REVIEW รีวิวรองพื้นและคุชชั่น Estee Lauder Double Wear BB Cushion + Foundation บอกหมดข้อดีข้อเสียและเหมาะกับใคร??

16 18

สวัสดีค่าาาาาา  ทุกคนนนนนน^^ กลับมาเจอกลับปิ๋มอีกแล้วน๊าาาาาห่างหายการรีวิวมาได้สักพัก  วันนี้คันไม้คันมืออยากเล่าเจ้าค่ะ ได้ฤกษ์งามยามดีซะทีเนอะ^^ สืบเนื่องมาจากที่เราเป็นสาวกรองพื้นของแบรนด์นี้มานานแล้ว และใช้มาตลอดเวลามีงานสำคัญๆ  พอมีคุชชั่นงอกออกมา แถมยังเคลมว่าคุณสมบัติ copy มาจากรองพื้นตัวแม่ในตำนานนั้นแล้ว (แต่บางเบากว่า) มีหรือที่เราจะไม่ไปตำมาลองใช้บ้าง พุ่งตัวไปเคาเตอร์และซื้อแบบคนไม่มีสติอ้ะ นึกออกกันมั้ย 55555เก๊ารู้เพราะหลายคนคงเป็นเหมือนเก๊า  555ปล.1 จุดประสงค์ที่ทำรีวิวนี้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบในสิ่งที่เป็น Base Makeup คนละประเภทกันนะจ๊ะ  เรารู้ดีว่ารองพื้นและคุชชั่นต่างกันชัดเจน  แต่ทำเพื่อให้เพื่อนๆเห็นความแตกต่างเมื่อทาบนใบหน้าเดียวกัน จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะหรือชอบงานผิวแบบไหนมากกว่ากันจร้าปล.2 เราซื้อตั้งแต่เปิดตัวใหม่ๆ แต่ไม่ได้ทำรีวิวสักที...งืออออ

บ่นยาวแล้ว....เรามาดูรีวิวกันดีกว่าเนอะ^^ ไปค่ะ ดูวนไปค่ะ!!!

เราจะแบ่งทาอย่างละครึ่งหน้านะคะด้านซ้ายมือของ จขกท. - ทา Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10pa++ สี 2C0 Cool Vanila (รองพื้นขวดแก้ว)

ด้านขวามือของ จขกท. – ทา Estee Lauder Double Wear Cushion BB SPF50pa+++ สี 2C0 Cool Vanila (คุชชั่น)

ไม่ชอบอ่านรับชมแบบวิดีโอก็ได้นะคะ

อะจ๊ากกกก!!!!!.......หน้าสดดดดดดดดด!!!!!หน้าสดที่เห็นนี้  เราทา Skincare และลงกันแดดเรียบร้อยแล้วจร้าการรีวิวครั้งนี้ จะไม่มีการทา Primer อะไรลงไปทั้งสิ้น  เราจะได้เห็น Texture ของเนื้อรองพื้นและคุชชั่นจริงๆนะคะ

จะทาให้ดูแล้วนะ มามุงๆๆๆๆค่า

ด้านซ้ายมือของ จขกท. - ทา Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10pa++ สี 2C0 Cool Vanila (รองพื้นขวดแก้ว)เราลงรองพื้นโดยวิธีการเทรองพื้นใส่หลังมือ แล้วใช้นิ้ววนเบาๆที่หลังมือเพื่อเป็นการวอร์มค่ะ  จากนั้นใช้ฟองน้ำไข่ที่ชุบน้ำบิดหมาดๆ แตะรองพื้นพอประมาณ อย่าเยอะนะคะ....เดี๋ยวหนาเกินไป แล้วนำฟองน้ำมากดๆ แท๊บๆ ลงให้ทั่วใบหน้า  การใช้ฟองน้ำชุบน้ำจะช่วยให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น ไม่กินเนื้อรองพื้น ลงรองพื้นได้เนียนแนบสนิทไปกับผิวเรา และช่วยเบลนไม่ให้รองพื้นหนาเกินไปได้ด้วยค่ะ

ผลลัพธ์หลังจากทาเสร็จทันที

  • ปกปิดดีมากกกกกกก  ปิดรูขุมขนซะมิดเลย  รอยดำ รอยแดงต่างๆหายวึ๊บ!!จร้า  เนื้อรองพื้นแห้งเร็วต้องรีบเกลี่ย  แต่ปกปิดรอยปานดำของเก๊าไม่มิดนะยังมีเห็นเป็นเงาๆอยู่  ปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ดีเชียว ไม่สบายผิวเหมือนมีอะไรมาฉาบหน้า ทาออกมาแล้วดูเนียนสวยก็จริง แต่ Texture ผิวดูเป็นงานโบกนะคะ และผิวดูแมตต์สุดติ่งค่าาาา  เผลอเอามือไปโดนหน้าทุกอย่างก็ยังอยู่ดี ไม่มีหลุดติดมือออกมานะ ไม่ทาแป้งฝุ่นยังได้

ด้านขวามือของ จขกท. – ทา Estee Lauder Double Wear Cushion BB SPF50pa+++ สี 2C0 Cool Vanila (คุชชั่น) การลงคุชชั่นนั้นง่ายแสนง่าย  ไม่ต้องใช้สกิลเทพก็สวยได้ค่ะ  เพราะเหมือนกับการทาแป้งพัฟนั่นแหละจ้า  เพียงแต่อย่าปาดหรือลูบไปมา เพราะจะเป็นคราบเอาได้นะคะ  วิธีคือใช้แอร์พัฟที่แถมมาให้ตลับ กดลงไปที่ฟองน้ำพรุนๆนั่นเลย  และค่อยๆกดพัฟลงที่หน้าเราเบาๆ แตะๆ กดๆ แตะๆ กดๆ ทำวนไปค่ะ ทำแบบนี้จนกว่าจะสวยเนียนทั่วหน้าเลยนะคะ

ผลลัพธ์หลังจากทาเสร็จทันที

  • ความรู้สึกแรกเลยคือสบายผิว  ไม่หนัก ไม่โบก ไม่ฉาบ  ให้ความปกปิดที่ดีเหมือนกัน (เราว่าปกปิดสุดในบรรดาคุชชั่นนะ) แต่ปิดไม่สู้รองพื้นอยู่แล้วนะ อันนี้ต้องแยกแยะเด้อ^^  ผิวดูสวยสุขภาพดี ดูมีน้ำมีนวล ฉ่ำๆเบาๆ แต่ไม่ถึงขนาดดิวอี้วาวแรงแบบสายเกานะจ๊ะ วาวกำลังดี วาวเหมาะกับบ้านเราอยู่เด้อพี่น้อง..... รูขุมขนปิดได้บ้างระดับนึงแต่ไม่กริบนะ  ปิดรอยคล้ำได้ตาไม่ได้ ไม่รอด ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์นะ และเราว่าต้องลงแป้งฝุ่นทับอีกที กันไหล......

 รูปนี้เทียบให้ดูหน้าตรงจะเห็นความสะท้อนแสงเล่นแสงต่างกัน

ด้านที่ทารองพื้นดูแมตต์เชียว  ส่วนด้านที่ทาคูชชั่นก็วาวฉ่ำออกนอกหน้าซะ

ปล. จขกท. ไม่ตั้งใจให้รองพื้นขาวกว่าผิวแรงขนาดนั้นน๊า ช่วงหลังๆรู้สึกเหมือนผิวจะคล้ำลงนิดหน่อยค่ะ T-T

นี่ไม่ได้มาทาเล่นๆให้ดู  แล้วก็จบหรอกนะ 555ยังมีอีกค่าาาา เราเอาผลลัพท์หลังจากทาไป 4 ชั่วโมงมาให้ดูด้วยนะทุกคน จะได้รู้ว่ามันติดทนมั้ย หรือคุมมันมั้ย เป็นคราบมั้ยนะคะ

นี่ไง!!!  ผ่านไป   4  ชั่วโมงแล้วพี่น้องงงงงงง!!!....เราไม่ได้ซับมันนะคะ

ด้านที่ทารองพื้น - ทุกอย่างที่เราทาไปตอนแรกยังอยู่ครบ  ไม่คราบ ติดแน่น  ติดทนอะไรปานนั้น มีน้ำมันผลิตออกมานิดนึง นิดจริงๆค่ะ  

ด้านที่ทาคุชชั่น - สังเกตตรงที่วงกลมเขียวๆนั้นนะคะ เนื้อคุชชั่นหลุดออกไปบ้างค่ะ  ทำให้เห็นรอยอารยธรรมทั้งหลายที่คุณสิว คุณรอยฝากไว้กับเรา T-T  หน้ามันวาวมากขึ้นสเต็ปนึง แต่ก็ยังไม่พังมาก หน้าเราไม่เป็นคราบนะคะ แต่คงต้อง Bake แป้งฝุ่นไว้เยอะกว่านี้ เพื่อป้องกันการไหลและหลุดออกของเนื้อคุชชั่นค่ะหรือไม่ก็หา Primer ดีๆสักตัวทาก่อนก็ได้นะ

ภาพนี้ให้ดูด้านข้างชัดๆอีกทีค่ะ

มาๆๆๆๆๆ สรุปๆๆๆๆๆ

สรุป รองพื้นขวดแก้ว Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10pa++ปกติเราเคยใช้รองพื้นตัวนี้นานกว่า 4 ชั่วโมงนะ จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม คือ เคยใช้แต่งหน้าเป็นเพื่อนเจ้าสาวงานเช้าจัด Outdoor แดดเปรี้ยงๆ เราใช้ตัวนี้แต่งหน้าให้เพื่อนอีกคนด้วย มันรอดค่ะ เอาอยู่จริงๆ สองนางหน้าผ่องเป็นยองใยเชียวค่ะ เลยยกให้เป็นรองพื้นที่ใช้แล้วมั่นใจเวลาที่ต้องแต่งหน้าสวยๆ เป๊ะๆ แต่งแน่นๆ ออกงานต่างๆค่ะ เรียกได้ว่าใช้ตัวนี้แล้วสบายใจหายห่วง ไม่ต้องมานั่งกังวลอะไร ยิ้มถ่ายรูปสวยๆอย่างเดียว 555 เราว่าทุกคนเข้าใจเรานะ 555 ข้อดี

  • ปกปิดรอยและรูขุมขนดีมาก ปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ดี
  • คุมมันได้ดี
  • ติดทนนาน
  • ไม่เป็นคราบ
  • ทาแล้วเนียนเป๊ะสวย
ข้อเสีย
  • เนื้อรองพื้นค่อนข้างหนา
  • เกลี่ยยาก แห้งเร็ว ต้องฝึกเกลี่ยให้เป็นแล้วจะสวยมาก
  • ไม่สบายผิว รู้สึกเหมือนมีอะไรมาฉาบหน้าไว้
  • ขวดเปิดใช้ไม่สะดวก เทกะปริมาณยาก หกเลอะเทอะได้ง่าย
  • ราคาสูง  แต่ใช้ได้นานมากๆๆ
เหมาะกับใคร – เหมาะกับสาวที่อยากหารองพื้นแต่งหน้าออกงาน อยากได้ผิวหน้าเป๊ะๆ เรียบเนียน สวยทุกองศา และต้องมีเวลากับการลงรองพื้นอย่างประณีตด้วย แต่เราว่าไม่เหมาะสำหรับแต่งทุกวันนะ เพราะมันหนาไปสำหรับ Everyday looks และเสี่ยงต่อการอุดตันเอามากๆ  เพราะฉะนั้นใช้ตัวนี้แล้วต้องล้างหน้าให้ดีนะจ๊ะสาวๆ

สรุป คุชชั่น Estee Lauder Double Wear Cushion BB SPF50pa+++มาเม้าท์ฝั่งคุชชั่นกันบ้าง เคยทาอยู่ห้องแอร์ตลอดเวลาละ แบบว่าแต่งหน้าออกจากบ้าน-ขึ้นรถ-อยู่ในฮอลล์ที่แอร์ฉ่ำตลอดเวลา ประมาณ 8 ชั่วโมงได้ ผลคือ....มันรอดคร้าาาาาทุกคน ตอนนั้นรู้สึกว่า เงินพันแปดที่เสียไปมันคุ้มมาก 555 เพราะหน้าไม่ต้องฉาบหนา แถมผิวยังสวยอีก ปริ่มไปอิ๊กกกก!!!....ข้อดี

  • เบาสบายผิว (แต่คงไม่สบายเท่าคุชชั่นสายเกานะจ๊ะ)
  • ปกปิดรอยได้ค่อนข้างดี ไม่เป็นคราบ
  • ผิวดูสวย สุขภาพดี ฉ่ำวาวเล็กๆ ผิวดูมีน้ำมีนวล
  • ใช้งานง่าย สะดวกพกพา
ข้อเสีย
  • ไม่ค่อยติดทนนานถ้าไม่อยู่ในห้องแอร์ตลอด
  • ใช้แล้วผิวอาจมันขึ้นระหว่างวัน
  • ทาเสร็จไม่ควรเอามือไปโดนหน้า เดี๋ยวหลุด ให้เซตแป้งฝุ่นก่อนนะ
  • ปิดรอยคล้ำใต้ตาไม่ได้
  • ราคาสูง และใช้ได้ไม่นาน หมดเร็ว
เหมาะกับใคร – เหมาะกับสาวๆที่ชอบแต่งหน้าง่ายๆ เร็วๆ ไม่ต้องมีเทคนิคเยอะให้ปวดหัว การใช้วันสบายๆ ทาไปเดินห้าง ทำธุระ เจอเพื่อนสาวเม้ามอย 4-5 ชั่วโมง  ก็โออยู่นะ เพราะถ้านานกว่านี้อาจจะมีความเสี่ยงสูง ก็เป็นด้ายยยยยยยย.....(เสียงคนอวดผี)  

จบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ  ไว้เจอกันกระทู้หน้าคร้าาาา^^เพื่อนๆทุกคนมาคอมเม้นคุยกันด้านล่างนี้ได้เลยนะคะปิ๋มชอบ^^ อยากเม้ามอย 555 

ส่วนวันนี้.....ขอบคุณ และ สวัสดีค่ะ^^


Pimmy Beautyblog

Pimmy Beautyblog

FULL PROFILE