รีวิว เปรียบเทียบ อุปกรณ์ลงรองพื้น ตั้งแต่ นิ้วมือ แปรง ฟองน้ำ ไปจนถึง ซิลิโคน พร้อมข้อดีข้อเสีย

46 19

สวัสดีค่า วันนี้จะมา รีวิว เปรียบเทียบ เจ้าอุปกรณ์การลงรองพื้นให้เพื่อนๆดู ว่าตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด

นี่คืออุปกรณ์ทั้งหมดนะคะ รวมนิ้วมือด้วยนะ55

อุปกรณ์การทดสอบ lemon + รองพื้น เราจะใช้รองพื้นในปริมาณที่เท่ากัน และตัวเดิมกับทุกอุปกรณ์เพื่อจะได้เหนผลชัดขึ้น

ป่ะ เริ่ม!!!

1.นิ้วมือ

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าเป็นสิ่งที่หลายคน

ใช้ลงรองพื้นบ่อยที่สุดเราก็เช่นกัน วันไหนที่รีบ

ไม่มีเวลาจุ่มแปรง ใดๆ มือนี่แหละค่ะ

ปาดลงไปเลย

ผลการทดสอบ : จะเห็นได้ว่าให้การปกปิดเต็มที่ ไม่มีการดูดซับรองพื้นแต่อย่างใด แต่ไม่สามารถปิด รูร่องลึกเช่นรูขุมขน ได้

ราคา : ไม่มีปะ

การทำความสะอาด : โอเค มันอาจมีความสกปรก เวลาทาเสร็จ ถ้าไปจับเสื้อผ้า คือจบทันที แต่แค่ไปล้างมือหรือเช็ดกับ ทิชชูเปียก ก็สะอาดแล้ว

2. traditional foundation brush แปรงรองพื้นดั้งเดิม

ที่จนปัจจุบันก็ยังไงไม่สามารถตอบโจทย์เราได้(ส่วนตัวนะ)

ผลการทดสอบ : กินรองพื้นประมาณนึง เพราะลงได้ในบริเวณไม่เต็มหน้า lemon อีกทั้งไม่สามารถปกปิด รอย หรือร่องลึกได้

ราคาและระยะเวลา : แล้วแต่ยี่ห้อ ตัวนี้เป็นของ Bobbi brown ซื้อมาได้สัก 7 ปีแล้ว แต่การใช้งานนับครั้งได้เลย ดังนั้นความคุ้มค่ากับระยะเวลายังบอกไม่ได้ เพราะไม่ได้ใช้งานประจำ ราคาประมาณ 1400-1700 บาท

การทำความสะอาด : ซักแปรง กับน้ำยาทำความสะอาดแปรง มีความขี้เกียจเล็กน้อยกับวิธีนี้

3. bluffing brush แปรงที่เข้ามาตอบโจทย์ความยากของแปรงด้านบน สะดวก ง่าย ดี มีขายกันหลากหลายแบรนด์มาก เชื่อว่าสาวๆน่าจะมีติดบ้านกันทุกคน

ผลการทดสอบ : ใช้งานง่าย ปิดรูร่องลึก ได้กำลังดี มีการกินเนื้อรองพื้นไปบ้างแต่ยังอยุ่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีความเป็นเส้นบ้าง ต้องใช้เวลาลงสักพัก (ไม่นานอย่างที่คิดนะ)

ราคาและระยะเวลา : ตัวที่เราชอบเป็นของ Zoeva เบอร์ 102 ราคา 588 บาท ใช้งานบ่อย เกือบทุกวัน มี2อันเอาไว้ สลับกันเวลาขี้เกียจซัก ใช้มาเกือบ 2 ปีแล้ว สภาพยังดีมาก ขนไม่หลุด

การทำความสะอาด : ซัก ตัวนี้จะทำความสะอาดยากกว่า แปรงตัวแรก เพราะ ขนมันมีความแน่นมาก ยิ่งใช้งานไปนานๆแล้วไม่ยอมซัก เนื้อรองพื้นจะลงไปกลางแปรง และติดขนแปรงแน่นมาก ใช้เวลาทำความสะอาด แต่ซักออกทุกครั้งนะ ไม่มีตกค้าง

4.Artis brush แปรงแต่งหน้าอะไร นี่แปรงสีฟันชัดๆ ฮิตมากจริงๆแปรงตัวนี้ทั้ง กูรูไทยและเทศ ทนไม่ไหว ต่อเสียงเรียกร้อง (ใครเรียกร้อง?) ต้องตำมาเล่นดู

ผลการทดสอบ : ลงง่ายมากกกกกกกก แบบว่าปาดๆจบ ลงได้ในบริเวณกว้าง ไม่กินรองพื้น ไม่โบกไม่หนา คือเนียนไปกับหน้ามาก ปกปิดรูร่องลึกได้ดีงาม ขอบหน้านี่ไม่ต้องเบรนเพิ่ม มันเนียนกลืนไปกับผิวเลย ใช้เวลาสั้นในการลง ปกปิด แต่ไม่โบก

ราคาและระยะเวลา : Artis oval 7 เป็นขนาดที่พอเหมาะกับหน้าเรา ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป ราคาเจ็บปวดแบบพร้อมกินมาม่า 3,200 บาท (แล้วแต่ร้านหิ้ว ไม่มีขายในไทยนะคะ) ใช้มาปีกว่าๆ สภาพ เหมือนเดิมตั้งแต่ใช้มาซักไปหลายรอบ ไม่เคยเห็นขนแปรงร่วงสักเส้น

การทำความสะอาด : ซักเหมือนแปรงทั้วไป แต่ต้องซักบ่อยเนื่องจากขนแปรงแน่นมากกกก ถ้ารองพื้นซึมลงไปเมื่อไร ใช้เวลาทำความสะอาดแน่นอน

5.Beauty blender ฟองน้ำไข่ ที่ฮิตกันยิ่งกว่าแปรงอีก คือเรารู้สึกว่า เทรนการ contour หน้าหนักๆ ได้มาเพราะมี beauty blender ช่วยทำให้การเกลี่ยผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมง่ายขึ้น

ผลการใช้งาน : เนียนมาก จนหายไปกับผิวเลย แทบไม่ปกปิด เพราะมันค่อนข้าง อมเนื้อรองพื้นพอสมควร ถ้าใช้ในปริมาณเท่ากับแปรง คือ ไม่พอ แต่ปิดรูร่องลึกได้พอสมควรเลยนะ ส่วนตัวชอบใช้หลังลงด้วยแปรงอันอื่น เพื่อซับเอาส่วนเกินออกมากกว่าเพราะมันจะให้ผิวที่สวยมาก แต่ถ้าหนังหน้ายังต้องการการปกปิด บางขนาดนั้นไม่ค่อยตอบโจทย์

ราคาและระยะเวลา : ราคา 980 บาท และต้องดูแลอย่างดีมาก ถ้าอับชื้นเมื่อไร น้อง ราร่า จะมาเยือน ส่วนตัว ใช้ได้ประมาณ 2 -3 เดืองต้องเปลี่ยน เพราะมีความรุ้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว (อาจใช้ได้นานกว่านั้นนะ แต่ส่วนตัวโรคจิต)

การทำความสะอาด : ซักกับน้ำยาของเขาเลย จะง่ายสุด ไม่ควรปล่อยให้นานเกินไป เพราะจะซักออกยาก ทางทีดี ควรซักทุกครั้งที่ใช้เพื่อความไม่หมักหมม แต่ส่วนตัวทำไม่ได้ ถ้าลงรองพื้นแบบในภาพ จะซักยากมากกว่า ลงที่หน้าแล้วค่อยเอาฟองน้ำเกลี่ย

6.พัฟซิลิโคน ที่ตอนนี้มาแรงแซงทุกโค้ง ด้วยความแปลก ความงง ความการตลาด ทำให้อดทนไม่ไหว ต้องสอยมาดูสิ มันยังไง

ผลการใช้งาน : ไม่กินรองพื้นเลย ประหยัดรองพื้นแน่นอน แต่!!!! ด้วยความที่มันไม่ซับรองพื้นเลย มันจึงไปโบกอยู่บนหน้าเราหมด ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าอุปกรณ์อันอื่นมาก ส่วนตัวต้องใช้beauty blender ตามมันถึงจะกำลังพอดี ไม่หนาไป ค่อนข้างเกลี่ยยาก และไม่ค่อยปิดรูร่องลึก ถึงแม้เนื้อรองพื้นจะอยู่บนหน้าเราหมดก็ตาม มันให้ความรู้สึกว่ารองพื้นกองๆอยุ่บนผิว

ราคา : 290 บาท ณ ร้านหิ้ว

การทำความสะอาก : ง่ายที่สุดในโลก ตัวนี้ชนะเอาโล่ไปเลย คือจะล้าง จะเช็ด ยังไงก็สะอาด ภายในเวลาอันรวดเร็ว

ผลสรุปรวม เรียงไปตามเบอร์ 1-6 นะคะ 

ผลสรุป ส่วนตัวใช้ เบอร์ 3,4, 5(ใช้ประกอบกับตัวอื่น)บ่อยสุด รองลงมาเป็น เบอร์ 6 ใช้ไป สามครั้งพอไหว แต่ส่วนตัวไม่ชอบความโบก แต่ชอบความง่ายในการทำความสะอาด

ลองอ่านข้องดี ข้อเสียกันดูนะคะ ถ้าใครกำลังสนใจจะสอยตัวไหน จะได้มีข้องมูลประกอบการตัดสินใจว่ามันเหมาะกับ lifestyles เรามั้ย

วันนี้ไปก่อนนะคะ ขอบคุนนะคะที่เข้ามาอ่าน

ไปก่อนบ้ายบาย


VipaveeT

VipaveeT

....

FULL PROFILE