{Review} Innisfree สกินแคร์ + เมคอัพ เกือบ 20 ชิ้น
daisymj3 27 9สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับสู่กระทู้แรกของเราค่ะปกติซุ่มอ่านเฉย ๆ แต่ช่วงนี้ว่าง บวกกับความบ้าแบรนด์นี้เป็นการส่วนตัวเลยจะมาแชร์ให้ได้ชมกันค่ะ (ปล. เราเป็นสาวผิวมันค่ะ)
เริ่มกันที่เซ็ทแรกเลยค่ะ Green Tea อันเลื่องลือ เน้นเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
(เรียกจากขวาไปซ้าย)
1. Green Tea Seed Serum
ราคา: 1000 THB
ปริมาณ: 80 ml
คะแนน: 10/10 – ตัวนี้น่าจะเป็นตัวเด่นสุดในไลน์ชาเขียวเลยค่ะ เป็นตัวแรกที่เราพุ่งเข้าไปหยิบแบบไม่ลังเล 5555555 แบรนด์นี้จุดเด่นอีกอย่างน่าจะเป็นที่กลิ่นค่ะ หอมมาก หอมแบบธรรชาติหน่อย ตัวเซรั่มทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่ทิ้งร่องรอยให้รู้สึกเหนอะหนะเลยค่ะ ตัวนี้เราใช้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย รู้สึกเหมือนผิวหน้าได้รับการบำรุง นุ่มขึ้น หน้ามันน้อยลง ปลื้มแบบไม่รู้จะปลื้มยังไง
2. Green Tea Balancing Skin
ราคา: 6xx THB
ปริมาณ: 200 ml
คะแนน: 10/10 – ตัวนี้คือโทนเนอร์นะคะ ชอบอีกแล้วค่ะคุณผู้ชม หลัก ๆ เลยชอบเพราะมันใช้ตบให้ซึมเข้าหน้า ไม่ต้องใช้สำลีเช็ด (สวรรค์ของคนขี้งกและขี้เกียจเลยค่ะ) แถมยังใช้ในปริมาณน้อยมากด้วยค่ะ เหมือนข้างกล่องจะให้ใช้ 1-2 หยด แต่เราหน้าใหญ่ค่ะ จัดไป 4-5 หยด 55555555
3.Green Tea Balancing Lotion
ราคา: 6xx THB
ปริมาณ: 160 ml
คะแนน: 9/10 – ตัวนี้เราใช้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับตอนกลางวันค่ะ เนื้อเบามาก เหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย กลิ่นก็เหมือนเดิมตามสไตล์ทั้งไลน์ค่ะ จริง ๆ ปลื้มตัวนี้เหมือนกันนะ แต่แอบหักตรงแพคเกจจิ้งนิดนึง ตรงปากขวดใหญ่ไปหน่อย เทไม่ดีอาจทะลักค่ะ (อารมณ์เทซอสมะเขือเทศขวดแก้ว)
4.Green Tea Seed Deep Cream
ราคา: 1000 THB
ปริมาณ: 50 ml
คะแนน: 8.5/10 – ตัวนี้สารภาพว่าหยิบมาแบบไม่ตั้งใจค่ะ อย่างที่บอกว่าเราหน้ามัน จริง ๆ ตัวนี้ไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ แต่เราไม่เห็นครีมตัวอื่นจากไลน์นี้แล้วในร้าน ก็เลยตัดสินใจหยิบมาค่ะ (แล้วก็มาตระหนักถึงความไม่เข้ากันกับผิวตอนจะกลับบ้านค่ะ เลยวนกลับไปที่ร้านเพื่อสอยโลชั่นเมื่อกี้มากันตาย - -“) ตัวนี้เราเลยใช้เป็นไนท์ครีมค่ะ กลายเป็นว่าเวิร์คมาก เนื่องจากนอนห้องแอร์แต่ไม่เคยบำรุงดี ๆ กับเค้าเลย พอลองใช้ตัวนี้เห็นผลเลยค่ะ ตื่นเช้ามาหน้าไม่แห้ง ผิวดูนุ่ม ๆ แบบได้รับการฟื้นฟูมาทั้งคืน แต่ที่ให้คะแนนน้อยหน่อยเพราะตัวนี้เราใช้ที่อื่นไม่ได้เลยค่ะ ทาปุ๊บต้องเข้าห้องแอร์ปั๊บไม่งั้นเมือกค่ะ
ต่อไปยังคงอยู่กับสกินแคร์ค่ะ เนื่องจากความปลื้มปริ่มกับผลลัพธ์ที่ได้จากเซ็ทแรกที่ใกล้จะหมด เราเลยออกตามล่าหาเซ็ทสอง ช่วงนี้เรารู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำกว่าปกติ เลยอยากเปลี่ยนไปลองใช้ไลน์อื่นที่ช่วยเน้นในด้านขาวกระจ่างใสโดยเฉพาะ จนไปเจอกับ Whitening Pore และ White Tone Up ค่ะเริ่มที่สองหน่อจาก Whitening Pore ไลน์นี้มีสารสกัดจากเปลือกส้ม เน้นเรื่องความขาวกระจ่างใส และกระชับรูขุมขน
5. Whitening Pore Facial Cleanser
ราคา: 5xx THB
ปริมาณ: 150 ml
คะแนน: 6/10 – ด้วยความอยากขาวเลยหน้ามืดตามัวคว้ามาค่ะ เนื้อโฟมเป็นเหมือนโคลนสีขาว มีเม็ดบีดส์สีส้มแทรกอยู่ด้วย กลิ่นหอมมากกก (อีกแล้ว) ใช้แล้วไม่แห้งตึง เรื่องความกระจ่างใสกับรูขุมขนเราว่าเฉย ๆ ตัวนี้คงไม่ซื้อต่อ (ดูจากปริมาณแล้วก็คงไม่ได้ซื้อโฟมล้างหน้าไปอีกปีกว่า 5555555555)
6. Whitening Pore Synergy Serum
ราคา: 1450 THB
ปริมาณ: 50 ml
คะแนน: 9.5/10 – ตัวนี้เป็นการผสมกันระหว่าง ampoule + เซรั่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตอนแรกเรากั๊กตัวนี้ไว้ก่อน แต่ตัวเซรั่มชาเขียวใกล้หมด แล้วเราอยากสลับใช้ให้ชินกับหน้าก่อน ไม่อยากเปลี่ยนไลน์ปุบปับเลยเริ่มเอามาใช้ พอใช้ตัวนี้ถึงเริ่มเห็นผลเรื่องความกระจ่างใสชัดมากกกกกก ตอนแรกหน้าเราหมองคล้ำมาก พอได้ตัวนี้มา โอ้มายก้อด ใช้ไปประมาณเกือบสองอาทิตย์มั้ง เห้ยยยย มาอะ ขาวมา กระจ่างมา เรื่องรูขุมขนยังเฉย ๆ นะ แต่ไม่ซีเรียสจุดนั้นเท่าไหร่
มาที่ White Tone Up กันบ้าง ไลน์นี้ก็เน้นความขาวกระจ่างใสเหมือนกันค่ะ แต่ตัวนี้มีสารสกัดจากเบอร์รี่ 5 ชนิด
7. White Tone Up Cream
ราคา: 900 THB
ปริมาณ: 50 ml
คะแนน: 6/10 – ถ้าถามว่าตัวนี้อะไรเด่นสุด เราขอบอกว่าคือกลิ่นค่ะ โอ้โห เตะจมูกมาก แรก ๆ เราก็ว่าหอมดี หลัง ๆ เริ่มไม่ค่อยชอบค่ะ 5555 มันไม่เบอร์รี่เท่าไหร่ในความรู้สึกเรา บอกไม่ถูกอะ มันแรงเกินไปด้วยแหละ ตัวนี้เป็นเนื้อเจลขุ่น ๆ ทาแล้วไม่หนักค่ะ ซึมเร็วดี เรื่องขาวไม่แน่ใจค่ะ ตัวนี้ใช้พร้อมโฟม (ก่อนเริ่มใช้เซรั่ม) เลยไม่แน่ใจว่าเพราะยังใช้ไม่นานพอรึเปล่าเลยเพิ่งมาเห็นผลตอนเริ่มใช้เซรั่ม
