Review Sanny Purifying Toner โทนเนอร์มะเฟืองและโทนเนอร์ชาเขียว จาก Sanny

5 2

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคนคราวนี้มาถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ตัวที่ 5 ของ Sanny แล้วนะคะจากกระทู้ก่อนหน้าซึ่งเราได้รีวิวไป 4 ตัว แล้วสามารถเข้าไปติดตามชมรีวิวตัวก่อนๆได้ที่นี่ค่ะ

รีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและรักษาสิวจาก Sanny

- รีวิว Thanaka Intense Mangosteen Powder ผงพอกหน้าทานาคาผสมสารสกัดจากเปลือกมังคุด - จาก Sanny

- รีวิว PoreAway Serum เซรั่มกระชับรูขุมขนสูตรเข้มข้น จาก Sanny

- รีวิว Deep Cleansing Foam โฟมทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกจาก Sanny

และผลิตภัณฑ์ที่เราจะมารีวิวในวันนี้ก็คือ.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

..

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ท๊าดา!!!

+++Sanny Purifying Toner  ขนาด 120 กรัม ราคา 95 บาท+++

ซึ่งจะมี 2 สูตรคือ สูตรชาเขียว และสูตรมะเฟือง ซึ่งแต่ละสูตรมีสรรพคุณดังนี้ค่ะ

สูตรแรก Sanny Tea Tree Purifying Toner โทนเนอร์ชาเขียวโทนเนอร์ชาเขียวปรับสภาพผิว มี Niacinamide ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิว พร้อมสารสกัดจาก Witch hazel ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสิว ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้ากระชับรูขุมขน ให้ผิวสะอาดสดชื่นพร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไปส่วนประกอบ : Aqua, Witch hazel extract, Isopentyldiol, Niacinamide, Melaleuca alternifolia oil, 2-Phenoxyethanol. Glyceryl laurate, Salycylic acid, Dextrin, Xanthan gum, Methyl lactate, Butylene glycol, Limonia acidissima bark extract

สูตรที่สอง Sanny Star Fruit Purifying Toner โทนเนอร์มะเฟืองโทนเนอร์มะเฟือง ผสมสารสัดจากมะเฟืองในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและปรับสภาพผิวให้แลดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ อุดมไปด้วย Vitamin C และสาร Antioxidant  พร้อมสารสกัดจาก Witch hazel ช่วย ควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ให้ผิวสะอาด สดชื่น พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไปส่วนประกอบ : Aqua, Witch hazel extract, Isopentyldiol, 2-Phenoxyethanol. Butylene glycol , Averrhoa carambola fruit extract, Fragrance, Glyceryl laurate,  Salycylic acid, Dextrin, Xanthan gum, Methylparaben, Amylopectin, Methyl lactate, Butylene glycol, Limonia acidissima bark extract

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวหน้าทั้งเช้าและเย็น ใช้ Sanny Purifying Toner เช็ดเบาๆทั่วใบหน้า และบำรุงผิวตามปกติ

และเช่นเคยค่ะในการรีวิวเราจะให้คะแนนในด้านหลักๆ 3 ด้านคือ

ส่วนประกอบ บรรจุภัณฑ์ และผลการใช้

ไปดูที่ส่วนแรกกันเลยค่ะ.. 

ส่วนประกอบจะเห็นว่าโทนเนอร์ 2 ตัวนี้จะมีส่วนผสมคล้ายๆกัน คือมี น้ำ (Aqua) เป็นส่วนประกอบหลัก  และมีสารสารสกัดจากวิชท์ฮาเซล  (Witch hazel extract) ซึ่งเป็นส่วนผสมออกฤทธิ์ตัวสำคัญเลยค่ะ เพราะวิชท์ฮาเซลนั้นอุดมไปด้วย สารแทนนิน ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เซลล์ผิวมีการผลัดตัวดีขึ้น เป็น Antioxidant บำรุงผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ  กระชับรูขุมขน  ช่วยสมานผิว ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนมากขึ้น  ช่วยลดการสร้างน้ำมันใต้ผิวหนัง ขจัดคราบมันส่วนเกินให้กับผิวมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอ่อนๆ จึงช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin และ Collagen ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้นอีกด้วยและส่วนประกอบที่โทนเนอร์ทั้ง 2 ตัวนี้มีเหมือนกันก็คือ Salicylic Acid

ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว 

สามารถเข้าไปช่วยกำจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ในรูขุมขนของเราได้เป็นอย่างดี และด้วยส่วนผสมตัวนี้เอง ที่ทำให้โทนเนอร์สองตัวนี้สามารถช่วยรักษาและลดความเสี่ยงในการเกิดสิวประเภทต่างๆได้เป็นอย่างดีและอีกตัวที่เป็นตัวชูโรงของแบรนด์ Sanny เค้าเลย นั่นก็คือ Limonia Acidissima Bark extract หรือสารสกัดจากทานาคานั่นเอง จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกๆตัวจะต้องมีส่วนประกอบของตัวนี้อยู่ด้วยเพราะทานาคานั้นมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวหลายประการ ช่วยต่อต้านความเสื่อมของเซลล์

และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว  ด้วยคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดผดผื่นคัน ลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้า

มีฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และยังช่วยป้องกันการทำลายผิวจากรังสียูวีได้อีกด้วย  

เรียกว่าครบเครื่องคุณสมบัติที่ผิวต้องการเลยทีเดียว

และส่วนประกอบที่แตกต่างกันระหว่างโทนเนอร์สองตัวนี้ก็คือ... แน่นอนว่าในโทนเนอร์มะเฟืองจะมีส่วนประกอบของ...

สารสกัดจากมะเฟือง (Averrhoa carambola fruit extract)  ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ามะเฟืองมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก เนื่องจากมีสา Antioxidant

ที่มีประสิทธิภาพหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารกลุ่ม Polyphenol ได้แก่ Epicatchin, gallatanin และยังมี Proanthocyanidins, Vitamin C และ Oxalic acid ในปริมาณสูงอีกด้วย มะเฟืองมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จาก Tartaric acid และ Malic acid จึงช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้

ส่วนใน Sanny Tea Tree Purifying Toner โทนเนอร์ชาเขียว ก็จะมี Melaleuca alternifolia oil ซึ่งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของ Tea tree oil หรือสารสกัดจากต้น Tea tree นั่นเองค่ะ  ซึ่งส่วนผสมตัวนี้เป็นตัวชูโรงของโทนเนอร์ตัวนี้เลยค่ะ เพราะในน้ำมันทีทรี

มีสาร Terpenoid ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงเป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิว ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวได้ดี มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย ช่วยลดและบรรเทาอาการผื่นแดง ผื่นคันส่วน Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ที่ใส่มาก็มีประโยชน์ต่อผิวมากเช่นกันค่ะ เพราะจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น

และที่เราชอบมากก็คือ ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นสูตร Alcohol free คนแพ้น้องแอลเลยวางใจได้ แต่ๆๆๆ ในส่วนของโทนเนอร์มะเฟืองจะมีส่วนผสมของน้ำหอมนะจ๊ะ ในส่วนของโทนเนอร์ชาเขียวนั้นไม่มีน้ำหอมค่ะ แต่ก็จะมีกลิ่นจากธรรมชาติของ  Witch hazel extract และ Tea tree oil อยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครลองใช้แล้วมีกลิ่นก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมันเป็นกลิ่นจากส่วนผสมของมันอยู่แล้ว ไม่ได้เติมน้ำหอมแต่อย่างใดจ้า

คะแนนในส่วนนี้ เราให้  9/10 หักที่โทนเนอร์มะเฟืองมีส่วนผสมของน้ำหอมนิดหน่อย แต่อันนี้เราโอเคกับการใส่น้ำหอมของเค้านะ  เพราะว่าเราเคยใช้โทนเนอร์มะเฟืองแบบเพียวๆที่ไม่แต่งกลิ่นอะไรเลยอ่ะค่ะ คือเหม็นมากกกกก อันนี้คนที่เคยใช้คงรู้ๆกัน  ใช้กลางคืนไม่เท่าไร

เพราะอย่างน้อยก็มีแค่ตัวเราหรือคนในบ้านที่ได้กลิ่น แต่ใช้กลางวันนี่ไม่ไหวจริงๆ  กลิ่นนี่แบบ... เหมือนหน้าเน่ามากกก เราออกไปเจอเพื่อน

เพื่อนยังถามเลยว่าได้กลิ่นอะไรแปลกๆมั้ย เหม็นๆเน่าๆอะ ทั้งที่ตอนนั้นเราเที่ยงอยู่ในห้างด้วยซ้ำ เราเลยบอกไม่ต้องสงสัย

กลิ่นโทนเนอร์มะเฟืองเราเอง !!! ให้มันลองมาดมที่หน้าใกล้ๆก็แบบใช่เลย เหม็นมากกก

ตั้งแต่นั้นมาเราเลยไม่เคยใช้โทนเนอร์มะเฟืองตอนกลางวันอีกเลยค่ะ จนหมดขวดก็ไม่ได้ซื้อใหม่แล้ว  เลยมาเจอตัวนี้ที่ผสมน้ำหอมระงับกลิ่นนิดนึง

ทำให้เราสามารถใช้มันทั้งเช้าและเย็นได้  แต่ที่หักคะแนนก็หักไว้เผื่อสำหรับคนที่แพ้น้ำหอมนะคะ  ส่วนตัวเราโอเคกับน้ำหอมของตัวนี้ คือไม่ได้หอมฉุนอะไรมาก แต่ก็ช่วยดับกลิ่นมะเฟืองลงได้ และไม่ทำให้เราแพ้ด้วยค่ะ

ต่อไปเป็นส่วนของบรรจุภัณฑ์นะคะ

ในส่วนนี้เราให้ 9/10 เช่นกันบรรณจุภัณฑ์จะเป็นขวดพลาสติกใสๆ ฝาเปิดปิดทนทานดี ด้านในก็เป็นน้ำใสๆ เทออกมาได้ง่าย ปากขวดขนาดพอเหมาะดี สามารถควบคุมปริมาณผลิตภัณฑ์ที่จะเทลงบนสำลีได้เป็นอย่างดีแต่ที่หัก 1 คะแนนเพราะว่าจริงๆแล้วถ้าขวดทึบแสงก็จะทำให้เรามั่นใจได้มากกว่านี้ ว่าส่วนผสมด้านในจะไม่เสื่อมสภาพเพราะแสงแดด  แต่จริงๆถึงแม้จะเป็นขวดแบบไหน  

เราก็ไม่ควรวางเครื่องสำอางและสกินแคร์ต่างๆไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดอยู่ดีค่ะ เพราะนอกจากแสงแดดแล้ว ความร้อนก็สามารถทำลายประสิทธิภาพของสารบางชนิดได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็คือควรเก็บให้พ้นแสงแดดจะดีกว่าค่ะ ส่วนเราเองชอบเอาโทนเนอร์ไปแช่ตู้เย็น เพราะเวลาเช็ดจะรู้สึกสดชื่นมากๆๆๆๆ 

ต่อไปเป็นส่วนของผลการใช้ในรีวิวครั้งนี้เราเลือกใช้โทนเนอร์มะเฟืองนะคะเนื่องจากเราเป็นคนไม่ค่อยมีสิวเท่าไรจะมีบ้างก็ตอนมีรอบเดือน เลยอยากปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นมากกว่า

ต้องบอกว่าเราประทับใจมากกกกกกกกกๆๆๆๆด้วยเมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้โทนเนอร์เลย เพราะขี้เกียจแล้วก็คิดด้วยว่าในเมื่อเราล้างหน้าสะอาดแล้ว จะต้องเช็ดโทนเนอร์ทำไมอีก

แต่เราคิดผิดค่ะ!!!ที่ว่าสะอาดแล้วนั้นจริงๆเราคิดไปเองค่ะลองมาดูนี่สิคะ  นี่คือภาพสำลีหลังเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ของเรานะคะ

ในส่วนนี้ให้ 10/10 ไปเลยยย 

คือมันทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วแม้เราจะเช็ดคลีนซิ่งและล้างหน้าด้วยโฟมแล้ว

ก็ไม่ได้แปลว่าหน้าเราจะสะอาดหมดจดเสมอไป  

ขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้เรามั่นใจได้มากที่สุดว่าผิวหน้าเราสะอาดแล้วก็คือ...

การเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์นี่ล่ะค่ะ และการเช็ดโทนเนอร์ยังทำให้ผิวเรารับสารบำรุงต่างๆในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะผิวหน้าที่อิ่มน้ำและชุ่มชื่น จะสามารถดูดซึมสารต่างๆได้ดีกว่าผิวหน้าที่แห้งสนิทค่ะ  ก็เหมือนกับผ้าขนหนูนั่นแหละค่ะ ในตอนแรกๆที่เอามาซับน้ำจะเห็นได้ว่ามันซับน้ำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร จนเมื่อปล่อยให้มันซับน้ำจนตัวมันเองเริ่มหมาดๆซักพัก ในตอนนั้นมันจะมีประสิทธิภาพซับน้ำได้มากขึ้น ผิวของเราก็เช่นกันค่ะ

ในการทายาทาสิวบางชนิด เช่น วิตามินเอ

เขาเลยมีคำเตือนก่อนใช้ว่าต้องปล่อยให้หน้าแห้งสนิทก่อนทา

เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ผิวอาจดูดซึมเนื้อยามากเกินไปจนทำให้ผิวแห้งลอกอย่างรุนแรงได้ค่ะ  

แต่สำหรับคนที่จะทาครีมบำรุงหรือเซรั่มต่างๆ แนะนำว่าหลังเช็ดโทนเนอร์เสร็จนี่แหละ เป็นเวลาที่สมควรลงครีมบำรุงผิวมากที่สุด

ความแตกต่างหลังการใช้ระหว่างโทนเนอร์มะเฟือง และโทนเนอร์ชาเขียวอย่างที่บอกไปแล้วว่าโทนเนอร์ชาเขียวจะมีกลิ่นเฉพาะตัวของ Witch hazel และ Tea tree oil ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนโทนเนอร์มะเฟืองก็จมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ส่วนความรู้สึกขณะเช็ดหน้านั้นไม่มีอะไรแตกต่างกันมากค่ะ เนื้อโทนเนอร์บางเบา เช็ดเสร็จแล้วไม่รู้สึกว่าเหนียวหรือเหนอะหน้าแต่อย่างได้

แต่ก็ไม่ได้แห้งเร็วเวอร์เพราะไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์ แต่รู้สึกว่าโทนเนอร์ชาเขียวนั้นเช็ดและจะรู้สึกเย็นๆแบบสดชื่นหน้านิดๆ

แต่ลองอ่านส่วนผสมดูก็ไม่เห็นว่ามี Menthol เป็นส่วนประกอบนะคะ คาดว่าน่าจะเป็นความเย็นจากธรรมชาติจาก Witch hazel มากกว่า  

และถ้ามีหัวสิวที่เพิ่งแกะจะรู้สึกยิบๆตรงหัวสิวเล็กน้อยค่ะ 

ส่วนตัวเราชอบโทนเนอร์ชาเขียวมากค่ะ เพราะเช็ดแล้วรู้สึกสดชื่น กลิ่นสะอาดๆแบบธรรมชาติมากๆ

จบแล้วค่ะสำหรับการริวโทนเนอร์ 2 ตัวนี้ต้องบอกว่าเราประทับใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นอันดับต้นๆในบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เคยรีวิวมาเลย

ส่วนต่อไปเราจะมารีวิวอะไรนั้น คอยติดตามชมกันค่ะ


tantinktonk

tantinktonk

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้า^^

FULL PROFILE