2016 Celebrity Backlash

ไม่นานก่อนหน้านี้ เดมี่ก็ถูกสื่อแม็กกาซีนกระทุ้งถามเรื่องเทย์เลอร์กับความเป็นเฟมินิสท์อีก    เจ้าตัวจึงจัดหนักต่อว่า...sqaud เพื่อนสาวของเทย์ไม่มีคนรูปร่างเหมือนคนที่อยู่ในความเป็นจริงสักคน

Q   คุณเคยพูดถึงเทย์เลอร์ สวิฟท์ในแง่ " อย่าเรียกตัวเองว่าเป็นเฟมินิสท์ ถ้าคุณไไม่ได้ทำงานอะไรเพื่อสิทธิหญิง"   คุณมีความคิดยังไงกับบทบาทของตัวเองในฐานะเฟมินิสท์?"
A   กล้าพูดสิคะ ชั้นไม่เกรงกลัวที่จะวิพากษ์เรื่องที่ผู้หญิงได้ค่าแรงน้อยกว่าผู้ชายในอเมริกาและมันช่างอยุติธรรมแค่ไหน  พูดเรื่องนี้ก็เป็นเรียกร้องสิทธิหญิงได้แล้ว ชั้นเชื่อนะว่าผู้หญิงแต่ล่ะคนก็มีการทำงานในเรื่องนี้ด้วยวิธีแตกต่างกันไป  แต่ก็มีคนบางพวกที่สร้างแบรนด์ตัวเองว่าเป็นเฟมินิสท์ทั้งที่น่าจะทำอะไรได้มากกว่าที่พวกเธอทำอยู่  เอาจริงๆนะ  ถ้าให้พูดเรื่องนี้มันคงทำให้ชั้นตกที่นั่งลำบาก  แต่ช้นไม่เห็นมีใครในsquad นั้นมีรูปร่างแบบคนปกติกันสักคน  นี่มันเป็นตัวอย่างผิดๆให้คนรอบข้างเชื่อว่าต้องมีรูปร่างแบบพวกนั้นถึงจะดีงาม  และมันไม่อิงกับความเป็นจริงเลยค่ะ"

Q อืม  มันก็มีรูปร่างแหลายแบบที่อยู่ในกลุ่มที่ดูปกตินะคะ  ชั้นว่าความหมายของคุณคือ กลุ่มเพื่อนของเทย์เลอร์มีbody type แค่แบบเดียว
A . คือมันไม่real ไงคะ และเพลงและวีดีโอที่ทำมาเหยียบเคที่ เพรี่นั้นมันไม่ใช่การสร้างพลังให้กับผู้หญิงเลยนะ  พวกเราก็เห็นพ้องต้องกันหมดว่าไม่ใช่  ให้ถามตัวเองว่าเป็นเฟมินิสท์รึเปล่า ชั้นก็ยืนยันคำเดิมเพราะชั้นกล้าพูดมันออกมาค่ะ"
 

เรา get ข้อความของเดมี่ค่ะ  เพลง bad blood ที่ทำให้เทย์เลอร์ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายนั้นไม่ได้มีเฟมินิสท์ออกมาชื่นชมหรือเห็นดีเห็นงามกัน  และแบรนด์เฟมินิสท์ของเทย์เลอร์ก็ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  แต่การพูดถึงรูปลักษณ์คนอื่นมันเป็นเรื่องเปราะบางค่ะ  เทย์เลอร์มีเพื่อเป็นนางแบบหลายคน พวกเธอมีขาเรียวยาวไร้เซลลูไลท์และหน้าท้องแบนราบเพราะมีอาชีพที่ต้องนำเสนอbodytype เช่นนั้น แต่มีเสียงแย้งกับคำพูดของเดมี่ตามมาว่า  ผู้หญิงหุ่นผอมบางควรถูกเรียกว่าไม่ปกติงั้นเหรอ   ต้องมีรูปร่างแบบเดมี่เท่านั้นใช่มั้ยถึงจะปกติ

 

ย้อนไปให้ผู้อ่านลองนึกตามนะคะ   เดมี่เคยหมกมุ่นในรูปลักษณ์และต้องรักษาตัวจากโรคปฏิเสธอาหารมาก่อนค่ะ   เธอไม่ปิดบังเรื่องที่ต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลอันนี้  และปัจจุบันก็ประกาศว่าภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง  และเคยถ่ายนู้ดแบบไม่รีทัช ไม่แต่งหน้า เพื่อแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองและเป็นแรงจูงใจเรื่องbody positive

เดมี่คือหนึ่งในคนดังทั้งหลายที่ผจญกับเรื่อง body shaming  เธอใช้social media แสดงความเห็นต่อต้านเรื่องนี้มาตลอด  แต่เมื่อเธอบอกว่าเพื่อนของเทย์เลอร์มีรูปร่างไม่ปกติมันจึงดูย้อนแย้งกัน

แน่นอนว่าแฟนๆของเทย์เลอร์เคืองมากค่ะ มีการกล่าวหาว่าเดมี่อิจฉาเทย์เลยพยายามหาเรื่องอะไรแบบนั้น   เดมี่มีโต้ตอบบ้าง และแจงว่าก็เค้าถามมาก็ตอบไปตรงๆอะ

และเธอยังบอกว่าอาจจะมีการสื่อสารกันคาดเคบื่อนในการสัมภาษณ์ด้วย ในทวีทที่ตอบคนที่เข้ามาจิกกัดเดมี่ยืนยันว่าจำไม่ได้ว่าพูดแบบนั้นไปนะ

และจะไม่ขอโทษที่พูดในสิ่งที่ใครๆก็คิดหรอก   ก่อนที่ประกาศเบรคงานในปี 2017 และการตกเป็นข่าวใดๆ  เธอบอกว่าตัวเองไม่เหมาะกับวงการนี้ 

เธออยู่ในช่วงทำงานการกุศลเพื่อเด็กๆที่ยากจนที่เคนยา และก็ดูแฮปปี้ที่ไม่ต้องคอยมาพะวงกับคำวิพากษ์วิจารณ์บน social media นะ

Demi Lovato

ปีที่ผ่านมาถูกจัดไปเยอะเชียวค่ะ

ประเด็นที่สร้างความฮือฮาคือการลุกขึ้นมาโจมตีเทย์เลอร์ สวิฟท์ ในเรื่องที่ช่วยเหลือเคช่าที่แพ้คดีฟ้องร้องดร.ลุคด้วยการอ้างว่าเธอถูกเขาล่วงละเมิดทางเพศ จึงต้องการจะฉีกสัญญา แต่ศษลตัดสินให้เธอต้องอยู่ภายใต้สังกัดเดิมต่อไป  เทย์จึงแสดงการสนับสนุนเคช่า ด้วยการมอบเงิน 250,000 เหรียญให้เธอนำไปใช้จ่ายหากจะสู้คดีต่อ หรือนำไปใช้จ่ายส่วนตัวต่อไป (หลังจากที่ต้องหมดเงินไปมากในการต่อสู้คดี)

เดมี่ตำหนิเทย์เลอร์ว่า เอาแต่ยัดเงิน  ถ้ากล้าออกมาพูดอะไรเพื่อปกป้องผู้หญิงด้วยกันมันถึงจะทำให้เธอประทับใจขึ้นมาได้

เดมี่ยกบทบาทเฟมินิสท์ของตัวเองว่าแม้จะไม่มีเงินแจกให้คนอื่น แต่เธอไม่เคยกลัวที่จะพูดในสิ่งที่คิดเพื่อต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียม 

เธอยืนยันในการเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิหญิงตัวจริง ด้วยทวีทยาวพรืดและเน้นย้ำว่า การสร้างพลังหญ์งให้เกิดขึ้นนั้นคือการทวีทเรื่องนี้ในตอนตีสองครึ่งและไม่สนใจเลยว่าจะมีคนชิงชังเธอ

แต่แฟนคลับของเทย์เลอร์ตอกกลับไปว่า เฟมินิสท์ตัวจริงคือคนที่ลงมือช่วยเหบือคนเดือดร้อนคือเคช่าจริงๆ ไม่ใช่แค่ทวีทสวยหรู และเพิ่มลิงค์ข่าวที่แม่เคชาได้แสดวงความชื่นชมและขอบคุณในน้ำในของเทย์

เรื่องที่เดมี่วิพากษ์เทย์เลอร์นี้หายเงียบไป แต่กองทัพ hater นั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งเดมี่เองไม่ไม่ใช่ว่า noสน no care ตามที่เคยว่าไว้   เพราะเจ้าตัวต้องมาไล่ฟาดฟันกับ trolls ที่เข้ามาด่าว่าเธอแรงๆบน social media   ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับว่าตัวเองอาจพูดจากทำให้คนอื่นรำคาญ  แต่อย่างน้อยก็จริงใจไม่fake หรือการพยายามสั่งสอน hater เหล่านั้นว่าonline bully มันย่ำแน่มากขนาดไหน  และในที่สุดเธอก็ประกาศลา Twitter และ Instagram  

แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เธอก็กลับมาโพสต์อีกด้วยประโยคสุดมั่นว่า I'm back bitches! และบอกว่ารักแฟนคลับมากเกินไปที่จะทอดทิ้งพวกเค้า และเธอไม่น่าไปไขว้เขวเพราะคำพูดของพวก haterเลย     ซึ่งเหตุการณ์นี้มันเดจาวูนะ เพราะเธอเคยประกาศbreak จาก twitter แล้วก็กลับมาในเวลาสั้นๆก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่รู้จักยัยลีแอนอะไรนี่มาก่อนนะคะ แต่รู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่มีความเสแสร้งและน่ารำคาญมากๆ 

ที่หนักไปกว่านั้น คริสซี่ถูกด่ามาตั้งแต่ตอนท้องแล้วค่ะ

เรื่องราวมันเกิดตอนที่เธอแชร์ภ่าพชามใส่ซีเรียลหลากสีมิกซ์กันซึ่งเป็นสิ่งที่เธอแพ้ท้องอยากกินบ่อยๆ  ก็มีคนมาจิกกัดว่าเป็นแม่คนแล้สทำไมกินอาหารแฟรรูปไร้ปณะโยชน์ต่อลูกในท้อง  (อื้อหือ)

เธอตอบกลับด้วยความเคืองอย่างเต็มที่ว่า ถ้าจะมาสั่งสอนกันเรื่องการกินซีเรียลตอนที่ตั้งท้องอยู่หรืออะไรที่ควรจะต้องสวมใส่ก็เปิดโพรไฟล์ให้เป็นสาธารณะหน่อยสิ เธอจะได้เจ้าไปดูได้ว่าคนที่มาคอยติกนั้นมีความสมบูรณ์แบบสักแค่ไหน

เธอถูกด่าตอนที่เปิดเผยว่าวางแผนจะจ้างนางพยาบาลมาช่วยดูแลลูกอ่อนยามค่ำคืน ทำให้มีคนจำนวนหนึ่งส่งข้อความโจมตีเธอว่าเป็นแม่ไร้ความผิดชอบที่ไม่ยอมดุแลลูกด้วยตัวเอง   คริสซี่ได้ออกมาแจงว่า  "การไใช้บริการนางพยาบาลในตอนลกางคืนนั้นไม่ใช่ว่าเค้าจะมาทำทุกอย่างแทนคุณในการกล่อมลูกและให้นม  คุณก็จะอยู่กับนางพยาบาลตรงนั้นและเรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกจากเค้าที่เป็นที่งผู้สอนและผู้ช่วยด้วย"

เราว่าไอ้พวกที่โจมตีนี้คงไม่เคยมีลูก  มันเครียดนะค่ะพูดในฐานะคนมีลูก บางครั้งก็ยังคิดว่าอยากให้ใครสักคนมาช่วยดูลูกหน่อย ฉันจะไม่ไหวแล้ว  โลกโซเชียลมันน่ากลัวจริง ๆ คนบางคนก็หลับหูหลับตาด่าคนอื่น ไม่มองหาเหตุผลความเป็นจริงกันเลย