มาถึงขั้นตอนบำรุงที่สำคัญสำหรับสาวไทยกันบ้าง ครีมกันแดดนั่นเอง ตัวนี้มีสารสกัดจากชาเขียวและน้ำมันดอกทานตะวันค่ะ
8. Eco No Sebum Sunblock SPF35 PA+++
ราคา: 540 THB
ปริมาณ: 50 ml
คะแนน: 5/10 – กันแดดเนื้อสีชมพูดูเหลวนิดหน่อย ต้องปาดด้วยความว่องไวนิดนึง ทาแล้วหน้ากระจ่างใสขึ้นหนึ่งระดับ ขอบอกเลยว่าถ้าอินนิสฟรีบอกว่าคุมมัน (no sebum) ก็คือคุมมันจริง ๆ ค่ะ แต่เราว่าแอบแห้งไปหน่อยสำหรับเรา ตัวนี้ต้องล้างดี ๆ ด้วยค่ะ ไม่งั้นอุดตันแน่นอน โดยรวมแล้วไม่ค่อยปลื้มนะ อยากลองสูตรอื่นที่ไม่คุมมัน อาจจะโอเคกว่าตัวนี้
ต่อไปก็ถือว่าเป็นสกินแคร์เหมือนกันค่ะ แต่จากบำรุงหน้า หันมาบำรุงมือกันบ้าง
9. Olive Real Moisture Hand Cream
ราคา: ??? THB
ปริมาณ: 50 ml
คะแนน: 10/10 – ชอบมากกกกกกกกกกกกก กลิ่นหอมมากค่ะ เราดมแล้วนึกถืงมะนาว เลมอน แนว ๆ นั้น 55555555 เนื้อครีมไม่เหนอะเลยค่ะ ทาแล้วซึมเลย ซึ่งเราชอบมาก มีช่วงนึงมือแห้งมาก แต่ไม่ชอบทาแฮนด์ครีมเพราะมันชอบเหนอะจนทำอะไรไม่ได้ เจอตัวนี้รักเลยค่ะ
มาดูในฝั่งเมคอัพกันค่ะ แพคเกจจิ้งอาจจะดูเรียบไปหน่อย แต่สีผลิตภัณฑ์และการจัดวางในร้านทำให้ดูน่าเล่นมากค่ะ เราเลยได้ติดไม้ติดมือกลับมาตลอด
10. Eco Fruit Tint No. 1 Cherry
ราคา: 180 THB
ปริมาณ: 9 ml
คะแนน: 6.5/10 – สิ่งที่ได้ใจเราไปคือกลิ่นอีกแล้ว กลิ่นคล้ายยาแก้ไอน้ำสมัยเด็ก (นั่นคือหอมแล้วใช่ไหม?) ตัวนี้เป็นทิ้นท์น้ำ ติดทนก็ดีแหละมั้ง ดีเป็นบางจุดอะ คือช่วยติดทั้งปากได้ไหม ฮือออ สีนางสวย แต่นางก็งั้น ๆ เอาไว้เติมระหว่างวัน เอาไว้กันตาย เอาไว้ทาเล่นอยู่บ้าน
11. Creamy Tint Lip Mousse #5 Refreshing Vitamin Red
ราคา: 450 THB
ปริมาณ: 4.8 ml
คะแนน: 9.5/10 – ตัวนี้ก็ลูกรักอีกเหมือนกันค่ะ ถ้าปาร์ตี้ต้องจัดตัวนี้ ไม่นอกใจเด็ดขาด เราสอยสีแดงแรงฤทธิ์ สวยงามแบบที่คนทักกันทั้งบาง กลิ่นหอมมากอีกแล้วค่ะ ออกแนว Citrus นะเราว่า เนื้อมูสนุ่ม ๆ ทาไปสีสดมาก ทิ้งไว้ซักพักจะกลายเป็นเนื้อแมทค่ะ จากนั้นจะอยู่ยงคงกระพัน กินน้ำกินข้าวก็ยังมีสีให้ได้เห็นกันอยู่ ดีงามชนิดที่เพื่อนก็ขอใช้ด้วย ต้องไปโดนค่ะ แอบหักนิดนึงเพราะเราไม่ค่อยชินกับเนื้อแมทแบบนี้เท่าไหร่ บางทีเม้มปากแล้วรู้สึกเหมือนไม่ใช่ปากตัวเอง 55555555
