Dating European Boys

จำกระทู้ International Boys กันได้ใช้รึเปล่า  ?  มีการตอบรับจากผู้อ่านสูงจนมีcomment สูงสุดก็ว่าได้ คราวนี้เราจะมาเจาะหนุ่มๆภูมิภาคยุโรปแบบเนื้อๆเน้นๆ    เราจะเสาะหาข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่ะว่าความโดดเด่นของหนุ่มยูโรเปี้ยนแต่ล่ะชาติจะเป็นอย่างไร  ทำยังไงเราจึงจะพิชิตใจเค้าได้   อย่าพลาดนะจ๊ะ

** ของดเว้นดราม่า stereotype เพราะเราเข้าใจว่าดีว่ามันเป็นเรื่องของปัจเจกชนที่บางคนอาจจะไปเจอแล้วไม่เห็นเหมือนที่เล่า  แต่เป็นภาพในวงกว้างจากลักษณะของกลุ่มคนที่หล่อหลอมในสังคมที่แตกต่างกันออกไป  เอาเป็นว่าแชร์กันแบบสนุกสนาน  ใครมีประสบการณ์ขอเชิญเข้ามาร่วมวงเล่าสู่กันฟังด้วยนะ ^ ^

Discussion (22)

Russian Boys


เสือยิ้มยากที่มักจะมีเสียงเล่าลือว่าพวกเค้านั้นเย็นชา  แต่นึกได้เลยว่ามีเพื่อนคนหนึ่งเคยไปทำงานที่รัสเซียเป็นปี รวมถึงคนใกล้ตัวคนเขียนก็ไปอยู่มาแล้วหลายเดือนมาช่วยขยาย




พวกเขาเย็นชาจริงหรือ ?   คนที่ไปสนิทสนมกับหนุ่มรัสเซียได้ยืนยันกับเราว่าถ้าสนิทกันแล้วยิ้มให้แน่นอน เพียงแต่ประเทศของเรานั้นส่งยิ้มกันแบบไม่ต้องคิดมาก หรือในสถานที่บริการก็จะได้รอยยิ้มแบบบริการ  แต่ของรัสเซียอาจจะถือตัวมากกว่านั้น  ยิ้มให้กันทีต้องยิ้มแบบมีความหมาย  คนไทยเมื่อเห็นคนที่ทำท่าทีเฉยเมยก็คงรู้สึกอึดอัดสักหน่อย  




ตรงไปตรงมาจนถึงขั้นคุณผู้หญิงบางคนอาจจะรับฟังความจริงจากปากเค้าไม่ได้   เรียกว่าจริงใจจนแอบเจ็บ  เอาเป็นว่า ถ้าคุณเปรยๆไปว่าช่วงนี้รู้สึกเผละจัง ก็อย่าเพิ่งหวังถึงปฏิกิริยาตอบกลับเป็นคำปลอบใจว่าโอ้ คุณดูเยี่ยมมากแล้วล่ะที่รัก!  เขาอาจจะบอกว่าคุณไม่ต้องออกกำลังให้หุ่นเป๊ะเหมือนนางแบบชุดชั้นในก็ได้  แต่ถ้าอยากหุ่นสวยก็เปลี่ยนมาตั้งใจมุ่งมั่นตอนเข้า gym ไม่ใช่เข้าไปสั่งแค่smoothie  



เราเคยอ่านแม็กกาซีนลง content ยืดยาวว่าหนุ่มๆจากรัสเซียมีดีอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ลงท้ายว่าสาวๆบ้านเราอาจจะเข้าไม่ถึงเพราะพวกเขานิยมผู้หญิงจากชาติเดียวกัน คิอว่ายังไงสาวรัสเซียนก็สวยที่สุด   มันจริงที่ในแม็กกาซีนว่าไว้รึเปล่า ?   จะว่าอย่างงั้นก็ได้ค่ะ สาวรัสเซียสาวปิ๊งกันจริงๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ   แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่สนสาวต่างชาติเลย  เพราะหลายคนเค้าจะมองว่าผู้หญิงร่วมชาตินั้นถ้าสวยมาก ก็จะให้ความสนใจแต่ผู้ชายมีฐานะ (ประชากรผู้หญิงมีมากกว่า)   อันนี้พิสูจน์ได้จากเพื่อนสาวคนอังกฤษที่มีเชื้อแขก ที่จำต้องไปอยู่ที่รัสเซียเป็นปี เธอเคยบอกคนรอบตัวว่ายังไงก็ไม่มีแฟนเป็นรัสเซียหรอก หนุ่มๆประเทศนั้นน้ำท่าไม่ค่อยอาบ โปะน้ำหอมก็เยอะ ดวดว้อดก้าก็เก่งแถมชอบแต่ผู้หญิงชาติเดียวกัน แต่อยู่รัสเซียไปสักพักก็ได้แฟนแบบไม่ได้คาดคิด 



