The Supermodel War

เคนดัล ในแคมเปน FENDI ดูไม่มีแอจจิจูดเลย เฉยมาก เหมือนไม่มีความสามารถ มีแค่หน้าสวยๆ กะฟอลโลเวอร์บนไอจีนั้นแหละ ส่วนจีจี้ ถ้าไม่ได้เดทกะคนดัง หรือผู้ติดตามบนไอจีเยอะๆ หุ่นแบบนี้ ไม่มีทางได้แคสด้วยซ้ำ

คำพูดของนางแบบยุคเก่าที่บอกว่ายุคของซูเปอร์โมเดลนั้นจบลงแล้วอาจจะจริงก็เป็นได้   วันเวลาที่เปลี่ยนไปทำให้กระแสตอบรับจากผู้คนนั้นลดลง  ในอดีตที่แม้แต้การใช้อินเตอร์เน็ตก็ยังไม่แพร่หลายนัก แฟนๆแฟชั่นอาจจะตั้งหน้าตั้งรอวันที่ Vogue ออกวางแผงอย่างใจจดใจจ่อ   แคมเปญแรงๆแบบเห็นแล้วกระชากใจหรือสวยตะลึงลานอาจจะเป็นหัวข้อที่สาวๆเม้ากัน  บางคนอาจจะหัวใจเต้นตึกตักตอนเห็นพวกซูเปอร์วาดลวดลายการสับขาบนส้นสูง6นิ้วในแฟชั่นโชว์

หลายอย่างมันเปลี่ยนไปมาก  อย่างการเดินรันเวย์ของนางแบบสมัยก่อนนั้นสามารถยิ้มกว้าง แสดงความรู้สึกแบบลัลล้าได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องจิกนิ่งให้มากที่สุด

นางแบบยุคใหม่หลายๆคนก็ยึดเอาความสำเร็จของรุ่นพี่เป็นแรงบันดาลใจ  แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั้น รูปแบบการนำเสนอคงต้องเปลี่ยนไปด้วย   สื่อสิ่งที่พิมพ์ที่ยิ่งใหญ่มาตลอดยังต้องปรับหาวิธีการต่างให้เข้ากับยุคออนไลน์ที่ผู้คนนิยมการคลิกบนสมาร์ทโฟนกันกันมากกว่า  โซเชียลมีเดียจึงมีบทบาทกับอุตสาหรกรรมแฟชั่นแบบแยกกันไม่ออก

แต่เราคิดว่า  ที่คนนำนางแบบชื่อดังในปัจจุบันกับซูเปอร์โมเดลที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานมาเปรียบเทียบกันเรื่อยๆนั้น มาจากเรื่องราวของนางดังที่ป่านมาที่หลายคนเริ่มต้นจากศูนย์แบบไร้แบคอัพใดๆ  หลายคนเริ่มจากความโนเนม บางคนต้องมาหัดพูดภาษาอังกฤษแชร์อพาร์ทเมนท์กับนางแบบคนอื่นๆแบบแออัดและถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า งานแรกๆคือพวกถ่ายแค็ตตาล็อกของห้าง

จีเซล  นางแบบระดับท็อปที่มีรายได้สูงสุดมายาวนานทิ้งห่างนางแบบขายดีคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่น   เธอเดินทางจากบราซิลและเริ่มงานนางแบบที่อเมริกาแบบนางแบบโนเนมคนอื่นๆ  Mario Testino ช่างภาพชื่อดังยืนยันค่ะว่าช่วงที่จีเซลยังไม่แจ้งเกิดนั้น ไม่มีใครอยากจ้างเธอเลย ติรูปร่างหน้่าตาเธอไปหมดทุกเจ้า เป็นตัวเขาที่ต้องคอยผลักดันและพยายามโชว์ให้คนอื่นเห็นว่าเธอมีความสามารถแค่ไหน

ในวัย 18  เธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากโชว์ของ Alexander McQueen  ในการเดินบนรันเวย์ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำด้วยส้นสูง    พวกเราคงยังไม่ลืมท่วงท่าการเดินที่เฉียบขาดของจีเซลได้ใช่มั้ยคะ    พื้นลื่นๆหยุดเธอไม่ได้ค่ะ  จากนั้นก็ฉุดจีเซลไม่อยู่  ไม่ว่าโพสท่าถ่ายแบบให้กับอะไรก็ขายดีไปหมด ตั้งแต่น้ำหอมสุดคลาสสิค รองเท้าแตะ ไปจนถึงไหมขัดฟัน!  รายได้ในแต่ล่ะปีของเธอจะอยู่ที่หลักพันล้าน  ในขณะที่นางแบบคนอื่นๆจะแตะที่หลักร้อยล้านอยู่

ซึ่งปัจจุบัน นางแบบที่มีความสามารถและลุคโดดเด่นนั้นยังมีอีกหลายคน ไม่ว่าจะมีพื้นเพที่ร่ำรวยหรือไม่ หากมีความสามารถพรีเซนท์แบรนด์ในแบบของตัวเองให้ฉายแสงขึ้นมาแล้ว โอกาสสร้างชื่อย่อมมีสูงตามขึ้น   แต่อย่างที่บางคนในวงการได้กระทุ้งไว้  ตอนนี้ดีไซน์เนอร์และหลายๆแบรนด์เลือกพรีเซนเตอร์จากจำนวนผู้ติดตามของนางแบบบนอินสตาแกรมจริงๆ   หลายคนถามกลับว่า ทำไมจะไม่ล่ะ  ในเมื่อผู้ติดตามมีเป็นสิบๆล้าน  ไม่ว่าจะโพสต์อะไรสื่อออนไลน์หลายเจ้าก็นำไปขยายความต่อ แชร์กันลิงค์ต่อลิงค์ (ไม่ใช่ปากต่อปากอีกต่อไป)  สินค้าที่พวกเธอเป็นแบบให้ก็มียอดขายสูงขึ้นและอยู่ในกระแสให้ผู้คนได้พูดถึงตลอด

ยกตัวอย่างเช่น  กลุ่มคนที่อาจไม่ได้ชื่นชอบคอยติดตามดูแคมเปญของแบรนด์ต่างๆหรือสื่อกอสสิปอาจจะไม่สนใจว่า คาร์ล ลาเกอเฟลด์เคยใช้นางแบบอย่างลินด์ซีย์ วิกสันและซาช่า ลัสในแคมเปญของชาเนลไม่ต่างจากเคนดัลและคาร่า

นางแบบดาวรุ่งบางคนอาจจะได้รับการbook ตัวจากดีไซน์เนอร์จนต้องเดินขาแทบขวิดใน fashion week พวกเธออาจได้ทำสัญญาใหญ่ๆกับแบรนด์ชั้นนำ และขึ้นปกกับ editorial ของนิตยสารแฟชั่น แต่DailyMail หรือ E Online ก็ไม่ได้ทำข่าวและเรียกพวกเธอว่าซูเปอร์โมเดล

ถามว่ายุคของ ซูเปอร์โมเดลจบลงไปแล้วรึยัง??  ยุคนี้คือยุคของนางแบบที่ต้องสร้างชื่อจากการเป็นเซเลบมาก่อนการเป็นนางแบบอาชีพรึเปล่าจึงจะโด่งดังได้   ?     มองกลางๆคือ ไม่ว่ายุคไหน วงการใดก็มีเรื่องลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น     บางคนก็ดูเหมือเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ  เหมือนเรามองลูกสาวซินดี ครอว์ฟอร์ดน่ะค่ะ  คือตั้งแต่เด็กๆเราก็คิดเลยว่ายังไงน้องต้องเดินตามรอยแม่ 

หรือจะเป็นลิเดีย ฮาร์สท  เมนทอร์ของ Tha  Face season 2  เธอเป็นทายาทมหาเศรษฐีวงการสิ่งพิมพ์ ก็ยังมียุคของเธอที่ได้เป็นนางแบบถ่ายแคมเปญต่างๆและเดินแบบให้กับหลากหลายแบรนด์ดัง  คือถ้าจะยึดเอาตามหลักการเป็นซูเปอร์โมเดลที่ Vogue กล่าวไว้ ลิเดียก็ผ่านฉลุย 

หรือทายาทคนดังของโลกอย่างจอร์เจีย เมย์ แจ็กเกอร์ ได้ยินนามสกุลแล้วรู้ชื่อพ่อเลย   อาจจะมีเสียงค่อนแคะลอยลมมาบ้างว่าเธอใช้ความดังของพ่อแม่เข้าวงการแฟชั่น  แต่เธอก็ได้รับเลือกให้ปิดโอลิมปิคพร้อมกับเคท มอส นาโอมิ แคมป์เบล ลิลี่ โดนาลสันและนางแบบนายแบบคนดังจากอังกฤษมาแล้ว  ตอนนั้นอายุแค่ 20 เท่านั้น

 

ชอบ gigi นะ ส่วนเคนดัลล์ตามมานานมาก ตั้งแต่ มต้นอะ 55555 รายงาน KUWTK เมื่อก่อนชอบเคนดัลล์มากเดี๋ยวนี้สไลต์นางเปลี่ยน ดูไม่เรียลอะ แล้วก็โกหกด้วยไม่สูบบุหรี่ไม่เสพยาบอกน่ารัเงเกียจแต่ก็มีรูปหลุดออกมาว่าสูบ (เริ่มนอกเรื่อง5555) =__= ส่วนจีจี้คบผู้ชายบ่อยจริงแต่ก็คงเกี่ยวกับงานชอบการถ่ายแบบของจีจี้มากกว่า ผลงานก็เฉยๆนะกับเคนออกชอบดูตอนเดินบนถนนมากกว่า 55555 สวยแต่พอมาถ่ายแบบรู้สึกเฉยๆ เหมือนกับว่าเค้าเป็น cerebrity มากกว่า แล้วก็อีกหลายๆงานที่ไม่ชอบแม่คริสชอบดันลูก ชอบสร้างกระแสให้เคนด้วยแบบ harry style หนุ่มนักบาสภาพหลุดงี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็เดทกับผู้หญิง