Divas and Their Rivals : true or false ?

จริงหรือไม่ที่ดิว่ารุ่นใหญ่มักไม่ลงรอยกับดาวรุ่งที่โด่งดังตามหลังมา   ลองมาชมกันเลย

Discussion (15)

เราจะยกตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งที่น่าจะคล้ายกับtrademark drama ของ2 ไคลี่ จากที่แองเจลิน่า โจลี่พยายามคัดค้านไม่ให้ดีไซน์เนอร์รายหนึ่งใช้ชื่อน้ำหอทว่า Shiloh ที่ตรงกับชื่อลูกสาวของเธอ เหมือนจะมองว่าดีไซน์เนอร์รายนี้ฉวยผลประโยชน์จากความเป้ฯครอบครัวคนดังของพวกเค้า  แต่ผู้ผลิตน้ำหอมรายนี้พิสูจน์ได้ว่าพัฒนาน้ำหอมตัวนี้มาก่อนที่ลูกสาวแองจี้จะลืมตาดูโลก  และแรงบันดาลใจก็ไม่ได้มาจากเด็กน้อยคนดัง แต่เป็นคำว่า Shiloh ที่แปลว่าของขวัญของเขาในภาษาฮีบรูซึ่งเธอคุ้เนเคยดีเพราะมีเชื้อสายอิสราเอล  และในที่สุดโจลี่ก็ยกเลิกการคัดค้านนั้นไปค่ะ
มิโน้กนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเป็น sweetheart ค่ะ ดาราอเมริกันที่เคยไปออสเตรเบียก็ได้ออกปากว่า โอ ที่ไหนก็เห็นแต่มิโน้ก คนพูดแต่เรื่องมิโน้ก เพราะเธอไม่ได้โด่งดังในฐานะซุปตาร์สุดsexy เท่านั้น แต่ยังมองเธอเป็นแบบอย่างของผู้หญิงแนวหน้าผู้รอดจากโรคมะเร็งเต้านมและยังเป็นgay icon โดดเด่นเรื่องงานการกุศล เรียกว่าภาพลักษณ์ดีมาก   แต่พอถึงเวลาจะเหวี่ยง เธอก็ดูโหดเหมือนกันนะ


ทีมกฎหมายของมิโน้กได้ระบุเหตุผลในการคัดค้านความพยายามในการtrademark ของเจนเนอร์ว่า ในขณะที่มิโน้กเป็นซุปตารณ์ระดับโลกและมีผลงานโดดเด่นเป็นแบบอย่างทีดีในหลายๆด้าน การอนุมัติtrademarของเจนเนอร์จะทำให้แฟนๆที่สนับสนุนเธอเกิดความสับสนและสร้างความเสื่อมเสียเพราะเจนเนอร์เคยถูกต่อต้านจากกลุ่มเรียกร้องสิทธิ์คนพิการและกลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกันมาก่อน  (จากกรณีภาพถ่ายแฟชั่นบนวีลแชร์และcultural appropriationที่เป็นประเด็นบอบบางของคนผิวดำ)





ทีมกฎหมายของมิโน้กยังกรีดเจ็บๆว่า เจนเนอร์เป็นเพียงดาราสมทบในรายการเรียลลิตี้ ส่วนมิโน้กคือศิลปินหญิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังฝนระดับนานาชาติและโลกรู้จักเธอในชื่อของ Kylie 




เจนเนอร์น่าจะปล่อยให้ทีมทำงานกันไปในการได้ trademark นี้มา  เธอไม่ได้ตอบโต้มิโน้กแม้จะมีรายงานว่าคำร้องของเธอจะถูกปฏิเสธ  แต่ทีมกฏหมายไม่ได้ยกธงขาวยื่นอุทธรณ์ต่อ  ส่วนฝั่งมิโน้กนั้น มีการวิเคราะห์จากเว็บไซท์กฎหมายว่าทีมของเธอน่าจะตกลงนอกรอบกับฝั่งตรงข้ามแล้ว  ซึ่งเธฮอาจจะได้รับคำแนะนำมาแล้วค่ะว่าถึงทีนควีนชื่อดังจะ trademark ชื่อนี้ได้  แต่ก็อาจจะได้รับคุ้มครองในหมวดหมู่ที่ไม่กระทบต่อแบรนด์มิโน้ก  เธอจึงยกเลิกการคัดค้านไป  และจริงๆแล้วหลายฝ่ายก็มองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เจนเนอร์จะสมหวังจากที่ถูกปฏิเสธคำร้องไปแล้ว
เรื่อง trademark ของ USA นั้นมันซับซ้อน  ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่สื่อนำมาใส่สีตีไข่ว่าไคลี่ เจนเนอร์ต้องการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ชื่อนี้แล้วใครคนอื่นจะตั้งชื่อลูกว่าไคลี่ไม่ได้อีก  ที่จริงแล้วมันต้องแยกหมวดยิบย่อยลงไปอีกค่ะ ซึ่งคนดังที่ขอ trademark ชื่อตัวเองแล้วได้รับการอนุมัตินั่นคือ 50 cent   สังเกตความแตกต่างมั้ยคะ  ชื่อนี้เป็นนามแฝงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ  ถ้าพูดถึง50ก็ 50ที่เป้นแร็พเพอร์นี่แหละ ไม่ต้องยกประวัติผลงานและสินค้ามาไล่เรียง 


มีเซเลบหันมาทำธุรกิจและประสบความสำเร็จกันหลายคน  ถ้าอยู่ๆพวกเขาลุกขึ้นมาขอprotection ไม่ให้คนอื่นเอาชื่อตัวเองไปใช้แอบอ้างนั้นก็พอจะเข้าใจได้ แต่หากมันเป็นชื่อที่ใครคนอื่นมีมามานก่อนหน้ารวมไปถึงปล่อยสินค้าต่างๆในชื่อนี้มาก่อนล่ะ 


ตลาดเป้าหมายของไคลี่ มิโน้กนั้นอยู่ที่ยุโรป เอเเชีย ออสเตรเลียก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ได้ทำมาหากินที่อเมริกาเลย  เจ้าตัวได้ trademark ชื่อธุรกิจของตัวเอง  แต่ไม่ใช่ชื่อต้นโล้นๆค่ะ จะเป็น“Kylie Minogue Darling,” “Lucky – the Kylie Minogue musical” และ“Kylie Minogue"  กองเชียร์มิโน้กจึงวิพากษ์ไคลี่วัยทีนว่าเธอจะขอ trademark ชื่อ Kylie Jenner ก็น่าจะครอบคลุม


กรณีเซเลบที่พยายามจะ trademark ชื่ออีกคนคือบียอนเซ่  แต่เป้นชื่อของบลู ไอวี่ ลูกสาวตัวน้อย แต่คำขอนั้นถูกปฏิเสธไปเนื่องจากมีบริษัทจัดอีเวนท์ขอลิขสิทธิ์ชื่อนี้ไว้ก่อนแล้ว  และโดเมน blueivy.com ก็มีเจ้าของแล้ว  (หากถามว่าต้อง trademark ไปทำไม  ควีนบีเค้าวางแนวทางธุรกิจของทายาทไว้แล้วค่ะ ก็จะมีทั้ง clothing และ beauty line ภายใต้ชื่อของลูกสาววางจำหน่าย)




ที่สื่อตีข่าวโครมๆว่าสองไคลี่แย่งtrademark ชื่อตัวเองนั้น  จริงๆฟังดราม่าไปหน่อยค่ะ  เพราะที่จริงแล้วมิโน้กนั้น "ยื่นคัดค้าน"  ต่างหาก ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะแย่งสิทธิ์การใช้ชื่อไคลี่มาครอบครองผู้เดียว  เพราะเธอก็อยู่ดีมีแรงกับ trademark ชื่อเต็มของเธอมาตลอดหลายปี  แต่แน่นอนว่าเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวเรื่องนี้ขึ้นชื่อมา เธอก็ต้องคิดว่ามันเริ่มมีอะไรไม่ชอบมาพากลขึ้นมาแล้วล่ะ  ไม่งั้นไม่ส่งทีมกฎหมายออกมาคัดค้านแบบนี้   เพราะไม่ใช่เพียงแต่สินค้าในชื่อKylie ที่เธอเคยสรรสร้างป้อนเข้าสู่ตลาดผู้บริโภค  แต่มันยังรวมถึงโพรเจคท์ในอนาคตของเธอด้วย   หากมีการอนุมัติให้ไคลี่ เจนเนอร์ได้ trademark ชื่อนี้ไปจริงๆ  ไคลี่ มิโน้กจะยังสามารถสร้่งแบรนด์ภายใต้ชื่อของเธอเหมือนที่แล้วมารึเปล่า เพราะตลอดมา สินค้าหลายตัวของเธอไม่ได้ใช้ชื่อสกุลเต็มนะคะ เข้าใจว่าเธอใช้มานานจนติดหูแฟนๆแล้ว ยกตัวอย่างก็ kylie.com นั่นเอง
Jenner  ทีนควีนน้องเล็กของคาร์แดชเชียนที่ก้าวจากการเป็นเน็ตไอดอลมาเป็นเทรนด์เซ็ทเทอร์ของเด็กสาวในอเมริกา  ธุรกิจเครื่องสำอางของเธอไปได้สวยล้ำหน้าพี่ๆที่เคยเฟลตอนทำเมคอัพแบรนด์คาร์แดชเชียนมาก่อน  ตอนนี้แค่ขยับตัวนิดเดียวสื่อบันเทิงก็ต้องนำเรื่องราวของไคลี่มาเป็นheadlineเรียกยอดคลิก เธอเป็น bombchell  ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่  แม้จะมี troll คอยตามหลอกหลอนโจมตี แต่เชื่อว่ากระแสเธอยังร้อนแรงไปได้อีกนาน


หลายคนคิดว่าปากอวบอิ่มของเธอคือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง






จากเน็ทไอดอลวัยรุ่นที่ดูไม่ประสา ตอนนี้เธอก้ามาเป็นนักธุรกิจสาวและสร้างแบรนด์ Kylie cosmetics ประสบความสำเร็จจนร่ำรวย สาววัยรุ่นมากมายมายคลั่งไคล้ในลุคของเธอ เฝ้าติดตามจับจองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ไคลี่นำเสนอ  การตลาดที่ดำเนินผ่าน social media นั้นสร้่างกระแสแบบพุ่งกระฉูดบวกกับคุณภาพของสินค้าที่หลายคนยืนยันว่าเลิศเลออาจจะทำให้ (ทีม) ของไคลี่ปิ๊งความคิดเรื่องเครื่องหมายการค้าขึ้นมา



แต่ประเด็นร้อนมันเริ่มขึ้น เมื่อมีการเปิดเผยว่า นอกจากเครื่องหมายการค้าชื่อ Kylie Jenner แล้ว เธอยังต้องการจะได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ Kylie ไว้เพียงผู้เดียวด้วย 



บางคนก็งงว่า...ใช่เหรอ  ??  เธอจะยื่นขอใช้ชื่อต้นของตัวเองในการสร้างแบรนด์แม้ว่าจะเป็นชื่อที่ใช้กันทั่วไป เราลองติดตามจากหลายๆสื่อที่นำคำร้องของทีมไคลี่ เจนเนอร์มาตีความหมายกันแล้ว ดูเหมือนว่านอกจากจะได้รับความตุ้มครองเพื่อจะใช้เครื่องหมายการค้าชื่อของตัวเองในการโฆษณาสินค้าแล้ว เธอต้องการที่จะได้ลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อไคลี่ในการโพรโมทแบรนด์ตัวเองบนอินเตอร์เน็ทอีกด้วย  ซึ่งมันมาสะดุดอยู่ตรงที่ kylie.com นั้น  เป็นเว็บไซท์ของไคลี่ มิโน้กที่เปิดใช้มาก่อนไคลี่ เจนเนอร์จะเกิดซะอีก   มันจึงมีคำถามว่า  ถ้ามีการอนุมัติให้ได้ไคลี่ เจนเนอร์ได้เครื่องหมายการค้านี้จริงๆ  ไคลี่ มิโน้กต้องปิดเว็บที่เปิดมา20ปีแล้วก็ยกชื่อนี้ไปให้เด็กสาวรุ่นลูกใช้แทนรึเปล่า?