12. No Sebum Mineral Powder
ราคา: 270 THB
ปริมาณ: 5 g
คะแนน: 10/10 – มันคือสวรรค์ของคนหน้ามันอย่างดิฉันอย่างแท้จริง เนื้อแป้งสีขาวละเอียด ทาแล้วผิวลื่น ๆ คุมมันดีงาม กลิ่นหอมมากด้วยค่ะ ฮือออ เราเกิดมาเพื่อกันและกัน ซื้อต่อแน่นอนค่ะ
ปล. แอบเม้าให้ฟังว่า นี่เป็นตลับลิมิเตด เราเลือกลายนี้มาเผื่อจะโชคดี สรุปว่า หลังจากนี้ไปเดินดูบลัชออน เลือกอย่างดิบดี กลับมา อ้าว หยิบผิดสีค่ะ กู๊ดลัคมากจริง ๆ 5555555
13. Long Wear Cushion #21 Natural Beige
ราคา: 900 THB
ปริมาณ: 15 g
คะแนน: 8.5/10 – คูชั่นตัวแรกในชีวิต สอยมาแบบไม่ตั้งใจ (อีกแล้ววว) พี่ BA บอกว่า ซื้อครบ xxxx บาทแล้วจะได้นู่นนี่นั่นนะลูก เราขาดอีกประมาณ 600 มั้ง อืม ซื้อคูชั่นก็ได้ พี่ BA แนะนำเบอร์ 21 มา ตอนแรกมาลองที่บ้าน โอ้มายก้อด ขาวไปมั้ยวะ เทามากกกก พอช่วงหลังที่หน้าขาวขึ้นเพราะสารพัดส้มและเบอร์รี่ ประกอบกับสกิลการตบพัฟที่ไปศึกษาสาวกิมจิมา เลยออกมาโอเคมากมายก่ายกอง กลิ่นพิลึกกึกกือในทางที่ดี คุมมันมากถึงมากที่สุด ไม่ต้องใช้แป้งทับอีกทีเลย ปกปิดโอเค ผ่านนน หักคะแนนการแกะรีฟีลยาก หักคะแนนความก๊องแก๊งของตลับ
14. Eco Beauty Tool Soft Pack Spatula
ราคา: 50 THB (?) - ไม้พายพลาสติก ใช้ตักมาส์ก เราเอามาใช้ตักครีมจากกระปุกค่ะ
มาดูของแถมกันบ้างค่ะ แบรนด์นี้แจกเยอะ แจกจริง แจกไม่ยั้ง แล้วบังเอิญว่าเราไปช้อปในเดือนเกิดอีก ของแถมเลยคอมโบอย่างที่เห็นค่ะ ในส่วนนี้ขอพูดคร่าว ๆ นะคะ แค่ลองแกะมาดูเป็นบางอย่าง ไม่ได้ทดลองใช้อย่างจริงจัง
15. Whitening Pore Special Kit
- Whitening Pore Facial Cleanser – เหมือนที่ซื้อมา
- Whitening Pore Toner – เป็นโทนเนอร์ผสมโลชั่นค่ะ ก่อนใช้ต้องเขย่าให้ส่วนผสมทั้งสองชั้นรวมกันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นก็เทลงบนสำลี แล้วเช็ดทั่วหน้า ก็โอเคนะคะ แต่อย่างที่บอกเราไม่ชอบใช้สำลีกับหน้าเท่าไหร่
- Whitening Pore Cream – เป็นเนื้อเจลใส บางเบา ไม่เหนอะหนะ ชอบตัวนี้ค่ะ อาจจะซื้อไซส์จริงมาใช้
16. Orchid Special Kit
- Orchid Enrich Cream – เนื้อครีมข้น ๆ หนักหน่อย ตอนไปยืนฟังกับเพื่อน BA แนะนำให้เพื่อนใช้เพราะนางหน้าแห้งค่ะ เราเองเคยลองใช้ครั้งแรกนานมากแล้วค่ะ ได้แถมมาตอนสมัครสมาชิก แต่สิวบุกเลยยกให้แม่ไป ตอนนี้ได้มาอีกรอบลองใช้อีกก็มาอีก คงไม่ถูกกันค่ะ
- Orchid Eye Cream – ตัวนี้ใช้มาประมาณสองอาทิตย์ ก็รู้สึกว่าผิวรอบดวงตาดูชุ่มชื่นขึ้น เรื่องความกระจ่างใส หรือลดแพนด้าไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ แต่ไม่ซีเรียสเพราะเค้าไม่ได้เคลมมาว่าจัดการในจุดนี้
- Orchid Massage Cream – ตัวนี้ยังไม่ได้ลองใช้ค่ะ
17. Best Capsule Recipe Pack Collection
- Volcanic – ยังไม่ได้ใช้
- Green Tea – ยังไม่ได้ใช้
- Canola Honey – ยังไม่ได้ใช้
- Rice (Sleeping Pack) – ยังไม่ได้ใช้
- Bija Aloe (Sleeping Pack) – ตัวนี้เนื้อมาส์กเป็นเจลใสค่ะ กลิ่นแปลกสำหรับเรานิดหน่อย เคลมว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ตัวนี้เราเฉย ๆ ค่ะ
18. Best Cleansing Foam Collection
- Green Tea – ยังไม่ได้ใช้
- Volcanic – ยังไม่ได้ใช้
- Olive – ยังไม่ได้ใช้
19. Super Volcanic Pore Clay Mask (ซ้าย) – ตัวนี้ได้มาพร้อม Enrich Cream ในครั้งแรกสุดที่สมัครสมาชิคค่ะ มาคู่กันเพราะเค้าทำเราสิวบุกคู่กัน สมกันอะไรปานนั้น ถ้าทาทั้งหน้า(แล้วล้างออก)สิวมาค่ะ ถ้าทาเฉพาะจุดที่สิวขึ้น(ทิ้งไว้ทั้งคืน)สิวยุบ ก็เลยไว้ใช้แต้มเฉพาะจุดค่ะ อันนี้เป็นสูตร Super ด้วย อาจจะแรงไปสำหรับเรา ถ้าเป็นอีกสูตรอาจจะเหมาะกับผิวเรามากกว่า
20. It’s Real Squeeze Sheet Mask – มาส์กสุดที่รักในดวงใจ ไปเจอโดยบังเอิญในตอนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์นี้เลยค่ะ ไปสอยมาจากร้านเครื่องสำอางในฮ่องกง ใช้ครั้งนั้นก็ติดใจมากกกกก กลิ่นมาส์กเราว่าแพ้กลิ่นแบรนด์ไต้หวันนะ แบรนด์นั้นชอบกลิ่นมาก แต่ถ้าตัวแผ่นมาส์ก เอสเซนส์ และผลลัพท์ที่ได้ เราชอบของอินนิสฟรีกว่า แผ่นมาส์กกว้างใหญ่ไพศาลเหมาะกับหน้าบาน ๆ ของเรามาก เอสเซนส์เค้าดูมีความข้นกว่ามั้ง เลยได้ผลลัพท์ที่ชัดเจนมาก หน้านุ่ม หน้าใส ไปหลายวันเลย
- Strawberry, Manuka Honey, Rose, Kiwi – นี่คือที่ซื้อมาค่ะ (ใช้ไปหมดแล้วเหลือแต่สูตรน้ำผึ้ง)
- Green Tea, Aloe – สองสูตรนี้เป็นสูตรที่เป็นของแถมจากช้อปไทยค่ะ
หมดแล้วค่ะสำหรับรีวิวในครั้งนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ เจอกันกระทู้หน้าค่ะ (: