Review: เครื่องสำอางมูจิ ดีหรือไม่?
Archita164สวัสดีคะ ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนกลับไป เนื่องจากว่าช่วงต้นเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมาชิไปญี่ปุ่นมา ก็เลยไปสอยเครื่องสำอางค์เหล่านี้จากญี่ปุ่นมาทั้งหมดซึ่งก่อนไปชิก็แอบไปเช็คราคากับที่มูจิประเทศไทยมา ว่าราคาจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใดพอไปถึงก็รีบมุ่งหน้าเข้าร้านมูจิ ซึ่งสำหรับใครที่อยากไปซื้อมูจิที่ญี่ปุ่นอาจจะต้องจำชื่อโลโก้ของมูจิไว้ เพราะบางทีร้านจะอยู่ในซอกเล็กๆหรือชั้นบนของห้างแต่จะมีป้ายบอกจากด้านนอก โลโก้ตัวอักษรสีแดงเข้ม มี4ตัวซึ่งจริงๆแล้วชิเป็นสาวกมูจิมากกก เพราะชอบเกะ ลิ้นชัก เครื่องเขียนต่างๆถึงแม้ว่ามันจะราคาไม่ถูกเลยก็ตาม แต่แลกกับคุณภาพที่ได้แล้ว ถือว่าคุ้มค่าคะและครั้งนี้ที่ไป ถ้าจะให้ชิแบกลิ้นชักกลับไทย เกรงว่าจะแตกจริงๆ ฮ่าๆก็เลยเล็งว่าจะไปสอยเมคอัพโดยเฉพาะเลย ซึ่งร้านที่ชิได้ไปสอยมา ถือว่าเป็นสาขาใหญ่เลยทีเดียวมีของให้เลือกเยอะมากมาย คล้ายๆกับไทยทุกอย่าง แทบจะเหมือนเลยทีเดียวละในส่วนของราคานั้น ที่ญี่ปุ่นจะถูกกว่าเล็กน้อย ถ้าไม่ซีเรียสหรืออยากได้ฟิวในการช้อปอะไร ซื้อที่ไทยก็ได้คะซึ่งจริงๆที่ไทย ถ้าใครเป็นสาวกมูจิจะรู้เลยว่าเค้าจะชอบจัดโปรตลอด บางทีลด 15% ทั้งร้าน หรือลดเฉพาะจุดแต่ว่า เมื่อก่อนมูจิที่ไทย ถ้ายื่นบัตรนักเรียนจะมีส่วนลดให้ แต่ปัจจุบันนี้เค้ายกเลิกไปแล้ว
สำหรับใครที่อยากชมแบบวิดีโอเชิญชมที่ด้านล่างนี้เลยคะ
อะเราว่ามาเริ่มกันเลยดีกว่าคะ ซึ่งใน Youtube ชิก็จะรีวิวไปแล้วก็ลองใช้ให้ชมไปพร้อมๆกันสำหรับกระทู้ใน Pantip ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าในคลิปนะคะ ต้องขออภัยด้วยเรามาเริ่มกันที่จุดแรกของการแต่งหน้าเลย ก็คือรองพื้นคะ
สำหรับรองพื้นตัวนี้เป็นแบบหลอด มาในปริมาณ 30ml ราคา 1100เยน ราวๆ384บาทซึ่งตัวนี้ชิซื้อสีเข้มที่สุดมา แต่เมื่อเทียบกับผิวเราแล้วก็ถือว่ายังขาวกว่า1ระดับข้อดีคือ เนื้อสีรองพื้นไม่ติดชมพู คือออกเป็นโทนเหลือง เหมาะกับสาวไทยเป็นเนื้อแมทสนิท เนื้อค่อนข้างหนา แห้งไว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบชิชอบรองพื้นตัวนี้ที่สุดดดดดดด คือทึ่งกับรองพื้นตัวนี้มาก เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรเลยแต่เมื่อทาออกมาแล้ว รู้สึกหน้าผ่องขึ้น และเป็นลุคแมทๆ ที่สวยมากจริงๆอันนี้คิดว่าคนผิวมันก็น่าจะชอบ (โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผิวแห้งนะคะ)แต่บอกตามตรงว่าเมื่อวานแอบไปดูเจ้ารองพื้นตัวนี้ที่สาขา central eastville มาไม่เห็นมีขาย เลยไม่แน่ใจว่าที่ไทยจะมีรึป่าว แต่แอบไปสอยรองพื้นแบบขวดมาเพิ่มถ้าใช้แล้วเริ่ดยังไงจะมาอัพเดทกันนะคะ
