รีวิวเปรียบเทียวแป้งฝุ่นgivenchy vs shu uemura สายglow
แม่บ้านหน้าปัง1613รีวิวเปรียบเทียวแป้งฝุ่นแนวglowสุดติ่ง
คือแบบอยากหน้าฉ่ำถึงขีดสุดเลยจะสอยแป้งสายglowที่มีกลิตเตอร์ระยิบระยับมาใช้ ก็ชั่งใจอยู่ระหว่างgivenchy n.8 limited edition กับ shu uemura lightbulb glowing face powder (ตอนแรกก็มีลังเลระหว่างshuกับthreeแต่เปรียบเทียบกลิตเตอร์สองแบรนด์นี้แล้วพบว่าshuสะใจกว่า)
สรุปสุดท้ายซื้อมาสองตัวจ้าทั้งgivenchyและshu แอบสามีซื้อ
แล้วก็ลองทดสอบการใช้งานเปรียบเทียบกัน(เพราะสองตัวนี้เราว่ามันวิ้งเวอร์วังที่สุดในตลาดแล้วในความคิดเรา)
เอาหละเรามาเริ่มกันเล้ย!!!
เราทดสอบด้วยการทารองพื้นรุ่นlightbulb ของshu(ไม่ลงคอนซีลเลอร์เลย)แล้วหน้าครึ่งซ้ายลงแป้งshuครึ่งขวาลงgivenchy
ด้านความปกปิด :shuทำได้ดีกว่า ทาปุ๊ปจะเห็นถึงความผ่องแพ้ว ปกปิดรอยดำ รอยอะไรได้ดีกว่า หน้าเด้งเลยเอาจริง สวยมาก แต่กระนั้นทางฝั่งgivenchyก็ไม่น้อยหน้าลุคธรรมชาติ บางๆใสๆ แต่ก็ไม่หลุดง่ายนาจาาา
คุมมัน :givenchyทำได้ดีกว่า คงเป็นเพราะshuเป็นแป้งเคลือบน้ำมันด้วยมั้งมันเลยมันค่อนข้างเร็วอย่างเห็นได้ชัด
effect :ตอนสว็อชลงข้อมือเทียบสองแบรนด์นี้มันก็ดูวิ้งอลังการพอกัน แต่พอมาลงบนหน้าจริงๆแล้วgivenchyจะวิ้งกว่า วิ้งแบบเหมือนมีน้ำวิบๆๆอยู่บนผิว ทั้งแสงกลางวันและแสงส้ม ส่วนshuในแสงกลางวันจะไม่ค่อยเห็น แต่มองรวมๆแล้วฝั่งshuดูสวยกว่าในตอนกลางวันตรงที่มันดูผ่องกว่า ถึงวิ้งน้อยแต่มันดูdewy มันๆ จากประสิทธิภาพของแป้งเคลือบน้ำมันนั่นเอง แต่!ข้อเสียที่ยิ่งใหญ่มากอย่างหนึ่งของแป้งshuคือแม่งงงงง เน้นรูขุมขน รูขุมขนชัดเจนขึ้น ขณะที่givenchyไม่เป็น
แล้วก็shuเวลาโดนแสงส้มจะประกายแบบละเอียดๆเนียนๆแบบจับไม่ได้เหมือนคำเคลมว่ามีหลอดไฟอยู่บนหน้า(เอ๊ะใช่หรอ55555) เอาง่ายๆมันจะนวลๆหวานๆซึ้งๆ ส่วนทางฝั่งgivenchyจะประกายมาแต่ไกล(ไม่ไกลเท่าชิมเมอร์นะ แต่ไม่ต้องเพ่งมากก็เห็นแล้วไรงี้) ใต้แสงส้มแบรนด์นี้จะดูเบาบางแต่ระยิบระยับเล่นไฟสุดติ่ง เหมือนเป็นสายน้ำยามเย็นเมื่อต้องแสงอาทิตย์(อันนีเไม่เวอร์นะ เวลาหันไปมาในแสงส้มจะเห็นมันระยิบระยับน่ามองมาก) ที่สำคัญgivenchyติดทนนานกว่าshu ตอนทาระยิบระยับเท่าไร หมด1วันหลังเหงื่อแตกนอนหน้าถูหมอน(อันนี้เรื่องจริง) ชิมเมอร์ก็ยังคงอยู่ตอนหมดวันเกือบเท่าตอนทา(อะเมซิ่งมากก)
ถ้าให้เปรียบนะshuจะเหมือนสาวญี่ปุ่นหวานๆ ส่วนgivencyจะแบบนางแบบวิตอเรียซีเครตแบบสวย มั่นใจ glamๆ อมหวานหน่อยๆ
packaging :ถึงแม้ว่าจะมีพัฟให้แต่นางgivenchyมันจะมีแป้งฝุ่นหลุดร่วงมาตามรูที่มันทำออกมาเกินพัฟเล็กน้อยเวลาเรากดพัฟไม่แนบแน่นกับรูแป้ง(บางทีเผลอหรือรีบๆงี้ แป้งแอบหกนิดหน่อย แทบกรี๊ด) เวลาใช้เลยต้องใช้อย่างระวัง และถ้าต้องการใช้แป้ง+แปรง เราก็แอบจนปัญญา เราไม่รู้ว่าจะเคาะยังไงให้มันออกมา4สีเท่าๆกันเพื่อใช้แปรงปัด ส่วนshuความหกเลอะเทอะไม่มี มีแต่ความแป้งออกยากเพราะตะแกรงละเอียดไปหน่อย แอบไม่ทันใจ
ราคา :givenchy แน่นอนว่าแพงกว่า
สรุป:
ใครที่หน้าไม่มันมาก ชอบแบบผ่องๆนวลๆ ปกปิดๆ dewyๆ จับไม่ได้ว่าแอบโบกแป้งสายglowมาเต็มที่เชิญเดินมาหาshu(ชอบแป้งตัวนี้ตรงความนวลนี่แหละ สมดั่งคำเคลม!!!)
ใครที่ชอบแบบเบาบาง จะออกงานกลางคืน เน้นเล่นแสงไฟ และมีความคุมมันในระดับนึงเชิญทางgivenchy (แต่ว่าคุณต้องลงรองพื้นให้สวยๆเนียนๆนะเพราะนางดูเบาบาง ลองคิดคนกำลังมองประกายแวบๆเพลินดันไปสะดุดตรงที่ผิวรอบตาเป็นแพนด้าไรงี้ โน่วๆๆๆๆ)
เพิ่มเติม : givenchy n.8เป็นรุ่นlimitedหาได้ที่sephora แต่ถ้ามันหมดและชอบวิ้งๆให้ซื้อn.7 ซื้อเราใช้เบอร์7,8เปรียบเทียบกัน เบอร์7จะมีความทำให้หน้าขาวขึ้นมาอีกหน่อย แต่เราอยากได้แป้งที่เป็นtranslucentจริงๆที่แบบไม่เพิ่มความขาวให้หน้าเพราะเราชอบใช้รองพื้นขาวๆอยุ่แล้วแหะๆ ถึงกระนั้นถ้าn.8หมด เราก็ใช้n.7อยู่ดี
เดี๋ยวว่างๆจากลูกๆแล้วจะมาอัพไอเทมเด็ดๆอีกนะจ๊ะ แล้วเจอกัน บร้าาาายยยย
Discussion (13)
ซื้อมาแล้วค่ะ เป็น three ultimate diaphanous loose powder colorless รุ่นนี้ บางเบา คุมมันโอเคดีค่ะ
ถ้าให้ลองดูอาจจะซื้อ Shu มาลองก่อน แต่ขอแบบเนื้อแมทดีกว่า อิอิ แอบกลัวหน้าวาว เค้าวาวแล้วไม่ค่อยสวย

แป้งฝุ่นของ three น่าจะมีน้ำมันผสมหมด เผื่อบำรุงไม่ให้ผิวแห้งไป
colorless ที่เราซื้อมันก็ไม่ได้ใช้แล้วหน้ามันนะคะ
แต่ตัวอื่น มันจะมีอีก 2 แบบ แบบที่วาวๆหน่อยกับ translucent
แฮะๆ ไม่แน่ใจนะคะ ต้องถาม BA อีกที ลองไปลองแป้งดูก่อนก็ได้ค่ะ