื่น บทหนังจะจำกัดมากๆ เพราะปัญหา diversity  มันก็คงอยู่ แบบปฏิเสธไม่ได้ นักแสดงผิวดำ ก็ต้องรับบทแนวเดิม คิดภาพออกมั้ยคะ ประมาณคนผิวดำที่ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิและแสดงศักยภาพของตัวเอง คือมันค่อนข้างจำกัด ในขณะเรื่องWhitewashing ก็ยังมีให้เห็นเรือยๆ  บางทีมันดูขัดตาจนคนด่าไปกันทั่ว (เช่นการ cast เอมม่า สโตน ให้รับบทสาวที่เป็นลูกเสี้ยวมีเชื้อสายเอเชียนและชาวพื้นเมืองฮาวายเอี้ยน  ทั้งๆที่เธอน่ะฝรั่งแบบโคตรๆ  พอหนังออกมาก็ถูกต่อต้านและล้มเหลวเรียกว่าเป็นจุดด่างในเส้นทาง A List ของเอมม่า และเธอก็เสียดายที่รับบทนี้ไปจนถูกถล่มเละเทะ )   แล้วพอมาดูที่เดฟที่เป็นหนุ่มอังกฤษเชื้อสายอินเดีย  โอกาสที่ผ่าน casting ยิ่งแคบไปอีก  แต่น้องเค้าเจ๋งจริงค่ะ   คว้าบทนำใน Lion ซึ่งเป็นหนังสัญชาติออสซี่แล้วเข้าชิงออสการ์


อ้อ ตอนนี้สาวๆกรี๊ดเดฟกันมากขึ้นด้วย พอโตแล้วเซอร์ก็หล่อเลย  สูงขายาวดู sexy  เรานี่ดู Lion แล้วแบบ แอร้ยยย นี่เดฟจาก Skins เรอะ!