ว่าด้วยเทียนหอม อันไหนดี อันไหนพัง มาดูกัน

 สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ ช่วงนี้น่าฝนอากาศครึ้มๆ แต่ก็เย็นสบายดีค่ะ วันนี้มารีวิวผลิตภัณฑ์เทียนหอม ที่ตอนนี้ค่อนข้างเสพติด ฮาๆ ใครไม่ติดจะบอกว่ามีความโชคดีละค่ะ อย่าได้เริ่มใช้เลย มีอันที่ 1 แล้วอันต่อๆไปจะตามไปเอง รู้ตัวอีกทีก็เผาเทียน เหมือนเผาเงินเลยค้าจริงตอนแรกก้ไม่เคยสนใจจะซื้อเทียนเข้าบ้าน แต่เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีพี่สาวใจดีคนนึงให้เทียนหอมยี่ห้อโจมาโลน แบรนด์ดังของทาง London มา ก็จุดเล่นดูสิคะ รออะไร ปรากฏว่า ห้องหอมมากๆ เหมือนอยู่ในสปาดีดีตามโรงแรมเลยค่ะ ใช้ไปใช้มาจนเกือบ 2 ปี จนวันนี้มันก็หมดเกลี้ยงไปแล้ว ตามที่เห็นในรูปนะคะ สภาพค่อนข้างพังพินาศ แต่ถึงขนาดเกลี้ยงจุดไม่ได้แล้ว เปิดฝาทิ้งไว้เฉยๆ กลิ่นยังหิมเลยค่ะ

พอหมดแล้วเราก็เริ่มหาสิ่งอื่นทดแทน เพราะเจ้าโจมาโลนราคาก็แสนแพง เลยมีการทดลองซื้อเทียนหอมยี่ห้อต่างๆ มาลองดู เพราะคิดว่าน่าจะมีตัวที่ถูกและดีมั่งแหละ วันนี้เลยจะมาแฉให้ดูกันค่ะว่า ได้เผาเงินไปกับอะไรบ้างจ้า

 วันนี้มารีวิวกันทั้งหมด 4 ตัวค่ะ เริ่มจากที่ราคาเบาสุดก่อนคือ IKEA ตัวนี้ ประมาณ 200 บาทค่ะ เป็นเทียนสีสันสดใส ซื้อมาซักพักละ ตัวนี้ตอนดมดูที่ร้านก็หอมดีอยู่หรอก แต่พอมาจุดที่บ้าน มันไม่มีกลิ่นอะไรเลยอ่ะ ก็แอบเสียดายตังค์นิดหน่อย แต่เอาไว้จุด ตกแต่งบ้านได้ค่ะ ตัวนี้เลยไม่ค่อยได้เอามาใช้เท่าไหร่

จะซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อค่ะ

คะแนน 3/10 ไม่มีกลิ่นอะไรเลยย

 ถัดมา อันนี้ซื้อมาประมาณ 600 กว่าบาท ยี่ห้อ Aveda อันเล็กๆเองค่ะ ที่ซื้ออันนี้มาเพราะเห็นข้างกล่องเขียนว่ารายได้ของการขายเทียน จะไปช่วยเด็กยากจนในอินเดีย คนสวยใจดีอย่างเราก็จัดเลยค่ะ ส่วนตัวชอบผลิตภัณฑ์เส้นผมของแบรนด์นี้อยู่แล้ว แต่ก็ซื้อบ่อยไม่ไหวเพราะมันแพงมากจ้า แชมพูขวดละพันกว่าบาท เลย กลับมาเรื่องเทียน ก็จะบอกว่ามันไม่มีกลิ่นอีกแล้ว จุดจนห้องรมควันไปหมดแล้วก็ยังไม่มีกลิ่นเลย ทั้งๆที่ห้องนิดเดียวเอง

ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อจ้า

คะแนน 2/10 หักเพราะราคาแพงแล้วก็ไม่มีกลิ่น

 ตัวถัดมายี่ห้อ Than ราคา 800 กว่าบาทค่ะ ตัวนี้กลิ่นออกแนวตะไคร้ ผสมเปปเปอร์มินต์ หอมมากเลย แต่ตอนดมดูที่ห้าง เค้าไม่ให้จุดลองค่ะ เลยได้แต่ดมเฉยๆ ขนาดเทียนใหญ่กว่า Aveda ตอนกลับมาจุดที่บ้านก็โอเคนะคะ ไส้เทียนตีวนี้จะแปลกกว่าอันอื่นคือ เป็นไส้เทียนสีแดงค่ะ กลิ่นโอเคเลยค่ะ แต่ก็ค่อนข้างจาง ต้องจุดนานมากๆ หรือน่าจะต้องใช้เทียนหลายอันหน่อย กว่าจะได้กลิ่นค่ะ

ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อค่ะ

คะแนน 6/10 ค่ะ

 สุดท้ายก็แพ้กิเลสตัวเองค่ะ พอเงินเดือนออกก็เอามาซื้อเจ้าโจมาโลนที่แสนแพง จำราคาได้แม่นเลย ซื้อที่พารากอน ราคาประมาณ 2,7xx แต่ได้ลด 10% เหลือ 2,4xx บาทค่ะ ที่ตัดใจซื้อเพราะคิดว่าไม่อยากลองสะเปะสะปะอีกแล้ว แล้วตัวนี้แล้วสำหรับเรามันช่วยผ่อนคลายความเครียดจากที่ทำงานได้จริงๆ ได้เทียนโจมาโลนมา จุดเทียนหอมเลยต้องนั่งกินมาม่า >.< มื้อเย็น ก็ฟินไปอีกแบบค่ะ อันนี้ซื้อกลิ่น English Pear มา เพราะไปดมที่ห้างแล้ว กลิ่นมาละมุนมาก เลยจัดการถอยมา 1 อันค่ะ

 คนขายเค้าแนะนำหลักการใช้ด้วยค่ะ คือ ก่อนจุดให้ตัดไส้เทียนออกก่อน 1/4 จากที่มันยื่นออกมา เพราะจะทำให้ไม่มีควันสีดำ และ กลิ่นจะออกมาดีขึ้นค่ะ ตัว English Pear นี้กลิ่นจะจางกว่า Green Tomato Leaf แต่ก็หอมมากเหมือนกันค่ะ แต่พอได้ตัวที่ 1 ก็มีอีกตัวตามมา เพราะใจยังคิดถึงกลิ่น Green Tomato Leaf อยุ่ อีก 2 เดือนถัดมาก็ไปด้อมๆมองๆ ที่เคาเตอร์ คนขายบอกว่าเทียน สามารถจุดให้กลิ่นมันผสมกันจนกลายมาเป็นอีกกลิ่นใหม่ได้ แล้วเค้าก็แนะนำว่าเจ้า English Pear เนี่ย จุดคู่กับ Green Tomato Leaf จะหอมมาก ...... ตอนนั้นเหมือนมนต์สะกด ไร้สติ แล้วบอกคนขายว่า "เอา Green Tomato leaf 1 อันค่ะ" เท่านั้นล่ะค่ะ เลยได้กลิ่นที่รักมาครอบครอง วันนี้เลยจะมาแกะกล่องให้ดูกันเลยดีกว่า 

เบื้องหลังความฟินคือกระเป๋าตังค์ที่แห้งกรอบ แต่เราว่าคุ้มนะคะ คือเราชอบมากๆ แล้วหลังๆก็เห็นช่างแต่งหน้าดังๆหลายคน เวลาเค้าจะเริ่มแต่งหน้า หรือคิดงานอะไร เค้าจะจุดเจ้าโจมาโลนไป ทำงานไปด้วยค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นแระโยชน์กับหลายๆคนที่สนใจนะคะ วันนี้ไปก่อนดีกว่า ขอบคุณค่าาาา

Discussion (12)

อยากให้ลองของแบรนด์ SenOdos ดูนะคะส่วนตัวใช้แล้วกลิ่นหอมดี ราคาสบายกระเป๋า มีราคาตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ - หลักพันบาทค่ะ ^^ และที่สำคัญตัวเทียนทำจากไขถั่วเหลืองแท้เกรดอเมริกาด้วยค่ะ

เราเคยให้แบรนด์ไทย ของ The candelra ค่ะ ถูกมาก หอมด้วย ทำจากไขถั่วเหลือง

Yankee Candle คะดีงาม กลิ่นมีให้เลือกเยอะมากกกก ถูกกว่าเยอะเลย
Yankee Candle คะดีงาม กลิ่นมีให้เลือกเยอะมากกกก ราคาถูกกว่า Jo Malone เยอะเลย

ลองดู karmakamet มั้ยคะ สำหรับเราโอเคเลย~