เที่ยวเมือง Ubon แบบคนมินิมอล ...

เราจะชวนเธอไปตามหาความชิคของจังหวัด อุบลราชธานี

ที่ขอเรียกสั้นๆ ว่า "อุบล" แล้วกัน ไปไหม ?

ถ้าไปก็ตามมาเลย ...

"อุบล" ในภาพมโนสำนึกของฉันคือต้องมีความชิค ความสงบ ความคล้ายเชียงคาน คือเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน เพราะจากเรื่องที่ได้ยินมานาน "โขงสีปูน มูลสีคราม" เชื่อแน่ว่าฉันจะไปเจอแม่น้ำโขง ไปๆ มาๆ ไม่รู้ลืมน้ำมูลไปได้ยังไง ตั้งใจแต่ว่าจะไปเจอน้ำโขง ไปถึงก็ ตึ้ง !! แวร์อิส แม่-น้ำ-โขง ฉันเจอแต่แม่น้ำมูล สุดท้ายเอาวะเป็นไงเป็นกันมูลก็มูล

ฉันออกเดินทางแต่เพียงผู้เดียวไร้เพื่อนชายข้างกาย จากสนามบินดอนเมืองที่สุดแสนจะคุ้นเคย ไปยังดินแดนภาคอีสานสุดขอบของไทยที่ข้ามฝั่ง ข้ามเขาไปอีกนิดก็เป็นเมืองนอกแล้ว มีความชิคนะเนี่ย !! ตีตั๋วเดินทางครั้งนี้ กรุงเทพ-อุบลรวมที่พัก 1 คืน ราคาอยู่ที่ 500 บาท อีก 1 คืน จองแยก แน่นอนว่าต้องบินกับแอร์เอเชียอีกเช่นเคย มันถูกเกินห้ามใจ ถึงจะไม่รู้ว่าจังหวัดนี้มีอะไรฉันก็ต้องไปแล้วล่ะ

เพราะตั๋วถูกและฉันเลือกเดินทางวันเสาร์ เที่ยวบินเลยไปถึงอุบลตอนทุ่มกว่าแล้ว ถึงเป็นแบบนั้นฉันก็เริ่มปฏิบัติตามวิถีมินิมอลตั้งแต่ลงจากเครื่อง คือการเริ่มออกเดินตามหาความชิคที่อุบล ตอนเกือบๆ 2 ทุ่ม จากสนามบินถึงที่พักประมาณ 4 กิโลเมตร โหวสบายๆ

คิดได้ระหว่างทางอุบลเมืองสุดขอบแดนไทยขนาดนั้น ความชิคไม่ได้มีอยู่ทุกที่ กว่าจะถึงแอบกลัวเบาๆ

ความชิคอย่างแรกที่เจอคือ "ถนนคนเดิน" ตั้งแต่ถนนหน้าเทศบาลลากยาวไปจนถึงทุ่งศรีเมือง พร้อมซอยแยกย่อยมากมาย นี่ก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ กับราคาของที่ถือว่าถูกกว่ากรุงเทพเยอะให้ เลือกซื้อตามสไตล์ที่ชอบ นี่ก็ไล่ไปกับเขาทุกซอย จนเหนื่อย

ความชิคถัดมาคือ "ทุ่งศรีเมือง" เป็นสวนสาธารณะที่มีคนมาออกกำลังกายเยอะมาก แค่ในสนามบอล 1 สนามเนี่ยประกอบไปด้วยสนามย่อยข้างในอีก 5 สนามโอ้โห การจัดสรรพื้นที่ต้องยอมใจ

แต่ไฮไลท์เด็ดของฉันไม่ได้อยู่ที่สนามฟุตบอลค่ะ สำหรับฉันแล้วการดูนักบาสคือสิ่งที่เสริมสร้างกำลังใจได้เป็นอย่างดี และถือว่าโชคเข้าข้างเพราะวันนี้เขามีแข่งบาสพอดี นี่เลยจัดแจงวิเคราะห์หน้าตานักบาสเต็มที่ สรุปได้ทีครั้งนี้ "สีเขียว" มาหวะ เชียร์อยู่ครึ่งชั่วโมง โอเค สีเขียวแพ้ โอ้ยย !!

ออกเดินทางกันต่อค่ะ อย่าลืมว่านี่ยังไม่ถึงโรงแรม สุดชิคที่จองไว้ แถมข้าวยังไม่ได้กิน !! ปักหมุดหมุนตัวเดินตาม gps ไปเรื่อยๆ ก็เจอตลาดโต้รุ่ง ซึ่งก็เป็นทางผ่านพอดี และความดีงามของที่นี่ก็เกิดขึ้น "ส้มตำปลาร้า" ที่ขอพลีกายให้ ฉันเจอแล้ว !! อร่อยมากกนัวมากกก นี่คิดในใจรอบหน้าจะขนแฟนคลับส้มตำปลาร้าไปจากกรุงเทพแน่ๆ ถ้ามันจะอร่อยขนาดนี้

พิกัดคือ ร้านส้มตำเพลินจิต (ร้านอื่นไม่รู้ยังไง แต่ฉันถูกใจร้านนี้แล้ว เด็ดมากนัวสุดพลัง)

เดินต่อมาอีกหน่อย ไม่ไกลมากก็ถึงโรงแรมแล้วค่าา เนื่องจากการมาครั้งนี้ เราเซ็ตธีมเป็นมินิมอลไลฟ์กับการตามหาความชิคของเมืองอุบล ที่นอนที่เราเลือกก็ต้องชิคและมินิมอลตามติดกันไป "28 ราชบุตร โฮสต์เทล" คือคำตอบของทริปนี้

(ตรงนี้ยาวใครไม่สนใจให้ผ่าน ...)