หนุ่มสวีดิชจะคิดเยอะ ฟังมากกว่าพูด และไมไ่ด้แสดงความรู้สึกพลุ่งพล่านแบบหนุ่มละติน  แต่จะสงวนท่าทีให้คุณงงได้ง่ายๆ




หนุ่มสวีเดนรักธรรมชาติ เดินเก่ง เดินตัวปลิว ขึ้นเนินกลับบ้านเป็นกิโลแบบชิลๆ ชอบเดินปีนเขาชมทัศนียภาพผ่อนคลายจิตใจ  คุณอาจจะต้อง strong นิดนึง 


strong ในที่นี้  เราหมายถึงเรื่องความเท่าเทียมที่เค้ายึดถือเป็นเรื่องสำคัญด้วย  ไม่ว่าจะเพศไหน หญิงชาย LGBT ก็ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม  นานมาแล้วเราจำได้ว่ามีครูผู้หญิงสอนดำน้ำชาวสวีดิชเล่าให้ฟังว่า เพราะควาทเท่าเทียมอันนี้ทำให้ผู้ชายบ้านเค้าไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องเป็นฝ่ายจีบผู้หญิงก่อน  มันไม่ใช่เรื่องชวนเสียฟอร์ม ที่คุณเป็นฝ่ายเดินเกมรุก (นางก็จีบแฟนหล่อล่ำของนางก่อนเช่นเดียวกัน)   ถ้าคุณมาจากสังคมที่ผู้ชายเป็นฝ่ายนะเน้าพะนอเอาอกเอาใจผู้หญิงเพื่อให้เธอประทับใจไปทุกอย่างอาจจะค้องทิ้งแนวคิดเรื่องเดทแบบเดิมๆไปบ้าง  เพราะผู็ชายสวีดิชมีความเป็นเฟมินิสท์สูง  สิ่งที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้  ในขณะที่เค้าปกป้องสิทธิหญิงอย่างการได้รับเงินเดือนระหว่างลาคลอด  แต่คนเป็นพ่อก็สามารถลางานเลี้ยงลูกได้นานเช่นกัน


เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะเห็นผู้ชายสวีดิชเข็นรถเข็นลูกไปตามที่ต่างๆ ทั้งซื้อของในห้างร้านอย่างคล่องแคล่วหรือป้อนอาหารให้ลูกน้อยในร้านอาหารแบบใจเย็น  เคยได้ยินคำบอกเล่าเหมือนกันว่าผู้ชายชาตินี้รักเด็ก แต่ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปลูกฝังให้ผู้ชายตระหนักว่าหน้าที่การเลี้ยงลูกไม่ใช่หน้าที่ของแม่เท่านั้น   บวกกับการจัดการนโยบายของรัฐบาลส่งเสริมเรื่องการเลี้ยงเด็กอย่างมีคุณภาพ  นอกจากนั้นผู้ชายสวีดิชจะไม่เกี่ยงเรื่องงานบ้านตามแนวคิดดั้งเดิมที่ว่าผู้หญิงต้องดูแลเรื่องในบ้าน แล้วผู้ชายเป็นฝ่ายออกไปทำงานหาเงิน แต่จะแบ่งงานเพื่อช่วยเหลือโดยไม่คิดว่ามันเป็นหน้าที่หญิงหรือชายแต่อย่างใด



ยกป้าย #teambritish เลยค่า เดทชาติไหนก็ไม่เหมือนหนุ่มชาตินี้จริงๆ 


Swedish Boys


หมุนมาที่หนุ่มสแกนดิเนเวียนกันมั่งค่ะ 




ได้ยินมาบ่อยเหมือนกันค่ะว่าหนุ่มๆสวีดิชสูงหล่อ ขี้อาย ปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างเท่าเทียม(ม้าก)     แต่เท่านี้คงไม่หนำใจอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ มาขยายความกันต่อ


หนุ่มประเทศเขตหนาวแห่งนี้..ไม่เป่าปากแซวสาวเปี๋ยวป๊าวหรือจีบแบบหวานเยิ้มหยดย้อยเหมือนหนุ่มในเขตเมอดิเตอร์เรเนียนด้านบน  เรื่องความขี้อายหรือดูเย็นชาจะเป็นลักษณะที่เห็นได้ภายนอก แต่ถ้าเราเข้าไปพูดคุยขอความช่วยเหลือ เค้าก็จะเต็มใจช่วยนะ  ถือว่าเป็นเคล็ดลับตีสนิทคนที่หมายตาไว้ก็ได้  แต่คนสวีดิชเค้าจะยึดกับอะไรที่พอดีๆ (Lagom)  รุกมากเกินไปก็ไม่ชอบ  อาศัยเวลาในการคบหาเรียนรู้    และมันก็ค่อนข้างปกติที่คนหนุ่มสาวจะคบกันแบบไม่ต้องมีสถานะแฟน แต่มีความสัมพันธ์เกินเพื่อน (หรือที่เค้าเรียกกันว่า F****  buddies)  คือไม่ต้องเร่งรัดว่าถ้าจูบกันแล้วหรือมีsomething จะเป็นแฟนรึยัง  สองฝ่ายมีโอกาสเลือกไง




หนุ่มสวีดิชชอบดนตรีและการเต้นมาก (เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องดนตรีอยู่แล้ว) ถ้ายังไม่เมาก็แอบจะไว้ตัวนิดนึง แต่เหล้าเข้าปากแล้วจะหนุกหนานมาก  อ้อ ถ้าเป็นหนุ่มสวีดิชที่มาเที่ยวต่างประเทศจะผ่อนคลายกว่าตอนอยู่บ้านเกิดนะจ๊ะ
มีคนกระซิบถามมาว่าหนุ่มอิตาเลี่ยนขี้หึงตามคำร่ำลือมั้ย  


ผู้ชายโรม่าคนหนึ่งบอกว่า  การแสดงความหึงคือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง  ผู้ชายอิตาเลียนหลายคนก็คิดว่าคุณไม่ได้ให้ความสนใจหรือแคร์อะไรเขาเลยถ้าคุณใจเย็น ไม่เคยหึงหวงใดๆ ในทุกสถานการณ์...ดังนั้นแสดงความหึงบ้างก็โอเคนะ  และถ้าเค้าหึงก็อย่าเพิ่งแสดงอาการรำคาญมากมาย หึงเพราะรักอะไรแบบนั้น


สิ่งที่แตกต่างกับหนุ่มเยอรมันคือการมาสายบ้างสักหน่อย ไมไ่ด้สายเวิ่นเวอ และจะคล้ายกับหนุ่มฝรั่งเศสที่การบรรจงดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี  เคยนั่งคุยกับพี่น้องที่ดูฮิปปี้มากที่lonely beach ในวงสนทนาเค้าว่ายูไม่ดูเหมือนคนอิตาเลียนที่เจอมาเลย ประมาณว่าขาวๆแดงๆ  เค้าบอกว่ามาจากภาคเหนือของอิตาลี  และเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ค่อยดูแลลุคของตัวเองนัก   เพื่อนฝูงมักจะหล่อเนี้ยบอยู่เสมอ  แม้จะเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ใช่ว่าผิวจะแทนเข้มกันไปหมด   ผู้ชายทำ fake tan ก็มี หน้าหนาวยังไงก็ต้อง dark and handsome  
พวกเค้าชอบเอาอกเอาใจ  ยิ่งผู้หญิงทำท่าเหมือนตัวลอยเท่าไรก็ยิ่งดี  แต่ในขณะเดียวกันหากเป็นคนต่างชาตินั้นจะมีรายละเอียดปลีกย่อยเรื่องวัฒนธรรมตามมา  อย่างเรื่องชาตินิยม อาหารการกิน  พวกเค้าจะมีหลักเกณฑ์ต่างๆที่จะไม่ยอมยืดหยุ่น  ยกตัวอย่างเรื่องอาหาร ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้มีธรรมเนียมอะไรยุ่งยาก  กินอะไรง่ายๆ อร่อยๆก็ได้ แต่มันจะมีแนวทางที่ปฏิบัติตามกันมา เช่น การดื่มคาปูชิโนเฉพาะตอนเช้า และพวกเขาจะไม่ยอมรับอาหารที่ดัดแปลงจากอาหารอิตาเลียนเท่าใดนัก เช่นไม่กินสปาเกตตีกับมีทบอลแบบอเมริกัน  หรือปฏิเสธพิซซ่าที่มีหน้าต่างๆที่พวกเค้าไม่คุ้นเคยอย่างสับปะรดหรือไส้กรอกแปลกๆ หรืออาจจะเริ่มทำหน้าตาเคร่งเครียดเมื่อคุณถามหาketchupมาบีบใส่พิซซ่าแทนที่จะเอนจอยกับซ้อสมะเขือเทศhomemade   (ถ้าเป็นพิซซ่าที่แม่เขาทำ ครอบครัวเขาอาจจะทำหน้าเหมือนกับคุณเพิ่งสังหารสัตว์เลี้ยงของบ้านไป!)


พวกเขาอาจจะไม่สบอารมณ์นักถ้าคุณชมว่ากาแฟเฟรสไชส์อเมริกันว่ารสกลมกล่อม หรือชมไวน์ฝรั่งเศสช่างรสนุ่มนวลดี   และเขาจะบรรยายได้เป็นฉากๆว่าของประเทศเค้านั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน