เปรียบเทียบ หมัดต่อหมัด เวชสำอาง สำหรับสาวผิวแพ้ง่าย มาดูกันนนน

สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวจีบัน  ใครเคยเจอกับปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายหรือกำลังกลุ้มใจกับปัญหานี้อยู่บ้างไหมคะ?  สำหรับเรา  เป็นมากขนาดที่ใช้ครีมอะไรใหม่ๆลงผิว  ประมาณ 2-3 ชั่วโมง  ผื่นแดง และอาการแสบๆยิบๆ ต้องมาแล้วค่ะ เราเครียดและกังวลมาก เพราะอาการแพ้ทำให้เราไม่สามารถแต่งหน้าได้  ขนาดลงแป้งบางๆ ก็ยังรู้สึกแสบและคันเลยค่ะ  ก็เลยเสาะหา เวชสำอาง สำหรับคนผิวแพ้ง่ายที่คนเค้าฮิตๆกันมาประมาณหนึ่ง  เราเลือกซื้อมาทั้งหมดทั้งมวล 5 ตัวตามนี้ค่ะ กินมาม่ายาวๆไปสองเดือนค่ะ T^T1. Curel Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream2. Eucerin Lipo-Balance SPF63. Vichy Aqualia Thermal Mineral Water Gel4. La Roche-Posay Hydraphase Empowering Thermal Water Essence5. Physiogel Soothing Care A.I. Cream

เราตั้งใจจะทดสอบ 3 เรื่องค่ะ 1. ส่วนผสมที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้    2. เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์   3. ความชุ่มชื้นของผิว สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย  เรากล้าฟันธงเลยว่า  กว่าสาวๆกลุ่มนี้จะเลือก skincare สักตัว คงมีความกังวลและต้องพิถีพิถันในการเลือก skincare  ที่สำคัญมากก็คือเรื่องของส่วนผสม  ซึ่งส่วนตัว  เราจะอ่านข้อมูลจากฉลากผลิตภัณฑ์จนแน่ใจว่า  เวชสำอางตัวนั้นจะต้องไม่มีสี น้ำหอม และแอลกอฮอล์  รวมถึงผ่านการทดสอบเรื่องอาการแพ้ ถ้าอันไหนไม่ระบุเราจะแปลว่ามีส่วนผสมเหล่านั้น และส่วนผสมคร่าวๆของ เวชสำอางทั้ง 5 แบรนด์ที่เราเลือก มีรายละเอียดตามตารางข้างล่างนี้นะคะ

1.   CurelIntensive MoistureCare Intensive Moisture Creamขอเริ่มที่แบรนด์เพื่อนบ้านฝั่งญี่ปุ่นของเราก่อนเลย  เนื่องจากเราเพิ่งเห็นว่ามีวางขายในไทยก็กรีดร้องเบอร์แรง เพราะตัวนี้ได้รางวัลBest Cream @cosme อันดับ 1 ปี 2014และ 2015 อ่านตรงฉลากเค้าบอกว่ามีส่วนผสมเสมือน “เซราไมด์”ลงไปเติมเต็มรักษาระดับเซราไมด์ในผิวเป็นเกราะปกป้องให้ผิวดูแข็งแรงสุขภาพดีไม่แพ้ง่าย

เนื้อครีมของตัวนี้มีความเข้มข้นนะคะ และไม่มีกลิ่นน้ำหอมค่ะ ซึ่งเราก็แอบกลัวว่า  เนื้อครีมจะหนักเหมือนแบรนด์อื่นๆรึเปล่า  แต่พอได้ลองทาเนื้อครีมลงบนผิว   ปรากฏว่า   เนื้อครีมบางมากกกกกกก เบามากกกกกก ละมุนต่อผิวมากกกกกกก หลังจากเนื้อครีมซึมแล้ว ก็ไม่ทิ้งความเหนอะหนะและความมันเอาไว้อย่างที่คิดค่ะ  เพราะด้วยความที่เนื้อครีมบางและเบามากจริงๆ เลยทำให้เหมือนการเติมน้ำเข้าซึมไปในเซลล์ผิวเลย  

จากที่เห็นในกระดาษซับมัน  จะเห็นว่ามีความมันอยู่เล็กน้อย (ภาพด้านซ้าย)  แต่ในด้านการทดสอบเรื่องการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว (ภาพด้านขวา)  ถือว่าดีมากค่ะ  โดยจากสก็อตเทปใสที่ลอกออกมาจากบริเวณผิวที่ทาครีมของคิวเรล  จะไม่ค่อยมีขุยติดออกมาค่ะสรุปเลยนะคะ  สำหรับตัวนี้เราชอบนะ ตรงที่เหมือนจะข้น เหมือนจะเหนอะหนะ แต่ไม่เหนอะหนะเลยยยยยย อะเมซิ่งสุดๆๆๆ  เราให้ 4.5 มง ค่ะ เพราะจากการพิจารณาส่วนประกอบแล้ว ผ่านทุกอย่าง คือ ตอบโจทย์คนที่กังวลใจกับปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายเลยค่ะ หมดกังวลได้เลย แต่ขอหัก 0.5 เพราะเนื้อครีมเป็นครีมอ่ะค่ะ ถ้าใช้ช่วงรีบๆ คงไม่เวิร์คเท่าไร เพราะคงต้องรอให้เนื้อครีมซึมก่อน ฮ่าๆ

2.   Eucerin Lipo-BalanceSPF6มาต่อกันที่แบรนด์ในยุโรปค่า  สำหรับตัวนี้เราแอบหวังว่าจะเริ่ดเลอ เพราะว่านางเป็นแบรนด์ที่ดังเลยค่ะสาวๆผิวแห้งหลายๆคนก็โปรดปราณนางพอสมควร

พอเปิดกระปุกมานี่แอบเฟลนิสนึงค่ะ เนื้อครีมคือแลดูข้นและหนัก  คล้ายๆกับตัว Physiogel ค่ะ ส่วนกลิ่นก็เป็นแนวของนาง ออกยาๆ นิดหน่อย ไม่มีน้ำหอมค่ะ

หลังจากเทสด้วยกระดาษซับมัน(ภาพด้านซ้าย)  เรายิ่งชอคกว่าค่ะ  เพราะนางมีความเหนอะหนะขั้นสุดกว่าทุกแบรนด์ที่เราซื้อมาใช้เลยค่า แถมคราบความมันยังกระจายบริเวณกว้างกว่าด้วย  ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นนั้น  ก็ค่อนข้างโอเคค่า  เพราะเมื่อลอกสก็อตเทปใสออกจะไม่ค่อยมีขุยของเซลล์ผิวลอกออกมาเท่าไหร่ แต่สก็อตเทปใสจะดูดคราบความมันออกมาเยอะพอสมควร   สก็อตเทปใสเลยไม่ค่อยติดผิวมาก(ภาพด้านขาว)   สรุปสั้นๆเลยนะคะ  ตัวนี้เราแอบผิดหวังแรงค่ะ เราขอให้ 3 มงพอ T^Tเพราะผิวแพ้ง่ายก็ต้องการครีมบำรุงที่บางและอ่อนโยน ให้ความรู้สึกสบายผิวอ่ะเนอะไม่อยากมากังวลเรื่องความมันอีกแล้ว แต่เรื่องส่วนผสมตามตารางนางก็ทำได้ดี  ให้มาเกือบครบ แต่เราติดตรงเนื้อสัมผัสนี่แหละค่ะ คือ มันข้นมากเกินไปปป 

3.   Vichy AqualiaThermal Mineral Water Gelตัวถัดมาจากแบรนด์Vichy ตัวนี้เปิดมาสิ่งแรกที่แอบตกใจมากคือกลิ่นค่ะ นางมีกลิ่นน้ำหอมค่อนข้างแรงและคิดว่าจะเหมาะกับสาวผิวแพ้ง่ายไหม(หวั่นใจ)

ตัวนี้เนื้อครีมเป็นเจลเหลวๆ  ค่อนไปทางเนื้อเซรั่มเลยล่ะค่ะ  ให้ความรู้สึกบางเบามากทีเดียว  หลังจากทาจนเนื้อครีมซึมแล้ว  ก็ยังคงมีกลิ่นน้ำหอมอยู่นะคะ ถ้าสาวๆคนไหนที่แพ้น้ำหอมอาจจะต้องดูส่วนผสมละเอียดนิดนึงค่ะ  ส่วนตัวเนื้อครีมเนี่ย  เราโอเคมากเลยค่ะ สามารถพูดได้เต็มปากว่าสาวๆผิวมันและผิวผสมที่แพ้ง่ายยังใช้ได้เลยค่ะ

โดยหากดูจากกระดาษซับมัน   ซึ่งใช้ซับผิวหลังจากที่ได้ทาเนื้อเจลลงบนผิวแล้ว  จะเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าแทบไม่ทิ้งน้ำมันไว้เลย (ภาพด้านซ้าย)  สำหรับการทดสอบความชุ่มชึ้นของผิวเมื่อทาเนื้อเจลและทิ้งไว้ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง  โดยเราได้นำเอาสก็อตเทปใสมาแปะที่เนื้อผิวในบริเวณที่ทาเนื้อเจล และลอกออก  พบว่า  ผิวยังคงเป็นขุยอยู่บ้างค่ะ สังเกตได้ว่า จะมีขุยขาวๆติดขึ้นมาด้วย (ภาพด้านขวา)สรุปเลยก็คือ เราให้คะแนน 4 มงนะค้า จากความประทับใจในส่วนของเนื้อสัมผัสของครีมที่บางเบาค่ะ ความชุ่มชื้นก็ทำได้ค่อนข้างดีและจากการใช้งานส่วนตัวเราไม่แพ้แต่อย่างใดค่ะ แต่ขอหักคะแนนเรื่องกลิ่นนิดนึงเพราะกลิ่นน้ำหอมแรงนั่นเอง แถมยังมีแอลกอฮอลล์ด้วย สาวๆคนไหนแพ้แอลฯต้องดูให้ดีนะคะ

4.   La Roche-PosayHydraphase Empowering Thermal Water Essenceสำหรับลาโลช  เราแอบปลื้มที่แพคเกจค่ะคือเป็นขวดหัวปั้มสไตล์เซรั่มพกพาง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องเนื้อครีมจะเสื่อมสภาพหรือมีสิ่งสกปรกเข้าไปอาศัยในกระปุกค่ะ

เนื้อครีมเป็นเนื้อเซรั่มนะคะ  แต่เนื้อสัมผัสมีความข้นกว่า Vichy ค่ะ มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ไม่แรงเท่า Vichy ค่ะ ตัวนี้สาวๆผิวมันและผิวผสมที่แพ้ง่ายสามารถใช้ได้ค่ะ

หลังจากเทสด้วยกระดาษซับมัน(ภาพด้านซ้าย)  พบว่า  ยังมีความมันปรากฏอยู่นะคะแต่ถือว่าไม่มาก  อยู่ในเกณฑ์รับได้  ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นนั้น  เมื่อลอกสก็อตเทปใสออกจะมีขุยของเซลล์ผิวลอกออกมาบ้าง แต่น้อยกว่าผลลัพธ์จาก  Vichy    (ภาพด้านขวา)    สรุปสั้นๆก็คือ  ตัวนี้เราให้ 3 มง ค่าชอบที่ตัวแพคเกจที่พกง่ายใช้ง่าย เนื้อครีมบางเบาไม่อุดตันค่ะขอหักเรื่องความชุ่มชื้นน้า ยังทำได้ไม่ได้เท่าที่ควรค่ะแล้วก็ลิสต์หลักๆที่สาวผิวแพ้ง่ายควรต้องกังวลตามตารางนางก็ให้มาข้อเดียวคือไม่มีสี ฮืออออออ บ้าจริง เลยขอหักคะแนนเรื่องส่วนผสมออกไปค่า(สาวๆที่ผิวแพ้ง่าย แต่ไม่ได้แพ้รุนแรง บางคนใช้ตัวนี้ ก็ไม่แพ้ค่าแต่บางคนที่มีผิวไวต่อครีมและส่วนผสมแรงๆ อาจต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ)

5.   Physiogel Soothing Care A.I. Creamตัวสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาในรอบนี้ คือ แบรนด์ Physiogel  หน้ากล่องเคลมว่าสำหรับผิวแห้งมากที่ไวต่อการระคายเคือง ตัวนี้เกือบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ตีว่าไม่มีเลยละกัน

เนื้อครีมค่อนข้างหนักค่ะ มีความเป็น Physiogel  สูงมากกกกกกกกก อันนี้เหมาะกับคนผิวแห้งมากจริงๆนะคะ เนื่องจากเนื้อครีมค่อนข้างหนา หลังจากทาไปแล้วรู้สึกเหนอะหนะค่ะ ถ้าคนผิวผสมหรือผิวมันแนะนำให้เลี่ยงจะดีกว่าค่ะ เนื่องจากอาจจะเยิ้มได้เลยทีเดียว หรือไม่ก็ต้องใช้เป็น Night cream ไปค่ะ

โดยหากดูจากกระดาษซับมัน   ซึ่งใช้ซับผิวหลังจากที่ได้ทาเนื้อครีมลงบนผิวแล้ว  จะเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่ามีคราบความมันปรากฏชัดเจนเลย (ภาพด้านซ้าย)  สำหรับการทดสอบความชุ่มชึ้นของผิวเมื่อทาเนื้อครีมและทิ้งไว้ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง  พบว่า  สก็อตเทปจะไม่ค่อยดึงเอาเซลล์ผิวขุยออกมามากเท่าไหร่ แต่จะขึ้นคราบความมันมากกว่า (ภาพด้านขวา)สรุปเลยก้คือ  เราให้ 3.5 มงค่ะ  เนื่องจากเนื้อครีมข้นมากกก ส่วนตัวเรารู้สึกเหนอะๆหน้าค่ะ และซึมช้ามาก  เราว่าอาจจะไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทยไปนิดและคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย สิวอุดตัน สิวอักเสบ ควรต้องระมัดระวังในการใช้นะคะ ถึงนางจะให้คุณสมบัติมาเกือบเต็มตาราง  แต่เจอเนื้อสัมผัสไปเราขอยกยอดไว้ไปทาตอนก่อนนอนจะดีกว่า หรือใช้ช่วงหน้าหนาวคงจะเวิร์คไม่น้อย

สรุปนะคะ

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เจ้าของกระทู้ได้ทดลองใช้กับตัวเอง ส่วนสาวๆท่านอื่นอาจจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปเนื่องจากสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น รีวิวของเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของผลการใช้ที่อยากนำมาแบ่งปันกันนะคะ ถึงเวลาแล้วที่ผู้หญิงผิวแพ้ง่าย จะต้องแข็งแรงสักที อิอิ

Discussion (7)

Curel อีกเสียงคะ 

Curel ดีจริงๆ คอนเฟิร์มอีกเสียงค่ะ ชอบทุกตัวของ Curelเลย


เราแพ้วิชี่,แต่ยูเซอรินตอนนี้ใช้อยู่ผิวหน้าเราแข็งแรงขึ้นมากแถมไม่หน้ามันด้วยอิอิ