เรื่องราวเกิดขึ้นมากมายกับที่พักสุดชิคที่ฉันเลือก เริ่มเลยแล้วกัน ฉันยืน ติ่งต่อง กดกริ๊งอยู่สักพัก มีคุณป้าเจ้าของบ้านออกมารับเช็คอิน ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะเข้าพักคืนนี้ !! (เนื่องจากอะไรอ่านไปเรื่องราวจะค่อยๆ เฉลย) สุดท้ายฉันก็ยืนยันพร้อมเปิดใบจองให้ดู คุณป้าก็โอเคต้อนรับและชวนคุยดี

ฉันจองห้อง VIP มาด้วยความไฮโซโก้หรู อันที่จริงที่นี่มีห้องพักรวมแบบแชร์ดอมไรงี้ แต่ด้วยความที่ช่วงนี้อ้วนมาก กลัวจะส่งเสียงดังตอนนอนเกินไป จนฝรั่งหรือญี่ปุ่นที่มานอนด้วยจะตกใจเลยเลือกที่จะนอนคนเดียวและตอนเช้าค่อยไปเซย์ไฮจะดีกว่า

คุณป้าพาเข้าบ้านโดยค่อยๆ เปิดไฟทีละดวงไปเรื่อยๆ แล้วก็พาขึ้นชั้น 2 เสียงบันไดบ้านไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด พอให้สะเทือนอารมณ์ ป้าคลำหาไฟอยู่นานที่ทำท่าจะไม่ติด สุดท้ายก็ติด ป้าหันมาบอกว่า หนูเปิดไว้อย่างนี้เลยก็ได้ แล้วก็นี่คือห้องของหนู นี่คือห้องน้ำ ทุกอย่างอยู่ติดบันไดที่ขึ้นมานั่นแหละ สิ่งสุดท้ายก่อนจะจากลากับคุณป้า ป้าบอกว่า "หนูไม่ต้องปิดไฟดวงนี้ก็ได้นะ คืนนี้หนูพักที่บ้านนี่คนเดียว ไม่ต้องกลัวที่นี่ก็บ้านปกตินั่นแหละ" ตัดภาพกลับมาที่ฉัน มีความค้างตึ้ง !! ป้ายิ้มและเดินจากฉันไป (ป้าอยู่บ้านข้างๆ อีกหลัง ชีวิตฉันตอนนี้มีความเซอร์เรียลมากกก)

ตอนแรกก็กะจะไปนั่งชิลทิ้งอารมณ์ตอนกลางคืนย่านริมน้ำ ที่ฉันคิดมาตลอดว่ามันคือแม่น้ำโขง เปล่าค่ะ แท้จริงแล้วน้ำที่ไหลผ่านอำเมืองของอุบลคือแม่น้ำมูล ถ้าจะไปแม่น้ำโขงต้องขับรถออกไปอีกไกล ...

คิดไปคิดมาคืนนี้เราจะต้องมีสติครบถ้วน เรื่องแอลกอฮอล์ใดๆ เราจะไม่ยุ่งเพราะแค่ที่พักนี่ก็โครตจะวาไรตี้มากแล้ว คิดวนไปวนมาสุดท้ายก็คืออยู่บนห้องค่าาา หลับตี 4 เกือบไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยนี่ก็หวาดผวาไปหมด ตื่นอีกที 10 โมงเช้า การไปเดินอ๊าดๆ ในตลาดเช้าจึงต้องพับไป เช็คเอ้าท์เลยละกัน

ออกสำรวจเมืองนี้กันดีกว่า ...

ถึงแม้เราจะตื่นสาย และมีฝนโปรยปรายลงมานิดหน่อย แต่เรื่องกินเราไม่พลาดค่าาา ออกเดินทางสู่ร้านสามชัย ตามคำแนะนำของเพื่อนสาวชาวกรุงเทพ เดินวนไปข่ะพี่สุชาติ !! ประมาณ 2 กิโลเมตร จากที่พัก 

ข้าวเช้าเกือบเที่ยงหมดไปเราออกเดินทางกันต่อ ทริปนี้เป็นแบบมินิมอลเพราะฉะนั้นเราจะเน้นเดิน ไปไหนก็ไม่รีบทั้งนั้น ... อากาศไม่ร้อนมากค่ะ เพราะฝนพยายามจะตกตลอดเวลา 

อ้าวมีแวะวัดด้วยค่าาา !!

อุบลเขาดัง "แห่เทียน" จึงต้องขอเข้าไปหน่อย วัดที่นี่โบสถ์ดูไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็สวยงาม และต้นเทียนก็เริ่ดมาก มีความอลังการ

เที่ยงกว่ายังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เลยแวะร้านกาแฟที่เดินผ่านไปมาหลายรอบ Spider Coff ร้านเปิดใหม่ บรรยากาศน่านั่งมาก แอร์เย็น แต่งเป็น Co-working space โต๊ะมีปลั๊กให้เสียบชาร์ตหรือทำงาน คนเยอะพอดู ด้วยความที่ช่วงนี้รู้สึกเหมือนจะไดเอ็ท เลยกินแค่ Americano แต่เห็นโต๊ะข้างๆ มากินบิงซู ก็ดูโอเคน้าา

ออกเดินทางกันต่อ วันนี้โปรแกรมแน่นค่าา เพราะเอาจริงๆ ถือว่ามาเที่ยววันเดียวเอง ใช้เวลาศึกษาประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ประมาณ 1 ชั่วโมง ตื่นเต้นดีค่ะ เวลาที่เราได้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ อย่างเช่นเรื่องของเมืองอุบลเป็นต้น

มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่เดินเจอคือ "ก๊วยจั๊บ" ที่อยู่แถวๆ ตลาดสดเทศบาล อร่อยมากกกกก สำหรับใครที่เลิฟเครื่องในและกลิ่นความเป็นพะโล้นี่ห้ามพลาด ร้านก๊วยจั๊บอุบล

ปล.วันนี้เดินไปจะลองก๊วยจั๊บ 99 เจ้าดังหน่อย ปิดค่าาาาา

ตอนบ่ายแวะกลับมาเช็คอินเข้าโรงแรมศรีอีสาน ก็ดีกว่าอันที่แล้วมากกก แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศน่ะอันนี้โรงแรมที่ติดมากับโปรตั๋ว พอประมาณให้ผ่าน ไม่มีลิฟท์นะ แต่มีกาแฟมีอาหารเช้าเล็กๆ ให้ที่ lobby ด้วย

ตอนเย็นมีอีกหนึ่งภารกิจที่เพื่อนบอกมาอีกแล้ว คือต้องไปชิม "เล็กนมสด" นี่ก็ไถตัวเองไปด้วยใจคิดว่าต้องอร่อยมากกกกกก แต่เอาจริงๆ รสชาติก็งั้นๆ แหละ นมหวานมาก ขนมปังก็แบบหื้มมม ถ้าใครเป็นแฟนมนต์นมสด ก็ให้กินมนต์ต่อไปค่าาา การมาร้านนี้สิ่งหนึ่งที่ได้รู้คือ เล็กนมสดไม่เล็กนะค้าาา เล็กใหญ่มากกก ร้านใหญ่เว่อร์วังอลังการ ห้ามถ่ายรูปในร้านก่อนได้รับอนุญาตด้วย 

ตอนเย็นก็ยังคงเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ และกลับมาเดินดูของเพลินๆ ที่ถนนคนเดิน แวะเข้าไปหานักบาสเสื้อเขียวอีกครั้ง แต่วันนี้เขาไม่มา T T งานนี้ต้องหาส้มตำมาแก้ช้ำแล้วล่ะ จัดมาเลยค่าา 2 ครก กรี๊ดดด เผ็ดน้ำตาไหลแต่ประทับใจมาก

ค่ำมาก็ถึงเวลาชิลริมน้ำมูล ตอนนี้น้องชายสุดหล่อที่มีเรียนทั้งวัน ทิ้งให้คนสวยอย่างฉันเดินคนเดียวทั่วเมืองก็มาหาสักที นัดกันที่ร้าน "เอิ้นบาร์" มีความดีงามให้ผ่าน เพลงดี อาหารอร่อย ราคาถูก คุยกันไปยาวๆ

จบแล้ว ทริปอุบลครั้งหน้า น้องบอกถ้ามาอีกจะพาไป "ปากเซ"เอ้าไว้คุณชายท่านว่างเมื่อไหร่ จะมาพาทุกคนไปปากเซด้วยกันนะ :)

บ๊าย บาย ..

Discussion (10)

ไว้ไปอีก ขอไปด้วยนะค้าาาาา
@มะลิ ศุภสวัสดิ์โชติ ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวครั้งหน้าชวนคนขับรถไปด้วยยย
ถ้าอยากชิคกว่านี้หาเวลาว่างๆไปเที่ยวต่างอำเภอดูค่ะที่เที่ยวเยอะมากกกกกก..
ลิเป็นคนอุบลแท้ๆยังไปไม่ครบเลยค่ะ
ในรูปนี่้จากถนนคนเดินเขมราฐค่ะ อยากไปเหมือนกันแต่ดันย้ายมาทำงานต่างจังหวัดก่อน
ไม่เคยไปอุบลเลยยยย เห็นกระทู้เเล้วอยากไป slowlife บางเลยข่าา