Celebrities and their Fangirls

.

Discussion (15)

ความโนแมนติคของแฟนๆที่วาดมันขึ้นมา...


ภาพนี้ทำให้เจมส์ต้องถามไมเคิลว่า ทำไมนายไม่เคยอบคัพเค้กให้ชั้นเลยล่ะ


 
ไปจนถึงขนาดนี้ เจทส์บอกว่า ภาพนี้เหมือนพวกเราเป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันมา 25 ปี แล้วไม่ได้มีอะไรกันมานานมาก คราวนี้ก็เลยชวนกันมาจัดการสักหนเถอะ... ในขณะที่ไมเคิลเสริมขึ้นมาว่า  ดูดิพวกเราไม่ถอดกางเกงด้วยซ้ำ!


แกรห์มเปิดโอกาสให้แฟนเกิร์ลเขียน fiction ติดเรทแล้วอ่านให้คู่ Mcbender ฟังแบบสดๆ จนเจมส์อดไม่ไหวว่า ปกติผู้หญิงเค้าไม่ชอบคิดถึงเรื่องผู้ชายมีอะไรกันไม่ใช่เหรอ   แล้วติ่งเค้าตอบกลับมาแบบเขินๆว่า" จิ้นแค่พวกคุณสองคนเท่านั้นค่า"


คือถ้าสองคนนี้ไม่สนิทกันนัก เค้าอาจจะไม่ชิลกับเรื่องคู่จิ้นมากขนาดนี้นะ   แต่ทั้งคู่ก็ดูซี้กันดีและก็ฮาไปกับจินตนาการลึกล้ำของแฟนๆ  แม้จะดูตะลึงไปเหมือนกันที่มีแฟนบางคนเขียนนิยายรักยืดยาวพอๆกับหนังสือสองเล่ม  หรือบางคนเขียนให้เจมส์ตั้งท้องลูกแฝดของไมเคิลเตรียมเป็นพ่อ-พ่อคน ล้ำเว่อร์
Bromance
Mcbender - Cherik


แต่ก่อนเราก็คิดว่าแนวคิดการจิ้นตัวละครชาย-ชายนั้นมีอยู่แถวๆเอเชียเท่านั้น  


อาจจะจิ้นต่อเนื่องตั้งแต่  Cherik จาคภาคก่อนหน้า


คู่นี้เราไม่รู้เลยว่าแฟนๆจะเห็นเตมีล้นปรี่จนเอาเก็บไปจิ้นกันเวิ่นเวอ  มารู้ก็ตอนดูรายการแกรห์ม นอร์ตัน  talkshow ชื่อดังของอังกฤษค่ะ




ตัวแกรห์มเจ้าของรายการนั้นเค้าเก๊เกย์แบบเปิดเผยมากมาย และจะชอบเอามุมนี้มาล้อแขกรับเชิญหากมีช่องว่าง  คู่ mcbender นั้นมาทีไรก็ถูกหยิบเรื่องความเป็นคู่จิ้นมาถาม


โปรด ดู fanart ในจอ
คือจากที่ตามติ่งพี่เบนมานะคะ พี่เขาน่ารักกับแฟนๆ ก็จริง แต่ถ้าโดนล้ำเส้นเนี่ย พี่เบนจะไม่ทนค่ะ ซึ่งเราว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ กล่าวหากันแรงขนาดนั้นก็เกินไปจริงๆ 
^
^
คือถึงจะเป็นการแต่งเพราะความรักหรือเป็นไปตามทฤษฏีที่มีคนพยายามเสนอ (โดยอ้างแหล่งข่าวเป็นแทบลอยด์)   เราก็คิดว่าเป้นชีวิตว่วนตัวของเค้าค่ะ ก็มีลูกและแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่   ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ อันนี้ก็คือเรื่องปกติสำหรับเรานะคะ


จากภาพ พ่อแม่พี่เบน selfie กับลูกชายลูกสะใภ้


และที่จริงแล้ว  ตารางงานของคัมบี้นั้นแน่นมาก งานรุ่งแบบฉุดไม่อยู่ตั้งแต่เชอร์ล็อคเปรี้ยงแล้ว หันมาจับตลาดsuperhero ก็ดันขายดีอีก จำได้ว่าเงินลงทุนหนังร้อยหว่าล้าน กวาดรายได้ไป 600กว่าล้าน ซึ่งถือว่าสอบผ่านหนังฮีโร่แบบชิลๆ โพรเจคท์ยักษ์ใหญ่แบบThor และ Avengerก็กำลังตามมา  ไหนจะเป็นหนังที่อาจจะได้ลุ้นรางวัลเพราะรับเป็นโธมัส เอดิสัน  



ก่อนหน้านี้ที่หวนคืนละครเวทีในบท Hamlet นั้นแฟนๆต้องมาต่อคิวยาวเหยียดเพื่อเฝ้ารอเผื่อจะมีใครยกเลิกตั๋วแล้วมีที่ว่างให้พวกเขาได้เข้าไปชม  หลังเล่นละครเสร็จนั้น แฟนๆจำนวนมากจะมาดักรอเพื่อถ่ายรูป+ขอลายเซ็น และเพราะ demand นั้นสูงมากทำให้ผู้จัดต้องติดป้ายประกาศว่าเบนจะไม่ได้ออกมาแจกลายเซ็นและรับของขวัญอีก การเล่นละครเวทีที่มีบทยาวเหยียดและยังต้องเล่นซ้ำหลายรอบนั้นไม่ใช่งานชิลๆแบบมาออกรายการให้สัมภาษณ์แต่เบนก็ถูกแฟนบางคนเหวี่ยงใส่ไปไม่น้อย 



เท่าที่เห็นคือเจ้าตัวได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นแบบหลังชนกำแพง  คำกล่าวหาที่ว่าเขาใช้เรื่องลูกเมียมาสร้างกระแสเพิ่มนั้นมันจึงฟังดูแปลกๆ   เรื่องชีวิตแต่งงานของเค้านั้นเราได้เห็นชุดแต่งงานของโซฟีเพราะValentino ได้แชร์ภาพผลงานให้ชม และมีสัมภาษณ์ใน Vogue บ้าง  แต่เราไม่ได้เห็นเธอพยายามที่จะเด่นดัง โชว์ street styleโดดเด่นต่อหน้าพาพาราซซี่หรือควงแขนสามีไป fashion week ทุก season  หากจะขายภาพงานแต่งหรือลูกชายให้กับสื่อmagazineนั้นก็คงกวาดเงินเข้ากระเป๋าได้อีกเป็นล้่านก็ไม่เห็นวี่แวว  เราจะได้เห็นคู่นี้ไปไหนมาไหนกันตามปกติ เห็นโซฟีในกองถ่ายหนังเบน  ไปงานการกุศล ดูเทนนิส  คือดูแล้วก็ปกติคู่สามีภรรยาเซเลบ  แต่คุณจะได้เห็นสิ่งนี้ในอินเตอร์เน็ทอยู่

มีคำถามจับผิดเช่น ทำไมตอนออกงานพรมแดงบางงานจึงไม่จับมือกัน  ทำไมเบนทำหน้าเศร้าตอนที่แฟนๆถามว่ากำลังจะมีลูกรึเปล่า  Valentino โกหกใช่มั้ยว่าทำชุดแต่งงานให้โซฟีในเวลา 3 เดือน   แต่จริงๆเป็นชุดที่อยู่ในคอลเลคชั่นอยู่แล้ว สงสัยเป็นการตกลงกันสร้างภาพเพื่อการโฆษณาเนียนๆล่ะสิ   แล้วดูวีดีโอในวาน BAFTA สิ พวกเขาดูเหมือนกำลังทะเลาะกันเลย  และอีกหลายข้อสันนิษฐาน


หลักฐานประกอบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจอมปลอม ???





อย่างไรก็ดี Fangirl ของเบนจำนวนมากนั้นออกตัวปกป้องความสัมพันธ์ของทั้งคู่นะคะ ความสัมพันธ์เค้าเป็นไงก็เรื่องส่วนตัวของศิลปินไง 


แต่คุณก็จะเห็นความพยายามที่ไม่หยุดยั้งของ haterที่พยายามจะหาหลักฐานให้ได้ว่าโซฟีและเบนโกหกเรื่องลูก  ( จริงๆเราแอบเห็นคริสโตเฟอร์แล้ว และเราคิดว่าหน้าเหมือนเบนตอนเป็นtodler อย่างชัดเจน) 



ตอนแรกเราค่อนข้างประหลาดใจเหมือนกันที่เบนแรงใส่แฟนขนาดใช้คำว่า "หมกมุ่น" "มโน" และ "น่ากลัว"   แต่พอตามต้นเหตุแล้วก็พอจะเข้าใจค่ะ แฟนที่เกลียดโซฟีพยายามจะสืบหาใบสูติบัตรของและพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่ถึงขณะนี้ก็ไม่มีสื่อใดๆแสดงหลักฐานคำกล่าวอ้างนี้ และดิสเครดิตทุกสิ่งที่โซฟีทำตั้งแต่ประวัติส่วนตัวไปจนถึงผลงานการกำกับละครเวที  มีการอ้าง timeline จากภาพพาพาราซซี่ว่าท้องโซฟีเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญ่ (ซึ่งสมัยนี้มีชุดช่วยพรางอีกเยอะ)  แต่ก็มีภาพพาพาราซซี่แอบถ่ายตอนพวกเค้าฮันนีมูนกันออกมาพิสูจน์ชัดมากว่าท้องจริง ไม่ได้สร้่างเรื่องขึ้นมาแบบที่ถูกกล่าวหา



ภาพซูมไกลเบลอสุดฤทธิ์  แต่คนที่ไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่เชื่ออยู่ดี



เพราะแม้จะมีภาพให้เห็นชัดเจนว่าเธอตั้งท้อง แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่า 
- ทำไมเท้าไม่บวม ใส่ส้นสูงออกงานกับสามีได้หลายครั้ง
ดารานางแบบหลายคนไม่แสดงอาการบวมน้ำใดๆ สิ่งที่ดูขยายออกมาคือหน้าท้องเท่านั้น  บางคนคลอดแค่ไม่กี่ขั่วโมงก็เผยใบหน้่าสวยๆให้เห็นเลย  หรือลองคิดง่ายๆดัชเชสแคทเธอรีนที่เดินตัวปลิวออกจากโรงพยาบาล และตลอดการตั้งท้องก็ดูไม่บวมสักนิด  คนท้องนั้นแสดงอาการไม่เหมือนกัน  หรือถ้าท้องอีกก็อาจเปลี่ยนไปได้เช่นกัน

- ทำไมกล้าไปเที่ยวในรีสอร์ทที่ไม่มีบริการทางแพทย์อยู่ใกล้ๆ
เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินส่วนตัวคือคำตอบ

-ทำไมภาพตอนที่เริ่มออกงานพรมแดงกับเบนนั้นท้องเริ่มออกแล้ว (ท้องประมาณ 3-4เดือน)  แต่อีก 3 อาทิตย์ต่อมาหน้าท้องดูหายไป

คนล่ะชุด คนล่ะมุม   ภาพที่เห็นท้องนั้นสม็อคให้เห็นbump ชัดๆ อีกชุดจะโคร่งๆ



เธอคลอดต้นเดือนมิถุนายน


ภาพสุดท้ายเป็นภาพที่เบนไปร่วมงานแต่งของเพื่อนโซฟี
นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะ มันยังมีคนปล่อยท้องเพื่อจับผู้ชายแต่งงานได้อีกเหรอคะ โอ๊ย ช่างมโนเนอะคะ คือพี่เบนก็อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ใจคอจะให้เค้าเป็นโสดจนแก่ตายเลยเหรอ ทำยังกับว่าพวกติ่งจะตามพี่เขาไปจนตายจากกันไปข้าง ตลก