ไหนๆ ก็ได้ Crème de La Mer มาทั้ง 3 เนื้อครีม มาลองสิว่ามันต่างกันยังไง?
nicsha 10 4สวัสดีค่าเพื่อนๆชาว Jeban ทุกคน (เป็นกระทู้แรก แอบตื่นเต้นอิอิ)
เพื่อนๆอาจจะได้ยินชื่อเสียงเลื่องรือของ
Crème de La Mer เป็นครีมที่ดารา celebrity ใช้กันและความเลื่องรือในความดีงาม หลายๆคนเล็งๆว่าอยากจะซื้อมาลอง แต่ว่าด้วยราคาที่จะซื้อทิ้งขว้างกันไม่ได้เลยทีเดียวเชียว ต้องศึกษาครีมของเขาเสียก่อนว่า มันเป็นอย่างไร?? จริงไหม? พล่ามมานานมาก...... เอ้าเริ่ม Review เลยละกัน
เจ้าครีม ลาแมร์ มี 5 เนื้อครีมด้วยกันนะ (ได้มา 3 จ้า)เริ่มด้วย สูตรดั้งเดิมของลาแมร์ (Moisturizing) ตัวนี้ไม่ได้ซื้อขอ Tester มาค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่าไม่เหมาะกับสภาพความเป็นไทย กลัวความเหนียวเหนอะหนะ (เราเป็นคนผิวผสมนะคะ ผิวมันตรงทีโซน)
ตอนถามพนังงานเค้าก็บอกว่า
เหมาะกับคนผิวแห้ง
สำหรับเราลองใช้ตอนอากาศหนาว กำลังดีเลยให้ความชุ่มชื้นได้โอเคผ่านจ้า
แต่สำหรับเมืองไทย ที่อากาศหนาวมักไม่พบเจอ ก็รู้สึกว่ามันจะชุ่ม ชุ่มชื้น ไปนิสสส(เสียงสู๊ง)
สำหรับผิวเราเราว่าเหนียวไปค่ะ
การใช้ครีม
ต้องวอร์มเนื้อครีมก่อนโดยการใช้มือวนๆๆๆๆๆเนื้อครีมไปค่ะ จนได้เนื้อครีมที่มีความวาว
สำหรับสาวผิวมัน เราไม่ค่อยแนะนำเนื้อนี้นะคะ
เนื้อที่สอง Soft Creamเนื้อครีมจะ เบาบางกว่า สูตรดั้งเดิม เราคิดว่าใช้ได้ทั้งสาวผิวผสมจนถึงผิวมันเลยนะคะ
เนื้อครีมมีความนุ่มนวล สมชื่อเลยค่ะ แต่ยังคงให้ความชุ่มชื้น ถ้าใครอยู่ห้องแอร์ และไม่ต้องการความเข้มข้นของเนื้อครีมมาก เนื้อครีมนี้น่าจะเหมาะนะคะ สำหรับเนื้อ Soft ครีมไม่ต้องวอร์มครีมก่อนทาค่ะ
(สำหรับทุกเนื้อครีมของลาแมร์ เค้าจะมีช้อนตักครีมมาให้เพื่อความประหยัดในการใช้ครีมค่ะ ไม่มีเหตุผลอื่น >.<")
เนื้อที่สาม Gel creamจริงๆเเล้วเนื้อเจลครีมเป็นเนื้อที่เราชอบมาที่สุดค่ะ เพราะเนื้อครีมบางมาก แต่เรารู้สึกว่ายังคงให้ความชุ่มชื้นอยู่ค่ะ และมีความเย็นๆ ดูเหมาะกับอากาศที่ร้อนแรงของเมืองไทยค่ะ และเราคิดว่าสำหรับสาวๆที่ผิวมันมากๆ เนื้อนี้น่าจะเหมาะที่สุดค่ะ สำหรับเราที่ผิวผสมก็ใช้เพราะมีความรู้สึกว่าทาแล้วซึมเร็วดี ออกจากบ้านเจออากาศร้อนรู้สึกไม่เหนอะหนะค่ะ
เนื้อเจลก็ไม่ต้องวอร์มครีมเช่นกันนะคะ
ทั้งสามเนื้อครีมให้สรรพคุณเดียวกันนะคะ คือส่วนผสมที่สกัดเป็นแบบเดียวกันแค่ทำออกมาคนละเนื้อเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละสภาพผิว (และความพอใจในเนื้อครีมแบบต่างๆ)
โดยจากที่ใช้นะคะ รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้นดูสุขภาพดีค่ะ
แต่ถ้าถามหาความขาวจากครีมนี้อาจจะไม่ได้ความขาวนะคะ
เค้าเน้นแบบ ออร่าตามธรรมชาติค่ะ
ถ้าคนผิวดีดีอยู่แล้วไปใช้อาจจะไม่ค่อยรู้สึกว่าต่างมากเท่าไหร่ค่ะ
ส่วนเนื้อที่ 4 เป็น Lotion และเนื้อที่ 5 เป็น Oil จ้า ยังไม่เคยลองลองมาเมื่อไหร่จะมารีวิวนะคะ :)
ปล. สำหรับคนแพ้ง่ายเราเเนะนำนะคะ ไปที่เค้าเตอร์ ขอเค้าลองก่อน อย่าเพิ่งซื้อค่ะ ถ้าซื้อมาแล้วแพ้จะร้องไห้หนักมาก
ปล2. แอบกระซิบราคา ที่อังกฤษและฝรั่งเศสถูกกว่าไทย 2-3 พัน (แล้วแต่ค่าเรทเงิน)
สุดท้าย... เลือกครีมที่คิดว่าเหมาะกับเรานะคะ บางทีครีมราคาแพงดีสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ดีก็ได้จ้าาา
ขอจบรีวิว... ไว้คราวหน้ามีอะไรน่าสนใจจะมารีวิว(บ่น)ให้ฟังอีกนะคะ