Review BIOLIFT MILKY Serum เซรั่มน้ำนมบำรุงผิว จาก Sanny

กระทู้นี้เดินทางมาถึงผลิตภัณฑ์ตัวที่ 6 ของผลิตภัณฑ์จาก Sanny(Thanaka Mix Series)แล้วนะคะ หลังจากที่กระทู้ก่อนหน้านี้เรากล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิวกันมาเยอะแล้ว คราวนี้เรามาเอาใจวัยรุ่น(รวมทั้งวัยไม่รุ่น) กันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องริ้วรอยกันบ้าง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีชื่อว่า... 

BIOLIFT MILKY Serum เซรั่มน้ำนมบำรุงผิว (ขนาด 5 กรัม ราคา 89 บาท) 

สรรพคุณBIOLIFT MILKY Serum อุดมไปด้วยสารสกัดออกฤทธิ์จากน้ำนมจากแม่วัวช่วง 3 วันแรกคลอด จึงเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพสูง ผ่านกรรมวิธีเพื่อให้ได้เป็น Polypeptide growth factors ที่ช่วยเร่งการสร้าง Collagence และและ Hyaluronic acid ใต้ผิวหนัง จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย คืนความเนียนนุ่มชุ่มชื่นอ่อนเยาว์ให้ผิว และกระชับผิวได้เป็นอย่างดี ผสานคุณค่าด้วยสารสกัดจากเมล็ดควินัว (Quinoa seeds extract) ช่วยเสริมสร้าง Elastin ให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ พร้อมฟื้นฟูสภาพผิวให้ยกกระชับ รู้สึกได้ตังแต่ครั้งแรกที่ใช้

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวหน้าทั้งเช้าและเย็น ใช้ BIOLIFT MILKY Serum ทาบางๆทั่วใบหน้าเน้นบริเวณที่มีริ้วรอย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

หลายคนอาจจะสงสัยว่า...

ทำไมต้องเป็นเซรั่มน้ำนม?

โปรตีนน้ำนมสำคัญยังไง?

แล้วส่งผลดีอย่างไรต่อผิวหนัง?

ไปดูคำตอบกันค่ะ

ภาพแสดงการเคลื่อนที่ของเซลล์ผิวหลังจากได้รับการกระตุ้นโดย Milk Peptide Complex

ผลการทดสอบในห้องทดลอง

ภาพและข้อมูลจาก : https://1vizn.wordpress.com/2015/09/24/ingredient-spotlight-milk-peptide-complex-mpc/ 

ด้านขวา เป็นการเคลื่อนไหวของผิวการเคลื่อนไหวของเซลล์ที่ไม่มี Milk Peptide Complex (โปรตีนน้ำนม) ไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว จะเห็นว่าเซลล์ผิวไม่สม่ำเสมอมีส่วนที่นูนและส่วนที่บุ๋ม เพราะเกิดจากการสังเคราะห์คอลลาเจนที่ลดลงส่งผลให้การฟื้นฟูผิวล่าช้า เซลล์ผิวบางส่วนยุบลงไปเป็นร่องๆ ทำให้เกิดเป็นริ้วรอย กรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่มีอายุมากขึ้น เซลล์ผิวจะสังเคราะห์คอลลาเจนได้น้อย ผิวจึงไม่ยืดหยุ่นแข็งแรง จะดีขึ้นก็ต่อเมื่อมี Milk Peptide Complex มากระตุ้นนั่นเอง 

ด้านซ้าย การเคลื่อนไหวของเซลล์ผิวที่ได้รับการกระตุ้นโดย Milk Peptide Complex มีการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น ส่งผลให้เซลล์ผิวดูเต็มอิ่ม ราบเรียบ และสม่ำเสมอ เพราะเมื่อมีการสังเคราะห์คอลลาเจนมากขึ้นมากขึ้น ผิวก็จะมีการฟื้นฟูอย่างชัดเจน ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวกระชับ และยืดหยุ่นมากกว่า 

และจากข้อมูลผลการทดสอบนี้ พบว่า

คราวนี้มาดูผลจากการทดลองใช้ของเราบ้างดีกว่า และเช่นเคยนะคะในการให้คะแนนเราจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ... ส่วนประกอบ บรรจุภัณฑ์ และผลการใช้ 

มาดูที่ส่วนแรกกันเลย ส่วนประกอบสำคัญ : Isopentyldiol, Niacinamide, Prunus amygdalus dulcis oil,Hydrolyzed chenopodium quinoa seed, Jojoba esters, Whey protein,Polyglyceryl-3 beeswax, Glyceryl laurate, Limonia acidissima bark extract 

แน่นอนว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่สำคัญที่สุดของเซรั่มตัวนี้ก็คือ “โปรตีนในน้ำนม” นั่นเอง ในส่วนประกอบจะเขียนไว้ว่า“Whey protein”ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของโปรตีนจากนมนั่นเองค่ะ 

จะเห็นได้ว่า Base ของเซรั่มตัวนี้จะมาในรูปแบบของสารละลายที่ไม่มีแอลกอฮอล์และไม่มีซิลิโคน นอกจาก Whey protein แล้วก็ยังมี Active ingredient ที่สำคัญอีกตัวคือ Niacinamide หรือวิตามินบี3 ซึ่งมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหลายประการคือ 

และเราลองมาวิเคราะห์ส่วนประกอบอื่นๆกันบ้างนะคะ -Isopentyldiol และ Glycerin ก็สามารถดูดน้ำให้ผิวได้ค่อนข้างโอเค -Jojoba esters ก็เป็นสารช่วยเก็บความชื้นและเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวได้เป็นอย่างดี (แต่อาจต้องระวังสำหรับคนเป็นสิว เพราะอาจก่อให้เกิดการอุดตันได้ แต่ถ้าผิวแห้งและมีริ้วรอยก็สามารถใช้ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ) -Prunus Amygdalus Dulcis หรือน้ำมันสกัดอัลมอนด์ มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและ เนียนนุ่มชุ่มชื้น อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี1 บี2 บี6 และวิตามิน อี บรรเทาอาการระคายเคืองจากแสงแดด -Chenopodium quinoa seed extract หรือสารสกัดจากเมล็ดควินัว ธัญพืชที่บ้านเรากำลังฮิตนำมาทำเป็นอาหารหลากเมนูนั่นเองค่ะ มีรายงานการวิจัยระบุว่าประกอบด้วยสารประกอบฟีนอลจากเมล็ดควินัว ให้ผลเป็น Antioxidant ที่ดีมากตัวหนึ่ง ข้อมูลจาก (Food Chem. 2015;166:380-8.) -และส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ของแบรนด์นี้ นั่นก็คือ Limonia acidissima bark extract หรือสารสกัดจากทานาคานั่นเองค่ะ 

เรียกว่าโดยหลักๆแล้ว เซรั่มตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังได้ไม่แพ้ครีมที่มีเนื้อหนักๆเลยทีเดียว เพราะส่วนผสมเน้นความชุ่มชื้นมาเต็มมาก และความชุ่มชื้นนี่แหละที่จะช่วยทำให้ริ้วรอยบนผิวเราดีขึ้น

สำหรับคะแนนในส่วนนี้ เราให้ 10/10 เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมี Active ingredient ที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมายแล้ว เซรั่มตัวนี้ยังปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์อีกด้วย ถ้าใครได้อ่านรีวิวิวก่อนๆของเรา จะรู้ว่าเราซีเรียสกับเรื่องน้ำหอมมาก ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม เลยโดนใจเราจังๆเลยค่ะ 

บรรจุภัณฑ์ เป็นขวดพลาสติกสีขาวทึบแสง ปากขวดขนาดพอดีๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก สามารถควบคุมปริมาณการใช้ได้ง่าย เนื้อเซรั่มจะเหลวๆ เทออกมาได้ง่าย เวลาใกล้หมดก็สามารถคว่ำขวดไว้ให้เนื้อเซรั่มไหลมารวมกันที่ปากขวด แล้วบีบขวดใช้หมดจนหยดสุดท้ายได้ค่ะ ไม่ต้องตัดขวดให้เสียเวลา ในส่วนนี้เราถือว่าโอเคค่ะ ไม่มีอะไรจะหัก ให้ 10/10 เลยละกัน 

ผลการใช้ จริงๆที่ผิวหน้าเรายังไม่มีนิ้วรอยเท่าไร เราเลยรีวิวแบบให้เห็นผลแตกต่างอย่างชัดเจนไม่ได้ 

แต่เราก็แอบกลัวริ้วรอยเหมือนกันนะ เพราะอย่างช่วงนอนดึกติดต่อกันหลายๆคืน

ริ้วรอยใต้ตาก็เริ่มถามหา  มันจะดูล้าๆโรยๆดูไม่สดใส เราเลยใช้ตัวนี้มาเป็น eye cream แทน 

เพราะถ้าดูๆแล้ว ริ้วรอยบนหน้าเราก็จะมีตรงใต้ตานี่แหละที่มีเยอะที่สุด 

เราวางใจเอามาทาใต้ตาได้เพราะมันไม่มีน้ำหอม และแอลกอฮอล์ผสมเลย 

ผลปรากฏว่าโอเคมากค่ะ ใต้ตาเราดูสดใส แบบอิ่มๆน้ำขึ้นเยอะเลย 

จากขอบตาคล้ำๆก็ดูสดใสขึ้นมานิดนึงด้วย 

พอผิวใต้ไม่แห้ง ริ้วรอยมันก็จะมองไม่ค่อยเห็น เวลาแต่งหน้าไม่ต้องทาคอนซีลเลอร์ใต้ตาเลยค่ะ 

เพราะพอใต้ตาเราชุ่มชื้น ครีมก็ติดดี จะทาแค่รองพื้นบางๆแล้วแป้งฝุ่นอีกชั้นก็จบ!! 

แต่ถ้าใต้ตาแห้งมากๆนี่จะเห็นเป็นริ้วๆชัดเจน ทาอะไรก็ไม่ติดเลยค่ะ 

โดยรวมแล้วเราชอบค่ะ นี่หลังจากที่รีวิวอันนี้เสร็จเราก็ใช้เงินตัวเองสั่งซื้อมาอีก 4 ขวด ตุนไว้ค่ะ 

เป็นเซรั่มเพียงไม่กี่ตัวที่เราเอามาทาใต้ตาแล้วรู้สึกว่า ok มากๆ 

เพราะนอกนั้นมีแต่แบบผสมน้ำหอม เราทาทีไรแสบตาตลอด 

และอีกอย่างแค่ขวดละ 89 บาท คิดยังไงก็ถูกกว่าซื้อ eye cream เป็นไหนๆค่ะ 

เอาเป็นว่าเราให้คะแนน 9/10 ค่ะ กั๊กไว้รอดูผลระยะยาว 

รอหมด 4 ขวดที่ซื้อมาใช้เองแล้วจะมารีวิวอีกครั้งนึงค่ะ 

ขอจบรีวิวตัวนี้เพียงเท่านี้นะค้า 

เหลืออีก 2 ตัวเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์ใน Series นี้ 

ขอเวลาเราใช้ผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปอีกสัก 4-5 วัน แล้วจะมารีวิวให้ชมกันค่า

Discussion (1)