The New USA President - Mr. Controversy

ชีวิตในเพนส์เฮาส์ที่จะก้าวไปอยู่ในทำเนียบขาว

คนที่บอกว่าเมลาเนียน่าสงสารนั้น อาจจะหายถึงว่าการต้องมาพบแรงกดดันมากขึ้น  จากที่แต่เดิมก็ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง มีกิจการจิวเวลรี่แบบคุณนายเศรษฐี  ตัวทรัมป์เองบอกว่าแต่ต้นนั้นภรรยาไม่ได้อยากให้ลงสมัครเลย เพราะชีวิตก็แสนสุขมากอยู่แล้ว  แต่เธอก็คาดไว้ว่าถ้าทรัมป์ลงสนามชิงชัยแล้วเขาก็จะได้ชัยชนะกลับมา

เมลาเนียได้ชื่อว่าเป็นสุภาพสตรีอันดับ 1 ที่สวยที่สุด   จึงไม่น่าแปลกใจว่าการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อจะสร้างคำถามว่า"who is she wearing?" มากกว่า "what is she saying?"  ตามที่มีคนคาดการณ์กันไว้ว่า speech ของภรรยาท่านผู้นำนั้นก็ต้องมีทีมเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเป๊ะจากที่เคยพลาดมาแล้ว  แม้กระทั่งมิเชลล์ โอบาม่าที่จบฮาร์วาร์ด  ก็มีOffice of the First Ladyคอยร่วมงานดูแล  ซึ่งผู้ช่วยแต่บ่ะคนก็ระดับหัวกะทิทั้งนั้น

แต่เมื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำแล้ว ก็น่าจะเปลี่ยนทีมผู้ช่วยนะ   น่าติดตามค่ะว่าทิศทางของ Office of the First Lady จะเป็นอย่างไร    เพราะเมลาเนียก็แสดงให้เราได้เห็นแล้วว่ามีความชื่นชมในตัวมิเชลล์ โอบาม่ามาก

หัวหน้าฝ่าย assistant ของมิเชลล์ โอบาม่า  หรือมือขวาของเธอนั่นเอง  เธอเป็นนักกฎหมายที่ได้รับรางวัลมามากมาย

การพบกันของมาเลเนียและมิเชลล์ไม่กี่วันที่ผ่านมา 

ส่วนประเด็นข่าวเรื่องฉาวจากคำพูดของสามีนั้น  เมลาเนียสนับสนุนทรัมป์เต็มที่ 


- กรณี  "จับจิ๋มพวกเธอเลย"  

เมลาเนียยืนยันว่าเป็นการพูดจาคึกคะนองตามประสาผู้ชาย   "ดูสิคะว่ากล้องไม่ได้ถ่ายไปหน้าของพวกเค้า  มันก็แค่การโม้ใส่กันแบบผู้ชาย   ชั้นเตือนสามีแล้วค่ะว่าใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ  และมันก็ไม่น่าเชื่อเลยที่เค้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา  มันฟังดูไม่ใช่ตัวเค้าเลย" 

เมเลาเนียยังยึดหลักยืนหยัดเคียงข้างสามีและบอกว่า แม้ชื่อเสียงเขาอาจจะไม่ดีนัก แต่เขาเป็นผู้นำที่มีความ "ดิบ"   พูดอย่างที่ใจคิด    และเธอไม่อยากให้ใครมาพูดว่าเธอน่าเห็นใจที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์นี้ (เมลาเนียเลี่ยงการหยามหยันในอินเตอร์เน็ตไม่พ้นค่ะ)  เพราะเธอสบายดี  

แน่นอนว่าภาพที่ดูวาบหวามของเมลาเนียจะถูกปล่อยไปทั่วอินเตอร์เน็ทเป็นหัวข้อเม้าร้อนฉ่า โอ้ดูสิว่าเธอฮ็อทขนาดไหน  

เชื่อว่าหลายคนคงได้ชมกันแล้วค่ะ

สำหรับเรามี่ไม่ได้เป็นคนอเมริกัน กลับมองว่าเรื่องความแซ่บของสุภาพสตรีหมายเลข 1 คนใหม่นั้นดูไม่ใช่ปัญหาในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าโลกเสรี  อดีตประธานาธิบดีที่นอกใจภรรยาก็ยังดำรงตำแหน่งได้ครบสมัย   อย่างไรก็ดี เมลาเนียก็หลีกเลี่ยงการตกเป็นหนึ่งในหัวข้อซุบซิบของทั้งวงการการเมืองและวงการบันเทิงไปไม่ได้

เพราะทรัมป์คือว่าที่ประธานาธิบดีที่แหวกแนวที่สุด สาธารณชนอาจจะไม่ต้องคาดหวังให้สุาภพสตรีอันดับ 1 ต้องคล่องงานการบ้านการเมือง  แต่เมื่อไรที่เธอมีจุดบกพร่องขึ้นมา  แทบไม่ต้องรอก็มีคนป้อนข่าวฉีกหน้าได้ทันที เหมือนกับสุนทรพจน์ที่เรียกได้ว่าไว้ใจทีมงานผิดคิดจนตัวตาย (ล้อกันไปได้อีกหลายปี)

ก็คำสุนทรพจน์สำคัญของเมลาเนียนั้น มันดันมีตั้งหลายประโยคที่ไปซ้อนทับกับสุนทรพจน์ของมิเชลล์ โอบาม่า  สุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างสูง  สร้างความอึ้งให้กับขาเผือก...ลอกก็ว่าหนักแล้ว  อันนี้ลอกฝั่งตรงข้ามเลยเรอะ!

เชื่อว่าหลายคนคงได้ดูคลิปเปรียบเทียบตอนที่ทั้งคู่กล่าวสุนทรพจน์กันแล้ว   มิเชลล์นั้นออกท่าทางกระกอบแบบมี passion จัดเต็ม ในขณะที่เมลาเนียยังไม่มีประสบการณ์มากนักก็อาจเกร็งบ้าง (เมียเก่าทรัมป์เองก็ยังเหน็บเธอซะงั้น)    เขาว่าไม่ได้ผิดที่ใคร  แต่เป็นทีมที่ที่ช่วยร่างคำพูด และยังทีม approve อีก   สมควรต้องไล่ออกทั้งยวง 

ตอนแรกเมลาเนียแก้ข่าวค่ะว่า ตัวเองเขียนสุทรพจน์นั้นขึ้นมาเอง  และมีคนช่วยเกลาแค่นิดเดียว 

แต่ไม่นานต่อมา  ผู้เรียบเรียงสุนทรพจน์ Meredith McIver ก็ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดครั้งนี้   เธอทำงานมาให้กับทรัมป์มาตั้งสิบกว่าปีแล้วค่ะ เป็นทั้งผู้ช่วยและผู้แต่งสุนทรพจน์และหนังสือร่วม (ในภาพ คนผมบ็อบด้านซ้าย ) เธอแถลงการณ์ว่า "คุณนายทรัมป์ได้เล่าว่าชื่นชอบคุณนายโอบาม่าและอ่านสุนทรพจน์ที่โอบาม่ากล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2008 ให้ฟัง   เธอจึงร่างสุนทรพจน์ที่เหมือนกันขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ  มันจึงเป็ยความผิดพลาดที่เธอก่อขึ้น และปม้ว่าจะแสดงความรับผิดชอบโดยการขอลาออก แต่ครอบครัวทรัมป์ได้ปฏิเสธ "คุณทรัมป์บอกชั้นว่าคนเราก็สามารถทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจกันได้ และเราควรที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ความผิดพลาดนี้"

ก็ดูโป๊ะแตกเหมือนกันค่ะที่เมลาเนียบอกว่าเป็นคนแต่งบทสุนทรพจน์เองแล้วมีคนช่วยแค่จิ๊ดเดียว    แต่ก็ไม่เป็นไรไง  ในที่สุดก็เป็นเธอที่ได้ใส่จัมป์สูทสวยออกมายืนเคียงคู่สามีในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลข 1 

แซ่บเวอร์ เขียนเข้าใจง่าย และรวบรัดดีค่ะ ชอบอ่านมากๆ ><!