เมื่อลงรองพื้นแล้วก็มาดูกันที่ตัวต่อไปเลยก็คือ Concealer คะซึ่งชิก็เลือกสีที่เข้มที่สุดมาอีกเช่นเคย ตัวนี้ราคา 800เยน ราวๆ 279บาทแอบไปส่องมา ที่ไทยขายราคา 250บาท เท่านั้น จริงๆแล้วจะซื้อถูกหรือแพงก็ต้องแล้วแต่ค่าเงินแต่ละช่วงด้วยเนอะConcealer ตัวนี้ มาในรูปแบบลิควิดคอนซิลเลอร์ ซึ่งเนื้อค่อนข้างหนา แห้ง มีสีให้เลือกน้อยมากๆตัวแปรงแข็งไปหน่อย สีติดโทนเหลือง ส่วนตัวแล้วเฉยๆนะคะคิดว่ามีแบรนด์อื่นที่ราคาเท่านี้ แต่คุณภาพนำกว่านี้
อันนี้คือใบหน้า หลังจากลงรองพื้นและคอนซิลเลอร์เสร็จแล้วจะเห็นเลยว่ารองพื้นทำให้ใบหน้าเนียนกริบ ผิวสวยขึ้นได้ในพริบตา
ต่อไปก็คือแป้งผสมรองพื้น ต้องบอกเลยว่าลังเลมาก ตอนแรกจะหยิบเป็นแป้งฝุ่นมาแต่ในใจก็คิดว่า แป้งฝุ่นส่วนมาก มักจะดีอยู่แล้ว เลยหยิบแป้งพัฟมาปราบเซียน ว่าจะดีหรือเปล่าซึ่งที่ได้มาจะเป็นแบบรีฟิวนะคะ ที่ญี่ปุ่นมันจะมีตลับขายแยกด้วยแต่พอดูราคาแล้ว ตลับราคาไม่น่ารักเลย ก็เลยใช้แบบรีฟิวอย่างเดียวก็ได้ใช้อยู่บ้านแบบไม่ต้องพกไปไหน ซึ่งตอนที่ชิเลือกสีที่ญี่ปุ่น จะบอกว่าเลือกยากมากเพราะมีสีให้เลือกเยอะมากกกกก ถึงสิบกว่าสีกันเลยทีเดียวสีที่ได้มาตัวนี้ไม่เข้มที่สุดนะคะ แต่ถือว่าเข้ากับสีผิวเรามากเนื้อแป้งเนียนกริบ ให้การปปิดปานกลาง ทาแล้วหน้าดูผ่องมาก รูขุมขนหายเกลี้ยงแต่สำหรับลุคนี้อาจจะดูหนาไปนิดนะคะ เพราะลงทั้งรองพื้นและแป้งพัฟผสมรองพื้นหากจะใช้ในชีวิตประจำวัน ลงรองพื้นแล้วตามด้วยแป้งฝุ่นก็พอคะตัวแป้งนี้ราคา 1000เยน ราวๆ 349บาท
มาต่อกันที่อายแชร์โดวแบบตลับ4 สีเลยคะตัวอายแชร์โดวมีให้เลือกประมาณ 3-4สี แต่เราเลือกสีนี้มาเพราะคิดว่ามันแต่งได้ในหลายๆโอกาส และต้องบอกเลยว่าอายแชร์โดวของญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นวิ้งค์หมด คือมีชิมเมอร์ ทุกสีฉะนั้นถ้าอันไหนวิ้งค์และสีติดดี คือผ่านนนนซึ่งตัวนี้ ชิจะทำการพิสูจน์โดยการทา Eye primer บนเปลือกตาเพียงด้านเดียวเท่านั้น
จากภาพ ทา Eye primer ด้านซ้ายมือ และด้านขวาไม่ได้ทาอะไรจะเห็นเลยว่าความวิ้งค์ด้านที่ลงไพร์เมอร์ จะวิบวับและสีติดกว่าด้านที่ไม่ลงมากๆฉะนั้นถ้าใครมี Eye primer อยู่แล้วแนะนำให้ลงก่อน จะได้สีที่สวยกว่าคะแต่ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าชอบนะ สีมันสวยดีคะ เนื้อติดทนใช้ได้เลยตัวนี้สอยมาในราคา 750เยน ราวๆ261บาท ที่ไทยขาย 295บาท(ขอแอบบ่นนิดนึง ราคาที่เราแปลงเงินเยนเป็นเงินไทยวันนี้ แอบสูงนิดนึงทำให้ราคาบางอย่างจะสูงกว่าที่ไทย ซึ่งช่วงที่เราไปเงินเยนยังไม่สูงขนาดนี้น้า)
ไอเทมอีกอย่างที่สอยมาด้วยก็คือที่ดัดขนตา ซึ่งอันนี้เล็งไว้นานมากแล้วและก็ได้ยินเสียงกล่าวขานมาเยอะ ว่ามันแหล่มมากพอลองใช้แล้ว ดีจริงๆคะ ราคาไม่สูงมากด้วยแต่แอบนอกเรื่อง ถ้าเทียบกับของ Gino maccray แล้ว ตัวนี้ยังไม่สุดเท่านะแต่ขนตาก็เด้งอยู่จ้า ปล. เราเป็นคนขนตาน้อยน้าาา อาจจะไม่เห็นความต่างมากนัก
ต่อมาก็มาปัดมาสคาร่ากันเลยค่า ซึ่งตัวนี้แปรงค่อนข้างเล็กปัดแล้วขนตาไม่เด้งเท่าที่ควร มาสคาร่าเฉยๆค่า ข้ามไปได้เลยย
ตัวนี้เป็นอายแชร์โดวตลับจิ๋วอีกอันที่สอยมาถ้าถามเรื่องความคุ้มค่า แบบ4สี จะคุ้มกว่ามาก เพราะราคาต่างกันเพียง200เยนเท่านั้นแต่ไอเราติดใจวิ้งค์สีทองอันนี้ เลยสอยมา ซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าพาเลท4สีเท่าไหร่พอลองแล้วเฉยๆ ก็เลยคิดว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อแยกก็ได้หากไม่ได้ชอบสีของมันจริงๆ
มาต่อกันที่บรัชออนกันบ้าง ลืมบอกไปว่าอีกอย่างที่ชอบคือชอบแพคเกจของมูจิมากๆ มันสวย ดูสบายตาไม่เบื่อดีคะอันนี้ที่ได้มาเป็นสีส้มเนื้อแมท ซึ่งจริงๆบรัชออน มีให้เลือกค่อนข้างเยอะหลากหลายสี แต่โดยส่วนมากแล้วจะมีชิมเมอร์ ก็เลยเลือกแบบเนื้อแมทมาซึ่งสีก็ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ สีไม่แรง ไม่ชัด หากใครชอบลุคเบาๆใสๆก็น่าจะชอบแต่ส่วนตัวแล้วเราชอบแบบสีชัดๆมากกว่า ก็เลยเฉยๆกับตัวนี้ราคา 600เยน ราวๆ209บาท ที่ไทยขาย195บาทแต่ที่ญี่ปุ่นจะมีสีให้เลือกเยอะกว่าหน่อยคะ แต่สีนี้ ที่ไทยมีขายน้าา
ก็สาเหตุที่ไม่เลือกปัดแก้มแบบมีชิมเมอร์ เพราะอยากลองไฮไลท์ด้วยนี่ละซึ่งตัวนี้เป็นไฮไลท์แบบวิ้งค์เยอะ ไฮไลท์ของมูจิ มีให้เลือกหลายแบบมากทั้งแบบออกขาว ออกชมพู ออกม่วง ซึ่งตัวนี้จะออกทองหน่อย คิดว่าเหมาะกับผิวเรามากที่สุดตัวนี้บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังเล็กๆ เพราะตอนลองสีที่ร้าน มันวิ้งค์มากแต่ปัดออกมาแล้ว กลับไม่ค่อยติดหน้าเท่าที่ควร เลยคิดว่า มีไฮไลท์ตัวอื่นที่มันสวยกว่านี้ราคาตัวนี้อยู่ที่ 1050เยน ราวๆ 366บาท ที่ไทยขาย 495บาท
สุดท้ายมาจบกันที่ลิป ซึ่งลิปก็มีให้เลือกหลายแบบแต่ส่วนมากญี่ปุ่นจะเน้นลิปเนื้อ Sheer ให้ปากดูฉ่ำๆวาวๆหรือกลอสแต่เราเลือกเป็นลิปดินสอมา เพราะเป็นเนื้อแมท แล้วก็สีสวยดีคะราคาตัวนี้ถูกมาก 380เยน ราวๆ 132บาท ทีไทยก็ขายประมาณนี้คะ
ซึ่งในภาพเราทาสีเข้มด้านใน และทาสีอ่อนทางด้านนอกจะเห็นเลยว่าลิป เนื้อจะออกแมทมาก ดินสอเนื้อจะแข็งหน่อยอาจจะต้องใช้เวลาในการใช้ไปสักพักเนื้อสีอาจจะลื่น ทาง่ายขึ้น
หมดแล้วววสำหรับการรีวิวเครื่องสำอางค์จากไดโซะเดี๋ยวชิจะมาสรุปให้ฟังกันอีกทีน้าาสำหรับตัวชิเองชอบสิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วย รองพื้น แป้งพัฟผสมรองพื้น อายแชร์โดวตลับ4สี และที่ดัดขนตา
สำหรับไอเทมที่คิดว่าเฉยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่หรือผิดหวังที่ซื้อมาคือสิ่งเหล่านี้คะ
เดี๋ยวเรามาดูรูปภาพหลังจากแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางค์จากมูจิกันเลยจ้า
สำหรับลุคนี้มีแค่ที่เขียนคิ้วกับเฉดดิ้งที่ชิไม่ได้ใช้ของมูจิน้าา
นี่คือรายชื่อเมคอัพทั้งหมดที่นำมารีวิวในวันนี้คะ
Foundation SPF27 PA++ (1100เยน) สี ocher
Concealer (800เยน) สี light
Powder foundation SPF32 PA++ (1000เยน) สี beige natural
Eye base color (550เยน) สี gold
Eye color (750เยน) สี Brown
Eyelash curler (550เยน)
Mascara (900เยน)
Cheek color (600เยน) สี orange
Lucent powder (1050เยน) Honey beige
Lip pencil (380เยน)
และนี่คือการรีวิวแบบความเห็นส่วนตัวของชิน้า หากใครชอบหรือเล็งตัวไหนไว้ก็ลองไปเทสดูที่ร้านก่อนได้ค่าาา วันนี้ขอลาไปก่อนน้า บ้ายบายย สวัสดีคะ
Discussion (4)