Celebrities and their Fangirls
candy1815.
Discussion (15)
Bromance
Mcbender - Cherik
แต่ก่อนเราก็คิดว่าแนวคิดการจิ้นตัวละครชาย-ชายนั้นมีอยู่แถวๆเอเชียเท่านั้น
Mcbender - Cherik
แต่ก่อนเราก็คิดว่าแนวคิดการจิ้นตัวละครชาย-ชายนั้นมีอยู่แถวๆเอเชียเท่านั้น
อาจจะจิ้นต่อเนื่องตั้งแต่ Cherik จาคภาคก่อนหน้า
คู่นี้เราไม่รู้เลยว่าแฟนๆจะเห็นเตมีล้นปรี่จนเอาเก็บไปจิ้นกันเวิ่นเวอ มารู้ก็ตอนดูรายการแกรห์ม นอร์ตัน talkshow ชื่อดังของอังกฤษค่ะ
ตัวแกรห์มเจ้าของรายการนั้นเค้าเก๊เกย์แบบเปิดเผยมากมาย และจะชอบเอามุมนี้มาล้อแขกรับเชิญหากมีช่องว่าง คู่ mcbender นั้นมาทีไรก็ถูกหยิบเรื่องความเป็นคู่จิ้นมาถาม
โปรด ดู fanart ในจอ
คือจากที่ตามติ่งพี่เบนมานะคะ พี่เขาน่ารักกับแฟนๆ ก็จริง แต่ถ้าโดนล้ำเส้นเนี่ย พี่เบนจะไม่ทนค่ะ ซึ่งเราว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ กล่าวหากันแรงขนาดนั้นก็เกินไปจริงๆ
^
^
คือถึงจะเป็นการแต่งเพราะความรักหรือเป็นไปตามทฤษฏีที่มีคนพยายามเสนอ (โดยอ้างแหล่งข่าวเป็นแทบลอยด์) เราก็คิดว่าเป้นชีวิตว่วนตัวของเค้าค่ะ ก็มีลูกและแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ อันนี้ก็คือเรื่องปกติสำหรับเรานะคะ
^
คือถึงจะเป็นการแต่งเพราะความรักหรือเป็นไปตามทฤษฏีที่มีคนพยายามเสนอ (โดยอ้างแหล่งข่าวเป็นแทบลอยด์) เราก็คิดว่าเป้นชีวิตว่วนตัวของเค้าค่ะ ก็มีลูกและแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ อันนี้ก็คือเรื่องปกติสำหรับเรานะคะ
จากภาพ พ่อแม่พี่เบน selfie กับลูกชายลูกสะใภ้
และที่จริงแล้ว ตารางงานของคัมบี้นั้นแน่นมาก งานรุ่งแบบฉุดไม่อยู่ตั้งแต่เชอร์ล็อคเปรี้ยงแล้ว หันมาจับตลาดsuperhero ก็ดันขายดีอีก จำได้ว่าเงินลงทุนหนังร้อยหว่าล้าน กวาดรายได้ไป 600กว่าล้าน ซึ่งถือว่าสอบผ่านหนังฮีโร่แบบชิลๆ โพรเจคท์ยักษ์ใหญ่แบบThor และ Avengerก็กำลังตามมา ไหนจะเป็นหนังที่อาจจะได้ลุ้นรางวัลเพราะรับเป็นโธมัส เอดิสัน
ก่อนหน้านี้ที่หวนคืนละครเวทีในบท Hamlet นั้นแฟนๆต้องมาต่อคิวยาวเหยียดเพื่อเฝ้ารอเผื่อจะมีใครยกเลิกตั๋วแล้วมีที่ว่างให้พวกเขาได้เข้าไปชม หลังเล่นละครเสร็จนั้น แฟนๆจำนวนมากจะมาดักรอเพื่อถ่ายรูป+ขอลายเซ็น และเพราะ demand นั้นสูงมากทำให้ผู้จัดต้องติดป้ายประกาศว่าเบนจะไม่ได้ออกมาแจกลายเซ็นและรับของขวัญอีก การเล่นละครเวทีที่มีบทยาวเหยียดและยังต้องเล่นซ้ำหลายรอบนั้นไม่ใช่งานชิลๆแบบมาออกรายการให้สัมภาษณ์แต่เบนก็ถูกแฟนบางคนเหวี่ยงใส่ไปไม่น้อย
เท่าที่เห็นคือเจ้าตัวได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นแบบหลังชนกำแพง คำกล่าวหาที่ว่าเขาใช้เรื่องลูกเมียมาสร้างกระแสเพิ่มนั้นมันจึงฟังดูแปลกๆ เรื่องชีวิตแต่งงานของเค้านั้นเราได้เห็นชุดแต่งงานของโซฟีเพราะValentino ได้แชร์ภาพผลงานให้ชม และมีสัมภาษณ์ใน Vogue บ้าง แต่เราไม่ได้เห็นเธอพยายามที่จะเด่นดัง โชว์ street styleโดดเด่นต่อหน้าพาพาราซซี่หรือควงแขนสามีไป fashion week ทุก season หากจะขายภาพงานแต่งหรือลูกชายให้กับสื่อmagazineนั้นก็คงกวาดเงินเข้ากระเป๋าได้อีกเป็นล้่านก็ไม่เห็นวี่แวว เราจะได้เห็นคู่นี้ไปไหนมาไหนกันตามปกติ เห็นโซฟีในกองถ่ายหนังเบน ไปงานการกุศล ดูเทนนิส คือดูแล้วก็ปกติคู่สามีภรรยาเซเลบ แต่คุณจะได้เห็นสิ่งนี้ในอินเตอร์เน็ทอยู่
มีคำถามจับผิดเช่น ทำไมตอนออกงานพรมแดงบางงานจึงไม่จับมือกัน ทำไมเบนทำหน้าเศร้าตอนที่แฟนๆถามว่ากำลังจะมีลูกรึเปล่า Valentino โกหกใช่มั้ยว่าทำชุดแต่งงานให้โซฟีในเวลา 3 เดือน แต่จริงๆเป็นชุดที่อยู่ในคอลเลคชั่นอยู่แล้ว สงสัยเป็นการตกลงกันสร้างภาพเพื่อการโฆษณาเนียนๆล่ะสิ แล้วดูวีดีโอในวาน BAFTA สิ พวกเขาดูเหมือนกำลังทะเลาะกันเลย และอีกหลายข้อสันนิษฐาน
หลักฐานประกอบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจอมปลอม ???
อย่างไรก็ดี Fangirl ของเบนจำนวนมากนั้นออกตัวปกป้องความสัมพันธ์ของทั้งคู่นะคะ ความสัมพันธ์เค้าเป็นไงก็เรื่องส่วนตัวของศิลปินไง
แต่คุณก็จะเห็นความพยายามที่ไม่หยุดยั้งของ haterที่พยายามจะหาหลักฐานให้ได้ว่าโซฟีและเบนโกหกเรื่องลูก ( จริงๆเราแอบเห็นคริสโตเฟอร์แล้ว และเราคิดว่าหน้าเหมือนเบนตอนเป็นtodler อย่างชัดเจน)
ตอนแรกเราค่อนข้างประหลาดใจเหมือนกันที่เบนแรงใส่แฟนขนาดใช้คำว่า "หมกมุ่น" "มโน" และ "น่ากลัว" แต่พอตามต้นเหตุแล้วก็พอจะเข้าใจค่ะ แฟนที่เกลียดโซฟีพยายามจะสืบหาใบสูติบัตรของและพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่ถึงขณะนี้ก็ไม่มีสื่อใดๆแสดงหลักฐานคำกล่าวอ้างนี้ และดิสเครดิตทุกสิ่งที่โซฟีทำตั้งแต่ประวัติส่วนตัวไปจนถึงผลงานการกำกับละครเวที มีการอ้าง timeline จากภาพพาพาราซซี่ว่าท้องโซฟีเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญ่ (ซึ่งสมัยนี้มีชุดช่วยพรางอีกเยอะ) แต่ก็มีภาพพาพาราซซี่แอบถ่ายตอนพวกเค้าฮันนีมูนกันออกมาพิสูจน์ชัดมากว่าท้องจริง ไม่ได้สร้่างเรื่องขึ้นมาแบบที่ถูกกล่าวหา
ภาพซูมไกลเบลอสุดฤทธิ์ แต่คนที่ไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่เชื่ออยู่ดี
เพราะแม้จะมีภาพให้เห็นชัดเจนว่าเธอตั้งท้อง แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่า
- ทำไมเท้าไม่บวม ใส่ส้นสูงออกงานกับสามีได้หลายครั้ง
ดารานางแบบหลายคนไม่แสดงอาการบวมน้ำใดๆ สิ่งที่ดูขยายออกมาคือหน้าท้องเท่านั้น บางคนคลอดแค่ไม่กี่ขั่วโมงก็เผยใบหน้่าสวยๆให้เห็นเลย หรือลองคิดง่ายๆดัชเชสแคทเธอรีนที่เดินตัวปลิวออกจากโรงพยาบาล และตลอดการตั้งท้องก็ดูไม่บวมสักนิด คนท้องนั้นแสดงอาการไม่เหมือนกัน หรือถ้าท้องอีกก็อาจเปลี่ยนไปได้เช่นกัน
- ทำไมกล้าไปเที่ยวในรีสอร์ทที่ไม่มีบริการทางแพทย์อยู่ใกล้ๆ
เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินส่วนตัวคือคำตอบ
-ทำไมภาพตอนที่เริ่มออกงานพรมแดงกับเบนนั้นท้องเริ่มออกแล้ว (ท้องประมาณ 3-4เดือน) แต่อีก 3 อาทิตย์ต่อมาหน้าท้องดูหายไป
คนล่ะชุด คนล่ะมุม ภาพที่เห็นท้องนั้นสม็อคให้เห็นbump ชัดๆ อีกชุดจะโคร่งๆ
เธอคลอดต้นเดือนมิถุนายน
ภาพสุดท้ายเป็นภาพที่เบนไปร่วมงานแต่งของเพื่อนโซฟี
นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะ มันยังมีคนปล่อยท้องเพื่อจับผู้ชายแต่งงานได้อีกเหรอคะ โอ๊ย ช่างมโนเนอะคะ คือพี่เบนก็อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ใจคอจะให้เค้าเป็นโสดจนแก่ตายเลยเหรอ ทำยังกับว่าพวกติ่งจะตามพี่เขาไปจนตายจากกันไปข้าง ตลก
ภาพนี้ทำให้เจมส์ต้องถามไมเคิลว่า ทำไมนายไม่เคยอบคัพเค้กให้ชั้นเลยล่ะ
ไปจนถึงขนาดนี้ เจทส์บอกว่า ภาพนี้เหมือนพวกเราเป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันมา 25 ปี แล้วไม่ได้มีอะไรกันมานานมาก คราวนี้ก็เลยชวนกันมาจัดการสักหนเถอะ... ในขณะที่ไมเคิลเสริมขึ้นมาว่า ดูดิพวกเราไม่ถอดกางเกงด้วยซ้ำ!
แกรห์มเปิดโอกาสให้แฟนเกิร์ลเขียน fiction ติดเรทแล้วอ่านให้คู่ Mcbender ฟังแบบสดๆ จนเจมส์อดไม่ไหวว่า ปกติผู้หญิงเค้าไม่ชอบคิดถึงเรื่องผู้ชายมีอะไรกันไม่ใช่เหรอ แล้วติ่งเค้าตอบกลับมาแบบเขินๆว่า" จิ้นแค่พวกคุณสองคนเท่านั้นค่า"
คือถ้าสองคนนี้ไม่สนิทกันนัก เค้าอาจจะไม่ชิลกับเรื่องคู่จิ้นมากขนาดนี้นะ แต่ทั้งคู่ก็ดูซี้กันดีและก็ฮาไปกับจินตนาการลึกล้ำของแฟนๆ แม้จะดูตะลึงไปเหมือนกันที่มีแฟนบางคนเขียนนิยายรักยืดยาวพอๆกับหนังสือสองเล่ม หรือบางคนเขียนให้เจมส์ตั้งท้องลูกแฝดของไมเคิลเตรียมเป็นพ่อ-พ่อคน ล้ำเว่อร์